๓.๕ ทัณฑ์จอมเถื่อน
“ผิดหรือไม่ผิดเธอรู้อยู่แก่ใจ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะไม่ให้เธออยู่ในบ้านหลังนี้ เธอต้องย้ายไปอยู่โรงนากับป้าแอนนา จะได้ไม่ต้องก่อเรื่องอะไรอีก” เมสันประกาศกร้าวออกมาเสียงแข็ง
“น้องไม่ผิด...ลูกจะลงโทษน้องแบบนั้นไม่ได้” ไวแอตพยายามจะพูดผ่อนผัน
“ฉันยืนยันได้ค่ะว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ออมพยายามจะช่วยเทเรซ่าต่างหาก อย่าไล่ออมไปเลยนะคะ” แพรวดาวช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ของลูกสาวอีกคน
“เลือกเอาก็แล้วกันว่าจะไปอยู่โรงนา หรือจะไปนอนในคุก!”
นั่นคือคำประกาศิตซึ่งประกาศออกมาด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ทำให้ไม่มีใครกล้าโต้แย้งใดๆ อีก แม้แต่ไวแอตซึ่งรู้นิสัยของลูกชายดีว่ายามใดที่เขาใช้น้ำเสียงเช่นนั้นย่อมหมายความว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่เขาต้องการ
“แล้วศพของเทเรซ่าล่ะ” ไวแอตเอ่ยถามเรื่องสำคัญอีกเรื่องบ้าง
“ตอนนี้อยู่ที่โบสถ์ คงจะทำพิธีมิซซาและสวดหน้าศพสามวันแล้วก็ฝังเลย” เมสันตอบบิดา ดวงหน้าคมคายเรียบเฉยเสียจนไม่มีใครเดาความรู้สึกได้
“อืม...” ไวแอตพยักหน้าน้อยๆ แล้วก็ไม่พูดอะไรหรือซักไซ้ไล่เลียงต่อ
หลังจากนั้นเมสันก็ผละขึ้นไปชั้นบน แต่สิ่งที่เขาออกคำสั่งเมื่อครู่นี้ก็ทำให้แพรวดาวต้องรวบร่างบอบบางของละอองฝนเข้ามากอดอย่างสงสารจับใจเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าตอนนี้ลูกสาวกำลังตกอยู่ในสถานะแพะรับบาป ส่วนไวแอตได้แต่มองอย่างเห็นใจ ทว่าตอนนี้ละอองฝนไม่ได้คิดถึงเรื่องของตัวเองแม้แต่น้อย เธอยื่นมือไปจับมือของธัญญ่าแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“พี่ธัญญ่าคะ ออมขอโทษ...ออมไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นแบบนี้เลย...”
“ไม่เป็นไรออม ทุกอย่างมันเป็นอุบัติเหตุ พี่เข้าใจดี ออมอย่าคิดมากเลยนะ” ธัญญ่าตบที่หลังมือของสาวน้อยเบาๆ
“พี่ธัญญ่าไม่โกรธออมเหรอคะ”
“ไม่หรอก... ออมอย่าโทษตัวเอง เวลาของพี่เทเรซ่าและลูกคงจะมีแค่นั้น”
“ขอบคุณที่ไม่โกรธออมค่ะ...” เสียงหวานสั่นเครือ น้ำตาเอ่อคลอรอบดวงตา ทุกคนล้วนแต่ไม่มีใครโทษว่าเป็นความผิดของเธอ ยกเว้นเมสันเพียงคนเดียว...สายตาของเขาที่มองมานั้นบ่งบอกถึงความโกรธแค้นและกล่าวหา หากแม้นว่าดวงตาคมกล้าของเขาเป็นเปลวไฟ เธอคงถูกมอดไหม้จนกลายเป็นเถ้าธุลีไปแล้ว
“พี่เชื่อว่าสักวันพี่เมสันก็จะเข้าใจและให้อภัยออมเหมือนกัน”
“ออมไม่หวังหรอกค่ะ ขอแค่เพียงพี่ธัญญ่าเข้าใจ แค่นี้ออมก็สบายใจแล้ว” สาวน้อยยิ้มบางๆ ออกมาทั้งน้ำตา “ออมขอไปไหว้ศพคุณเทเรซ่าที่โบสถ์ได้ไหมคะ”
“อย่าไปเลยออม” ธัญญ่าปฏิเสธอย่างอึดอัด ก่อนจะอธิบายเหตุผล
“ไม่ใช่ว่าพี่ไม่อยากให้ไปนะ แต่พี่เมสันคงจะไม่อนุญาตให้ออมไปแน่ๆ”
“ถ้าอย่างนั้นออมฝากขออโหสิกรรมคุณเทเรซ่าด้วยนะคะ” ละอองฝนทำได้แค่นั้นจริงๆ ซึ่งธัญญ่าก็พยักหน้า เธอจึงขอตัวไปเก็บเสื้อผ้า
สาวน้อยใช้เวลาเก็บข้าวของไม่นานนักเพราะมีเสื้อผ้าอยู่เพียงไม่กี่ชุดและของใช้ส่วนตัวอยู่ไม่กี่อย่าง หลังจากเก็บของเสร็จก็สะพายกระเป๋าขึ้นไหล่ตัวเอง เดินออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เคยได้อาศัยชายคาหลับนอนอยู่ระยะเวลาหนึ่งโดยไม่ได้บอกใคร
เท้าเล็กๆ ก้าวย่างไปตามถนนซึ่งตัวเองคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะผ่านมันเสมอเวลาที่แอบเข้าไปขี่ม้าในฟาร์ม ทว่าความรู้สึกในครั้งนี้ไม่ได้สดชื่นร่าเริงและเป็นอิสระเหมือนอย่างเคย บ่าที่แบกกระเป๋าอยู่นั้นหนักอึ้งราวกับแบกหินก้อนใหญ่จากภูเขาเอาไว้ก็ไม่ปาน ขาที่กำลังจะก้าวไปข้างหน้าแต่ละก้าวนั้นแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงรับน้ำหนักร่างกายด้วยซ้ำ
เมื่อไปถึงโรงนาซึ่งเป็นที่พำนักใหม่ สาวน้อยก็เห็นว่าเอเดรียนกับป้าแอนนารออยู่แล้ว ซึ่งละอองฝนก็ไม่แปลกใจนัก คงเป็นเพราะเมสันโทร.มาสั่งเอาไว้
“พี่เอเดรียนกำลังจะไปไหนหรือคะ”
สาวน้อยเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเอเดรียนเองก็มีกระเป๋าเสื้อผ้าคล้ายกำลังจะย้ายที่อยู่เหมือนกัน
“พี่จะย้ายไปอยู่โรงนาอีกหลัง หลังนี้ยกให้ออมอยู่กับแม่ของพี่”
“ออมขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้พี่ต้องเดือดร้อน” ดวงตาคู่สวยสะท้อนความรู้สึกผิดออกมาชัดเจน
“ไม่เดือดร้อนอะไรเลย แค่เก็บเสื้อผ้าแล้วก็ย้ายออกไปอยู่ใกล้ๆ กันนี่เอง” ชายหนุ่มคลี่ยิ้มละไม “ว่าแต่ออมเถอะจะมาทำไมไม่บอก พี่จะได้ขับรถไปรับ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ออมมาเองก็ไม่ได้ลำบากอะไร”
“ถ้าอย่างนั้นเข้าไปจัดเสื้อผ้า แล้วก็พักผ่อนเถอะนะ มีอะไรก็ไปตามพี่ได้”
“ขอบคุณค่ะ”
เมื่อเอเดรียนไปแล้วป้าแอนนาก็เดินนำละอองฝนขึ้นไปยังห้องชั้นบน จากนั้นก็ปล่อยให้สาวน้อยอยู่ตามลำพัง...
ดวงตาที่ยังฉาบเอาไว้ด้วยแววหม่นเศร้ามองห้องนั้นอย่างไม่มีความรู้สึกยินดียินร้าย ก่อนจะวางกระเป๋าไว้ที่โต๊ะแล้วลงไปอาบน้ำที่ห้องน้ำชั้นล่าง เพราะที่โรงนาหลังนี้มีห้องน้ำอยู่เพียงห้องเดียว หลังจากอาบน้ำเสร็จก็เก็บตัวเงียบเชียบอยู่แต่ในห้อง โดยไม่คิดจะแตะต้องอาหารแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่วันนี้ทั้งวันแทบจะไม่มีอาหารตกถึงท้อง
ร่างน้อยนอนลงบนเตียงเล็กๆ กลางเก่ากลางใหม่ พยายามข่มตานอนให้หลับ หากก็ไม่หลับซ้ำยังน้ำตาไหลพรากออกมาไม่ขาดสาย เสียงสะอึกสะอื้นดังขึ้นเกือบครึ่งค่อนคืนท่ามกลางความเงียบสงบของบรรยากาศในโรงนา ภาพที่เทเรซ่าหงายหลังตกบันไดลงไปนอนจมกองเลือด ทำให้เด็กสาวผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ดีงามไม่สามารถจะลืมมันไปได้ง่ายๆ เธออยากจะคิดว่ามันเป็นเพียงฝันร้าย แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ ในเมื่อถ้อยคำที่หลุดออกจากปากของธัญญ่าย้ำชัดว่าเทเรซ่าตายแล้ว และไม่ใช่แค่เทเรซ่าเพียงคนเดียวหากยังมีเด็กเล็กๆ อีกคนที่ยังไม่มีโอกาสลืมตาขึ้นมาดูโลกด้วยซ้ำ