บท
ตั้งค่า

บทที่ 8

“อดัม...ฉันต้องการให้นายทำความรู้จักกับคุณทาเมร่า เจมส์” บิ๊คฟอร์ด รูทเลดจ์ เป็นผู้จัดการแนะนำขึ้นเสียเอง เนื่องจากฮาโรลด์ สเตนยังพูดโทรศัพท์อยู่ “อดัม สเลเตอร์คือเพื่อนร่วมงานของคุณ เขาทำงานอยู่กับบริษัทผม” เขาอธิบายให้เธอฟัง ขณะเดียวกันก็ก้มลงมองใบหน้าทาเมร่าด้วยสายตาโลมเลียม ซึ่งยิ่งทำให้ประสาทของเธอสั่นสะเทือนหนักขึ้นไปอีก เพราะในท่าที่มือของบิ๊คฟอร์ดโอบรอบเอวเธอไว้นั้น เขาได้หันไปทางเพื่อนที่ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวนั้นแล้ว

“นายช่วยปลอบใจเธอหน่อยสิ อดัม” บิ๊คเอ่ยขึ้นอีก “รู้ไหมว่าเขากำลังตกใจกับการที่ได้พบกับนายจ้างคนใหม่”

ไม่ต้องสงสัย ว่าในสถานการณ์ทางการเงินที่เธอกำลังเผชิญอยู่นั้น ประสาทของเธอกำลังหวาดผวามากมายแค่ไหนกับการที่ต้องเผชิญหน้ากับนายจ้างคนใหม่ และมันยังมากมายกว่านั้นอีกเท่าใดเมื่อบุคคลผู้นั้นคือบิ๊คฟอร์ด รูทเลดจ์ บุรุษผู้มีท่าทางแข็งกระด้าง แสดงออกถึงความเป็นชายชาตรีที่ทระนง นับแต่ครั้งที่มีผู้ชายคนหนึ่งเคยสร้างความวุ่นวายให้กับชีวิตของเธอ แต่เรื่องนั้นมันก็ผ่านมาเนิ่นนานหลายปีเต็มที นานจนทาเมร่าไม่อาจเรียกความทรงจำนั้นให้กลับคืนมาอีกได้

ทาเมร่ากำลังระแวงอยู่ว่า ใบหน้าของตัวเองแดงก่ำขึ้นกับปฏิกิริยาสนองตอบต่อสัมผัสของเขา เธอพยายามบังคับตัวเองให้จับตาอยู่เฉพาะแต่ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเท่านั้น อยากจะให้ในห้องนี้มีกระจกเงาสักบาน เพื่อจะได้มองเห็นหน้ากากที่ชาเย็นราวนักแสดงอาชีพที่สวมไว้

“สวัสดีค่ะ มิสเตอร์สเลเตอร์” ทาเมร่าเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน พร้อมกับก้าวออกไปสัมผัสมือกับเขาอย่างสุภาพ ซึ่งการทำเช่นนี้ทำให้เธอสามารถหลบหลีกจากมือที่โอบเอวอยู่ได้

“เป็นความยินดีอย่างยิ่งเลยครับ มิสเจมส์” อดัม สเลเตอร์ยิ้มให้เธออย่างชื่นชม

อดัม สเลเตอร์นั้นมีรูปร่างสูงต่ำไล่เลี่ยกับบิ๊ค ฟอร์ด รูทเลดจ์ เพียงแต่ผอมกว่า เรือนสีน้ำตาลของเขาออกจะมีสีอ่อนกว่าผู้ที่เป็นประธานบริษัท ดวงตาสีน้ำตาล เต็มไปด้วยแววอบอุ่นไม่คมปลาบเหมือนดวงตาสีเขียวคู่นั้น กิริยาท่าทางของเขา ไม่ได้ทำให้ทาเมร่ารู้สึกว่ากำลังถูกคุกคามเลย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เธอจะอธิบายถึงเจตน์จำนงของบิ๊คฟอร์ด รูทเลดจ์ ไปในทำนองที่ว่า เขากำลังข่มขู่เธออยู่ อันตรายจากบุคคลผู้นี้ดูจะลี้ลับกว่านั้นมากนัก

ฮาโรลด์ สเตน วางโทรศัพท์ลงหันมาบอกกับทุกคนว่า

“แซนด์วิชกับกาแฟจะมาถึงภายใน 20 นาทีนี้ครับ” เขาก้าวออกมาอย่างรวดเร็วจนเกือบจะชนกับเก้าอี้ที่อดัมเข็นเข้ามา “อ้อ...คุณได้เก้าอี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็เชิญนั่ง ทำตัวให้สบายกันก่อนดีไหมครับ?”

ขณะทาเมร่าหันไปเพื่อจะปฏิบัติตามคำแนะนำนั้น เธอก็เผชิญเข้ากับแผงอกว้างของบิ๊คฟอร์ด รูทเลดจ์ มีช่องแคบเท่านั้นที่จะเบี่ยงตัวออกมาจากเขาได้

“คุณจะนั่งตรงโต๊ะฉันก่อนก็ได้นี่คะ มิสเตอร์รูทเลดจ์” ทาเมร่าแสดงน้ำใจ

“ผมไม่ได้คิดจะไล่คุณไปไหนนี่” เขาตอบเป็นเชิงปฏิเสธ ก่อนจะเบี่ยงตัวให้เธอเดินหลีกออกไป “ทานอาหารกลางวันของคุณต่อเถอะ ไม่ต้องรอเราก็ได้”

ถ้าจะพูดกันตามความเป็นจริงแล้ว ทาเมร่าไม่ได้อยากจะกินโยเกิร์ตที่เหลืออยู่ในถ้วยต่อเลยแม้แต่น้อย เหตุผลที่เธอจำต้องยกถ้วยกับช้อนขึ้น ก็เพื่อจะให้มือของตัวเองได้มีอะไรทำบ้างเท่านั้น

อดัม ยืนยันให้ฮาโรลด์ สเตนผู้สูงวัยกว่านั่งลงบนเก้าอี้หมุนตัวที่เขาเข็นเข้ามา ส่วนตัวเขาเองนั้นเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้พนักตรง ซึ่งตั้งอยู่ตรงมุมห้อง ดังนั้นจึงเหลือเก้าอี้อีกเพียงตัวเดียว ที่ตั้งอยู่หน้าโต๊ะทำงานของทาเมร่า สำหรับให้บิ๊คฟอร์ด รูทเลดจ์นั่ง

เนื่องจากเป็นคนช่างจำนรรจาอยู่แล้ว ฮาโรลด์ สเตนจึงผูกขาดการสนทนาไว้แต่เพียงผู้เดียว ทาเมร่าเองก็แสร้งทำเป็นสนใจกับเรื่องที่เขากำลังพูดอยู่ ทั้งๆที่จับใจความไม่ได้เลยแม้แต่คำเดียว รู้สึกมันหนักหนาขึ้นเรื่อยๆกับการที่จะแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจกับความจริงที่ว่า...เธอกำลังถูกมองอย่างสำรวจตรวจตรา บิ๊กฟอร์ด รูทเลดจ์ ดูจะให้การสนใจกับการรับประทานของเธอจนออกนอกหน้า นับแต่เธอส่งช้อนเข้าไปในปาก จนถึงตอนที่เธอเลียโยเกิร์ตที่ติดอยู่บนริมฝีปากบน และแม้แต่การกลืนเข้าไปในลำคอ ดูราวกับเขาเพลิดเพลินเจริญใจกับภาพตรงหน้านั้นเป็นอย่างยิ่ง ความคิดของทาเมร่าเริ่มระส่ำระสาย จนในที่สุด เธอก็ต้องวางถ้วยที่เกือบจะหมดลงบนโต๊ะ ไม่ต้องการแสดงอะไรให้เขาดูอีกต่อไป

สายตาของเขาเปลี่ยนจากการมองถ้วยโยเกิร์ตมาเป็นมองหน้าเธอแทน

“นี่ผมนั่งมองดูคุณลดอาหารอยู่หรือนี่?” เขาถามเบาๆจนเธอเองก็เกือบจะไม่ได้ยิน ขณะเดียวกันเขาก็กวาดสายตามองไปทั่วเรือนร่างที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อผ้าชุดที่เธอสวมใส่อยู่เหมือนที่เคยทำมาแล้ว

แปลกนัก...ที่ทาเมร่ากลับไม่ได้รู้สึกว่าการมองของเขาเป็นการดูหมิ่นแต่อย่างใด ทั้งๆที่มันเหมือนกับอยากจะเปลือยร่างเธอก็จริง แต่ความหมายของมันไม่ได้เป็นเพียงแค่นั้น...อันตรายดูจะซ่อนอยู่ล้ำลึกมาก

“ไม่ใช่หรอกค่ะ เพราะความจริง มันก็เป็นเพียงแค่อาหารบำรุงร่างกายราคาถูกที่สุดเท่านั้น” เธอพูดเรียบๆ

มีเสียงเคาะดังขึ้นตรงหน้าประตู ก่อนที่มันจะถูกกระชากให้เปิดออก

“มิสเจมส์คะ ใครไม่รู้ขโมยเก้าอี้ฉันไป...”ซูซานแทบจะเปลี้ยไปทั้งตัวเมื่อพูดจบประโยคและพอดีเหลือบไปเห็น ว่ามิสเตอร์สเตนนั่นเองที่นั่งอยู่ในเก้าอี้ตัวนั้น และยังมีผู้ชายแปลกหน้าอยู่ในห้องด้วยอีก 2 คน “ฉันไม่ทราบว่าเป็นคุณเองค่ะที่เอาเก้าอี้มา มิสเตอร์สเตน” เธอมองทาเมร่าอย่างจะขอโทษ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันหาใหม่ก็ได้”

“ขอบใจมากซูซาน” ทาเมร่ายิ้ม แต่ในลักษณะที่เธอระมัดระวังท่าทีอยู่นั้น ทำให้มันดูไม่เป็นไปตามธรรมชาติเลย...

ก่อนที่ซูซานจะปิดประตูลง เด็กรับใช้ก็เดินถือถาดแซนด์วิขเข้ามาส่ง และเป็นขณะเดียวกันกับที่อดัมเริ่มลงมือตั้งคำถามเอากับเธอ...ซึ่งก็เป็นการพูดคุยเชิงซักถามกันตามธรรมเนียมและทาเมร่าก็ตั้งสมาธิมั่น ให้ความสนใจกับการสนทนาที่เขาเป็นผู้เริ่มต้นขึ้น...

เมื่อฮาโรลด์ สเตน ดื่มกาแฟจากถ้วยพลาสติกสไตโรฟอร์มหมดลง บิ๊คฟอร์ด รูทเลดจ์ก็เอ่ยขึ้นว่า

“ผมรู้ว่าคุณคงอยากกลับไปทำงานต่อแล้วนะฮาโรลด์ แล้วผมก็คิดว่า ลำพังมิสเจมส์ก็คงจะตอบข้อซักถามของอดัมได้”

“ครับ จริงทีเดียว ผมก็กำลังอยากจะกลับไปทำงานอยู่พอดี” ท่าทางของฮาโรลด์ สเตนบอกความโล่งใจอยู่ไม่น้อย ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วก่อนที่รูทเลดจ์จะเปลี่ยนใจเสียก่อน

ทาเมร่าอ้าปากเหมือนจะทักท้วง เธออยากให้มิสเตอร์สเตนนั่งอยู่คอยเป็นกำลังใจตลอดบ่ายวันนี้ แต่เขาก็ได้แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าอยากออกไปเสียให้พ้นๆ แล้วเธอจะเรียกเขาไว้ได้อย่างไร ถ้าเธอแสดงท่าทีอะไรออกไป อาจทำให้รูทเลดจ์หรือสเลเตอร์สงสัยขึ้นมาก็ได้...

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอจะต้องไม่ทำอะไรให้ผิดปกติอย่างเด็ดขาด บางที เธออาจจะพูดให้นายจ้างคนใหม่เข้าใจได้ ว่าสิ่งที่เธอได้ทำลงไปนั้นมันก็ไม่ใช่ความผิดเสียทั้งหมด มันน่าจะเป็นเพียง “ความไม่ถูกต้องเล็กน้อย”เท่านั้น แต่ก่อนที่เธอจะตัดสินใจพูดเรื่องนี้กับนายจ้างคนใหม่ ซึ่งท่าทางน่ากลัวอยู่ไม่น้อยนั้น เธอก็ยังไม่อยากลำเอียงเข้าข้างตัวเองเกินไปนัก นอกเสียจากเหตุการณ์มันจะดำเนินไปในรูปแบบที่ดีกว่านี้

ดังนั้น ทาเมร่าจึงไม่ได้แสดงท่าทีทักท้วงการปลีกตัวออกไปก่อนของฮาโรลด์ สเตน และอดัมก็เริ่มต้นงานของเขาด้วยการขอดูบันทึกต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางในการที่จะทำความเข้าใจกับระบบการทำงานของเธอ ก่อนที่จะมีการตรวจสอบบัญชีกัน ทาเมร่าแอบถอนใจอย่างโล่งอก เมื่อรู้ว่าจะไม่มีการตรวจสอบบัญชีกันในวันนี้และเริ่มรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง เพราะเธอกับอดัมนั้นพูดภาษาเดียวกันอยู่แล้ว

เขาดึงเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่เข้ามาตั้งเยื้องไปทางด้านหลัง เพื่อจะได้นั่งลงข้างๆเธอ ขณะลงมือตรวจสอบสมุดบัญชีแยกประเภท ส่วนบิ๊คฟอร์ด รูทเลดจ์ นั่งคงนั่งอยู่ในเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน และเนื่องจากทาเมร่ายุ่งอยู่กับงาน เธอจึงไม่ได้รู้สึกรำคาญกับการที่เขามานั่งจ้องอยู่ตรงหน้าอีกต่อไป เขาเองก็สอบถามบางปัญหาด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เขาได้ติดตามให้ความสนใจในการสอบถามและการอธิบายกันอยู่ตลอดเวลาด้วย

“คุณคงไม่รังเกียจนะครับถ้าผมจะถอดเสื้อนอกออก” เขาถามเป็นเชิงขออนุญาต หลังจากที่ได้เข้ามานั่งรวมกันอยู่ในห้องทำงานของเธอเกือบจะชั่วโมงแล้ว

“ไม่ค่ะ ไม่รังเกียจเลย” เธอตอบ แต่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองตอนที่เขาถอดเสื้อนอกออก

“อา...เป็นความคิดที่เข้าท่ามาก” อดัมยืนขึ้นและถอดเสื้อนอกออกบ้าง ขยับเนคไทสีน้ำเงินลายทองให้หลวมขึ้นก่อนจะกลับทรุดตัวลงนั่ง เขาถือโอกาสปลดกระดุมข้อมือและถลกแขนเสื้อขึ้นเสียด้วยเลย

การเปลี่ยนรูปแบบการแต่งตัวจากชุดที่ดูเป็นนักธุรกิจ มาเป็นการทำตัวตามสบายเช่นนี้ เป็นไปอย่างรวดเร็วเหมือนการเปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวละคร ทาเมร่าเองก็พลอยรู้สึกกระตือรือร้นตามอดัมไปด้วย ขณะลงมือทำงานที่เกี่ยวกับตัวเลขต่อ เขาเองดูจะเพลิดเพลินกับงานตรงหน้าอย่างมากซึ่งก็เช่นเดียวกับเธอ ทั้งคู่ต่างซักถามโต้ตอบกัน ในเรื่องที่เกี่ยวกับระบบการทำบัญชี เพื่อที่จะศึกษาหาลู่ทางในการสร้างระบบให้ง่ายขึ้น ภายหลังจากที่มีการรวมบริษัทเข้าด้วยกันแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel