บท
ตั้งค่า

บทที่ 9

ตอนหนึ่ง อดัมได้เอ่ยถามถึงวิธีจัดทำบิลต่างๆ ทาเมร่าจึงลุกขึ้นเดินไปยังตู้เก็บเอกสาร เพื่อเอาตัวอย่างซึ่งน่าจะเป็นการง่ายกว่าการมานั่งอธิบาย เธอสังเกตเห็นบิ๊คฟอร์ด รูทเลดจ์ ที่กำลังยืนพิงไหล่อยู่กับผนังด้านหนึ่งและกำลังพลิกเอกสารการเงินของปีที่ผ่านมาอยู่ หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นเมื่อสบสายตากับดวงตาคู่สีเขียวนั้น เธอเดินผ่านหน้าเขาช้าๆ เอื้อมไปเปิดตู้เก็บเอกสารที่ตั้งอยู่ใกล้ผนังด้านนั้น

“นี่ดีนะที่คุณไม่เป็นโรคคลอสโทรโฟเบียไปเสียก่อน มิสเจมส์” บิ๊คฟอร์ด เอ่ยขึ้น

“ค่ะ ห้องทำงานนี่ออกจะคับแคบไปสักหน่อย” เธอตอบอย่างเห็นด้วย และมันก็ไม่เคยเล็กเท่านี้ในเวลานี้เลย...ขณะที่มีเขาเข้ามานั่งอยู่ด้วย ตอนที่ทาเมร่าตอบออกไปนั้น เธอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองเขาเลยสักนิด

เมื่อพบแฟ้มเอกสารที่ต้องการ ทาเมร่าก็ดึงมันขึ้นมาผลักลิ้นชักตู้ปิดไว้ตามเดิม เมื่อหันกลับมาเธอก็ก้มลงเปิดแฟ้มเอกสารทันที พร้อมกับก้าวเข้าไปทางที่เขายืนอยู่ ไม่ทันสังเกตเห็นว่าขณะนี้เขาได้ยืดร่างขึ้นแล้ว

สัญชาตญาณทำให้เขาตวัดแขนโอบรอบเอวเธอไว้ ตอนที่ทาเมร่าสะดุดและเซเข้าไปปะทะ สายตาของเขาจรดจ้องอยู่ที่เธอในลักษณะนั้น ทาเมร่ามีความรู้สึกว่าตัวเองปะทะเข้ากับต้นขาและสะโพกของเขาเข้าเต็มแรง ในท่าที่มือข้างหนึ่งถือแฟ้มไว้ มืออีกข้างหนึ่งก็ยันเข้ากับอกเสื้อของเขา ที่เบื้องใต้อกเสื้อนั้นเธอได้สัมผัสกับแรงเต้นของหัวใจ เธอไม่ได้ต้องการที่จะพิสูจน์ว่า มันมีความสำคัญเพียงไรกับการที่เขาจะมีชีวิตอยู่ แต่กลับมีความรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นปลาบเข้าไปในร่างกายของตนเอง

“ก็อย่างที่คุณพูดนั่นแหละ ว่าห้องทำงานนี้มันคับแคบไปหน่อย...” เขาพูดเสียงเบา

เธอสัมผัสได้ถึงความลังเล ก่อนที่เขาจะดึงมือออกจากเอวและเบี่ยงตัวให้เธอเดินผ่านไปได้ ทาเมร่าเดินตรงไปที่โต๊ะทำงาน อดัมกำลังหันหลังให้เพราะสนใจกับระบบการเก็บเอกสารในตู้ ดังนั้นเขาจึงไม่ทันได้เห็นเหตุบังเอิญที่เกิดขึ้น ทาเมร่าวางแฟ้มลงตรงหน้า แต่ก็รู้สึกยากลำบากเหลือเกินที่จะหาถ้อยคำมาอธิบายรูปแบบการทำงานของเธอ เหตุบังเอิญที่เกิดขึ้นนั้นมันช่างรบกวนจิตใจเหลือเกิน

บิ๊คมองเห็นยิ้มที่เธอส่งให้อดัม...น่าขันนัก...ที่ขณะนี้เขากำลังคิดถึงว่าเธอชื่อทาเมร่า บางทีมันอาจไม่ใช่เรื่องน่าขันอะไรเลยก็ได้ เขาพยายามสำรวจความคิดของตัวเองอีกครั้ง นึกถึงความเนียนนุ่มของเรือนร่างยามที่เธอก้าวถลำเข้ามาหาเขาอย่างไม่ตั้งใจ ถ้าเขาได้เคยวางแผนไว้ก่อน มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ดีกว่านี้อีกแล้ว...เพิ่งเมื่อวินาทีที่ผ่านไปนี้เอง ที่เธอได้พิงร่างอยู่กับเขา น้ำหนักตัวทั้งหมดในกายได้เอนอิงลงมาแนบชิดอยู่กับร่างเขาไว้

มันมีเหตุผลบางประการที่บิ๊คสังเกตเห็นอยู่ คือเธอออกจะไว้ตัวกับเขาอยู่มาก พยายามทำตัวห่างเหินชาเย็นเข้าไว้ ราวกับเขาตั้งใจจะมาฆ่าแกงเธออย่างนั้น แต่กับอดัมแล้ว ทาเมร่ากลับมีท่าทีสนิทสนมด้วย ซึ่งก็แปลว่าความชาเย็นที่ฉาบอยู่บนใบหน้าของเธอนั้น ไม่ได้หมายรวมไปถึงอดัมด้วย มันพุ่งตรงมาที่เขาเพียงคนเดียว บางที...มันอาจจะเป็นไปตามธรรมชาติกระมัง บิ๊คเป็นคนตรงไปตรงมาไม่ชอบการเล่นเหลี่ยมใดๆทั้งสิ้น เหตุบังเอิญที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความตั้งใจที่เขาไม่คิดจะปิดบัง ในขณะที่เธอเองกลับระมัดระวังในคำพูดทุกถ้อยคำและไม่ยอมมองหน้าเขาตรงๆ

เขาสังเกตเห็นไหล่ของเธอที่เสียดสีอยู่กับต้นแขนของอดัม และพบว่าตัวเองไม่ชอบภาพที่เกิดขึ้นโดยไม่เจตนานั้น และยังท่าทีที่เธอพูดคุยกับอดัมตามสบายอีกด้วย... ความรู้สึกลึกลับที่เกิดขึ้นในใจทำให้ประกายในดวงตาของเขาเข้มขึ้น และขณะที่เขากำลังจ้องมองดูอยู่ก็เห็นเธอเหลือบตาลงมองดูนาฬิกา

“เย็นนี้คุณมีนัดกับใครไว้หรือเปล่าครับ มิสเจมส์?” บิ๊คเอ่ยปากถามออกไป เพราะดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่เขาเกิดความรู้สึกขึ้นมาว่า เธออาจมีนัดกับเพื่อนชายก็ได้

เธอเงยขึ้นมองหน้าเขาทันที ความละอายฉายแสงอยู่ในดวงตา เมื่อรู้สึกว่าตัวเองถูกจับได้ว่าได้แสดงกิริยาเช่นนั้นออกไป

“เปล่าหรอกค่ะ แต่...”

“ดีแล้วครับ ถ้าอย่างนั้นคุณคงไม่รังเกียจที่จะอยู่นานกว่าปกติอีกสักนิดหน่อยนะครับ” เขามองไปทางอดัม “ผมรู้ว่าอดัมอยากทำอะไรให้มันเสร็จๆไปเสีย ก่อนที่จะเริ่มลงมือตรวจบัญชีกันวันพรุ่งนี้”

“ฉันไม่ขัดข้องหรอกค่ะ...ถ้ามันจะไม่ค่ำจนเกินไปนัก”

อดัมเองก็ก้มลงดูนาฬิกา

“ฉันคิดว่าควรจะโทรศัพท์ไปบอกเป็กกี้ก่อนดีกว่า บอกให้เขารู้วาตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน เพราะเขามักเป็นห่วงเสมอ” พูดจบเขาก็เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถือไว้

ขณะหมุนหมายเลขโทรศัพท์นั้น สายตาของอดัมก็จับอยู่ที่กรอบภาพบนโต๊ะทำงานของทาเมร่า

บิ๊คจึงถือวิสาสะเอื้อมไปหยิบขึ้นมาดูรูปในกรอบอยู่เป็นครู่ ก่อนจะวางลงที่เดิม ในกรอบรูปเป็นภาพถ่ายเล่นของผู้หญิง 2 คน คนที่อ่อนวัยกว่าคือทาเมร่าแน่นอน ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นละม้ายคล้ายคลึงเธอมากเพียงแต่แก่กว่าเท่านั้น

“คุณแม่ของคุณหรือครับ?” บิ๊คเอ่ยถามขณะวางกรอบรูปลงในที่เดิม

“ใช่ค่ะ” ทาเมร่าชำเลืองมองดูรูปนั้นแวบหนึ่ง แววในดวงตาอ่อนโยนลง

“เห็นได้ชัดเลยนะว่าเหมือนกันมาก” เขาเอ่ยออกมาเบาๆ

แต่เธอไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืดด้วย ทันทีที่อดัมวางโทรศัพท์ทาเมร่าก็เอ่ยว่า

“ฉันเองก็ควรต้องใช้โทรศัพท์สักหน่อยค่ะ”

“เราคงจะเสร็จประมาณสักทุ่มตรงละครับ” อดัมบอกขณะที่ทาเมร่าหมุนหมายเลขโทรศัพท์อยู่ “เป็กกี้เขาจะมารับผมที่นี่ เอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนด้วย เพราะคืนนี้เรามีแผนจะออกไปดินเนอร์กัน” ดวงตาสีน้ำตาลของอดัมหรี่ลงอย่างรู้ทัน “เพราะฉะนั้นมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องให้นายอยู่ด้วยนี่ จริงไหม?”

“ฉันก็มีเหตุผลอย่างหนึ่งเหมือนกันเพื่อน” บิ๊คตอบเบาๆหางเสียงประชดกลายๆ ชำเลืองมองไปทางทาเมร่าแวบหนึ่ง เขาไม่อาจได้ยินถ้อยคำในการสนทนาทางโทรศัพท์ของใครก็ตามที่เธอโทรไปถึงได้ ไม่มีปัญหาใช่ไหมครับ?” เขาถามเมื่อเธอวางโทรศัพท์ลง

“ไม่ค่ะ ไม่ได้มีปัญหาอะไร”เธอตอบ แต่ก็ยักไหล่อย่างฝืนใจเต็มที

ดูมันช่างเนิ่นนานเหลือเกินสำหรับบิ๊ค กว่าที่เวลาทุ่มตรงจะมาถึงพร้อมกับภรรยาของอดัม และยังเสียเวลาอีกหลายนาทีสำหรับการแนะนำให้เธอได้รู้จักกับทาเมร่า พร้อมด้วยการทักทายตามมรรยาทสังคมที่ตามมา และเมื่อทาเมร่าหยิบกระเป๋าถือออกมาจากลิ้นชัก บิ๊คก็เดินนำออกไปทางประตู

“พรุ่งนี้พบกันนะอดัม...ขอให้สนุกนะเป๊กกี้” ประตูบานนั้นยังคงเปิดค้างไว้เมื่อเขาหันมาทางเธอ “แล้วคุณล่ะ จะกลับเดียวนี้เลยหรือเปล่าครับ มิสเจมส์?”

“กลับค่ะ” เขายังคงเปิดประตูค้างไว้ ขณะที่เธอเดินผ่านหน้าออกไปเงียบๆ “ขอบคุณค่ะ”

ทาเมร่าไม่ได้แสดงท่าทีใดๆให้เห็นว่า เธอหวังไว้ก่อนหน้าแล้วว่าเขาจะต้องเดินออกมาด้วย จนกระทั่งถึงทางออกด้านหน้าแต่ฝีเท้าที่ก้าวยาวๆของบิ๊คก็ตามมาทันจนได้ ท่าทางของเขาบอกว่าไม่ใคร่พอใจนัก ที่เห็นทาเมร่าทำตัวห่างเหินเกินไป

“มิสเจมส์ วันนี้คุณเองก็ทำงานอยู่จนค่ำ เลยเวลาอาหารค่ำไปแล้ว ให้ผมเลี้ยงอาหารคุณสักมื้อก็แล้วกันนะครับ”

“ไม่จำเป็นเลยค่ะ ฉันจดรายการที่ต้องทำงานล่วงเวลาลงในบัตรแล้ว ถือว่าได้รับเงินเป็นค่าตอบแทนแล้วค่ะ” เธอตอบ

“แต่...แล้วเรื่องค่าล่วงเวลาของผมล่ะ” เขาทำเสียงเหมือนกำลังพูดด้วยเหตุผล “ผมไม่ได้อยู่รอเพื่อที่จะออกไปดินเนอร์คนเดียวนี่ คุณก็น่าจะเห็นใจผมด้วยสิ”

เธอตวัดขนตายาวงอนขึ้นมองหน้าเขาแวบหนึ่ง

“ฉันคิดว่า คุณคงหาเพื่อนร่วมทานอาหารด้วยไม่ยากหรอกค่ะมิสเตอร์รูทเลดจ์ เพียงแต่อาจจะต้องใช้ความพยายามสักหน่อยเท่านั้น”

ขณะนี้ทั้งเขาและเธอเดินมาถึงหน้าประตูใหญ่แล้วและเขาก็เอื้อมมือไปเปิดประตูให้

“ครับ ผมก็กำลังใช้ความพยายามนั่นอยู่ ด้วยการเชิญคุณให้ไปทานกับผมให้ได้ หรือว่ามีใครคอยทานอาหารพร้อมคุณอยู่แล้ว?”

“ไม่มีหรอกค่ะ ฉันเตรียมเครื่องเย็นไว้ ไม่มีปัญหาอะไร”

อากาศภายนอกตัวอาคารเย็นสดชื่น สายลมอ่อนพัดรวยรินอยู่รอบๆตัว

“คุณกำลังทำให้ผมกระดากใจมากนะมิสเจมส์ ผมเป็นฝ่ายขอร้องให้คุณทำงานจนเลยเวลาแล้วก็ยังบังคับให้คุณต้องทานอาหารที่เย็นจืดชืด แถมคุณยังปฏิเสธคำเชิญผมอีก”

“อันที่จริงเป็นความกรุณาของคุณอย่างยิ่งเชียวค่ะ เพียงแต่ว่าฉันต้องรีบกลับบ้านเท่านั้น ขอขอบคุณอีกครั้งนะคะ...กู๊ดไนท์ค่ะ”

“คุณจะไปไหนน่ะ?” บิ๊คคว้าแขนเธอไว้ เมื่อทาเมร่าขยับจะเดินออก

“ก็กลับบ้านน่ะสิคะ ฉันบอกคุณแล้วไง”

บิ๊คสัมผัสได้ในท่าทีแข็งขืนของเธอ ดวงตาสีฟ้าของทาเมร่าเป็นประกายขึ้นแวบหนึ่ง ขณะเกิดความรู้สึกเหมือนท้าทาย ยามค่ำวันนี้ คือเวลาที่เขารออยู่อย่างไม่มีความหมายอะไรเลยและขณะนี้เธอก็ยืนอยู่ใกล้ตัวเขา ซึ่งมันก็น่าจะหมายถึงอะไรสักอย่างที่จะเกิดขึ้นบ้าง เขายังไม่อยากให้เธอหลุดมือไปง่ายๆแบบนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel