๑.๒ ละอองฝนริมทาง
ในยามดึกอันเงียบสงัด เจ้าของคฤหาสน์วัยกลางคนหลับสนิทอยู่บนเตียงหลังจากกินยาหลังอาหารซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ง่วงงุน อดีตนางแบบสาวไฮโซในวัยเกือบสี่สิบปี จ้องมองสามีแต่ใจกลับประหวัดไปถึงผู้ชายอีกคน...
เมสันบุตรชายคนเดียวของไวแอต ถึงแม้เขาจะมีฐานะเป็นลูกเลี้ยงของเธอ แต่ก็มีอายุน้อยกว่าเธอเพียงแค่หกปี เขาช่างเป็นผู้ชายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อันเร่าร้อนและน่าปรารถนาอย่างเหลือร้าย ไม่ต่างอะไรจากเปลวเพลิงกองใหญ่ๆ ที่หลอกล่อเหล่าแมงเม่าทั้งหลายให้กระเสือกกระสนโบยบินเข้าไปหาอย่างเต็มใจ ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มปกคลุมด้วยหนวดเครารกครึ้มไม่ได้ทำให้เขาน่ามองน้อยลงเลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับทำให้ดูดุดันและน่าค้นหามากกว่าเดิม ดวงตาคู่คมสีอำพันแข็งกระด้างบ่งบอกความทระนงและมั่นใจในตัวเอง เนื้อตัวเต็มไปด้วยมัดกล้ามแข็งแรงไปทุกสัดส่วนสมกับเป็นคาวบอยที่สืบเชื้อสายมาจากตระกูลของขุนนางเก่าแก่ในอังกฤษ สิ่งที่ชวนให้น่าลุ่มหลงมากที่สุดในตัวบุรุษผู้นั้นก็คือท่าทีซึ่งเต็มไปด้วยความหยิ่งยโสและไม่ยอมใครของเขามันเป็นเสน่ห์และความท้าทายให้อยากมีโอกาสนอนครางกระเส่าอยู่ใต้ร่างกำยำของเขาสักครั้ง
ความรู้สึกนึกคิดนั้นทำให้แพรวดาวค่อยๆ ลุกขึ้นไปยืนอยู่หน้ากระจก ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาอย่างพอใจ รูปร่างในวัยเกือบสี่สิบ ของเธอยังคงสมส่วน เต็มไปด้วยส่วนเว้าส่วนโค้งชวนมอง เพราะเธอดูแลตัวเองเป็นอย่างดีมาโดยตลอด เธอใคร่รู้เหลือเกินว่ายามที่ร่างกายอันหนั่นแน่นทรงพลังของเมสันเสียดสีถูไถเข้ากับร่างกายของเธอมันจะให้ความรู้สึกที่ซาบซ่านสยิวทรวงมากแค่ไหน...
เมื่อความปรารถนาอันพลุ่งพล่านอยู่เหนือความถูกต้องและเหตุผลทั้งมวล แพรวดาวจึงหยิบเสื้อคลุมมาสวม แล้วเร้นกายออกจากห้องนอนในยามดึกอย่างเงียบเชียบ ตรงไปยังห้องของผู้ชายที่ทำให้เธอหวั่นไหวตั้งแต่สบประสานกับดวงตาสีอำพันครั้งแรกในวันที่เดินทางมาที่นี่ ซึ่งเธอรู้ดีว่าห้องของเขาอยู่ตรงไหนในคฤหาสน์หลังนี้
ครั้นพอไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องของเมสันแล้ว แพรวดาวก็ไม่รีรอที่จะยกมือขึ้นเคาะประตู เพียงครู่หนึ่งประตูบานนั้นก็ถูกเปิดออกมาจากข้างใน สาวใหญ่คลี่ยิ้มยั่วยวนทันทีที่เห็นเจ้าของห้องอยู่ในชุดนอนลายทาง เปิดกระดุมเสื้อสองเม็ดบนเผยให้เห็นแผงอกกว้างล่ำสันที่มีขนสีทองขึ้นประดับเป็นแนวยาว ซึ่งถ้าเดาไม่ผิดขนเหล่านั้นคงจะเรียงตัวลงไปจนถึงหน้าท้องและหายเข้าไปในขอบกางเกงของเขาเป็นแน่
“มีอะไร?” เสียงห้าวดุเอ่ยถามอย่างห้วนจัด
“ฉันมีธุระอยากจะคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว...”
อดีตนางแบบสาวไฮโซเน้นคำว่า ‘ส่วนตัว’ พลางชม้ายสายตาขึ้นไปสบประสานกับดวงตาคู่คมอย่างมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเอง เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีชายใดรอดพ้นบ่วงพิศวาสของเธอได้สักคน
“มีอะไรก็ว่ามาเร็วๆ”
“ฮื้อ...ใจเย็นๆ สิคะ เราเข้าไปคุยกันข้างในห้องดีกว่านะ”
แพรวดาวไม่พูดเปล่า แต่ยกมือขึ้นลูบไล้แผ่นอกกำยำด้วยลีลาจัดเจน จงใจปลุกเร้าให้อีกฝ่ายลุกโชนเป็นไฟ ตาอันหยาดเยิ้มคล้ายกับดอกกระดังงาลนไฟลดลงมามองริมฝีปากหยักได้รูปที่เป็นเส้นชัดเจนบ่งบอกว่าเป็นคนรักแรงและดุเดือดน่าดู
“เอามือออกไปจากตัวผม!” เมสันพูดเสียงกร้าวดุ แววตากระด้างขึ้นฉับพลัน ไร้อารมณ์ร่วมใดๆ อย่างสิ้นเชิง
“แล้วถ้าอย่างนี้ล่ะ... คุณจะยังไล่ฉันอยู่อีกมั้ย หือ...”
เสื้อคลุมถูกถอดออกจากเรือนกายของสาวใหญ่ก่อนจะทิ้งมันให้ตกลงพื้นด้วยท่วงท่าแบบเชื้อเชิญในเรื่องเพศเต็มที่ อวดรูปร่างสมส่วนละลานตาภายใต้ชุดนอนสายเดี่ยวยาวแค่ครึ่งต้นขา และคนที่อยู่ในฐานะภรรยาใหม่ของพ่อก็คลี่ยิ้มออกมาแบบสมใจ เมื่อมือใหญ่ตะปบเข้าที่ไหล่ของเธอ แพรวดาวมั่นใจว่าอีกไม่ถึงอึดใจเขาจะต้องกระชากเธอเข้าไปจูบ หลังจากนั้นบทรักแสนเร่าร้อนที่เธอเฝ้าถวิลหาก็จะบรรเลงขึ้นจนเตียงของเขาแทบจะลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน และเธอก็พร้อมเสียยิ่งกว่าพร้อมที่จะถูกไฟสวาทของเขาพร่าผลาญให้มอดไหม้
แต่แล้วความหวังทั้งหมดทั้งมวลของแพรวดาวมีอันต้องพังครืนลงไม่เป็นท่า เมื่อมือใหญ่ที่กอบกุมอยู่บนต้นแขนของเธอนั้นเริ่มบีบแรงเข้าจนกระดูกแทบจะแตกละเอียด
“โอ๊ย!”
สาวใหญ่ร้องออกมาพลางนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ หากก็ยังแอบหวังอยู่ลึกๆ ว่าเมสันอาจจะเป็นผู้ชายที่ชอบทำอะไรรุนแรงตามบุคลิกของเขา ซึ่งถ้าเป็น เช่นนั้นเธอก็ไม่เกี่ยง ทว่าความหวังของแพรวดาวก็ดับวูบลงราวกับเปลวไฟที่ถูกมวลน้ำซัดสาดเข้าใส่อย่างจังอีกครั้ง เมื่อเสียงห้าวดุทรงพลังตวาดดังลั่นขึ้น!
“ถ้ายังรักจะเป็นเมียพ่อผมและอยากมีที่ซุกหัวนอน ก็อย่าทำตัวร่านกับผมหรือผู้ชายคนไหนอีก ไม่อย่างนั้นผมจะกระชากคุณไปหาพ่อผม และบอกเรื่องที่คุณกำลังทำเดี๋ยวนี้” มือใหญ่ผลักร่างของผู้หญิงตรงหน้าออกไปเต็มแรงอย่างรังเกียจ ทำให้แพรวดาวล้มก้นจ้ำเบ้ากระแทกลงกับพื้นจนเจ็บร้าวไปทั้งตัว แต่นั่นก็ยังไม่น่ากลัวเท่ากับดวงตาวาวโรจน์ของเขาที่กำลังสาดปะทุ ขณะมองมาเสมือนเปลวไฟจากโลกันตร์ก็ไม่ปาน
“คุณเมสัน!”แพรวดาวเม้มปากเข้าหากันแน่นจนปรากฏรอยย่นบริเวณ หางตาอย่างพยายามเก็บอาการที่สุด
“อย่าริอ่านมาทำแบบนี้กับผมอีก ต่อให้คุณมาแก้ผ้าต่อหน้าผม ผมก็ไม่คิดจะใช้ผู้หญิงร่วมกับพ่อและไม่เคยคิดอยากจะแตะต้องคนที่ทำตัวไร้ยางอายและน่าสมเพชแบบคุณ” วาจาผรุสวาทของเมสันเต็มไปด้วยความเจ็บแสบ ไม่ไว้หน้า ไม่รักษาน้ำใจ ดูถูกดูแคลนและเย้ยหยันระคนกัน แต่มันก็เหมาะสมแล้วสำหรับผู้หญิงที่ไร้ยางอายเช่นแพรวดาว!
“เมสันคะ...”
“กลับไปซะ! ถ้าไม่อย่างนั้นผมจะเป็นคนพาคุณไปส่งเอง! หรือจะต้องให้ผมไปเรียกพ่อมาพาคุณกลับไป”
เมสันคำรามด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดเสมือนเสือที่ถูกกระตุกหนวดจนสามารถตะปบคนให้ตายได้ง่ายๆในชั่วพริบตา
“อย่านะคะ!” แพรวดาวรีบตาลีตาเหลือกร้องห้าม
“ฉันจะกลับไปห้องเดี๋ยวนี้แหละ”
สาวใหญ่รีบลนลานลุกขึ้น แล้วหมุนตัวกลับด้วยความรู้สึกที่เจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจและอับอายเป็นที่สุด ความโกรธที่มาพร้อมกับการดูแคลนของเมสันนั้นช่างน่ากลัวเหลือเกิน
“เดี๋ยว!”
เสียงห้วนๆ ของเมสันที่เรียกขึ้นทำให้อดีตนางแบบสาวใจชื้นขึ้นมาทันทีพลางแอบหวังว่าบางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจเรียกเธอเข้าไปในห้องก็เป็นได้
“คะ” เธอหันมาพร้อมทั้งส่งยิ้มหวานหยดปานน้ำผึ้งเดือนห้า
“เอาเสื้อคลุมของคุณกลับไปด้วย”
ประโยคดังกล่าวทำเอาแพรวดาวหน้าเจื่อนลงเป็นครั้งที่สอง รีบก้มลงหยิบเอาเสื้อคลุมขึ้นมาสวมใส่ คราวนี้เธอเดินแกมวิ่งกลับห้องของตัวเองอย่างไม่มีความหวังใดๆ หลงเหลืออีกต่อไป
สาวน้อยที่เพิ่งกลับออกมาจากห้องดูดาวยืนตัวแข็งเป็นก้อนหินกับเหตุการณ์ตรงหน้า แม้จะไม่ได้ผูกพันกับมารดาสักเท่าไหร่ แต่ก็อดเสียใจและอดสูกับการกระทำอันน่าละอายเช่นนั้นของคนเป็นแม่ไม่ได้ เธอไม่เคยรู้ว่าก่อนที่แพรวดาวจะแต่งงานกับไวแอต แพรวดาวใช้ชีวิตส่วนตัวเช่นไร แต่สิ่งที่แม่ของเธอทำไปเมื่อครู่นี้มันเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมและผิดต่อสามีอย่างร้ายแรง
“โธ่...คุณทำไมถึงทำแบบนี้”
เสียงหวานใสเผลอพึมพำออกมาเบาๆ อย่างสะท้อนใจ แต่นั่นก็มากพอที่ทำให้เมสันซึ่งกำลังจะปิดประตูห้องหันขวับมองไปยังต้นเสียงทันที
“นั่นใคร!!??”
เสียงเข้มดุที่ดังขึ้นทำให้ละอองฝนได้สติ และรีบยกมือปิดปากตัวเองอย่างตื่นตระหนกใจ โชคดีที่บริเวณซึ่งเธอยืนอยู่นั้นค่อนข้างมืดเขาจึงไม่เห็นเธอ