คนปากร้าย(1)
ตอนที่ 4
คนปากร้าย
“เธอคงดีใจจนเนื้อเต้นเลยสินะที่แผนการสำเร็จลุล่วง”
ทันทีที่รถเคลื่อนตัวออกจากอพาร์ทเม้นท์ อิศราก็เริ่มใช้คำพูดแดกดันอีกฝ่ายทันที รินรดาถอนหายใจยาวเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้านายหนุ่มจะเป็นคนปากคอเราะร้ายเช่นนี้
“ฉันไม่เข้าใจที่บอสพูดค่ะ”
“ก็แหงล่ะ ผู้หญิงที่ใช้เรือนร่างมากกว่าสมองเพื่อยกระดับตัวเองอย่างเธอไม่มีทางเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดหรอก”
รินรดาตวัดสายตาใส่อิศรา เธอรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดที่แสนร้ายกาจของเขา
“บอสคะ ไม่แรงไปหน่อยเหรอคะ”
อิศราแค่นเสียงก่อนจะหักพวงมาลัยแซงรถคันหน้าที่ขับช้าอืดอาด ร่างบางถูกแรงรถกระชากโดยไม่ทันตั้งตัวจนศีรษะกระแทกกับหน้าต่างเต็มแรง วูบหนึ่งในสายตาชายหนุ่มปรากฏความกังวลก่อนที่เขาจะแค่นเสียงเยาะเธอ
“เชื่อหรือยังว่าเธอเป็นคนไม่มีสมอง ขนาดขึ้นรถยังไม่คาดเข็มขัด!”
รินรดาหน้าชา น้ำตาเอ่อคลอ เธอเบือนหน้าหนีออกไปนอกหน้าต่างพลางเม้มปากแน่น อิศราหันมองหญิงสาว เห็นเธอยกมือปาดน้ำตาเงียบๆความรู้สึกผิดวูบหนึ่งก็พัดผ่านเข้ามาในใจ
เขานิ่งเงียบไปสักพัก แต่เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นร้านขายชุดแต่งงานอารมณ์ชายหนุ่มก็แปรปรวนอีกครั้ง
“จะบีบน้ำตาทำไม!”
รินรดาเบื่อเต็มทนไม่อยากต่อปากต่อคำกับเขา เธอสวมบทคนใบ้นั่งเงียบตลอดทางปล่อยให้อิศราพูดพล่ามเพียงคนเดียว
“เธอคงหวังจะรวยทางรัดสินะ ทำไม เงินเดือนไม่พอใช้หรือไง!”
ชายหนุ่มยังไม่หยุดพูดดูถูกหญิงสาว แม้ว่าเธอจะไม่ตอบโต้แต่เขาก็ยังใช้คำพูดร้ายกาจทิ่มแทงจิตใจเธอ รินรดาอยากยกมือปิดหูแต่ก็ไม่กล้า จึงได้แต่ทำหูทวนลมไม่เก็บคำพูดเขามาใส่ใจ
“ถ้าเงินไม่พอใช้ ฉันยินดีจ่ายค่าตัวเธอ ว่ามาสิเท่าไหร่ล่ะ”
คราวนี้หญิงสาวหมดความอดทน เธอหันไปเผชิญหน้าเจ้านายหนุ่มก่อนจะเอ่ยขึ้น
“คุณคงภูมิใจมากสินะคะที่ได้ดูถูกเหยียดหยามคนอื่น ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าทายาทผู้ดีเก่าอย่างคุณจะปากคอเราะร้ายแบบนี้!”
คำพูดนั้นทำให้อิศราถึงกับนิ่งอึ้ง เขาพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดก่อนจะหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าเขตบ้าน
คฤหาสน์หรูที่อยู่ตรงหน้าทำให้รินรดารู้สึกตื่นตะลึงกับความใหญ่โตโออ่า แต่แล้วเสียงเรียกของ อิศราก็ทำให้เธอหลุดออกจากภวังค์ ชายหนุ่มใช้สายตาดุดันจ้องมองหญิงสาวก่อนจะเดินนำลิ่วเข้าไปในบ้านโดยไม่รอเธอ รินรดารีบเดินตามเขาเข้ามาในเคหะสถานที่ใหญ่โต
อัศราวุธและมัสยานั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร เมื่อเห็นหญิงสาวเดินตามลูกชายเข้ามาด้วยท่าทางสงบเสงี่ยมเจียมตัวก็นึกเอ็นดู สองสามีภรรยาสบตากันก่อนที่มัสยาจะเอ่ยปากชวนรินรดาให้นั่งร่วมโต๊ะอาหาร หญิงสาวรู้สึกเกร็ง แม้ว่าอัศราวุธและมัสยาจะพยายามถามไถ่เรื่องราวของเธอและชวนหญิงสาวคุยเพื่อทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัด แต่อิศราที่นั่งอยู่ข้างๆกลับทำหน้านิ่วคิ้วขมวดตลอดเวลา
หลังทานอาหารเสร็จ อัศราวุธมอบหมายหน้าที่เจรจาพูดคุยเรื่องแต่งงานให้กับภรรยาก่อนที่เขาจะปลีกตัวขึ้นไปชั้นบนของบ้านเหมือนทุกวัน อิศราที่ทำหน้าที่สารถีเสร็จสิ้นเขาก็เดินทางไปบริษัททันที ทิ้งให้หญิงสาวอยู่กับแม่ของเขาตามลำพัง
“ทำงานมากี่ปีแล้วล่ะ”
มัสยาเอ่ยถามรินรดาที่อีกฝ่ายกำลังนั่งพับใบเตยให้กลายเป็นดอกกุหลาบ หญิงสาววางใบเตยหอมลงบนถาดใบใหญ่ก่อนจะเอ่ยตอบ
“สามปีแล้วค่ะ”
มัสยาพยักหน้าพร้อมกับมองสำรวจใบหน้าหวานไปด้วย สมัยนี้ยากที่จะหาผู้หญิงที่สวยธรรมชาติโดยไม่ผ่านการศัลยกรรม อันที่จริงมัสยาไม่ใช่คนแอนตี้เรื่องพวกนี้เพียงแต่เธอคิดว่าใบหน้าที่งดงามแบบเป็นธรรมชาตินั้นยังไงก็ดูสบายตากว่ามาก
“แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะ ทำงานที่นี่ดีไหม”
หญิงสาวพยักหน้า ช่วงสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเธอได้มีโอกาสฝึกงานที่นี่เป็นครั้งแรก โดยมีปรินเป็นหัวหน้างาน เมื่อเรียนจบปริณแนะนำให้เธอเข้ามาสมัครงานที่เดียวกับเขา นับตั้งแต่นั้นเธอก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของแผนกบัญชีภายในบริษัทนี้โดยมีอิศราเป็นผู้บริหารสูงสุด
“ดีมากเลยค่ะ”