บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 (2)

‘ที่โรงแรม...ตอน 6 โมงเย็นค่ะ’ สราวลีเอ่ยถึงโรงแรมชื่อดังใจกลางเมืองกรุงพร้อมกับบอกเวลาที่ทางลูกค้านัดหมายไว้ด้วย

วิริยาเหลือบสายตามองเวลาบนนาฬิกาเรือนงามที่ประดับไว้ข้างฝาก่อนจะเอ่ยสั่งลูกน้องอีกครั้ง

‘อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงเวลานัดแล้ว แกพาหนูพริ้นซ์ไปอาบน้ำขัดสีฉวีวรรณแล้วก็หาชุดใหม่ให้หนูพริ้นซ์ใส่ด้วย เดี๋ยวฉันจะไปส่งหนูพริ้นซ์ที่โรงแรมเอง’

‘ไปหนูพริ้นซ์ เดี๋ยวพี่ลีจะชุบตัวหนูให้สวยพริ้งเอาให้แขกตกตะลึงไปเลย’

สราวลีเอ่ยกลั้วหัวเราะเพราะต้องการให้หญิงสาวที่เพิ่งทำงานนี้เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตได้คลายความตึงเครียดลงบ้าง

ปิณฑิราลุกขึ้นยืนพลางมองสบตากับเจ๊ยาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะก้าวเดินตามแรงฉุดของสราวลีขึ้นไปบนบ้าน

วิริยามองตามหญิงสาวสองคนต่างวัยที่ก้าวขึ้นบันไดไปบนบ้านจนสุดสายตาก่อนจะเอนตัวพิงพนักโซฟาและเอ่ยพึมพำออกมาคนเดียวด้วยความหนักใจ

‘นี้เราคิดผิดหรือคิดถูกกันแน่ที่ส่งกวางสาวอย่างหนูพริ้นซ์ไปเข้าปากเสือ’

17.50 น. 10 นาทีก่อนที่จะถึงเวลาที่ทางลูกค้านัดหมายไว้ รถเก๋งคันกะทัดรัดของวิริยาตีวงเข้ามาจอดหน้าโรงแรมหรูหราชื่อดังใจกลางเมืองกรุง เด็กรับรถที่แต่งตัวด้วยชุดไทยรีบโค้งคำนับอย่างงดงามก่อนจะเปิดประตูรถออกกว้างให้แขกที่แวะเวียนมาที่โรงแรม

วิริยาเอื้อมมือไปจับมือบางนุ่มเนียนของหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านหน้าคู่กับตนเองก่อนจะเอ่ยบอกและย้ำเตือนถึงเรื่องที่พูดกันไว้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘พริ้นซ์ หนูเข้าไปบอกประชาสัมพันธ์ว่ามาพบกับท่านชีคฟาซิซต์ ซัลฮาบินด์ อัลวาสต์ น่ะเดี๋ยวพวกเขาจะพาหนูไปพบกับท่านชีคเอง’

‘ค่ะเจ๊ยา’

หญิงสาวรับคำเบาๆ ชื่อของคนที่กล้าจ่ายเงินถึงสี่แสนบาทเพื่อซื้อตัวเธอสะท้อนก้องเข้ามาในหัวสมองจนทำให้เธอมึนงงคิดอะไรไม่ออก

‘พริ้นซ์...หนูอย่าลืมน่ะ พรุ่งนี้หนูจะต้องเป็นพริ้นซ์คนเดิม’

วิริยากระชับมือบางไว้แน่น ถึงตอนนี้คนที่ลังเลช่างจิตช่างใจกลับเป็นนางเสียเอง

‘ค่ะเจ๊ยา พรุ่งนี้พริ้นซ์จะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้หมด’

ปิณฑิราฝืนยิ้มให้ผู้มีพระคุณพร้อมกับรับคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจากนั้นก็ก้าวลงจากรถด้วยฝีเท้าที่มั่นคง เธอยืนรอจนกระทั่งเจ๊ยาขับรถออกไปพ้นบริเวณด้านหน้าของโรงแรมแล้วจึงเดินเข้าไปในโรงแรมและตรงดิ่งไปที่เคาร์เตอร์

ประชาสัมพันธ์

หญิงสาวเรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นงดงามดุจนางในวรรณคดีที่กำลังก้าวเดินมั่นคงไปที่เคาร์เตอร์ประชาสัมพันธ์ได้หารู้ไม่ว่าเธอไม่อาจรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับเจ๊ยาผู้ใจดีได้ เพราะทันทีที่เธอบอกกับประชาสัมพันธ์หนุ่มว่ามาพบ

ท่านชีคฟาซิซต์ ซัลฮาบินด์ อัลวาสต์ ก็เท่ากับว่าจิตวิญญาณดวงเล็กๆ ของเธอได้ถูกชีคหนุ่มเจ้าแห่งทะเลทรายได้พรากออกไปจากกายโดยไม่มีวันได้หวนคืนกลับมาดังเดิม

ยาฟัสส์ ฮะมา อาดิลก์ องครักษ์หนุ่มรูปงามตามฉบับของชาวอาหรับแท้ก้มลงมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือเรือนแพง รอยยิ้มบางๆ กระตุกขึ้นตรงมุมปากนิดหนึ่งเมื่อเห็นเข็มนาฬิกาบ่งบอกว่าขณะนี้ถึงเวลาที่นัดหมายกันไว้แล้ว เพราะต้องการเห็นหน้าของหญิงสาวที่กล้าเรียกค่าตัวแพงลิบลิ่วถึงสี่แสนบาทต่อการปรนนิบัติท่านชีคของเขาเพียงแค่คืนเดียว ทำให้เขาต้องแอบหลบออกมาจากงานเลี้ยงรับรองต้อนรับที่ทางโรงแรมชื่อดังจัดขึ้นเพื่อเป็นการต้อนรับการเดินทางมาเยือนของท่านชีคฟาซิซต์ ซัลฮาบินด์ อัลวาสต์ ที่เป็นแขกกิตติมศักดิ์และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของโรงแรมแห่งนี้หรือถ้าจะพูดง่ายๆ ก็คือการเป็นเจ้าของโรงแรมแห่งนี้นั่นเอง

องครักษ์หนุ่มยกกาแฟขึ้นจิบนิดหนึ่งขณะนั่งรอหญิงสาวอยู่บริเวณหน้าเคาร์เตอร์ประชาสัมพันธ์ สายตาคมเข้มของชาวอาหรับคอยจับจ้องมองไปที่ประตูทางเข้าของโรงแรมและเมื่อเห็นหญิงสาวที่งดงามนวลละออยิ่งกว่านางใดที่เขาเคยพบเจอะเจอมากำลังก้าวเดินอย่างเชื่อมั่นไปที่เคาร์เตอร์ประชาสัมพันธ์ก็ทำให้เขาถึงกับตะลึงงันแทบจะทำถ้วยกาแฟหลุดจากมือและเมื่อได้ยินน้ำเสียงหวานนุ่มเสนาะหูเอ่ยถามถึงท่านชีคก็ทำให้เขารีบผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินตรงดิ่งไปหาหญิงสาวแทบจะทันที

ปิณฑิรากัดเม้มริมฝีปากของตนเองแน่นเมื่อมาหยุดยืนหน้าเคาร์เตอร์ประชาสัมพันธ์ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามหาคนที่เธอจะต้องอยู่กับเขาตลอดทั้งคืนนี้

‘สวัสดีค่ะ ดิฉันมาพบชีคฟาซิซต์ ซัลฮาบินด์ อัลวาสต์ ค่ะ’

‘เชิญคุณผู้หญิงทางนี้ดีกว่าครับ’

ประชาสัมพันธ์สามคนที่ประจำอยู่ที่เคาร์เตอร์ไม่ทันจะได้เอ่ยตอบก็มีเสียงห้าวทุ้มของหนุ่มอาหรับในชุดสูทสากลสีดำสนิทเอ่ยแทรกขัดจังหวะออกมาก่อน

ยาฟัสส์คลี่ยิ้มบางๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปแตะข้อศอกหญิงสาวให้หันมามองตน เขาขยับก้าวเดินนำทางให้หญิงสาวเดินออกมาจากบริเวณประชาสัมพันธ์จากนั้นก็เอ่ยแนะนำตัวเองให้หญิงสาวได้รู้จัก

‘สวัสดีครับ ผมยาฟัสส์ ฮะมา อาดิลก์ เป็นองครักษ์ของท่านชีคฟาซิซต์ ซัลฮาบินด์ อัลวาสต์ ที่คุณกำลังต้องการมาพบ คุณเอ่อ...มาจากบ้านวิริยาใช่มั้ยครับ’

ปิณฑิรารู้สึกแปลกใจเล็กน้อยบุรุษรูปงามชาวอาหรับคนนี้แนะนำตัวเองด้วยภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำไม่มีผิดเพี้ยนแม้แต่คำเดียว เธอเหลือบสายตามองมือใหญ่ที่ยื่นมือมาเพื่อที่จะจับทักทายแบบชาวตะวันตกนิดหนึ่งก่อนจะตัดสินใจยกมือไหว้บุรุษชาวอาหรับแทนการจับมือ

‘สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อปิ...พริ้นซ์ค่ะ มาจากบ้านวิริยา’

หญิงสาวยกมือไหว้อย่างชดช้อยสวยงาม เธอชะงักคำพูดที่จะเอ่ยบอกชื่อจริงไว้ในลำคอก่อนจะเปลี่ยนมาบอกเป็นชื่อเล่นแทน

ยาฟัสส์ลอบถอนหายใจยาวรู้สึกเสียดายที่หญิงสาวที่แสนงดงามคนนี้จะมาจากบ้านวิริยาที่เขาติดต่อไป เขาไม่อยากเชื่อว่าหญิงสาวที่ดูท่าทางเรียบร้อยอ่อนหวานนุ่มนวลคนนี้จะเป็นพวกผู้หญิงอย่างว่า...คิดๆ แล้วก็ยังเสียดายไม่หายเพราะเขารู้สึกถูกชะตากับเธออยู่ไม่น้อย

‘ถ้างั้นเชิญคุณพริ้นซ์ที่ห้องพักของท่านชีคเลยครับ ส่วนเรื่องเงินเดี๋ยวผมจะเซ็นเช็คเงินสดให้คุณทันที’

ยาฟัสส์ผายมือเชิญให้หญิงสาวเดินนำหน้าตรงไปที่ลิฟท์ เมื่อเข้ามาอยู่ในลิฟท์แล้วเขาก็กดเรียกชั้นบนสุดของโรงแรมซึ่งเป็นห้องสูทของท่านชีคทั้งชั้นเพื่อป้องกันผู้คนมารบกวนและที่สำคัญก็เพื่อป้องกันคนร้ายที่อาจจะปะปนมากับแขกเพื่อมาลอบทำร้ายปลิดชีวิตเจ้าแห่งทะเลทราย

ปิณฑิราก้าวถอยไปจนชิดกับผนังลิฟท์ เธอบีบมือที่เย็นเฉียบของตัวเองไว้แน่นเพื่อระงับความตื่นวิตกหวาดกลัว ยิ่งลิฟท์วิ่งขึ้นเข้าไปใกล้ชั้นที่ถูกเรียกเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เธอหวานหวั่นจนหัวใจเต้นรัวเร็วไม่เป็นส่ำ

ติ๋งงงง...เสียงลิฟท์ที่หยุดวิ่งแล้วเปิดออกทันทีที่มาถึงชั้นที่เรียกไว้ทำให้หญิงสาวสะดุ้งเฮือกตกใจจนแทบจะก้าวเท้าไม่ออก

‘เชิญครับ’

ยาฟัสส์เปิดประตูห้องพักหรูหราโอ่อ่าของท่านชีคหนุ่มออกกว้างพร้อมกับผายมืออย่างสุภาพเชิญให้หญิงสาวก้าวเข้าไปในห้อง เขาเอะใจเล็กน้อยกับกริยาท่าทางของหญิงสาวที่กำลังก้าวเท้าแบบลากเท้าเข้าไปในห้องพักขนาดใหญ่ กริยาท่าทางและกระแสบางอย่างที่แผ่ออกมาบ่งบอกให้เขารู้ว่าหญิงสาวคนนี้กำลังหวาดหวั่นกับสิ่งที่รอคอยอยู่เบื้องหน้า ซึ่งสีหน้าและแววตาของเธอทำให้เขาแปลกใจอยู่มากๆ โดยปกติแล้วหญิงสาวที่มีโอกาสเพียงไม่กี่นาทีให้มารับใช้ปรนเปรอมอบความสุขให้กับท่านชีคต่างก็พากันยิ้มระริกเนื้อเต้นจนแทบจะเปลือยกายรอท่านชีคก็ว่าได้ ผิดกับหญิงสาวแสนหวานคนนี้แทนที่จะรีบเร่งเดินเข้ามาในห้องเธอกลับเดินลากเท้าอย่างช้าๆ ราวกับว่ามันหนักอึ้งจนยกไม่ขึ้น

‘จะรับเครื่องดื่มมั้ยครับ’

ยาฟัสส์เอ่ยถามเสียงนุ่มขณะที่เดินไปที่เคาร์เตอร์บาร์เล็กๆ ภายในห้องพักหรูของท่านชีค เขารินบรั่นดีให้ตัวเองครึ่งแก้วก่อนจะยกขึ้นพยักพเยิดชักชวนให้หญิงสาวรับเครื่องดื่มสักแก้ว

ปิณฑิราสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงห้าวทุ้มเอ่ยถาม ‘เอ่อ...เชิญคุณยาฟัสส์ตามสบายเลยค่ะ ดิฉัน...เอ่อ...พริ้นซ์ดื่มไม่เป็นค่ะ’

ยาฟัสส์กระตุกยิ้มตรงมุมปาก หญิงสาวแสนสวยคนนี้ทำให้เขาแปลกใจขึ้นอีกหลายเท่า เป็นหญิงขายบริการแต่ดื่มแอลกอฮอล์ไม่เป็น...

‘ถ้างั้นจะรับเครื่องดื่มอื่นแทนมั้ยครับ’ องครักษ์หนุ่มยังเอ่ยถามด้วยความหวังดี หวังที่จะช่วยลดความประหม่าตื่นกลัวให้หญิงสาว

‘คุณยาฟัสส์คะ พริ้นซ์ไม่ได้มาเพื่อที่จะรับเครื่องดื่มที่คุณเสนอให้ คุณก็รู้นี่คะว่าพริ้นซ์มาที่นี่ทำไม’

หญิงสาวเอ่ยออกมาอย่างตรงประเด็น การที่ถูกพาเข้ามาอยู่ในห้องหรูหราที่เปรียบเสมือนดังห้องประหัตประหารความสาว ทำให้เธอหวาดหวั่นประสาทกำลังจะเสียเข้าไปทุกที

ยาฟัสส์หัวเราะออกมาเบาๆ กับคำพูดที่ตรงไปตรงมาของหญิงสาว เขาวางแก้วบรั่นดีลงกับเคาร์เตอร์บาร์ก่อนจะล้วงหยิบเอาเช็คเงินสดสี่แสนบาทออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท เขามองตัวเลขบนกระดาษแผ่นเล็กๆ แต่มีมูลค่ามหาศาลก่อนจะหัวเราะฮึๆ ในลำคอ พ้นจากคืนนี้ไปแล้วเขาคงต้องตอบคำถามท่านชีคว่าเอาเงินสี่แสนบาทไปใช้จ่ายทำอะไร เพราะเรื่องที่เขาติดต่อให้หญิงสาวมาอยู่ปรนนิบัติให้ท่านชีคในคืนนี้ ชีคหนุ่มผู้ทรงอำนาจยังไม่รู้เรื่องด้วยสักนิด

‘นี่ครับ เช็คเงินสดสี่แสนบาท พรุ่งนี้คุณขึ้นเงินได้เลยครับ’

ยาฟัสส์ยื่นเช็คให้หญิงสาวก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้นุ่มด้วยกำมะหยีที่อยู่ตรงข้ามกับหญิงสาว เขาอดไม่ได้ที่จะลอบสังเกตอากัปกริยาของหญิงสาวขณะที่รับเช็คไปไว้ในมือและถ้าหากตาเขาไม่ฝาดไปเขาสาบานว่าได้เห็นหยาดน้ำตาใสๆ และแววอดสูอาดูรหลุดรอดมาให้เห็นจากดวงตาคู่สวยกลมโต

ปิณฑิราเม้มริมฝีปากของตนเองไว้แน่นจนห้อเลือดขณะที่ยื่นมือสั่นเทาไปรับเช็คมาถือไว้ ลำคอตีบตันด้วยก้อนสะอื้นที่พยายามกล้ำกลืนลงไป ขอบตาร้อนผ่าวน้ำตาใสรื้นขอบตาเมื่อเห็นตัวเลขบนกระดาษแผ่นเล็ก ‘สี่แสน’ สำหรับการขายตัวครั้งแรกและครั้งเดียวของเธอ

‘พริ้นซ์...ต้องอยู่กับ...เจ้านายคุณถึงเมื่อไหร่คะ’ หญิงสาวเอ่ยถามออกมาอย่างยากเย็น น้ำเสียงสั่นเทาอย่างบังคับไว้ไม่อยู่

‘ขึ้นอยู่กับความพอใจของท่านชีค ถ้าหากท่านให้คุณอยู่ 1 ชั่วโมงก็ต้อง 1 ชั่วโมงหรือถ้าหากท่านพึงพอใจอยากให้คุณอยู่ทั้งคืนคุณก็ต้องทำตามนั้น’

ยาฟัสส์เอ่ยตอบเสียงราบเรียบ เขาไม่สามารถกำหนดกะเกณฑ์กาลเวลาได้ ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับท่านชีคฟาซิซต์ ซัลฮาบินด์ อัลวาสต์ จะเป็นผู้กำหนดชะตาเวลาขึ้นมาเอง

‘คุณรออยู่ในห้องนี้ก่อนน่ะครับ ตอนนี้ท่านชีคติดงานเลี้ยงรับรองอยู่ อีกสักพักก็คงจะขึ้นมา ผมอยากให้คุณปรนนิบัติท่านดีๆ ไม่แน่น่ะครับ ถ้าหากคุณปรนนิบัติถูกใจท่านชีค คุณอาจจะได้รับรางวัลส่วนพระองค์จากท่านชีคเป็นการตอบแทนก็ได้’

ปิณฑิรายิ้มขื่นให้คนพูดที่คิดว่าแก้วแหวนเงินของล้ำค่าจะมีผลต่อเธอ สิ่งที่เธอต้องการในขณะนี้ก็แค่เงินสี่แสนบาทตามที่ตกลงกันไว้เท่านั้น ผ่านพ้นจากคืนนี้ไปแล้วอะไรก็ไม่มีความหมายสำหรับเธออีก

‘เชิญคุณพริ้นซ์พักผ่อนตามสบายน่ะครับ ถ้าไงผมขอตัวลงไปดูแลท่านชีคก่อน ถ้าหากต้องการอะไรก็บอกองครักษ์ที่เดินเตร็ดเตร่อยู่หน้าห้องได้เลยครับ’

ยาฟัสส์เอ่ยบอกพร้อมกับเดินออกไปจากห้องพักหรูหราแต่ก่อนที่จะก้าวพ้นธรณีประตูเขาได้หันมามองหญิงสาวแสนงามที่นั่งก้มหน้านิ่งอีกครั้ง แทนที่เธอจะดีใจเบิกตากว้างที่ได้ยินว่าจะได้รับรางวัลส่วนพระองค์จากท่านชีค...เธอกลับทำหน้าเศร้ายิ้มขื่นๆ ราวกับประชดสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เขาไม่อาจรู้ได้ เขาอยากรู้นัก...ว่าเพราะเหตุใดหญิงสาวที่งดงามดุจราชินีแห่งความรักคนนี้ถึงได้ตัดสินใจขายตัวให้กับท่านชีคฟาซิซต์ ซัลฮาบินด์ อัลวาสต์

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel