๓.๔ ทัณฑ์จอมเถื่อน
“นี่สำหรับความปากดีของแก จำไว้นะว่าตอนนี้ฉันคือเจ้าของบ้านที่แกอาศัยอยู่ แกควรจะ...”
ประโยคนั้นของอดีตนางแบบสาวใหญ่ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกเทเรซ่าตวัดมือสวนกลับคืนใส่ที่ใบหน้าอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน
เพียะ!
“ฉันก็อยากให้เธอจำไว้เหมือนกันว่าอีกไม่นานฉันก็จะมีสิทธิ์เท่าๆ กับเธอ”
แพรวดาวหน้าชาดิกก่อนจะกรีดร้องเสียงแหลมดังลั่น แล้วถลาเข้าไปเพื่อจะทำร้ายเทเรซ่าให้สาสมกับความเจ็บใจที่อีกฝ่ายกล้าตบหน้าตนซึ่งเป็นถึงภรรยาเจ้าของบ้าน
“กรี๊ดดด นังเทเรซ่า ฉันจะฆ่าแก!”
ละอองฝนได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากนอกห้องจึงเปิดประตูออกมาดู เมื่อเห็นว่ามารดาของตนกำลังยื้อยุดฉุดกระชากกับเทเรซ่าอยู่ที่หน้าบันไดก็รีบวิ่งออกมาห้ามทันที
“คุณ! หยุดนะคะ!” สาวน้อยดึงมือมารดาออกและยืนขวางมารดาไว้
“หลีกไปนะออมถ้าไม่อยากเจ็บตัว คุณจะตบนังนี่ให้ฟันร่วง มันบังอาจตบหน้าคุณ” แพรวดาวที่กำลังอยู่ในอารมณ์เกรี้ยวกราดตวาดใส่ลูกสาวตัวเองด้วยเสียงอันดังลั่นจนได้ยินไปถึงชั้นล่าง
“อย่ามีเรื่องกันเลยนะคุณ ใจเย็นๆ ก่อน ออมขอร้อง...” สาวน้อยเอ่ยเสียงอ่อนโยนอย่างพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ แล้วหันไปทางเทเรซ่าบ้าง
“...นะคะคุณเทเรซ่า ดิฉันขอร้อง”
“ขอร้องเหรอ! ก็ได้!” เทเรซ่าเค้นเสียงลอดไรฟัน แล้วตวัดมือขึ้นตบลงใบหน้าเนียนใสเต็มแรงอย่างที่ละอองฝนคาดไม่ถึง
เพียะ!
“ถ้าเธอไม่อยากเจ็บตัวอีกก็หลีกไป อย่ามายุ่งเรื่องนี้ ฉันจะจัดการนังปากดีนี่ให้หลาบจำเสียบ้าง!”
“ไม่ค่ะ ดิฉันจะไม่ยอมให้คุณทำอะไรป้าของดิฉันอีก” ละอองฝนยืนขวางเทเรซ่าเพื่อต้องการปกป้องผู้เป็นแม่โดยไม่ได้หวาดหวั่นต่อท่าทีร้ายกาจของอีกฝ่ายแต่อย่างใด
“เธอวอนหาเรื่องเองนะยัยเด็กกาฝาก ในเมื่ออยากแส่นักก็ช่วยไม่ได้”
เทเรซ่าที่กำลังถูกอารมณ์เกรี้ยวกราดเข้าครอบงำบวกกับไม่ชอบหน้าละอองฝนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงตวัดมือขึ้นอีกครั้งหวังจะทำร้ายละอองฝนอีกครา ทว่าครั้งนี้ละอองฝนไม่ยอมให้ตัวเองถูกทำร้าย มือเล็กยกขึ้นจับข้อมือของเทเรซ่าเอาไว้อย่างป้องกันตัว
“ปล่อยฉันนะนังเด็กบ้า! ฉันบอกให้ปล่อย!”
เทเรซ่าแผดเสียงดังระงมลั่น พลางสะบัดข้อมือออกจากมือของละอองฝนเต็มแรง โดยไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองถอยหลังไปเหยียบพื้นไม้ตรงหัวบันไดอย่างหมิ่นเหม่
“ระวังค่ะคุณเทเรซ่า!” ละอองฝนร้องเตือนและพยายามจะเข้าไปดึงมือของเทเรซ่าเอาไว้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายหงายหลังตกลงไป
“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!” เทเรซ่าไม่ฟังเสียง ยังสะบัดตัวออกจากความหวังดีของสาวน้อยอย่างชิงชังรังเกียจ
และแล้วเหตุการณ์ร้ายแรงก็เกิดขึ้นในตอนนั้น พอเทเรซ่าสะบัดแขนหลุดจากมือของละอองฝน เธอก็เสียหลักหงายหลังลงจากหัวบันได ร่างระหงกลิ้งกระแทกลงไปตามบันไดขั้นแล้วขั้นเล่า จนกระทั่งศีรษะฟาดกับพื้นหินอ่อน ชั้นล่างเต็มแรง
“คุณเทเรซ่า!/เทเรซ่า!/พี่เทเรซ่า!”
เสียงเรียกชื่อของเทเรซ่าดังระงมขึ้นจากทั้งคนที่อยู่บนชั้นสองและคนที่อยู่ชั้นล่างซึ่งเห็นตอนที่เทเรซ่ากลิ้งตกบันไดลงมากระแทกพื้นต่อหน้าต่อตา เลือดแดงฉานไหลออกมาจากศีรษะและกลางหว่างขาของเทเรซ่าอย่างน่าตกใจ คนที่ได้สติก่อนใครก็คือเมสันซึ่งรีบปรี่เข้าไปช้อนประคองร่างของคู่หมั้นเอาไว้ในอ้อมแขนทันที
“เจ็บมากหรือเปล่าเทเรซ่า”
“พะ...พะ...พี่เมสัน...” เสียงนั้นหลุดออกจากปากของเทเรซ่าอย่างแผ่วเบา ดวงตาที่พยายามจะลืมขึ้นกลับปรือปรอยลง ลมหายใจก็รวยระรินจนคนประคองใจหาย
“ทำใจดีๆ ไว้นะเทเรซ่า เดี๋ยวพี่จะพาไปโรงพยาบาล”
“ธัญญ่าขับรถให้เองค่ะ” ธัญญ่าที่อยู่ใกล้ๆ เมสันรีบเอ่ยอาสา ก่อนจะวิ่งไปคว้าเอากุญแจรถเมื่อชายหนุ่มพยักหน้า
พยาบาลสาวออกไปสตาร์ตเครื่องแล้วถอยรถมาจอดรอที่หน้าคฤหาสน์เมสันรีบอุ้มร่างโชกเลือดของคู่หมั้นออกไปขึ้นรถทันที ก่อนที่รถจะแล่นออกไปจากคฤหาสน์อย่างฉุกละหุก
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนละอองฝนที่ยังอยู่ในอาการช็อกตัวแข็งทื่อ จนกระทั่งแพรวดาวก้าวมาใกล้และโอบไหล่บอบบางนั้นและบีบเบาๆ สาวน้อยจึงหันไปทางมารดาพร้อมกับที่น้ำตาเอ่อขึ้นมาคลอรอบดวงตาอย่างคนเสียขวัญ
“ออมไม่ได้ตั้งใจนะคะคุณ...” เสียงหวานใสสั่นเครือ ใบหน้าซีดเผือด ร่างบอบบางยังคงสั่นระริกด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา
“คุณรู้ออม...คุณรู้ ทุกอย่างมันเป็นอุบัติเหตุ ยัยนั่นตกลงไปเอง ออมอย่าเพิ่งกังวลอะไรเลยนะ แม่เทเรซ่าตัวร้ายนั่นคงไม่เป็นอะไรมากหรอก”
เป็นครั้งแรกที่แพรวดาวเอ่ยปลอบลูกสาวด้วยความรักและห่วงใยอย่างแท้จริง
“แต่อาการของคุณเทเรซ่าดูไม่ดีเลยนะคะ ออมกลัวเหลือเกิน...”
“ออมใจเย็นๆ ก่อน ตั้งสติและรอฟังข่าวจากคุณเมสันอีกที แต่ตอนนี้เราต้องลงไปข้างล่างก่อน เดี๋ยวคุณจะโทร.บอกคุณลุงไวแอตให้รีบกลับมา คุณจะเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้คุณลุงไวแอตฟังเอง ออมไม่ได้ทำอะไรผิดเลย คุณจะไม่ยอมให้ใครกล่าวโทษออมเด็ดขาด”
ไวแอตรีบกลับมายังคฤหาสน์ของตนทันทีที่ได้รู้ข่าวเรื่องเทเรซ่า แพรวดาวเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้เขาฟังทันทีเพื่อปกป้องตัวเองและลูกสาวจากข้อกล่าวหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ไวแอตพยักหน้าและเชื่ออย่างที่แพรวดาวเล่า เพราะตัวเขาเองก็รู้จักละอองฝนดีว่าไม่ใช่เด็กร้ายกาจที่จะทำร้ายใครได้ขนาดนั้น
ไวแอตพยายามโทร.ติดต่อเมสันเพื่อสอบถามอาการของเทเรซ่าแต่เขาก็ไม่รับสาย จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบหกชั่วโมงก็มีเสียงรถแล่นมาจอดที่หน้าคฤหาสน์...สายตาทั้งสามคู่ของคนที่กำลังนั่งรออยู่บนโซฟาในห้องโถงต่างก็มองไปยังคนที่เพิ่งกลับมาถึงอย่างใจจดใจจ่อทันที
“เทเรซ่าเป็นยังไงบ้างเมสัน กระทบกระเทือนตรงไหนหรือเปล่า” ไวแอตเอ่ยถามทันทีที่เห็นลูกชายเดินประคองธัญญ่าเข้ามาเพียงลำพัง
เมสันยืนนิ่งไม่ตอบคำถามใดๆ ไวแอตจึงหันไปทางธัญญ่าที่ยืนน้ำตานองหน้าอยู่ข้างๆ ลูกชายตัวเอง
“ว่าไงธัญญ่า”
“เปล่าค่ะคุณลุง...ฮือๆ” ธัญญ่าส่ายหน้าก่อนจะสะอื้นโฮ
“แล้วทำไมเทเรซ่าไม่กลับมาด้วยล่ะ” ไวแอตเอ่ยถามอย่างหวั่นใจเมื่อเห็นท่าทีของเมสันกับธัญญ่า
“พี่เทเรซ่าตายแล้วค่ะ หมอบอกว่าพี่เทเรซ่ากำลังตั้งครรภ์ด้วย”
“ว่าไงนะ!!??”
ไวแอตอุทานแล้วยืนนิ่งอึ้งเหมือนถูกตอกตรึงด้วยตะปู เช่นเดียวกับแพรวดาวและละอองฝนที่ตกใจไม่แพ้กัน สาวน้อยหน้าซีดเผือด มือไม้สั่นระริก ก่อนจะขยับตัวเข้าไปหาเมสันและธัญญ่า
“คุณเมสัน พี่ธัญญ่าคะ...”
“หุบปาก!” เมสันตวาดใส่ละอองฝนดังลั่นจนทุกคนในห้องโถงสะดุ้งโหยง
“ออมไม่ผิดนะเมสัน ทุกอย่างมันเป็นอุบัติเหตุ” ผู้เป็นพ่อพยายามปรามอารมณ์ที่กำลังเกรี้ยวกราดของลูกชาย แต่เมสันไม่คิดจะแยแสแม้แต่น้อย ตอนนี้สายตาของเขาจ้องเขม็งอยู่ที่ละอองฝน จนใครต่อใครต่างก็หายใจไม่ทั่วท้อง ด้วยกลัวว่าเมสันจะลงมือลงไม้กับสาวน้อย