บท
ตั้งค่า

๒.๓ ทัณฑ์หวาม

พอรถแล่นไปถึง ละอองฝนก็เข้าไปตามเทเรซ่าโดยเอเดรียนรออยู่ข้างนอก เธอรอจนกระทั่งเทเรซ่าขึ้นรถและเอเดรียนขับออกไปเรียบร้อยแล้วจึงค่อยเลยไปหาน้ำดื่มแก้กระหายในครัวบ้าง จากนั้นก็กลับออกไปนั่งอ่านหนังสือที่ใต้ต้นแอปเปิลตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก แต่อ่านได้ไม่นานความเป็นส่วนตัวในมุมสงบก็สิ้นสุดลงเมื่อธัญญ่าเดินเข้ามาหาด้วยท่าทีที่เป็นมิตร

“ฉันมารบกวนหรือเปล่า” ผู้มาใหม่เอ่ยถามพลางหลุบตาลงมองหนังสือที่ละอองฝนกำลังอ่านอยู่

“เปล่าหรอกค่ะ ว่าแต่คุณธัญญ่าต้องการอะไรหรือเปล่าคะ” ละอองฝนถามเหมือนอย่างที่ถามเทเรซ่าเมื่อเกือบสองชั่วโมงก่อน

“เปล่าหรอก...ฉันแค่อยากได้เพื่อนคุย” ธัญญ่าตอบและนั่งลงที่ม้านั่งฝั่งตรงข้ามกับละอองฝน

“แต่ออมคุยไม่เก่งนะคะคุณธัญญ่า”

“ถ้าอย่างนั้นเอาแบบนี้ก็แล้วกันนะ เรามาเริ่มทำความสนิทสนมกันก่อน เผื่อออมอาจจะกล้าคุยกับฉันมากขึ้น เริ่มจากให้ออมเรียกฉันว่าพี่ธัญญ่า ส่วนฉันก็จะเรียกชื่อเล่นของออมดีมั้ย”

“ก็ได้ค่ะพี่ธัญญ่า” ละอองฝนรับคำโดยไม่คิดจะปฏิเสธสัมพันธไมตรีที่ธัญญ่าหยิบยื่นให้เพราะอย่างน้อยหญิงสาวตรงหน้าก็มีท่าทีเป็นมิตรกับเธอตั้งแต่ต้น ไม่ถือตัวเหมือนเทเรซ่า และไม่คอยแต่จะจ้องจับผิดเธอเหมือน...

ความคิดของสาวน้อยสะดุดลงอย่างรวดเร็วเมื่อนึกถึงใบหน้าดุๆ เหี้ยมๆของใครบางคนขึ้นมา

“ออมชอบอ่านหนังสือเหรอ” ธัญญ่าชวนคุยต่อด้วยรอยยิ้ม

“ค่ะ...มาอยู่ที่นี่ออมไม่มีเพื่อนเลย ก็ได้หนังสือนี่ล่ะค่ะที่คอยเป็นเพื่อน”

“พี่เอาหนังสือใส่กระเป๋ามาด้วยหลายเล่ม เดี๋ยววันหลังพี่เอามาให้นะ”

“ขอบคุณมากค่ะ เดี๋ยวออมก็จะเอาหนังสือของออมให้พี่ธัญญ่าอ่านบ้าง แลกกันนะคะ”

“ไม่เป็นไรหรอก ดูเหมือนออมจะรักหนังสือเล่มนี้มาก ออมเก็บไว้เถอะเผื่อพี่ทำหนังสือออมขาด พี่ยิ่งเป็นคนทำอะไรไม่ค่อยระมัดระวังอยู่ด้วย ว่าแต่อึดอัดมั้ยที่พี่กับพี่เทเรซ่าย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านแบบนี้”

“ออมไม่กล้าคิดแบบนั้นหรอกค่ะ ออมเองก็เป็นแค่ผู้อาศัย” สาวน้อยบอกอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวกับสถานะของตัวเอง

“แต่ออมเป็นหลานสาวของคุณแพรวดาวไม่ใช่เหรอ”

“ออมเป็นหลานที่ไม่สนิทกับป้าเท่าไหร่นักหรอกค่ะ” ละอองฝนคิดว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะตั้งแต่จำความได้ แพรวดาวก็วางตัวห่างเหินกับเธอและระวังตัวแจมาโดยตลอด อาจเป็นเพราะกลัวจะกระทบกับอาชีพของตัวเอง แม้เธอจะเคยแอบน้อยใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เคยคิดเรียกร้องหรือตัดพ้อมารดาเลยสักครั้ง สุดท้ายก็ชินกับความห่างเหินนั้นและเห็นว่ามันเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว

“นั่นน่ะสินะ” ธัญญ่าพูดไปตามที่ตัวเองสังเกตเห็น

“แล้วครอบครัวของพี่ธัญญ่าเป็นยังไงบ้างคะ คุณพ่อกับคุณแม่ของพี่ธัญญ่าสบายดีมั้ย”

“พ่อกับแม่ของพี่เสียไปแล้วล่ะ เหลือแต่พี่กับพี่เทเรซ่าสองคนนี่แหละ ครอบครัวของพี่กับครอบครัวของพี่เมสันเป็นญาติห่างๆ กัน พ่อของพี่กับพ่อของพี่เมสันสนิทกันมากก็เลยให้พี่เมสันกับพี่เทเรซ่าหมั้นกัน”

“คุณเทเรซ่าไม่ได้ถูกบังคับใช่มั้ยคะ” ละอองฝนถามไปตามประสาซื่อ เพราะถ้าหากเป็นเธอคงต้องคิดหนัก ในเมื่อผู้ชายอย่างเมสันน่าหวาดหวั่นมากกว่าน่าเข้าใกล้

“ไม่เลย... พี่เทเรซ่าเต็มใจมากที่สุด ก็พี่เมสันเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์และเพียบพร้อมทุกอย่างแบบนั้น คงไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธหรอก ออมว่าจริงมั้ย”

“เอ่อ...” ละอองฝนอึกอัก

“ออมคงอายที่จะตอบ พี่เคยได้ยินว่าคนเอเชียไม่ค่อยกล้าพูดเรื่องรักๆ ใคร่ๆ แบบเปิดเผยสักเท่าไหร่” ธัญญ่าหัวเราะเบาๆ แล้วชวนละอองฝนคุยต่อไปเรื่อยๆ ทำให้ทั้งสองเริ่มสนิทสนมและคุ้นเคยกันอย่างรวดเร็ว

เอเดรียนขับรถกลับมาส่งเทเรซ่าที่คฤหาสน์ในช่วงบ่าย โดยที่ละอองฝนกับธัญญ่ายังนั่งคุยกันอยู่เช่นเดิม เมื่อเห็นว่าพี่สาวกลับมาแล้ว ธัญญ่าจึงขอตัวและเดินตามกันกลับเข้าไปในคฤหาสน์ ส่วนเอเดรียนเมื่อส่งคู่หมั้นของเจ้านายแล้ว ก็รีบเดินตรงมาหาละอองฝนทันทีที่เห็นว่าสาวน้อยนั่งอยู่คนเดียว

“เป็นไงบ้างคะพี่เอเดรียน...” ละอองฝนเงยหน้าขึ้นถามเสียงนุ่ม

“ก็เรียบร้อยดี คุณเทเรซ่าอยากหัดขี่ม้า พี่ก็เลยสอนให้”

“ดูท่าทางคุณเทเรซ่าจะชอบนะคะ ออมเห็นสีหน้าเธอดูยิ้มแย้ม ผิดกับตอนก่อนจะออกไปราวกับคนละคน พี่เอเดรียนนี่เก่งจังเลยนะคะที่ทำให้เธอยิ้มได้” สาวน้อยเอ่ยชมจากใจจริง เพราะตั้งแต่มาอยู่ร่วมชายคากันเกือบสองวันเธอยังไม่เคยเห็นเทเรซ่ายิ้มเลย นอกจากเวลาอยู่ต่อหน้าเมสันเท่านั้น

“ทำไงได้ คุณเทเรซ่าเป็นคู่หมั้นเจ้านาย หน้าที่ของพี่ก็คือเทกแคร์เธอ ว่าแต่ออมเถอะนั่งอ่านหนังสืออยู่แบบนี้ทั้งวันไม่เบื่อหรือไง”

“วันนี้ออมแทบไม่ได้อ่านเลยค่ะ พอดีคุณธัญญ่ามานั่งคุยเป็นเพื่อน”

“ต่อไปออมก็คงไม่เหงาแล้วล่ะสิ”

“ออมก็คิดว่าอย่างนั้นค่ะ คุณธัญญ่าเธอน่ารักดี”

“แบบนี้เฮดีสจะถูกลืมหรือเปล่าเนี่ย” เอเดรียนหัวเราะเบาๆ

“ไม่ถูกลืมแน่นอนค่ะ แต่ออมคงจะไปบ่อยๆ ไม่ได้เหมือนเดิมแล้ว”

“ทำไมล่ะ หรือว่าเจ้านายห้ามไม่ให้ออมไป” ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

ยังไม่ทันที่ละอองฝนจะตอบ รถสปอร์ตโฟร์วีลยี่ห้อดังที่ครองแชมป์ตลาดรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาก็แล่นเข้ามาจอด เอเดรียนจำได้ดีว่าเป็นรถของเจ้านายจึงรีบเดินเข้าไปรับหน้า ทำให้ละอองฝนจำต้องลุกขึ้นและเดินตามไปห่างๆ

ร่างสูงสง่าก้าวลงจากรถหลังจากดับเครื่องยนต์เรียบร้อยแล้ว ดวงตาสีอำพันคมดุมองลูกน้องคนสนิท ก่อนจะตวัดเลยไปยังคนที่ยืนตัวลีบอยู่ข้างหลัง

“การเจรจาเรียบร้อยดีไหมครับเจ้านาย” เอเดรียนถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของเจ้านาย

“เรียบร้อยดี” เมสันตอบเรียบๆ แต่ใบหน้ากลับดูเกรี้ยวกราดคล้ายกับโกรธใครมา

“แล้วเจ้านายจะเข้าฟาร์มมั้ยครับ”

“ไม่ล่ะ ฉันมีเอกสารที่ต้องเคลียร์อีก แล้วนายมาทำอะไรที่นี่”

“ผมมาส่งคุณเทเรซ่าน่ะครับ” เอเดรียนรายงาน“เมื่อเช้าเธอเข้าไปดูม้าในฟาร์ม”

“ถ้าอย่างนั้นนายก็รีบกลับไปทำงานต่อเถอะ”

“ครับ...ผมขอตัวก่อนนะครับเจ้านาย” เอเดรียนบอกกับเจ้านายตัวเองแล้วหันไปทางสาวน้อยที่ยืนอยู่ข้างๆ “พี่กลับก่อนนะออม”

“ค่ะ” ละอองฝนพยักหน้าพลางยิ้มบางๆ และโบกมือให้เขาอย่างที่เคยทำเป็นประจำ

เมื่อเอเดรียนกลับไปแล้ว ละอองฝนก็รีบเดินไปยังบันไดเพื่อจะกลับเข้าข้างใน เพราะต้องการหนีให้พ้นจากสายตาคมดุที่กำลังจ้องมองเธอเขม็ง

“เดี๋ยวก่อน!”

ร่างบอบบางสะดุ้งโหยง แม้ยอมหันกลับมาตามเสียงเรียกแต่ก็ก้มหน้า งุดอย่างไม่กล้าที่จะมองใบหน้าดุๆ ดุจซาตานของเขาตรงๆ

“คุณเมสันมีอะไรหรือเปล่าคะ” สาวน้อยเอ่ยถามออกไปเบาๆ ทั้งที่ไม่ได้มองหน้าคู่สนทนาเลย

“ไม่เคยมีใครสอนหรือไง ว่าเวลาผู้ใหญ่คุยด้วย ไม่ควรจะก้มหน้าพูดแบบนี้ ทำตัวเหมือนพวกมีความผิดที่ไม่กล้าสบตาคนอื่น” เขาตำหนิออกไปอย่างตรงๆ น้ำเสียงก็เข้มดุ ทำให้ละอองฝนคิดในใจว่าเขาเป็นแบบนี้ใครจะกล้ามองต่อให้เมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับเขาก็ตาม แต่ตอนนี้เธอก็ยังหวาดหวั่นอยู่ดีเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากันตามลำพังเช่นนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel