บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 - ฝืนใจทำหน้าที่สามี หรือเต็มใจกันแน่

รู้สึกขัดเขินเมื่อต้องมาทำอะไรแบบนี้บนโซฟาแถมในห้องทำงานของเขาอีกด้วย แต่เมื่อมันคือหน้าที่ มันคือความต้องการของสามีหล่อนก็ไม่อาจปฏิเสธดิ้นหนีไปไหนได้ เมื่อกายเปลือยเปล่าของเขาคร่อมทับเธอลงมา กลิ่นจันทร์ก็ได้แต่นอนนิ่งให้เขาเป็นคนจัดการ เธอนอนนิ่งเป็นท่อนไม้ ใช่เป็นท่อนไม้เพราะทำตัวไม่ถูก วางมือไม่ถูก และไม่รู้จะทำยังไง แต่แล้วก็ต้องครางซ่านออกมาเมื่อปากหนาของเขาขบเม้มซอกคอระหงของเธอ ร่างเล็กบิดเร่าไปมาด้วยความกระสันซ่านเมื่อถูกกัดเม้มซอกคอและติ่งหูเล็กของตัวเอง

“อือ กลิ่นหอมดีฉันชอบ” นั่นคือคำชมจากคนเหนือร่าง เธอไม่รู้ว่าคือคำชมรึเปล่าหรือคือคำเหน็บแหนมกันแน่ แต่มันก็ทำให้หัวใจของกลิ่นจันทร์พองโตไปกับน้ำคำพร่านั้นของบุรุษเหนือร่าง

ธรรพ์เองก็ไม่อาจห้ามความปรารถนาที่ตัวเองมีต่อร่างเล็กใต้ร่างได้เลย ผิวกายขาวนวลเนียนของกลิ่นจันทร์ช่างหอมหวนเย้ายวนชวนสัมผัสเหลือเกิน และยิ่งไปกว่านั้นหัวใจของเขามันก็เต้นผิดจังหวะเมื่อได้คร่อมกายเปลือยเปล่าทับบนร่างเปลือยของผู้หญิงที่ตัวเองเกลียดนักเกลียดหนา

ริมฝีปากหนากัดเม้มซุกไซ้สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของผิวนวลเนียนของเจ้าหล่อน ยิ่งตอนนี้เหงื่อไคลของหล่อนผุดขึ้นยิ่งทำให้เขาปรารถนาในกายหล่อนหนักหน่วงจนต้องเม้มปากแน่นแล้วเคลื่อนมาจูบเร้าสองเต้าที่สองมือใหญ่กำลังเคล้นคลึงบดเร้าหนักหน่วงเป็นจังหวะ

“อ่ะ อื้อ คุณดีจันทร์...อื้อ”

“อือ ฉันอยากได้เธอจันทร์”

คำพูดสั้นๆ ที่เอ่ยกับสองเต้าที่กำลังดูดเร่าระรัวปลายลิ้นแตะเม็ดบัวสีชมพูของหล่อนอยู่ในตอนนี้ สองมือหยาบกร้านลูบไล้สีข้างเล็กมาจับเอวเล็กคอดแล้วรั้งยกขึ้นแนบเบียดกับเอ็นเนื้อร้อนของตัวเองที่เบียดอยู่หน้าท้องแบนราบของเจ้าหล่อน

“คุณดี อื้อ”

แล้วก็ต้องเปิดปากร้องซ่านออกมาเมื่อปากหนาของเขาพรมจูบไล้เลื้อยมายังหน้าท้องของเธอ แล้วมือใหญ่ทั้งสองก็จับเรียวขาเล็กทั้งสองของกลิ่นจันทร์แยกกว้างยกขึ้นพลาดไหล่กว้างพร้อมหน้าของเขาโน้มลงไปซุกซบกลางหว่างขา ภาพที่เห็นตรงหน้ามันเลือนรางพร่ามัวด้วยไฟสวาท แต่ก็ทำให้หล่อนแก้มแดงขัดเขินและอายเหลือเกินเมื่อตอนนี้เขากำลังก้มหน้าซุกที่ความเป็นเพศของตัวเอง

“อ่า หวาน หวานลิ้นเหลือเกินจันทร์ อืม” ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำแบบนี้กับผู้หญิงคนไหน แต่กลิ่นหอมของกลิ่นจันทร์ทำให้เขาต้องซุกหนาซบลงมากลางหว่างขาพร้อมตวัดระรัวลิ้นสอดแทรกถูไถไปตามกลีบสวาทอวบอูมฉ่ำแฉะของหล่อน เขาตวัดปลายลิ้นดูดเม้มเม็ดเกสรกลางร่างเธอยิ่งเอวเล็กบิดเร่ายกเด้งเร่าไม่ประสีประสายิ่งทำให้เขาอยากจ้วงดันปลายลิ้นเข้าไปในโพรงน้ำหวานฉ่ำของหล่อน

“อ่า คุณดีจันทร์ร้อน อ่ะ อือ” หล่อนกำมือกับโซฟาแน่นพร้อมพยายามแอ่นยกร่างตัวเองขึ้นหาความร้อนทรมานของกลางกายสาวในตอนนี้

“อ่า ฉันรู้ว่าเธอกำลังต้องการอะไรจันทร์ อืม หวาน ฉันขอกินน้ำเสียวเธอก่อนนะแล้วฉันจะทำให้เธอหายร้อน อืมซี๊ด ชูว์ หวานเหลือเกิน”

ความเกลียดชังที่แสดงออกก่อนหน้านี้ถูกโยนทิ้งไปแล้ว ธรรพ์ไม่ได้นึกรังเกียจขยะแขยงร่างเล็กใต้ร่าง กลับรู้สึกใจเต้นแรงเสียด้วยซ้ำในตอนนี้ ปลายลิ้นร้อนลากถูผ่านไปตามกลีบสวาทฉ่ำที่อาบไปด้วยน้ำเสียวของหล่อนที่กำลังไหลออกมาเพราะความเสียวซ่าน

“อ่า คุณดีจันทร์มะ...ไม่ไหวแล้วนะคะ อ่า อื้อ”

“ชูว์ ฉันรู้ว่าเธอไม่ไหว และฉันก็ไม่ไหวเหมือนกันจันทร์ อ่า หวานเหลือเกิน อืม หอมมากด้วย”

ความหอมหวานของกลิ่นจันทร์ทำให้ธรรพ์ไม่อาจปล่อยผ่านไปได้ เขาไม่อาจทนความปวดร้าวของเอ็นเนื้อที่แข็งขึงของตัวเองได้ เคลื่อนกายใหญ่คร่อมทับแล้วกดแทรกกรีดกายความใหญ่โตสอดแทรกประสานร่างเล็กคับแน่นของหล่อนทันที

“อ่ะ อื้อ” กลิ่นจันทร์สะดุ้งเมื่อกายใหญ่โตกระแทกกายเข้ามาในท้องน้อยจนจุก เธอตวัดมือที่กำแน่นก่อนหน้าโอบกอดลำคอหนาแล้วเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวโยกเร้าจังหวะเสียวซ่าน หล่อนรู้สึกได้ถึงความวาบหวิวร้อนไหวที่เกิดขึ้นในท้องน้อย เหงื่อไคลไหลอาบชื้นเปียกท่วมตัวเธอและคนตัวโตก็เช่นกัน

“โอว์ แน่นดีเป็นบ้าเลยจันทร์ อื้อ แรงๆ นะ ฉันอยากได้แรงๆ อ่า เสียว ตอดรัดดีเป็นบ้า อูว์”

คำรามซ่านออกมาด้วยความทรมานร้าวแก่นกายเนื้อที่เคลื่อนไหวเสียดสีเข้าออกในกายคับแน่นของกลิ่นจันทร์ เขาโอบอุ้มประคองร่างเล็กที่ถูกกระแทกกายอยู่บนโซฟาขึ้นมาโอบกอดแนบแน่นพร้อมกระแทกดุดันด้วยจังหวะเร็วถี่สวาทของตัวเอง

พั่บ! พั่บ! พั่บ!

จังหวะเคลื่อนไหวสอดประสานกันดังหนักหน่วงดุดันเมื่อธรรพ์ไม่อาจอดทนหรือใจเย็นกักเก็บความต้องการในตัวของหญิงที่เกลียดชังได้ ใช่เหรอ ตอนนี้เขาจำใจร่วมรักกับหล่อนหรือทำไปเพราะเต็มใจกันแน่หนา หัวใจแกร่งกับหัวใจเปราะบางต่างเต้นไหวไปในจังหวะเดียวกัน ทั้งสองปล่อยตัวไปกับความต้องการของร่างกาย

“อ่า อื้อ ไม่ไหวแล้วคุณดี จันทร์ไม่ไหวแล้ว อ่า”

“โอว์ ฉันรู้ ตอดรัดฉันแน่นมากจันทร์ อ่า ซี๊ด อือ”

เสียงครวญครางของทั้งสองดังออกมาตลอดการเคลื่อนไหวหนักหน่วงบนโซฟา ธรรพ์เป็นผู้นำทาง กลิ่นจันทร์เป็นผู้ตาม แม้จะไร้เดียงสาไม่รู้จังหวะ แต่ความไร้เดียงสาของเจ้าหล่อนก็ทำให้หัวใจของเขาพองโตได้แบบไม่รู้ตัวเช่นกันในตอนนี้ ร่างกายเปลือยชื้นเหงื่อไหวโยกบดเร่าเสียดสีกายเนื้อร้อนเข้าออกร่างเล็กคับแน่นไม่ยอมหยุดพัก

พั่บ! พั่บ! พั่บ!

“อ่า ไม่ไหวแล้วจันทร์ จะแตกแล้ว เธอรัดฉันแน่นเป็นบ้า โอว์ ชูว์ เสียว”

พั่บ! พั่บ! พั่บ!

เอวสอบเคลื่อนไหวซอยถี่ดุดันกระแทกกายสอดลึกเข้าออกในกายคับแน่นของกลิ่นจันทร์อย่างทรมานซ่าน และปวดร้าว แต่ก็แฝงไปด้วยความสุขที่เขาปรารถนา และตอนนี้ไม่ไหวแล้ว เขาใกล้จะถึงความสุขแล้ว และหล่อนเองก็ไม่ต่างกัน ทั้งสองโหมกายกระหน่ำตอบรับกันแม้อีกคนจะผิดจังหวะแต่ก็ทำให้เขาตื่นเต้นเร่าใจจนจะปริแตกในกายหล่อนทุกครั้งที่หล่อนตอดรัดเร่าร้อน

“โอว์ ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้วจันทร์ อ่า”

“อือ จันทร์ก็ไม่ไหวคุณดี จันทร์ระ...ร้อน อ่า ซี๊ด อือ” หล่อนซุกหน้าไปกับไหล่หนาของเขาพร้อมจิกเล็บไปกับแผ่นหลังหนาของคนตัวโต

“อ่า พร้อมกัน เราจะไปถึงพร้อมกัน อ่า ซี๊ด อื้อ”

พั่บ! พั่บ! พั่บ!

สองเรือนร่างชื้นฉ่ำไปด้วยเหงื่อ กายสอดประสานกันแน่น เสียงเนื้อแน่นดังกระทบกระทั่งกันหนักหน่วงยามพวกเขาเคลื่อนไหวเล้าโลมไปในทิศทางเดียวกัน และหัวใจของทั้งสองก็เกี่ยวประสานกันโดยที่ไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ต่างก็ซึมซับกันและกัน แต่สำหรับหญิงสาวแล้วหล่อนมีเขามาตลอด แต่คนใจร้ายกลับแสนชังหล่อน และตอนนี้มันเพิ่งจะเริ่มต้นของการมีตัวตนของเธอที่แทรกแซงเข้าไปในหัวใจเดือดดาลของเขาโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเริ่มแบ่งพื้นที่ในใจให้ภรรยาคนนี้เสียแล้ว

“อ่า อื้อ”

เวลาผ่านไปจนบ่ายโมงจะบ่ายสองธรรพ์ถึงถอดกายออกจากความคับแน่นฉ่ำแฉะของกลิ่นจันทร์ เขามองไปยังร่างเล็กที่ตัวเองหาความสุขตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เขาหยักยิ้มมุมปากสมเพชตัวเองที่ไม่อาจหักห้ามร่างกายตัวเองได้ เขามองดูหน้าเนียนที่แดงก่ำด้วยไฟสวาทก็อดเม้มปากแน่นไม่ได้ เขาเกลียดหล่อนมากขนาดนี้แล้วทำไมร่างกายถึงต้องการหล่อนมากมายด้วยล่ะ เขาไม่เข้าใจตัวเองว่าตอนนี้ตัวเองเป็นอะไรไปกันแน่

มือใหญ่คว้าหยิบเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งก่อนหน้านี้ของตัวเองมาสวมใส่แต่งตัวให้เรียบร้อยเหมือนเดิมเหมือนกันว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเดินไปยังโต๊ะทำงานของตัวเองโดยไม่สนใจร่างเปลือยที่นอนหลับสนิทบนโซฟาตัวยาวในห้องทำงานของตัวเอง แต่แล้วก็นั่งทำงานได้ไม่นานก็ลุกเดินมาหาคนที่หลับอยู่บนโซฟา

“เธอมันแม่มดชัดๆ” เขาพึมพำออกมาอย่างหงุดหงิดแล้วคว้าหยิบเสื้อผ้าของเธอมาสวมใส่ให้เธอให้เรียบร้อย เพราะถ้าขืนหล่อนยังนอนเปลือยแบบนี้เขาทำงานต่อไม่ได้แน่ เมื่อจัดการใส่เสื้อผ้ากลับให้กลิ่นจันทร์เรียบร้อยก็เดินไปนั่งทำงานเหมือนเดิมพร้อมเสียงโทรศัพท์ของกลิ่นจันทร์ในกระเป๋าดังขึ้นรบกวน นั่นแหละทำให้เขาต้องสบถหยาบออกมา

“เชี้ยอะไรอีกวะ! ”

ลุกจากเก้าอี้มาล้วงหาโทรศัพท์ของหล่อนอออกมาดูว่าใครกันโทรมารบกวนเวลานี้ ส่วนเจ้าของโทรศัพท์ยังคงนอนหลับสนิทไม่ไหวติง และเนี่ยแหละเขาเพิ่งรู้ว่ากลิ่นจันทร์เป็นคนหลับลึกขี้เซาก็ตอนนี้แหละ เขามองหน้าจอโทรศัพท์ในมือที่ยังคงสั่นเตือนและมีเสียงรบกวนอยู่แต่เจ้าของโทรศัพท์ก็ยังนอนหลับนิ่งพร้อมมุมปากสวยได้รูปของหล่อนหยักยิ้ม และเขาเองก็เผลอยิ้มตามเมื่อเห็นยิ้มน้อยๆ ของคนที่หลับสนิทอยู่

“ใครกันโทรมา” อ่านชื่อหน้าจอแล้วก็มองหน้าของภรรยาแสนชังของตัวเองก่อนจะตัดสินใจกดรับสาย

“จันทร์มาเริ่มงานได้เลยนะพรุ่งนี้”

ทันทีที่กดรับสายปลายสายก็พูดทันที และนั่นแหละทำให้เขาขมวดคิ้วชนกันเป็นปมพร้อมเม้มปากแน่นจนสันกรามปูนโปนขึ้นด้วยความขึงโกรธ เป็นผู้ชายโทรมาหาหล่อน มือที่จับโทรศัพท์แนบหูก็เผลอกำแน่นจนโทรศัพท์จะแตกละเอียดคามือ

“จันทร์ได้ยินแผนพูดไหม” ปลายสายกรอกเสียงถามย้ำส่งมาเมื่อทางปลายสายเงียบ

“ได้ยิน แล้วนายเป็นใครถึงโทรมาหาเมียฉัน” เสียงเข้มห้วนตอบพร้อมถามกลับไป

“แล้วจันทร์ไปไหนครับ ผมเป็นเพื่อนของจันทร์”

“เพื่อนงั้นเหรอ?”

“ครับเพื่อน ผมขอคุยกับจันทร์หน่อยได้ไหมครับ”

“ไม่ได้ ตอนนี้เมียฉันหลับอยู่ และอย่าโทรมาหาเมียฉันอีก ส่วนงานเธอไม่ไปทำหรอก เธอจะทำงานกับฉัน”

พูดจบก็ตัดสายทิ้งพร้อมปิดเครื่องทันที เมื่อปิดโทรศัพท์ของกลิ่นจันทร์เรียบร้อยก็วางไว้ที่โต๊ะกลางโซฟาข้างกระเป๋าสะพายของหล่อนที่เขาวางไว้ก่อนหน้านี้แล้วมองไปยังหน้านวลเนียนของคนที่หลับอยู่ก็อดกำหมัดแน่นแล้วลุกเดินหนีจากไปไม่ได้ ทำไมเขาต้องเป็นแบบนี้ด้วย คนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองว่ากำลังหึงภรรยาแต่งตัวเองก็ได้แต่หน้าตึงตลอดการทำงานตรงหน้าและเมียงมองไปยังคนที่นอนบนโซฟาตลอดเวลา

ใบตองมองแฟนหนุ่มที่เป็นสามีของคนอื่นไปแล้วในตอนนี้ ตอนนี้เขากำลังเตรียมมื้อเย็นเพื่อจะดินเนอร์กับหล่อน แล้วภรรยาของเขาล่ะ หล่อนกลับไปแล้วหรืออยู่ที่ไหน แต่ตอนนี้อะไรก็ไม่เท่าตอนนี้เธอมีเขาอยู่ตรงนี้เธอรู้ว่ามันผิดบาปที่ตัวเองยังคงคบหากับสามีคนอื่นอยู่แบบนี้ แต่ทำยังไงได้หัวใจมันรักไปแล้ว ความรักมักทำให้เราไม่รู้จักดีจักชั่วเสมอ และตอนนี้เธอกำลังทำบาปเธอรู้ดีว่าการเป็นชู้กับคนมีเจ้าของแล้วมันผิดศีลธรรม

ดินเนอร์วันนี้ธรรพ์ตั้งใจทำอาหารสุดฝีมือให้แฟนสาว เขาจัดริมระเบียงห้องที่มองไปเห็นบรรยากาศยามค่ำคืนของท้องฟ้าได้สวยงาม และท้องฟ้าคืนนี้ก็มีหมู่ดาวส่องสว่างเต็มฟ้า เขาจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยก็ประคองใบตองมานั่งที่เก้าอี้ที่เขาเตรียมไว้ให้เธอแล้วตัวเองก็ไปนั่งตรงข้ามเธอ

“วันนี้ผมทำสเต๊กแซลมอนที่ตองชอบเลยนะ”

“คุณดีใส่ใจตองเสมอ ตองรักคุณดีนะคะ” เธอวางมือทาบทับบนมือของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าตัวเอง

“ผมก็รักตอง” เขาบอกเสียงนุ่มพร้อมยกมืออีกข้างมากุมมือเล็กที่กุมทับมือตัวเองอยู่

“อนาคตเราจะได้อยู่ด้วยกันไหมคะคุณดี”

เธออดถามถึงอนาคตตัวเองและเขาไม่ได้ในตอนนี้ เพราะตั้งแต่กลางวันที่เธอแยกจากมาเธอก็คิดไม่ตกว่าระหว่างเธอและเขายังคงจะมีความเป็นไปได้ไหม เมื่อภรรยาของเขาเองก็สวยหวานน่ารัก หล่อนยอมรับว่ากลิ่นจันทร์สวย สวยมากเลยทีเดียว จึงเริ่มกังวลแล้วว่าในอนาคตเขายังจะมั่นคงแบบนี้หรือเปล่า หรือตอนนี้อาจจะไขว้เขวไปทางภรรยาแต่งแล้วก็เป็นได้ในตอนนี้

“แน่นอนสิ ถ้าผมไม่อยู่กับตองแล้วจะไปอยู่ไหน ทานกันเถอะ เดี๋ยวจะเย็นเสียก่อน” เขาบอกแฟนสาวพร้อมชักดึงมือตัวเองมาจับมีดและซ้อม

“ทานก่อนผมเลยนะ ผมไปหยิบขวดไวน์ก่อนผมลืม” เมื่อเห็นว่าขาดสิ่งสำคัญไปจึงรีบลุกเดินไปหยิบไวน์ที่เตรียมมาด้วยทันที พร้อมกับแก้วสองใบแล้วเดินกลับมานั่งที่เดิมรินไวน์ให้ตัวเองและของใบตอง

“ดื่มเพื่อความรักของเราครับ”

“เพื่อรักของเราค่ะ” หล่อนหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาชนกับแก้วของเขาแล้วจิบดื่มก่อนจะวางลงแล้วหั่นปลาแซลมอนทานต่อ

“อือ อร่อยเหมือนเดิมเลยค่ะ”

“แน่นอนอยู่แล้ว สำหรับตองแล้วผมทำได้ทุกอย่าง อย่ากังวลเลยว่ารักของเราจะเป็นไปไม่ได้ เชื่อใจผมนะ” เขายื่นมือไปตรงหน้าจับแก้มนวลที่ไร้การแต่งหน้าของแฟนสาว

“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่ให้ความมั่นใจกับตอง” เธอจับมือเขาที่จับแก้มตัวเองมาจูบแผ่วเบา

ธรรพ์ไม่ได้พูดตอบอะไรต่อ เขาสนใจทานสเต๊กตรงหน้าตัวเองต่อ พร้อมกับดื่มไวน์ไปด้วย ใบตองเองก็เช่นกัน สำหรับหล่อนแล้วมีเพียงเขาและเธอในตอนนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว แม้ว่าความเป็นจริงเขาจะเป็นสามีตีทะเบียนของคนอื่นไปเสียแล้ว

กลิ่นจันทร์ตื่นขึ้นมาในห้องไม่คุ้นเคย เธอลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงมองสำรวจตัวเองแล้วก็เห็นว่าตอนนี้ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว แล้วก็มองไปเห็นกระเป๋าสะพายตัวเองวางอยู่ข้างหัวเตียงจึงหยิบมาคว้าหาโทรศัพท์ตัวเองดูเวลาว่าตอนนี้กี่โมงกี่ยามกันแล้ว และก็แปลกใจว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หรือว่าเขาจะพามาและเขาอุ้มเธอมาเหรอ เมื่อคิดว่าตัวเองถูกคนใจร้ายอุ้มก็อดใจพองโตไม่ได้

“ทำไมจอดับ” เธอเห็นหน้าจอโทรศัพท์มือจึงสงสัยแล้วลองกดปุ่มด้านข้างเปิดเครื่องดูแล้วเครื่องก็ติด

“อือ ทำไมเครื่องดับได้นะ” หล่อนยกมือเกาหัวตัวเองด้วยความมึนงง พอเปิดเครื่องได้ก็เห็นเวลาตอนนี้สามทุ่มจะสี่ทุ่มแล้วจะโทรหาคุณแม่ก็ดึกแล้วท่านคงนอนหลับไปแล้ว แต่พอเปิดไปเช็คไลน์และ เฟซบุ๊กก็เห็นข้อความจากขุนแผนส่งมาให้

“แผนเหรอ” แล้วก็ไม่รอช้าจะโทรหาเพื่อนของตัวเอง

“แผนโทรมาหาจันทร์มีอะไรรึเปล่า” ถามทันทีเมื่อปลายสายกดรับสาย

“แผนก็จะโทรมาบอกเรื่องงานนั่นแหละว่าให้มาเริ่มงานได้เลยพรุ่งนี้”

“โอเค งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะแผน ขอบคุณมากนะที่ช่วยจันทร์”

“ไม่เป็นไรหรอกเรายินดี แต่จันทร์จะมาได้เหรอเพราะเมื่อตอนกลางวันเราโทรหาจันทร์แต่สามีจันทร์รับสาย และพี่เขาก็บอกว่าจันทร์จะไม่มาทำงานกับแผนแล้วนะ”

“เหรอ คุณดีรับสายเหรอ และเขาบอกแบบนั้นจริงเหรอ” เธอยิ้มทันทีเมื่อคิดว่าเขาเป็นคนปิดโทรศัพท์ของตัวเอง เขาหึงเธอรึเปล่านะ

“จริงสิ เสียงเนี่ยเหี้ยมมาก พูดแล้วยังเสียวสันหลังอยู่เลย”

“อือ แล้วคุณดีพูดอะไรอีกไหมแผน” หล่อนถามยิ้มๆ

“ก็บอกว่าจันทร์จะทำงานกับเขานะ ไม่ให้มาทำงานกับแผน แล้วจันทร์เถอะว่ายังไงจะมาทำงานกับเราเหมือนเดิมไหม”

“จันทร์ขอโทษด้วยนะแผนถ้าเป็นแบบนี้จันทร์คงไม่ได้ไปทำงานกับแผนแล้ว ขอบคุณและขอโทษด้วยนะ”

“ไม่เป็นไรหรอก แผนเข้าใจ งั้นค่อยนัดทานข้าวกันดีไหมเพื่อเป็นการขอโทษแผน”

“ได้สิ เดี๋ยวเราเลี้ยงข้าวเอง วันไหนก็ได้นัดมาเลยนะแผน”

ระหว่างที่กำลังคุยโทรศัพท์กับเพื่อนอยู่นั้นไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีสายตาเหี้ยมโหดดุดันของใครบางคนจ้องมองมาทางตัวเองอยู่ ธรรพ์กลับมาจากห้องของใบตองมาก็มาเจอภรรยาของตัวเองกำลังคุยโทรศัพท์อยู่และเหมือนกำลังนัดทานข้าวกันด้วย ยิ้มและเสียงหัวเราะของหล่อนยามพูดกับคนในสายทำให้เขาหงุดหงิดจนต้องขบกรามแน่นด้วยความขุ่นเคือง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel