ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น
@ณใจกลางเมืองหลวง
พาร์ทธันวา&เจ้าขา..
คนนึงอยากจะหาอยากจะสร้างเพื่อต่อยอดธุรกิจที่ทำอยู่เพื่ออนาคตของลูกและหลานในอนาคตแต่อีกคนหนึ่งอยากอยู่กับลูกจะเป็นใครได้อะไรก็ภรรยาผมนี่แหละ.. (จันทร์เจ้าขา)
"หนูไม่เข้าใจพี่ธันเลยทีกับหนูบอกให้หยุดงานออกมาดูแลลูกแต่ตอนนี้แทบจะไม่มีเวลาให้ลูกเลย พี่เวจะจำหน้าพ่อแม่ได้ไหมนั่น" เธอก็เข้าใจสามีนะแต่เธอยังอยากจะอยู่กับลูก เพราะว่าเจ้าลูกชายเธออยู่ในวัยน่ารักน่าชังสุดพึ่งอายุได้แค่สองขวบเองปีที่แล้วงานยุ่งกันมากตัวเป็นเกลียวเลย จนพี่กร (ภากรอาสาพาไปดูแลแถมไปไกลถึงญี่ปุ่นเลย..
"แล้วมันไม่ดียังไงครับ" ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูงถามในสิ่งภรรยาตัวน้อยพูดออกมา...
"พี่ธันเข้าใจที่ขาพูดไหมค่ะก็ลูกยังเด็ก" มองหน้าสามีคือแบบว่าจะพูดอะไรดีพูดไปก็มึน
"ok..ครับพี่เข้าใจ"
"หึแต่แววตาของพี่ธันบอกหนูว่าไม่เข้าใจ okค่ะแต่ถ้าหากพี่อยากจะทำอะไรพี่ทำไปเลยค่ะเอาที่พี่สบายใจแต่พี่ช่วยไหย่าให้ขาด้วยค่ะ ขาจะไม่ทน..!" พูดจบเจ้าขาเดินหันหลังให้สามีทันที
"พะ! พี่ทำไรผิดครับหนูขา" ชายวัย38ปีก้าวขายาวหาเมียตัวน้อยพร้อมคว้าแขนเรียวบางของเมียพร้อมทั้งจับหันหน้ามาคุยกัน..
"ไม่ผิดค่ะ ไม่ผิดเลย แต่ผิดที่ขานี้และ ขาไม่อยากทิ้งลูกให้อยู่กับใคร..จบไหมค่ะ" เจ้าขาเน้นย้ำชัดเจน..
"พี่แค่อยากสร้างอะไรให้มันเยอะๆขึ้นเพื่อขาเพื่อลูกครับและอนาคตของเรานะครับ" แววตาอ้อนวอน
"แต่ลูกชายขา พึ่งจะสองขวบคะพี่ธันแค่รอเขาโตกว่านี้ไหม รอให้พี่เวคุยรู้เรื่องกว่านี้ขาจะไม่ซีเลยค่ะ" เธอบอกเหตุผล..
"ครับๆเฮียยอมแล้วครับ ยอมระงับงานก่อนก็ได้ครับแต่หนูขาอย่าหย่ากับเฮียนะครับ เฮียรักหนูรักพี่เวครับ" กอดเอวเมียไว้แน่นกลัวเมียทิ้ง
จริงแล้วเธอก็ไม่อยากหย่าหรอกแต่เธอต้องการขู่ขอให้เขาหยุดจริงๆเพราะอะไรหรอเธอคิดถึงลูก "ขาจะรอดูพฤติกรรมค่ะ"
"ถ้างั้นเฮียโทรคุยกับไอ้คีย์ไอ้กรก่อนว่างาน คลับเฮ้าส์รอลูกชายโตขึ้นกว่านี้ ดีไหมครับเมียจ๋า" เพราะมันพึ่งเป็นการพูดคุยและวางแผนอยู่ยังไม่ได้เริ่มที่จะทำอะไรเลย
"ก็แล้วแต่เอาที่สบายใจเลยแต่วันนี้ขาจะกลับบ้านแม่นะคะ" เธอถือโอกาสที่สามีละล้าละลังจะไปเอาโทรศัพท์กับจะทำอะไรซักอย่างแล้วเดินหันหลังเพื่อจำที่ประตูแต่ ก้าวเดียวเองมือหนาคว้าร่างบางเข้ามากอด "ไม่เอาเฮียเหงาไม่มีหนูเฮียนอนไม่หลับครับ" ผู้ชายตัวโตแอบซบไหล่บางท่าที่อะไรกะได้ตอนนี้ที่อ้อนวอนเมียให้อยู่ด้วย
"okไม่ไปก็ได้ แต่เดี๋ยวมานะคะ"
"ไปไหนครับคนดีของเฮีย"
"ไปรับลูกค่ะ ลูกอยู่กับหนูเอย"
"งั้นเฮียไปด้วยครับ"
"ใครล่ามโซ่ไว้ค่ะ แต่ปล่อยขาก่อน" ยังไม่หยุดกอดรัดเธอเลยแล้วจะเดินได้ไหมนั้น
ที่จริงวันนี้เธออยู่ห้องชั้น 30 penthouse ห้องของหนูเอยในจังหวะที่นั่งคุยกันนั้นพี่คีย์ถามถึงงานพี่ธันทำให้เธอหุนหันพลันแล่นลงมาเคลียร์ทิ้งลูกน้อยอยู่กับเพื่อน
พาร์ทเจ้าเอย
อยู่ๆเพื่อนสาวของเธอลุกขึ้นยืนทันทีหลังสามีของเธอถามถึงงานต่อขยายclub house ที่ญี่ปุ่น เพื่อนสาวเดินออกไปยังกับพายุก่อนที่จะหันมาคุยกับเธอว่า
"หนูเอยขาฝากพี่เวแป๊บนึงนะคะ" เอาเธองงจริงๆเจ้าขาไม่ใช่คนแบบนี้ เลยหันมาถามคนค้นเรื่อง
"พี่คีย์ งานต่อขยายอะไรบอกเอยหน่อยค่ะ " ไหล่บางที่อุ้มลูกชายเพื่อนอยู่เดินเขาหาสามี
"เฮียนึกว่าน้องเจ้าขารู้แล้วก็เลยถาม ใครจะไปรู้ล่ะว่าเรื่องนี้ไอ้ธันมันไม่คุยกับเมียมัน "เขาสำนึกผิดไม่ทันเลย..
"จากที่เอยได้ยินขาบ่นๆมาคือพี่เวยังเด็กขาไม่อยากทิ้งลูกให้อยู่โดดเดียว ใครจะเลี้ยงก็ได้แต่มันไม่พ่อแม่เลี้ยงเอง" เธอบอกเหตุผลในสิ่งที่เพื่อนเคยพูดให้ฟัง
"เฮียเข้าใจครับคุณแม่คนเก่งเลี้ยงแฝดได้ดีมากเลย"
ตอนนี้ลูกแฝดของเขาและเธออายุ 8ขวบจะแล้วเร็วอยู่นะแป๊ปๆคู่แฝดโตแล้วนั้นขึ้นชั้นประถมแล้ว
"เวลาผ่านไวมากเลยค่ะ จากที่แค่พี่คุณ หนูจ๋า ตอนนี้มี พี่คิม หนูอิง รสาและเจ้านี้เด็กตัวน้อยที่นอนซบบ่าเล็กๆของน้าสาว.."
"กำลังมีอีกหนึ่งหน่อครับ น้องวดีท้องแล้ว"
"ใช่ ลืมเลยนี้"
อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะมีสมาชิกใหม่เกิดขึ้นพวกเขาก็ต่างมีความรู้สึกยินดีกับการได้เจอคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นอีกคน...
@3ปีต่อมา
แก็งค์เพื่อนแก๊งค์นี้ในทุกๆปีจะมีการนัดรวมตัวกันที่บางทีก็เชียงใหม่บางทีก็กรุงเทพฯบางทีก็ชลบุรีและบางทีก็ภูเก็ตแต่ปีนี้ปีแรกที่เด็กน้อยนามว่าฟ้าใสได้มาร่วมแจมกับพี่ๆ
เจ้าคุณในวัย สิบเอ็ดปีเดินเข้ามาหาเด็กน้อยตัวเล็กๆ "น้องชื่ออะไรครับลุงกร"
"ชื่อน้องฟ้าใสครับพี่คุณ"
"ชื่อฟ้าใสหรือค่ะน่ารักจังเลย " หนูจ๋า หนูอิงและรสาเดินมาสบทบ
"ป้าฝากน้องเล่นด้วยได้ไหมค่ะ" วดีเอ่ยทักทายเด็กๆเพราะอายุเยอะกว่าแม่สามสาว 2-3ปี
"ได้ค่ะป้าวดีคนสวย" เป็นอิงธาราที่ตอบ
"เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะยัยเด็กแคระ"
"ยุ่ง..! " แต่ธอหาสนใจไม่ "ไปกันค่ะฟ้าใส"
กลุ่มเด็กผู้หญิงพากันนั่งเล่นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลผู้ใหญ่เท่าไหร่เจ้าเวในวัย สี่ขวบย่างห้าขวบที่ไม่รู้ว่าไปอยู่ไหนมาอยู่ดีๆก็เดินมาเสนอหน้าซะงั้น " คงนี้ใครงับ" พร้อมเอามืือป้อมจิ้มที่แก้มขาวใสของเด็กน้อยวัยสองขวบ
"พี่เวมือสกปรกไหมนั้นจับแก้มน้องนี้" หนูจ๋าปรามน้องชายจอมจุ้นวันสี่ขวบเศษที่ชอบมีคำถามเสมอ (เจ้าหนูจำไม)
"ไม่ปกจับแจ้มนิดเดียวเยง" คำว่านิดเดียวของคนไม่เท่ากันเพียงเพราะแก้มใสมันนิ่มมากเจ้าเวเลยบีบแก้มขาวอยู่อย่างนั้น จนคนต้วเล็กร้อง "ย้องเจ็ก" ยกมือน้อยปัดมือป้อมๆออกจากหน้าตัวเองแต่ไม่หลุดพร้อมทั้งเสียงสะอื้อแถมน้ำตาคลอเบ้าอีก..
หนูอิงรีบจับมือน้องออกจากแก้มฟ้าใส "อย่ามาแกล้งน้องนะพี่เว
"เยปล่าวเยจิเย่งกะย้อง" เถียงเก่งสุดลูกใคร..
"แบบนี้เขาไม่เรียกว่าเล่นแล้วครับอันนี้เขาเรียกว่าแกล้งรู้ไหม" หนูจ๋าหันมาอธิบายแต่ก็นะเด็กสี่ขวบเศษแต่จะเข้าใจใหมนั้น ( วัย 3-5 เป็นช่วงวัยทองของเด็กคือโคตะระดื้อสุด)
"หั้นก่อน้องไห้หล่ะนี้" (เห็นไหมน้องร้องไห้แล้วเนี่ย)เขอสำเนียงที่ไม่คุ้นหูก็แต่นั่งเกาหัวแบบงง..
แล้วความชุลมุนก็เกิดขึ้นจนผู้ใหญ่ต้องเข้ามาแยกออกจากกันเด็กน้อยในวัย สองขวบจำฝังใจว่าผู้ชายคนนี้ชอบแกล้งเธอแล้วก็เป็นแบบนี้มาตอนทุกครั้งที่เจอหน้า 10ปีที่เจอกันมักจะเป็นแบบนั้นจนถึงปีนี้ ฟ้าใสอายุได้สิบสอง เธอสามารถอยู่กับคนงานแต่ป้ามิกิได้แล้ว..
น้องเริ่มไม่อยากมาแล้วก็โดนแกล้ง..
