บท
ตั้งค่า

บทที่21 จุ๊บ

เช้าวันต่อมา

”หนูครับ หนู หนูพริก” ธนกฤตเอ่ยปลุกคนตัวเล็กที่นั่งหลับอยู่ที่โซฟา คงจะดูทีวีแล้วเผลอหลับไป

” หนูพริกครับ สายแล้วนะครับ7โมงครึ่งแล้ว” ธนกฤตเอ่ยบอกคนขี้เซาก่อนที่คนงัวเงียจะทะลึ่งพรวดขึ้นมาอย่างตกใจ

”เจ็ดโมงครึ่ง ตายๆๆๆๆ สายแล้วๆครูโชฟาดอีกแน่ เอ๊ะ เราย้ายโรงเรียนแล้วนิ ครูโชจะมาตีได้ไง” คนเพิ่งตื่นพูดกับตัวเองอย่างนึกขึ้นได้ ธนกฤตถึงกับหลุดหัวเราะออกมา

“อย่าบอกนะเมื่อก่อนตื่นมาแบบนี้ตลอด” ธนกฤตพูดอย่างขำๆ พิมพ์ลภัสอยากจะคุยกับคนป่วยต่อแต่นึกขึ้นได้ว่าสายแล้วจึงรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป

” หนูไปเรียนก่อนนะเจอกันที่บ้านค่ะ จุ๊บ” เด็กสาวที่วิ่งออกมาจากห้องน้ำรีบคว้ากระเป๋าที่ชายหนุ่มเก็บสมุดปากกาใส่ให้แล้วเอ่ยบอกพร้อมกับจุ๊บแก้มหนึ่งที

”ทีหลังจุ๊บปากได้มั้ยครับ” ธนกฤตเอ่ยบอกทีเล่นทีจริง

”วันนี้ไม่อยากกลับบ้านใช่มั้ย จะได้ซ้ำ” เด็กสาวเอ่ยทีเล่นทีจริงก่อนจะรีบวิ่งออกไป ธนกฤตมองอย่างเอ็นดูเปี่ยมด้วยความรักก่อนที่จะเดินกลับไปที่เตียงมือขวาแตะบริเวณผ้าพันแผลและเดินช้าๆเพื่อไม่ให้แผลฉีก นี่ถ้าไม่มีแผลเนี้ย แม่หนูของเขาจะทำตัวน่ารักแบบนี้มั้ยน๊า

“ถอดเสื้อออกสิ” เสียงหวานเอ่ยสั่ง ก่อนที่จะเอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อของอีกฝ่าย

”เป็นสาวเป็นแส้ มาสั่งผู้ชายถอดเสื้อได้ยังไง” เจ้าของเสื้อเอ่ยหยอก

”ก็ไม่ถอดเสื้อจะเช็ดตัวได้เหรอค่ะท่านผู้การ” เสียงหวานเอ่ยบอกเสียงหมั่นไส้ หลังกลับจากโรงเรียนเธอก็ถูกอ้อนให้เช็ดตัวให้

พิมพ์ลภัสปลดกระดุมเสื้อเม็ดสุดท้ายออกก่อนที่จะค่อยๆถอดออกจากร่างของชายหนุ่ม กล้ามท้องลอนงามที่มีผ้าพันแผลปิดแผลที่ซีโครงขวาหาได้บดบังความแข็งแรงของกล้ามท้องลอนงามเลยแม้แต่น้อย เด็กสาวเผลอมองก่อนจะยิ้มเขินออกมาก่อนจะเงยหน้ามองเจ้าของหน้าท้องลอนงาม

”มองแบบนี้เดี๋ยวจะถูกจูบ” ธนกฤตเอ่ยบอกก่อนที่จะยิ้มอบอุ่นออกมา รอยยิ้มทรงเสน่ห์ที่มีแค่เด็กสาวคนนี้ที่มีโอกาสได้เห็น

“ชิทำอะไรก็หาแต่เรื่องเอาเปรียบ” พิมพ์ลภัสเอ่ยบอกก่อนที่จะหันไปหยิบผ้าชุบน้ามาบิดหมาดๆแล้วเอามาวางบนหน้าหล่อเหลาอย่างหมั่นไส้ก่อนที่จะหยิบมาเช็ดที่แก้มไล้ลงมาที่ลำคอและหน้าอกแกร่งก่อนจะไล้ลงไปต่ำลงโดยไม่รู้ตัวเลยว่าคนถูกเช็ดตัวกำลังเกิดความรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาจากการใช้ผ้าชุบน้ำลูบไล้ไล่ลงไป

“หนูพอแล้วครับ แค่ข้างบนก็พอ ข้างล่างเดี๋ยวพี่เช็ดเอง” ธนกฤตเอ่ยบอกคนที่เช็ดอยู่แถวกล้ามท้อง

“มันก็แน่อยู่แล้วสิ ข้างล่างใครจะไปเช็ดให้ หนูเป็นเด็กสาวนะมันไม่สมควร” พิมพ์ลภัสเอ่ยบอกก่อนที่จะเดินไปเช็ดข้างหลังให้

“อะเช็ดเอาล่ะกันหนูจะไปดูมังกรหน่อย” พิมพ์ลภัสเอ่ยบอกก่อนยื่นผ้าให้

“ไม่ดูมังกรยักษ์ตัวนี้ล่ะครับ มันน่ารักนะ” ธนกฤตเอ่ยหยอกพร้อมกับก้มลงที่เป๋ากางเกง

”บ้า ลามก” พิมพ์ลภัสเอ่ยก่อนจะเดินออกไปอย่างเขินอาย เมื่อนึกไปถึงมังกรที่เจอกันในวันแรกและได้สัมผัส อ๊ายยยยไม่อยากนึกถึง

“หึหึ เล่นแบบนี้เด็กจะเสียคนพอดีธามเอ้ย” ธนกฤตบอกตัวเองก่อนจะเช็ดตัวเปลี่ยนกางเกงอย่างทุลักทุเล ทำไมต้องเจ็บด้วยว่ะ ทำอะไรไม่สะดวกเลย จับเด็กมากอดยังยาก

” สงสัยจริงๆนี่เจ็บหรือพิการ” พรปวีร์เอ่ยถามคนที่กำลังโดนหลานสาวเธอป้อนข้าวอยู่ คงจะแรดอ้อนพริกหวานป้อนอีกสินะ ร้ายจริงๆ.

”มาไมคนกำลังจะกินข้าว” ธนกฤตเอ่ยถาม หลังจากแต่งตัวเสร็จเขาก็ลงมาข้างล่างเห็นพิมพ์ลภัสตั้งโต๊ะอาหารพอดี จึงนั่งลงอ้อนให้เด็กสาวป้อน

“เอาแกงเขียวหวานมาให้ หรือไม่กิน” พรปวีร์เอ่ยบอกก่อนที่จะยื่นปินโตมาวางที่โต๊ะ วันนี้เธอทำแกงเขียวหวาน กับผัดกระเพราหมูที่พิมพ์ลภัสชอบมากๆแถมยังบัญเอิญตรงกับของชอบของธนกฤต ขนาดชอบยังชอบเหมือนกัน นี่แหละคู้แท้ของจริง

“กินดิครับอาพลอย ลงทะเลไม่ได้กินตั้งอาทิตย์กว่าจะใจดำกับหลานเขยเกินไปแล้ว” ธนกฤตเอ่ยบอก อาสาวได้แต่หมั่นไส้พ่อหลานเขย ฮึย ไอ้นิสัยแบบนี้เธอเจอครั้งสุดท้ายตอนม.ต้น ใครจะคิดว่าพอมีความรักพ่อคุณจะเอานิสัยเดิมมาใช้ กวน...เสียจริง คันมือยิกๆอยากจะฟาดสักที

“ดูทำหน้าเข้า กินข้าวด้วยกันมั้ย แต่อย่าดีกว่าอยากอยู่กับหนูพริกสองต่อสอง” ธนกฤตเอ่ยบอก

“งั้นอากินด้วยดีกว่า พริกหวานไปตักข้าวให้อาจานสิจ๊ะ” พรปวีร์เอ่ยบอก พิมพ์ลภัสลุกขึ้นเดินไปที่ห้องครัวทันที

” ทำไมต้องขัดกันด้วยพลอย ฉันไม่ทำอะไรเกินเลยหรอกสัญญากับแม่ยายไว้แล้ว” ธนกฤตเอ่ยบอกเพื่อนสาว

”นายมันเจ้าเล่ห์ จะเชื่อได้แค่ไหน ฉันขอสั่งเลยนะห้ามนายล่วงเกินพริกหวานจนกว่าน้องจะจบม.ปลาย” พรปวีร์เอ่ยบอก

”รู้ ฉันรักเขาเกินกว่าจะทำลายอนาคตเขาได้หรอก” ธนกฤตเอ่ยบอก พรปวีร์แอบลอบยิ้มแต่ยังทำนิ่ง

”ก็ดี ถ้านายผิดสัญญาฉันจะพาพริกหวานกลับบ้านแล้วไม่ให้ยุ่งกับนายอีก” พรปวีร์เอ่ยขู่

”เอาตรงๆนะพลอย เธอเหมือนแม่จงอางหวงไข่เลย ดุยิ่งกว่าแม่ยายฉันอีก ไปหวงไอ้พีเถอะไป เดี๋ยวเพื่อนมันชวนไปแรดจะร้องไห้โฮเอานะ” ธนกฤตเอ่ยบอกอย่างขำขัน

“หึถ้าเพื่อนนายยังไปแรดที่ไหนอีกฉันฆ่ามันแน่” พรปวีร์เอ่ยบอกก่อนที่จะลุกขึ้นยืน “บอกพริกหวานด้วยแล้วกันว่าพอดีนึกขึ้นได้ว่ามีธุระ”

ธนกฤตพยักหน้าก่อนที่จะเอ่ยบอก “พลอยไม่ต้องขวางกันบ่อยๆหรอกนะ ฉันรักหนูพริกมากเกินกว่าจะเห็นแก่ตัว แต่กอดบ้างหอมบ้าง คงไม่เป็นไรนะ”

”ยะ แต่ไอ้ขัดขวางนะมันต้องมีบ้าง หมั่นไส้” พรปวีร์เอ่ยบอกก่อนที่จะเดินออกไป

“อ้าวอาพลอยล่ะค่ะ” คนออกไปตักข้าวเอ่ยถามอย่างสงสัย

“พอดีมีธุระนะครับ เรามาทานข้าวกันดีกว่า” ธนกฤตเอ่ยบอก พิมพ์ลภัสพยักหน้าก่อนที่จะเดินมานั่งข้างๆ

”หนูครับ วันที่...มีการประชุมของสมาคมภริยาทหารเรือ อาสิตาอยากให้หนูไปร่วมด้วย” ธนกฤตเอ่ยบอก อาสิตา หรือพรรณสิตา ภรรยาของธีรวีผู้บัญชาการใหญ่แห่งกองบัญชาการทัพเรือภาคที่1และยังเป็นประธานสมาคมภริยาทหารเรืออีกด้วยและทั่งสองยังเป็นอาและอาสะใภ้ของธนกฤตด้วย

“สมาคมภริยาทหารเรือ ดูเหมือนน่าสนุกอิอิ” พิมพ์ลภัสเอ่ยบอกก่อนที่จะตักแกงเขียวหวานใส่จานให้ธนกฤต

“หึ ไปถึงหนูจะไม่พูดแบบนี้” ธนกฤตเอ่ยบอก พิมพ์ลภัสก็ยังยิ้มอยู่ “ไม่กลัวหรอกเป็นหลานสะใภ้ประธานสมาคมเชียวนะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel