บท
ตั้งค่า

๓.๓ ทัณฑ์จอมเถื่อน

“คุณเมสัน...” เสียงหวานหลุดชื่อนั้นออกมาเบาๆ

“เป็นอะไร?” ไม่ถามเปล่า แต่ดวงตาคมกริบนั้นยังจดจ้องมองเพื่อจับพิรุธอย่างที่เขาชอบทำเป็นประจำ “ทำไมตาบวมแบบนั้น อย่าบอกนะว่าร้องไห้เพราะฉัน”

“ปะ...เปล่าค่ะ ไม่ใช่อย่างนั้น...” สาวน้อยปฏิเสธตะกุกตะกัก แม้มันจะเป็นความจริงก็ตาม หากเธอจะไม่ยอมรับให้ตัวเองอับอายมากกว่าเดิมเป็นอันขาด

“แล้วทำไมไม่ออกไปกินข้าว”

“ดิฉันปวดหัวค่ะ” ตอบแล้วก็รีบหลุบตาลง เพราะไม่กล้าสู้สายตาคู่คม ดั่งมีดที่กำลังทอประกายกล้าและรู้เท่าทันไปเสียทุกอย่างของเขา

“ต้องให้ฉันบอกกี่ครั้งว่าเธอชอบพูดโกหก”

แม้เขาจะพูดเหมือนตำหนิ แต่เสียงห้าวกลับอ่อนโยนลงอย่างชวนใจหวามทำเอาดวงตาคู่สวยที่หลุบลงเมื่อครู่นี้ต้องมองใบหน้าหล่อเหลาดุดันนั้นอย่างคิดว่าตัวเองหูฝาด ทำให้ตาสองดวงมองสบประสานกันนิ่งราวกับถูกเวทมนตร์สะกดในขณะที่ร่างสูงขยับเข้ามาใกล้จนชิดพร้อมทั้งไล้ปลายนิ้วแกร่งขึ้นไปเชยคางมนให้แหงนเงย แล้วจึงค่อยๆ โน้มใบหน้าคมเข้มลงมาใกล้จนเรียวปากหยักหนาแทบจะสัมผัสกับริมฝีปากอิ่มเต็มของเธอ

ลมหายใจอุ่นซ่านที่รวยรดพร่างพรมลงบนผิวหน้าเนียนใส ทำเอาสาวน้อยหน้าร้อนวูบวาบ พลางรีบเอ่ยปรามด้วยเสียงสั่นๆ เพราะรู้ดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น

“ยะ...อย่านะคะคุณเมสัน...”

“ฉันก็แค่จะทำให้เธอหยุดร้องไห้” ชายหนุ่มไม่คิดจะพูดให้มากความอีกต่อไป ก็ในเมื่อสิ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิดอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว ริมฝีปากกระด้างแบบบุรุษประกบลงบนเรียวปากอิ่ม แล้วจูบไซ้เต็มอารมณ์ปรารถนาทันที

ละอองฝนได้แต่ยืนอึ้งตัวแข็งทื่อเหมือนถูกสาปให้กลายเป็นรูปปั้นไปชั่วขณะ ความรู้สึกอย่างอื่นถูกทดแทนด้วยรสจูบสวาทของเขาแม้มันจะดุดัน กระด้าง ป่าเถื่อน แต่ก็เร่าร้อน วาบหวาม เต็มไปด้วยการเรียกร้องเสียจนอดไม่ได้ที่จะส่งลิ้นน้อยๆ นุ่มนิ่มเกี่ยวกระหวัดรัดร้อยกับลิ้นสากหนาและส่งเสียงครางเบาๆ ออกมาอย่างยั้งตัวเองเอาไว้ไม่อยู่

“อืม...”

เมสันแทบจะคำรามออกมาด้วยความพึงพอใจ เสียงครางแสนกระเส่าเซ็กซี่น่าฟังของเธอ บวกกับรสสัมผัสอันนุ่มละมุนจากริมฝีปากสาวสะพรั่ง ยิ่งกระตุ้นเร้าให้อารมณ์ของเขาปะทุแรงขึ้นราวกับน้ำเดือด ร่างกายใหญ่โตเต้นเร่าไปด้วยความปรารถนา ลำแขนแข็งแรงด้านที่ว่างจึงสอดเข้ารอบเอวเล็กคอดแล้วดึงเข้ามากอดแนบชิดกว่าเดิม ก่อนที่ร่างบอบบางจะถูกดันเข้าไปในห้องอย่างง่ายดาย

ละอองฝนสะดุ้งเมื่อสำเหนียกได้ว่าตัวเองกำลังถูกดันให้นอนราบลงไปบนเตียง ความตกใจทำให้เธอพยายามเบี่ยงศีรษะหนีจากจูบของเขา แต่ก็ทำไม่ได้เพราะปากถูกประกบแน่น แถมยังมีน้ำหนักตัวที่ตามทาบทับลงมาแนบแน่นทันควันอย่างไม่เปิดโอกาสให้เธอดิ้นหนีไปไหน

ตอนนี้อกอวบอิ่มเบียดสีแนบสนิทกับอกกว้างที่แข็งแรงแน่นตึงจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน มีเพียงอาภรณ์เท่านั้นที่ขวางกั้นทั้งคู่เอาไว้ ทว่าในอึดใจต่อมากระดุมเสื้อนอนของเธอก็ถูกปลดออกจนเกือบหมดทุกเม็ด

“ไม่นะคะ!”

มือเล็กยกขึ้นดันไหล่หนาออกห่างด้วยหัวใจที่เต้นแรงระรัวดุจจะโลดออกมานอกทรวงเสียให้ได้ เมสันจึงผงกศีรษะขึ้นสบตากับเธอเพียงครู่เดียวก็ซบหน้าลงใหม่ ไม่ใช่ที่ปาก! แต่เป็นที่หน้าอกอวบอิ่มเนียนละมุนที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยบราเซียร์ลายลูกไม้สีขาว

สาวน้อยชาดิกและวาบหวามไปทั้งร่างคล้ายกับถูกชอร์ตด้วยไฟฟ้าแรงสูง เมื่อจมูกโด่งคมคลุกเคล้าอยู่ตรงเนินอกอันแสนหวงแหน ก่อนจะตวัดลิ้นโลมเลียดูดดุนระริกเร็วรัวช่วงชิงเอาความหวานของโนมเนื้อสาวสะพรั่งที่ไม่เคยมีชายใดได้แตะต้องสัมผัสมาก่อนนอกจากเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น

จมูกโด่งสูดดมเอาความหอมกรุ่นเข้าปอดจนพอใจ แล้วจึงเลื่อนปากร้อนลงมาอ้าครอบและขบเม้มสลับซ้ายขวาเบาๆอย่างหยอกเอิน แต่ก็มากพอที่จะทำให้อกอวบอิ่มสะท้อนขึ้นลงหนักหน่วงเหมือนเหนื่อยหอบ ละอองฝนขยุ้มทึ้งที่นอนจนยับย่น เธอรู้สึกได้ว่าปลายถันแสนอ่อนไหวของตัวเองขมวดเกร็งหดตัวชูชันจนแทบปริเปล่ง

“ยะ...อย่าค่ะคุณเมสัน...”

เรียวปากอิ่มขยับครวญครางอ้อนวอนขอให้เขาหยุดการกระทำนั้นเสีย แต่กลับแอ่นหยัดทรวงสาวสั่นระริกขึ้นหาปากร้อนๆ ของเขาด้วยความสับสน

เมสันรับรู้ถึงอาการสั่นสะท้านของกายสาว ทว่าเขายังไม่พร้อมจะหยุดตอนนี้ ปากและจมูกโด่งคมตักตวงเอาความหอมหวานดั่งชีสเค้กเลิศรสจากทรวงสาวอยู่เนิ่นนานหลายนาที จึงยกริมฝีปากขึ้นแล้วเอ่ยเสียงนุ่ม

“คราวนี้คงจะเลิกร้องไห้ และนอนหลับได้แล้วนะ...”

ละอองฝนได้แต่หน้าแดงซ่านเป็นสีเปลือกแอปเปิล ขณะนอนนิ่งอึ้งเพราะยังปรับอารมณ์เข้าสู่ภาวะปกติไม่เก่งเหมือนเขา

เมสันหัวเราะเบาๆ ในลำคอ ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นจากร่างนุ่มที่ทาบทับอยู่นานหลายนาทีอย่างอ้อยอิ่ง แล้วจึงกลับขึ้นไปยังห้องตัวเอง และน่าแปลกที่เขาพบว่าอารมณ์หงุดหงิดเมื่อครู่นี้หายเป็นปลิดทิ้ง

เวลาผ่านไปเกือบสี่เดือนแล้วที่เทเรซ่าและธัญญ่าย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ ซึ่งนับวันความสัมพันธ์ระหว่างแพรวดาวกับเทเรซ่าก็ยิ่งแย่ลง ทั้งสองจะปะทะฝีปากกันทุกครั้งที่มีโอกาส โดยคนเปิดฉากก่อนมักจะเป็นแพรวดาวเสมอ เพราะฝ่ายนั้นหมั่นไส้ในท่าทีเย่อหยิ่งของเทเรซ่าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

เช้าวันนี้ก็เช่นกัน...แพรวดาวเรียกให้ละอองฝนขึ้นไปช่วยจัดห้องนอนใหม่ในระหว่างที่ไวแอตออกไปเยี่ยมเพื่อนบ้าน โดยอดีตนางแบบสาวออกคำสั่งให้ละอองฝนจัดโน่นย้ายนี่ตามแบบที่ตนต้องการแล้วก็ปล่อยให้ลูกสาวจัดห้องไปตามลำพัง ส่วนตัวเองเดินนวยนาดออกมานอกห้องและก็ได้ประจันหน้ากับเทเรซ่าที่หน้าบันไดพอดี

ผู้ที่ถือว่าตัวเองคือภรรยาเจ้าของบ้านซึ่งใหญ่ที่สุดในคฤหาสน์หลังนี้กวาดตามองเทเรซ่าตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่ชอบหน้า ก่อนจะสาดคำพูดจิกกัดกระแนะกระแหนใส่เช่นเคย

“น่าแปลกนะที่วันนี้ว่าที่มาดามแม็คไบรด์แต่งตัวอยู่บ้านธรรมดา นึกว่าจะใส่เครื่องแบบว่าที่เมียเจ้านายออกไปตรวจงานอย่างที่ ‘ชอบ’ ไปเสียอีก”

แพรวดาวเน้นคำว่าชอบเป็นพิเศษพลางใช้สายตาตวัดมองอีกฝ่ายอย่างไม่รักษาท่าที

“ฉันไม่อยากจะเสวนากับคนไร้สาระอย่างคุณ” เทเรซ่าพูดห้วนๆ ด้วย น้ำเสียงไว้ตัว “หลีกทางฉันเดี๋ยวนี้”

“ทำไม?” แพรวดาวตวัดเสียงสูง “ภรรยาเจ้าของบ้านอย่างฉัน ไม่มีเกียรติพอที่เธอจะคุยด้วยอย่างนั้นเหรอเทเรซ่า”

“ปากคุณก็ชอบอ้างสิทธิ์ว่าตัวเองเป็นภรรยาของลุงไวแอต แต่ใครจะไม่รู้ว่าคุณคิดยังไงกับพี่เมสัน” อีกฝ่ายมองแพรวดาวอย่างรู้เท่าทันบ้าง

“เธอหมายความว่ายังไง” แพรวดาวตวัดถามเสียงสูง นัยน์ตาดุขึ้นอย่างคนที่พร้อมจะเอาเรื่อง แต่เทเรซ่ายักไหล่อย่างไม่ยี่หระ

“คุณรู้ดีอยู่แก่ใจไม่ใช่เหรอ แล้วไอ้ที่จิกกัดฉันตลอดนี่เป็นเพราะกลัวฉันจะมาแย่งทุกอย่างไปหรือเพราะหึงพี่เมสันกันแน่ หรือว่าทั้งสองอย่าง!”

เทเรซ่าเหยียดปากใส่เป็นเชิงหยามหยันเต็มที่

“นังเทเรซ่า!”

“หรือจะปฏิเสธว่าไม่จริง แต่ดูท่าพี่เมสันจะขยะแขยงคุณเหมือนเป็นกิ้งกือไส้เดือนเลยนี่”

เพียะ!

แพรวดาวตวัดฝ่ามือลงบนใบหน้าของเทเรซ่าอย่างเจ็บใจเต็มแรง จนปรากฏรอยแดงบนใบหน้าขาวซีดนั้นทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel