บทที่ 4-2 หวาดกลัว
หลังจากประชุมเสร็จตอนเกือบหนึ่งทุ่ม หนึ่งฤทัยหิวโซแต่ก็ต้องฮึบไว้ วันนี้ผอ.สั่งทำโอที ดูท่าคงจะต้องสั่งของกินให้ไปส่งที่บริษัทแล้วล่ะ แต่ยังไม่ทันกดสั่ง ร่างสูงใหญ่ก็เอ่ยถามเสียงขรึม
“หิวแล้วยัง”
“เอ่อ ค่ะ”
“งั้นไปกัน”
“ไปไหนคะ”
“ก็ไปกินชาบูร้านนั้นกันน่ะสิ” หนึ่งฤทัยฟังแล้วงง ไหนว่าต้องกลับบริษัทไปทำโอทีไม่ใช่เหรอ ผอ.เดินนำหน้าไปแล้วสองสามก้าว เมื่อเห็นว่าหนึ่งฤทัยยังยืนเด๋ออยู่จึงเอี้ยวตัวหันกลับมา
“หรือว่าไม่อยากกิน”
“อยากค่ะ” หนึ่งฤทัยตอบเสียงดังฟังชัด “ผอ.รู้ได้ยังไงว่าหนึ่งอยากกินร้านนี้คะ”
“คุณเล่นเปิดรีวิวร้านแล้ววางไว้ ไม่ใช่ว่าจงใจให้ผมอยากกินกับคุณหรือไง”
เปล่าสักหน่อย... หนึ่งฤทัยร้องท้วงในใจ คนอะไรคิดเองเออเองเก่ง แต่ในเมื่อผอ.จะพาไปกินทั้งที หนึ่งฤทัยก็ยิ้มหน้าบาน ดีใจที่จะได้กินของอร่อยๆ ชาบูๆๆ
“แล้วผอ.ไม่ขึ้นรถเหรอคะ”
“ร้านอยู่ห่างจากตรงนี้แค่สี่ป้ายรถเมล์ เราเดินไปกันเถอะ บอกคนขับรถให้กลับบริษัทไปได้เลย”
“เอ่อ ค่ะ”
นี่เป็นครั้งแรกที่หนึ่งฤทัยเดินข้างๆ ผอ. ถนนหนทางและบาทวิถีในเมืองกรุงค่อนข้างแย่เมื่อเทียบกับหลายประเทศที่ผอ.เคยไปอยู่มา หนึ่งฤทัยถึงกับหัวเราะเมื่อได้ยินผอ.สบถ แต่ก็ชักจะยิ้มไม่ออกเมื่อผอ.หยุดเดิน มองเธอและมองเข้าไปที่โรงแรมระดับสามดาวแห่งหนึ่ง ผอ.ก็ถอนหายใจออกมาเฉยเลย
อะไรกันเล่า!
“เล่าเรื่องของคุณให้ผมฟังหน่อยสิ”
“ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกค่ะผอ. เด็กจากครอบครัวชนชั้นกลาง เรียนจบแล้วก็หางานทำ ใช้ชีวิตไปให้รอด”
“แล้วครอบครัวคุณล่ะ”
“ไม่มี”
“หมายความว่ายังไง”
“หนึ่งตัวคนเดียวค่ะ ช่วงที่หนึ่งกำลังสอบเข้ามหาลัย พ่อกับแม่หนึ่งถูกรถชนตาย... มันตื้อๆ ไปเลยที่อยู่ดีๆ ก็ไม่เหลือใครแล้ว บ้าน รถ ทุกอย่างที่พ่อกับแม่ทิ้งไว้ถูกขายทอดตลาดใช้หนี้จนหมด หนึ่งเริ่มต้นจากศูนย์มาถึงทุกวันนี้ได้ หนึ่งก็ดีใจมากแล้วค่ะ”
“คุณเก่งมากและทำได้ดีแล้ว”
“แหะๆ เพิ่งมีผอ.ที่ชมหนึ่งเลยค่ะ” หนึ่งฤทัยหัวเราะ แต่ไม่รู้ทำไมน้ำตามันร่วง ผอ.จึงหยุดเดินเพื่อสบตาและย้ำอีกครั้ง
“คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว คุณยังมีผม”
“...”
“ที่ผมบอกว่าอยากให้คุณเป็นคนรัก ผมยังไม่ได้ล้มเลิกหรอกนะ”
“เอ้า! น้องหนึ่ง มาด้วยเหรอ ทางนี้ๆ ผอ.คร้าบ พวกผมรักผอ.ที่สุดเลยคร้าบบ” เสียงพี่บีลอยมาก่อนที่หนึ่งฤทัยจะก้าวถึงหน้าร้านชาบูเจ้าดังเสียอีก มีลูกค้ามาต่อคิวยาวเฟื้อย ส่วนพี่บีกับก๊วนสายบุฟเฟ่ต์ก็กำลังรอคิวเหมือนกัน หนึ่งฤทัยถึงได้หลุดจากสายตาจับจ้อง และรีบเบือนหน้าหนีไป
“มานั่งกับพวกพี่ก็แล้วกันนะ ผอ.ครับ เชิญทางนี้เลยครับ”
“มีเจ้ามือแล้วยัง”
“ยังเลยคร้าบผอ.”
“ผมเลี้ยงเอง”
“เย้ๆ เอ้าทุกคน ขอบคุณผอ.เร็วเข้า” พี่บีเฮฮาเสมอ เขาเป็นซาลารี่แมนดีเด่น หน้าตาดี บุคลิกดี มนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศและทำงานเก่งหาตัวจับได้ยาก พี่บีเป็นไอดอลอีกคนของหนึ่งฤทัยเลยก็ว่าได้ พี่บีโอบไหล่หนึ่งฤทัย ชี้ให้ดูเมนูน่ากินแต่ละอย่าง
“ตาแดงๆ นี่นา โดนผอ.ดุมารึไง”
“ป...เปล่าค่ะพี่”
“ขอโทษทีนะ ผมอยากดูเมนูสักหน่อย” ผอ.แทรกตัวเข้ามา และจ้องมือของพี่บีที่วางแปะอยู่บนไหล่หนึ่งฤทัย แค่สายตาก็แผ่รังสีไม่เป็นมิตรออกมาเต็มที่และมองพี่บีเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง แต่ดูเหมือนพี่บีจะยังไม่รู้ตัว
“เชิญครับผอ. ผมแนะนำเมนูเด็ดของร้านนี้ให้นะครับ”
“ผมดูเองได้”
“อ่ะได้ครับๆ หนึ่งขยับมาทางนี้ๆ ให้ผอ.ดูบ้าง”
“เธอมากับผม”
เงียบ...
“ของโปรดหนึ่งยังเป็นลูกชิ้นไส้ชีสอยู่รึเปล่า” พี่บีพูดโพล่งออกมาโดยไม่สนบรรยากาศ หนึ่งฤทัยก็พยักหน้า น้ำลายยืดขณะจ้องเมนู คือใครจะตีกันก็ไม่รู้เรื่องแล้ว ตอนนี้สมองถอดไปจ่อที่หน้าเตาชาบูอย่างเดียว ตอนนั่งก็ถูกพี่บีลากไปนั่งด้วย ส่วนผอ.ปล่อยให้พวกสาวๆ รุมเอาใจไปตามสบาย
“เอากุ้งเพิ่มอีกมั้ยหนึ่ง”
“จัดมาเลยค่ะพี่” หนึ่งฤทัยตั้งอกตั้งใจเรียงกุ้งแกะเปลือกไว้ที่ฉากกั้นหม้อชาบู พอกุ้งสุกก็สีแดงสวยงาม จิ้มชีสยืด จิ้มน้ำจิ้มแล้วประคองเข้าปาก หนึ่งฤทัยคีบกุ้งส่งให้ทุกคนทั่วถึง ใครอยู่ใกล้ก็ได้มากหน่อย แต่ผอ.อยู่ไกลก็เลยไม่ได้กิน
สายตาของพี่บีกระทบชิ่งกับผอ. พี่บียิ้มมุมปากและเคี้ยวกุ้งที่หนึ่งฤทัยคีบให้ช้าๆ ถ้าผอ.คิดว่าจะแย่งเด็กคนนี้ไปจากเขาได้ก็ลองดูสิ
ช่วงบ่ายวันต่อมา หนึ่งฤทัยยุ่งอยู่กับการติดต่อประสานงานให้ผอ. จัดตารางการประชุม ทำรายงานสรุป ติดตามผลรวมทั้งวิ่งไปโน่นมานี่ในฐานะตัวแทน และดูเหมือนผอ.จะเพิ่มปริมาณงานให้มากขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ไม่ได้กระดิกออกจากห้องผอ.เลย
อึดอัดจังเลยแหะ...
สายตาของหนึ่งฤทัยจ้องที่หน้าคอม นิ้วรัวแป้นพิมพ์ไม่ได้หยุด แต่สัญชาตญาณร้องเตือนตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่ากำลังถูกจ้องใส่ต้นคอขาวๆ จนตอนนี้เธอเหงื่อแตกพลั่กๆ แล้ว
เอ... เมื่อวานตอนกินชาบูเสร็จและแยกย้ายกันกลับ ผอ.ก็ไม่มีท่าทีอะไรนี่นา... ผอ.ขึ้นแท็กซี่กลับ ส่วนเธออาศัยรถพี่อีกคนกลับคอนโด เอ... หรือว่าเธอทำงานตกหล่นอะไรตรงไหนรึเปล่านะ เดาไม่ออกแล้ววุ้ย
“ผอ.คะ เอกสารที่ต้องการได้แล้วค่ะ” หนึ่งฤทัยส่งข้อมูลเข้าเมลให้ผอ. ก่อนจะยืดตัวบิดขี้เกียจ พอหันไปทางผอ.ก็พบว่าผอ.หน้าบูดสุดๆ
อารมณ์ไม่ดีโคตรๆ เลยนี่หว่า แง...
“เขาเคยขอคุณเป็นแฟนแล้วยัง”
“หา?”
“เขาเองก็ดูชอบคุณนะ คุณก็ดูจะมีความสุขเวลาอยู่กับเขา ทำไมไม่ลองสารภาพไปตรงๆ ล่ะ”
หนึ่งฤทัยหมุนเก้าอี้หันมาประจันหน้ากับผอ. ตั้งใจจะตอกกลับไปว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่พอสบตาผอ.เข้าแค่แวบเดียว สัมผัสที่เคยมีให้กันยังสะท้านติดอยู่ทั่วทุกอณู กล้ามเนื้อทุกมัดตื่นตัว พากันตะโกนแข่งออกมาว่าต้องการอีก เอาอีก
อย่าบอกนะว่าผอ.ของขึ้นอีกแล้ว...