บทที่23 ก็รักนิถึงต้องหึง
และแล้วชั่วโมงชมรมพิเศษก็มาถึง พิมพ์ลภัสและพัญวลัยนั่งเงียบอยู่ในแถวอย่างสงบเสงี่ยมใครมองคงไม่รู้เเน่ว่าหนึ่งในสองสาวนี้คนหนึ่งคือเจ้าของหัวใจทั้งสี่ห้องของครูฝึกในวันนี้
“นักเรียนจ๊ะ อย่างที่ทราบกันว่าทุกวันศุกร์กลางเดือนผู้การธนกฤตจะมาเป็นหัวหน้าครูฝึก วันนี้ก็เช่นกันแต่ครูขอให้นักเรียนใช้ความระวังๆนิดนึงนะเพราะว่าครูฝึกธามยังบาดเจ็บอยู่” คุณครูสาวผมยาวสลวยเอ่ยบอกนักเรียนก่อนที่จะหันมายิ้มให้ผู้การหนุ่ม “งั้นน้ำขอยกหน้าที่ต่อไปให้ผู้การกับครูฝึกคนอื่น ๆเลยนะคะ”
“สวัสดีตอนเย็นครับนักเรียน” ธนกฤตเอ่ยบอกนักเรียนทั้งโรงเรียนก่อนจะมองไปที่พิมพ์ลภัส แม้ว่าที่นี่จะมีนักเรียนกว่าสองพันคน และมีพลทหารเกณฑ์อีกหลายชีวิตแต่เขาก็ยังคงมองเห็นเธอ
“สวัสดีค่ะครูฝึกธาม วันนี้ครูธามดูเซอร์ๆ ดูหล่อไปอีกแบบนะคะ มาม่ะมานั่งในใจกิ่งดีกว่า” กิ่งแก้วที่อยู่แถวหน้าเอ่ยบอกเสียงดังก่อนจะได้ยินเสียงโฮ่รับ เพราะแผลที่ซี่โครงยังไม่หายดีทำให้เขาขยับแขนได้ไม่ถนัดเท่าไหร่ทำให้การแต่งตัวและทรงผมดูแปลกตาสำหรับทุกคน
“โอ๊ยยยย อย่าไปอยู่เลยในใจยัยกิ่งอ่ะมาอยู่ในใจขวัญดีกว่าค่ะ” นักเรียนหญิงชั้นม.6เอ่ยบอก ด้านธนกฤตได้แต่มองหน้าลูกๆเพื่อนทั้งพัญวลัยและพีมตะวันที่อยู่ด้านข้างเพื่อขอตัวช่วยก่อนที่แม่หนูของเขาจะโกรธเอา
“เฮ้ยๆ เกรงใจกันหน่อย อาธามไม่ไปนั่งในใจพี่ขวัญกับกิ่งแก้วหรอก เพราะอาธามไปนั่งในใจเมียเขาคนเดียว” พีมตะวันเอ่ยยิ้มๆทำเอาสาวๆใจละลายได้อยู่มาก
“อืมมมมงั้นพี่ขวัญไม่หวังสูงดีกว่า พี่ขอนั่งในใจน้องพีมได้ป่าว ผู้การเพลิงรับสะใภ้มั้ยเอ่ย” พี่ขวัญของพีมตะวันเอ่ยก่อนที่จะมีเสียงโฮ่รับ
“พี่ข้าวนะอายุมากกว่าพีมอีก พีมมานั่งในใจเราดีกว่า” กิ่งแก้วเอ่ยบอก ธนกฤตมองอย่างขำขันที่สาวๆพากันไปจีบพีมตะวันที่ไม่ว่าจะตอนเรียนธรรมดาหรือเรียนในโรงเรียนนายเรือก็ฮอตเสมอ คิดไม่ผิดที่เอาพีมตะวันมาช่วยหิ้วของวันนี้
“เฮ้ยๆไม่ได้ พ่อเพลิงหาพี่สะใภ้ให้เราแล้วพวกเธออย่ามายุ่ง” พายัพเมฆที่ถูกธนกฤตพามาเป็นเด็กหิ้วของอีกคนเอ่ยขึ้น เด็กหนุ่มไม่ได้อยู่ด้านหน้ากับพีมตะวันและธนกฤตหากแต่ไปคั่งรวมกับเพื่อนสนิทที่ห่างหายกันไปนาน
“พี่พีมไม่ได้งั้นน้องพลายได้รึเปล่า” คนใจกล้าอย่างกิ่งแก้วเอ่ยบอก พายัพเมฆถึงกับไปต่อไม่เป็น เด็กน้อยอย่างเขาคุณพี่กิ่งแก้วยังไม่เว้นเหรอ น่ากลัว
“ไม่ได้ๆ พ่อเพลิงจองลูกอาธามให้แล้ว” พีมตะวันเอ่ยบอกทำเอาคนถูกจองลูกให้หันไปมอง
“ไม่เอาหรอกรอนานเกิน” พายัพเมฆเอ่ยบอกเล่นเอาธนกฤตหันไปมอง
“ทำอย่างกับอาจะยกให้ไอ้เด็กกวนประสาทอย่างนายงั้นแหละ ไม่มีวันเว้ย” ธนกฤตเอ่ยบอก ฟังมันพูด ไม่เอางั้นเหรอ เหอะ เขาไม่ให้มันหรอกไอ้เด็กกวนประสาทสุดที่รักเนี่ยน่ะ หน็อย มารอบนี้ไถเงินเขาแลกกับการไม่รบกวนประสาทพิมพ์ลภัส เขายกเงินเดินทั้งเดือนให้มันไป ตอนมาไถบอกจะเอาไปซื้อหนังสือเรียนภาษาญี่ปุ่นมาศึกษาแต่พอได้ไปจริง ๆมันกลับเอาไปฝากธนาคาร ไม่ใจกล้า หน้าด้าน โคตรกวนประสาทจริงมันทำไม่ได้หรอก
“ใจร้ายอะ แต่ไม่แคร์ เพราะกว่าลูกอาจะโตผมมีเมียไปสิบคนแล้ว นี่ไถเงินอาไว้ขอสาวได้ตั้งเยอะแล้ว” พายัพเมฆเอ่ยบอกอย่างกวนประสาทพร้อมล้อเลียนอย่างไม่กลัวตายในเรื่องที่สามารถหลอกไถเงินเพื่อนพ่อสุดที่รักมาได้โดยที่นอกจากได้เงินมาแล้วเขายังคงแกล้งพิมพ์ลภัสเวลาเผลออยู่ อย่างเมื่อคืนที่ผ่านมาใครบางคนจะนอนกอดเด็กสาวเขาก็เข้าไปก่อกวนอยากนอนกอดอาสุดที่รักจนธนกฤตต้องนอนตรงกลางระหว่างเขากับพิมพ์ลภัส ซ้ำแล้วเขายังกอดธนกฤตไว้คนเดียวจนอาเจ้พริกหยวกยังมองเขาตาเขียวปัดหน้าบึ้งตึง
“ไอ้เด็กแก่แดด จำคำนายไว้ไม่ใช่ว่าลูกอาโตนายจะยังหาเมียไม่ได้นะ” คนเป็นอาพูดก่อนที่จะหันกลับมามองนักเรียน
“เอาล่ะดูเหมือนจะไร้สาระมามากแล้ว เรามาทำกิจกรรมกันดีกว่า จับกลุ่ม กลุ่มล่ะ5คน เป็นผู้ชายสามหญิงสอง พลทหารสองนอกนั้นนักเรียน เราสองคนก็ไปร่วมกิจกรรมด้วยไปเห็นหน้าแล้วเกะกะ” ธนกฤตเอ่ยบอกก่อนที่จะค่อยๆเดินไปคุยสั่งงานครูฝึกคนอื่น
พีมตะวันยิ้มขำก่อนจะลากคอน้องชายมายืนกับไตรณรงค์เพื่อนรักก่อนที่จะพาทั้งสองเดินมาหาพัญวลัยและพิมพ์ลภัส
“เราสามคนขอรวมกลุ่มด้วยนะยัยเพี้ยน เอ้ย พั้น555 ติดคำพูดพริกหยวก เอ้ย พริกหวานมา” พีมตะวันเอ่ยก่อนที่จะโดนพัญวลัยหยิกแขน
“ทำไมไม่พากันไปกลุ่มพี่ข้าวหรือยัยกิ่งล่ะ” พัญวลัยเอ่ยถามเพื่อนรักของเธอ เพื่อนเธอคนเดียวไม่ใช่เพื่อนอีตาต้นกล้านั่น ฮึย เป็นเพื่อนที่ทำตัวน่าหมั่นไส้มากคบเธอแล้วไปคบไอ้ต้นกล้านั่น
“อยู่กับพวกเธอปลอดภัยสุดแล้ว ไม่อยากเอาเพื่อนเอาน้องไปให้พวกพี่ข้าวหรือกิ่งแก้ว ไอ้พลายวันนี้อย่ากวนพริกหวานนะ นี่น่ะ...” พีมตะวันเอ่ยบอกก่อนที่จะกระซิบกับน้องชาย “ว่าที่แม่ยายแก”
“ไม่ใช่เว้ย” “ไม่ใช่ซะหน่อย” ทั้งพายัพเมฆและพิมพ์ลภัสเอ่ยพร้อมกันก่อนที่พายัพเมฆจะเบ้ปากมองบน “กว่าอาเจ้นี่จะมีลูกผมคงมีลูกไปห้าหกคนแระ”
“ชิ กว่าฉันกับพี่เขาจะมีลูกนายอาจจะสะดุดตอตายไปแล้วก็ได้” ด้วยความสัจจริงพิมพ์ลภัสไม่ปลื้มความปากเสียและนิสัยกวนประสาทของกมาพายของธนกฤตที่สุด ชาตินี้ถ้าได้นายคนนี้เป็นเขยพริกหวานคนนี้ขอบวชชีเสียดีกว่า
“เหอะ” พายัพเมฆหลุดเสียงหมั่นไส้ก่อนที่จะผละเดินไปหากิ่งแก้ว “พี่กิ่งครับ พี่พริกหวานบอกว่าพี่กิ่งแรดแหละ”
“ไอ้บ้าใครไปพูดแบบนั้นฮะ” เพราะอยู่ไม่ห่างนักทำให้พิมพ์ลภัสได้ยินถ่อยคำป้ายสีนั้นชัดเจน ให้ตายเถอะพายัพเมฆกำลังป้ายสีให้กิ่งแก้วเกลียดเธอใช่ไหม “นายนั่นแหละ นายพลายมันโรคจิตมากเลยกิ่งแก้ว นางเดินไปหาน่ะเพราะนางจะแอบจับก้นเธอ”
“จะบ้าเจ้” “ก็นายบ้าก่อนปะ” ทั้งสองตีหน้าไม่ยอมกันอย่างไม่มีใครยอมใคร พีมตะวันเดินไปกระซิบบอกกิ่งแก้วที่ดูจะไม่เข้าใจก่อนที่จะกลับมายืนข้างๆไตรณรงค์และพัญวลัยดูคนกำลังจะตีกันตาย(รึเปล่า) เด็กหนุ่มไม่ได้ลงรายละเอียดเพียงบอกเด็กสาวว่าพิมพ์ลภัสและพายัพเมฆไม่ค่อยกินเส้นกันนิดหน่อยเพียงเท่านั้น
“แอแอ้ม เอาล่ะทุกคนฟังนะครับ วันนี้กิจกรรมของเราไม่มีอะไรมาก” ธนกฤตส่งเสียงขัดขึ้นเมื่อเจ้าตัวดีกับคนรักกำลังจะกินเลือดกินเนื้อกันก่อนที่จะอธิบายกิจกรรมพิเศษให้ฟังก่อนที่จะปล่อยให้นักเรียนทำกิจกรรมกันไป ส่วนตัวเองเรียกแทนไทมาหา
“ไอ้ที่อาสั่งไว้ได้เรื่องไงบ้าง มีไอ้หน้าไหนบ้างที่มายุ่งกับพริกหวาน” ผู้การมาดดุเอ่ยถามหลานชายเพื่อนสนิทอีกคน
“มีไอ้พวกที่อาธามเล็งๆอยู่ทั้งหมดนั้นแหละ แต่น้องพริกหวานเอ่ยชื่ออามันก็หายหมด ชื่ออายิ่งกว่าของขลังอีก” แทนไทเอ่ยบอกพร้อมทั้งหัวเราะออกมา
“พวกของอนุชา ธีรเดช แล้วก็คิมหันต์ออกมานี่สิ” ธนกฤตเอ่ยเรียกนักเรียนสามกลุ่มที่เขาดูพฤติกรรมมานานอออกมา
“ไปวิ่งรอบสนามกีฬา10รอบไม่ครบไม่ต้องกลับมา” ผู้การสั่งก่อนที่จะหันหน้าหนี บังอาจมาจีบยัยหนูของเขาแค่นี้มันน้อยไป
“อาดูขี้หึงอะ น้องเขาไล่ได้อาก็ยังจะไปลงโทษไอ้พวกนั้นอีก” แทนไทเอ่ยบอก ธนกฤตยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ขี้หึงยอมรับ ก็นั่นของรักของหวงนิทำไงได้
หลังจากลงโทษพวกใจกล้าเรียบร้อยแล้วผู้การหนุ่มก็หันกลับไปมองพิมพ์ลภัสที่ดูจะไม่สนใจเขาเอาซะเลยจนกระทั่งถึงเวลาเลิกเรียนเด็กสาวก็ยังไม่สนใจเขาอยู่ดีปั่นจักรยานกลับบ้านพร้อมพัญวลัยโดยไม่คุยกับเขาสักคำ ในตอนแรกเขาคิดว่าคงเพราะพายัพเมฆไปทำอะไรให้เด็กสาวไม่พอใจแต่พอสังเหตอีกทีชักจะไม่เป็นเช่นนั้นซะแล้ว
“หนูครับ วันนี้ทำอะไรกินเอ่ย พี่ช่วยมั้ยครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามร่างบางที่กำลังทำอะไรสักอย่างอยู่ในห้องครัวหลังจากกลับจากโรงเรียน พิมพ์ลภัสสะบัดหน้าหนีทำไม่สนใจ
“หนูครับ สนใจพี่หน่อยสิ พี่ทำอะไรผิดรึเปล่า” ธนกฤตเอ่ยถามแต่ก็ไม่วายโดนเมินใส่ “หนูครับ หนูคะ หนูพริกหวานขา สนใจพี่ธามหน่อยสิคะ”
“หึ หมั่นไส้นัก พ่อทหารของประชาชน มีสิทธิ์มโนถึงบ้างล่ะ หุ่นก็แซบบ้างล่ะ ยิ่งโหดยิ่งโดนบ้างล่ะ มานั่งในหัวใจกิ่งบ้างล่ะ นั่งในใจข้าวบ้างล่ะ ขวัญใจสาวๆซะจริง” พิมพ์ลภัสเอ่ยบ่นให้คนโดนเมียเมินรู้สาเหตุ
“โธ่หนูคะ ใครจะเอาไปมนม มโนก็ช่างเขาเถอะ พี่รักหนู หนูรักพี่แค่นั้นก็พอแล้วไม่ต้องไปแคร์ เขาได้แต่มโนค่ะ แต่หนูทำได้มากกว่านั้น” ธนกฤตเอ่ยบอก เปลี่ยนหางเสียงให้ดูน่ารักจนคนอยากงอนเริ่มจะใจอ่อน โอ้ยยยย จะน่ารักไปถึงไหนเนี้ย กะจะงอนไม่คุยด้วยสักวันสองวัน
“แต่พวกชีลวนลามพี่ในมโน หนูหวงในมโนก็ไม่ได้ เพราะพี่เลยขวัญใจสาวๆดีนัก” พิมพ์ลภัสเอ่ยอย่างแสนงอน
“โอ๋ๆ พี่ขอโทษค่ะ อย่างงอนเลยนะคะพี่ไม่ชอบเลยที่หนูไม่คุยกับพี่เมินใส่พี่แบบนี้ จูบแล้วจบดีกว่าเนาะ” ธนกฤตเอ่ยบอกก่อนที่จะยื่นหน้าเข้ามา
“หยุดเลย จูบแล้วจบนี่มันละครที่ดูวันก่อน ไม่ต้องไปเลียนแบบ” พิมพ์ลภัสห้ามไว้ก่อนที่จะเอ่ยบอก
“งั้นจุ๊บหน้าผากแล้วจบเนาะ” ธนกฤตเอ่ยบอกก่อนที่จะจุมพิตลงที่หน้าผากอย่างอ่อนโยน “จบนะคะ ไม่งอนเนาะ เรามาทำกับข้าวกันดีกว่า”
“โดนเอาเปรียบอีกแล้ว” พิมพ์ลภัสบ่นก่อนที่จะหันไปทำอาหารโดนมีคนเจ็บคอยช่วยหยิบจับของต่าง ๆ
“พี่ไปลงโทษพวกพี่ๆเขาทำไม่อะ” พิมพ์ลภัสเอ่ยถามหลังจากนึกขึ้นได้
“หมั่นไส้ กล้ามาจีบหนูทำไมล่ะ แค่นั้นยังน้อยไป” ธนกฤตเอ่ยบอก พิมพ์ลภัสถึงกับยิ้มออกมา
“หึงเขาอะดิ น่ารักที่สุดเลย” เด็กสาวพูดก่อนที่จะยกมือขึ้นหยิกแก้มชายหนุ่มเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว
“ก็รักนิถึงต้องหึง” ผู้การหนุ่มเอ่ยบอกเล่นเอาคนถูกบอกรักเขินม้วนไปเลย “แล้วที่หวงเนี่ยรักกันมั้นน้อ บอกให้ชื่นใจทีสิ”
“ก็รักสิยังจะถามอีก นิสัยไม่ดี” พิมพ์ลภัสเอ่ยบอกอย่างเขินๆก่อนที่จะหันไปทำนั้นทำนี่แก้เขินเก้อโดนมีธนกฤตคอยเย้าแหย่ให้เขินไปไม่เป็นอยู่หลายครั้ง
วันอาทิตย์…
“ทุกคนคะ เดี้ยนขอแนะนำสมาชิกใหม่ของสมาคมค่ะ หนูพริกหวาน พิมพ์ลภัส หนูพริกหวานเป็นภรรยาของผู้การธนกฤต” คุณหญิงพรรณสิตาประธานสมาคมภริยาทหารเรือเอ่ยแนะนำสมาชิกในสมาคมให้รู้จักกับพิมพ์ลภัส
“สวัสดีค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ” พิมพ์ลภัสเอ่ยบอก หลังจากที่เคยคุยกับธนกฤตเรื่องสมาคมภริยาทหารเรือไว้เมื่ออาทิตย์ก่อนวันนี้ชายหนุ่มก็พาเธอมาฝากไว้กับอาสะใภ้ส่วนตัวเองก็ไปหาอาของตัวเอง
“หนูพริกหวานนี่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดี มิน่าล่ะถึงทำให้ผู้การรีบแต่งงานนัก คงจะกลัวว่าถ้าโตกว่านี้จะมีคู่แข็งหนุ่มๆมาขายขนมจีบ” หนึ่งในสมาชิสมาคมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเอ็นดู
“นั้นสิค่ะคงกลัวจะหลุดมือถึงรีบคว้าไว้แต่เนิ่น ๆ ทำตัวตามสบายนะจ๊ะหนูพริกหวาน คิดซะว่าพวกเราเป็นพี่เป็นป้าเป็นน้าเป็นอาเป็นญาติพี่น้อง แต่อย่าเรียกยายก็พอ” สมาชิกอีกคนเอ่ยบอกอย่างนึกเอ็นดู พิมพ์ลภัสยิ้มให้
“ยังเด็กอยู่เลยนะคะเนี่ย สิบห้ารึยังลูก เด็กแค่นี้จะช่วยอะไรสมาคมเราได้” วรัญญา สาวสวยที่ทุกคนในสมาคมยกให้เป็นดาวเด่นเอ่ยถาม ที่ผ่านมาใคร ๆก็เอ็นดูเธอ ยกให้เธอเป็นดาวเด่น เป็นคนที่เพียบพร้อมน่าอิจฉาแต่พอเด็กนี่เขามาไม่มีใครสนใจเธอสักคนคิดแล้วไม่ชอบใจจริง ๆ
“สิบเจ็ดแล้วค่ะไม่ใช่สิบห้า หนูอาจจะยังเป็นเพียงเด็กนักเรียนอาจจะทโมนๆไปบ้างแต่ถ้าทุกคนไม่อยากให้หนูเข้ามาวุ่นวายที่นี่หนูไปก็ได้ค่ะ” พิมพ์ลภัสเอ่ยเสียงเศร้าอย่างน้อยใจ
“โธ่ ไม่เอาลูก ไม่ต้องไปหรอกธามเขาบอกอาว่าหนูไหวพริบดี ฉลาด มีความเป็นผู้ใหญ่ และรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองอย่างดี คนเก่งๆแต่อายุยังน้อยแบบนี้ทำไมเราจะไม่อยากให้เข้ามาช่วยในสมาคมล่ะ” พรรณสิตาเอ่ยปลอบหลานสะใภ้ของสามี รวมถึงสมาชิกคนอื่น ๆด้วย พิมพ์ลภัสแกล้งตีหน้าเศร้าแต่ในใจอยากจะหัวเราะคนหาว่าเธอเป็นเด็กสิบห้า
“เอาล่ะค่ะในเมื่อคุณน้องวรรณไม่มั่นใจในความสามารถของหนูพริกหวาน งั้นงานที่เราจะจัดนี่ก็ให้หนูพริกหวานเป็นแม่งานแล้วกัน จะได้พิสูจน์ไปเลยว่าหลานสะใภ้เดี้ยนมีความสามารถพอจะอยู่ในสมาคมนี้หรือไม่” พรรณสิตาเอ่ยบอกก่อนที่จะมีเสียงสนับสนุนดังขึ้นทั้งห้อง
“ก็ได้ค่ะถ้าคุณพี่สิตาเห็นว่าดี แต่ถ้างานพังขึ้นมาเสียหน้ากันทั้งสมาคมนะคะ” หญิงสาวเอ่ยบอก
“ถ้าพังจริง เดี้ยนยอมลาออกจากตำแหน่งประธานสมาคมค่ะ” พรรณสิตาเอ่ยบอก ก่อนที่จะหันมามองพิมพ์ลภัสอย่างเชื่อใจ
