บทที่ 3-2 ข้อกล่าวหา
เด็กหนอเด็ก
เด็กจนไม่ประสาอะไรเลย ตั้งใจทำงาน กระตือรือร้น แต่เวลาโกรธ ดวงตาจะไหวระริกเหมือนเปลวไฟไม่มีผิด อะไรบางอย่างในตัวหญิงสาวคนนี้สะกิดความสนใจ ผอ.ติณณ์จึงตามตัวหนึ่งฤทัยมาจดรายละเอียดงานทันทีเมื่อถึงเวลาเข้างาน
“ทราบแล้วค่ะ”
หนึ่งฤทัยสุภาพแต่วางตัวห่างเหิน พูดเพียงแค่ว่า ได้ค่ะ ทราบแล้วค่ะ หนึ่งจะตรวจสอบให้ค่ะ ในใจหนึ่งฤทัยกำลังรอจังหวะที่ผอ.จะพูดอะไรที่ไม่เกี่ยวกับงาน เธอจะได้แสดงออกว่าไม่สนใจ มันคือศักดิ์ศรี แต่ผอ.ไม่พูดเล่นอะไรด้วยเลยสักนิด ระดับความเป็นกันเองแทบไม่มี ทุกอย่างเป็นการเป็นงาน เคร่งขรึมและคาดหวังการทำงานที่มีประสิทธิภาพด้วย
จูบนั่น มันก็แค่เรื่องล้อเล่นเท่านั้นนั่นแหละ
ตั้งแต่ผอ.ติณณ์เข้ารับตำแหน่งในบริษัท แต่ละวันก็มีหญิงสาวแวะเวียนมาหาผอ.แทบจะไม่ซ้ำหน้ากันเลย หนึ่งฤทัยลองนับๆ ดูแล้วก็ประมาณสิบห้าคน แม่เจ้า... สับรางยังไงกันนะ เก่งแท้
“คุณติณณ์คะ มีร้านอาหารอิตาเลียนเปิดใหม่แถวสุขุมวิท เราไปกินมื้อค่ำด้วยกันดีมั้ยคะ”
“ก็ดีนะ แต่ผมมีงานต้องทำ”
“ให้ผู้ช่วยของคุณทำไปสิคะ” สาวเจ้าพยักพเยิดมาที่หนึ่งฤทัย เจ้าหล่อนส่งเสียงหวานแหลม เดี๋ยวต่ำเดี๋ยวสูงเหมือนนกหงส์หยก เกาะติดหนึบตั้งแต่เที่ยงแล้ว และเธอเพียรพยายามเข้าหาผอ.แทบทุกวันจนคนในบริษัทคุ้นตา
“เธอเป็นลูกสาวของประธานบริษัทค้าน้ำมัน รวยม๊ากกก ชื่อคุณพลอยใส มีข่าวซุบซิบกันว่าเธอชอบผอ.มากๆ ถึงกับบินไปยุโรปทุกอาทิตย์เพื่อไปเฝ้าผอ.เชียวนะ”
เสียงซุบซิบลอยเข้าหูหนึ่งฤทัย พวกช่างเม้าธ์จึงต้องการถามความเห็นของหนึ่งฤทัย
“น้องหนึ่งคิดว่าไง คนนี้วินหรือคนเมื่อวานวินกว่า”
“เอ่อ...” เธอถือคติขีดเส้นไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของผอ. และก็ไม่มีวันบอกใครด้วยว่าเธอเองก็เกือบจะตกไปอยู่ในฮาเร็มของผอ. เรียกว่าฉิวเฉียดสุดๆ
ถึงจะหงุดหงิดอยู่บ้าง ไม่เข้าใจว่าในเมื่อผอ.มีสาวในสต็อกเยอะขนาดนี้แล้วยังจะมากวนประสาทเธอทำไม หรือแค่ต้องการลองของแปลกใหม่ ยิ่งคิดหนึ่งฤทัยก็ยิ่งเคือง ในช่วงเวลาทำงาน บางทีก็มีสาวสวยบาดตาไม่ซ้ำหน้ามาติดต่อขอพบ หนึ่งฤทัยก็ไม่ยุ่งอะไร ตราบใดที่จ่ายค่าแรงงามๆ ทุกเดือน ผอ.จะไปผ่อนคลายกับสาวคนไหนก็ตามสบายจ้า
“ฮิฮิๆ ดูนั่นๆ คุณพลอยใสคนสวยนั่งตักผอ.แล้ว”
“วิ้วว เธอจูบผอ.ด้วยว่ะ”
“งานการไม่ต้องทำกันล่ะ ดูสิๆ”
พวกสายสืบพากันแอบมองเข้าไปด้านในห้องผอ. หนึ่งฤทัยก็ว่าจะไม่ยุ่งแล้วเชียว แต่ก็อดไม่ได้ แกล้งเดินเข้าไปขัดจังหวะอย่างสุภาพ
“ผอ.คะ ได้เวลาเข้าอบรมแล้วค่ะ”
“ได้” ผอ.ลุกขึ้นทันที “ผมต้องไปเข้าอบรม”
“นานมั้ยคะ”
“นานค่ะ” หนึ่งฤทัยตอบด้วยรอยยิ้มพลางเปิดประตูรอ “เชิญคุณพลอยใสกลับไปพักผ่อนก่อนค่ะ หัวข้อการอบรมค่อนข้างน่าเบื่อ หากคุณพลอยใสสนใจสามารถเข้าร่วมฟังได้นะคะ แต่อาจจะยืดเยื้อหลายชั่วโมง”
“ประชุมเรื่องอะไร”
“มารยาททางสังคมในเวลาทำงานค่ะ”
“หึ!” พลอยใสสะบัดตัวลุกขึ้น เดินฉับๆ ออกไป ก่อนออกก็จ้องตาหนึ่งฤทัยเขม็ง ก่อนจะกระซิบขู่ “เธอคงไม่รู้ว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร รับรองเลยว่าเธอเดือดร้อนแน่”
“หนึ่งยินดีรับคำติชมค่ะ”
หนึ่งฤทัยค้อมศีรษะเพื่อส่งคุณหนูพลอยใสออกไป ก่อนจะถล่มเจ้าของห้องด้วยแฟ้มงานกองโต แต่ผอ.ก็เอาแต่หัวเราะในลำคอ
“ทำไมถึงรู้ว่าผมอยากไล่แม่นกหงส์หยกออกไปเต็มแก่ล่ะ”
“หัวคิ้วผอ.ย่นขนาดนั้น เด็กสามขวบก็ดูออกค่ะ คราวหน้าหนึ่งจะเข้ามาบอกว่าที่ปรึกษาด้านสมรรถนะทางเพศของคุณโทรมาแจ้งข่าวร้ายก็แล้วกันนะคะ”
หนึ่งฤทัยวางแฟ้มงานจนสูงท่วมหัวผอ. ล้อมกรอบเป็นกำแพงเมือง “กรุณาอ่านและเสนอความเห็นให้เสร็จเรียบร้อย หนึ่งจะขอบคุณมากค่ะ”
พูดจบแล้วก็ขยับไปยืนคุมเชิง รอรับแฟ้มที่อ่านแล้วกลับคืน มือแกร่งยื่นแฟ้มส่งให้ แต่พอหนึ่งฤทัยจะรับ ผอ.ก็ตวัดแฟ้มหนี
“เย็นนี้ไปหาอะไรกินด้วยกันมั้ย”
“หนึ่งมีนัดกินข้าวแล้วค่ะ”
“ที่ไหน”
“ร้านป้าเพ็ญข้างตึกค่ะ”
“ผมอยากจะลองไปกินร้านประจำของคุณบ้าง”
“เป็นหนึ่ง หนึ่งไม่ไปหรอกนะคะ”
“ไม่อร่อยงั้นรึ”
“เปล่าค่ะ พวกสาวๆ ออฟฟิศที่อยู่ละแวกนี้รอรุมทึ้งคุณอยู่” หนึ่งฤทัยพูดจริงๆ ไม่ได้ใส่สีตีไข่ “พวกสาวๆ รุมหนึ่งแน่ถ้าผอ.ลงไปกินข้าวร้านนั้น”
“ทำไม”
“พวกเธอต้องการข้อมูลค่ะ หนึ่งขี้เกียจพูดถึงผอ.เต็มแก่”
“เรื่องแบบไหน”
“แน่ใจเหรอคะว่าอยากฟัง”
“แน่นอน” ร่างกำยำเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างสบายอารมณ์ “ผมอยากรู้ว่าคุณพูดถึงผมว่าอะไร”
หนึ่งฤทัยกลืนน้ำลาย “หนึ่งบอกสาวๆ ไปว่าผอ.พร้อมจะกินหัวหนึ่งตลอดเวลา เป็นเครื่องผลิตงานที่ปางานใส่จนน่วม”
“ก็ใกล้เคียงนะ” เขายิ้ม ก่อนจะประสานนิ้วเข้าหากัน “เดาว่าพวกนั้นคงจะล็อกคอคุณไว้เลยสินะ”
“ทั้งล็อกทั้งล้วงเลยคะ” หนึ่งฤทัยพูดเสียงอ่อยๆ ยอมรับว่าผู้หญิงสมัยนี้สายรุกกันมากๆ “ใครๆ ก็อยากรู้ว่าผอ.เป็นคนแบบไหน”
“แล้วคุณล่ะ รู้แล้วยังว่าผมเป็นคนแบบไหน”
“คิดว่ารู้แล้วคะ” หนึ่งฤทัยตอบพลางรับแฟ้มงานที่ลงชื่อเซ็นแล้ว เตรียมส่งให้พี่เปิ้ลซึ่งเป็นเลขาของผอ. ไม่ทันจับสังเกตน้ำเสียงของผอ.ว่าเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น
หนึ่งฤทัยชักจะทนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่ไหว เลยรวบแฟ้มเอกสารและหาเรื่องหลบ
“หนึ่งไปค้นเอกสารก่อนนะคะ”
หนึ่งฤทัยหลบไปที่ห้องเก็บเอกสาร เฮ้อ... คงอีกนานกว่าเธอจะกล้าสบตาผอ.ตรงๆ ได้
หลบอยู่ในนี้จนกว่าผอ.จะเซ็นเอกสารเสร็จก็แล้วกัน หนึ่งฤทัยถือโอกาสจัดเอกสาร ถึงจะเปิดพัดลมระบายอากาศแล้ว แต่ก็ยังอุดอู้ ดังนั้นเธอจึงคลายผ้าพันคอออกเล็กน้อย พับแขนเสื้อขึ้นมาถึงข้อศอกก่อนจะยกลังแฟ้มที่ต้องการหาลงมาจากชั้น แต่ก้มๆ เงยๆ สักพัก ผอ.ก็เข้ามายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“ผอ.เซ็นเอกสารเสร็จแล้วเหรอคะ”
“ใช่”
เร็วจังวุ้ย...
“ผอ.ต้องการเอกสารอะไรคะ เดี๋ยวหนึ่ง...”
เธอยังพูดไม่ทันจบก็ต้องอึกอักเมื่อชายรูปงามเคลื่อนไหวฉับพลัน ดันร่างหนึ่งฤทัยไปชิดผนังห้อง ท่อนแขนกำยำยกร่างเธอขึ้นจากพื้นเล็กน้อย กดแนบตัวตนแข็งชันตรงซอกขาอ่อน ทำให้หนึ่งฤทัยร้องตกใจแล้วเงียบเสียงลงเมื่อริมฝีปากทาบลงมาอีกครั้ง
“ผมจะถามอีกครั้ง คุณจะยอมเป็นคนรักของผมมั้ย”
“จะถามกี่ครั้ง คำตอบก็คือไม่ค่ะ” หนึ่งฤทัยพยายามขัดขืนแล้ว แต่ยิ่งถูกตรึง หนึ่งฤทัยดิ้นขลุกขลัก ห้องเก็บเอกสารนี้อาจจะมีคนโผล่หน้ามาได้ทุกเมื่อเพราะบานประตูไม่ได้ลงกลอน แต่ผอ.ไม่ทุกข์ไม่ร้อนแต่ประการใด
“หยุดก่อน... อื้อ...”
เขาทำให้หนึ่งฤทัยเงียบลงด้วยริมฝีปาก ใช้จูบดูดดื่มแทนคำพูดทุกๆ อย่าง ให้หนึ่งฤทัยรู้ว่าที่ผ่านมาเขาอดทนอดกลั้นมากเพียงใด ทั้งริมฝีปาก ลิ้น มืออันร้อนระอุ ผอ.เสียดสีร่างกายท่อนล่างอย่างเร่าร้อน เคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณและไม่รับฟังใดๆ นอกจากเสียงร้องครวญครางของหนึ่งฤทัย
“ทำเสียงครางน่ารักใส่ผมอีกแล้วนะ”
ปลายนิ้วของผอ.ลากวนอยู่ตรงยอดอกซึ่งตั้งชูชัน หน้าอกของเธอมันอวบเกินตัว และบราเซียร์ถูกผอ.ปลดออกอย่างง่ายดาย
“อา...”
ริมฝีปากของหนึ่งฤทัยบวมเจ่อจากรสจุมพิตที่ยังคงบดขยี้ไม่ปล่อย มือแกร่งโอบประคองเอวของเธอไว้ ปลดกระดุมเสื้อออกจนเผยหน้าอกเปล่าเปลือยแล้วใช้อุ้งปากร้อนๆ ครอบครอง ดูดกลืนอย่างแรง
ลิ้นของผอ.ร้อนลวก ตวัดไปมารอบๆ ยอดอกสีชมพูแล้วดูดช้าๆ แทะเล็มอย่างเอร็ดอร่อย
“อึ่กก...”
“นุ่มไปทั้งตัวเลยนะ”
ต่อยใส่ไปสักทีสิ... หนึ่งฤทัยคิด แต่กลับยอมเงยหน้าขึ้นรับจูบอีกระลอก หนึ่งฤทัยหอบหายใจแรง ความกระหายอยาก ความร้อนรุ่มและความสับสนไหลรวมอยู่ตรงหน้าท้อง รู้สึกได้ถึงความเครียดแข็งที่เสียดสีกาย ไอร้อน เหงื่อบนร่างและกลิ่นหอมของบุรุษกำลังกล่อมให้หนึ่งฤทัยหลอมละลาย
เธอเบือนหน้าหลบสายตาคมกริบ ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อไวเบรเตอร์ขนาดเล็กเท่านิ้วจี้กระตุ้นยอดอกเต่งตูม
“อ๊า...”
“ความรู้สึกไวจริงนะ น่ารักมาก”
“ย...อย่าค่ะ พอแล้ว”
หนึ่งฤทัยวิงวอน กลัวว่าอาจจะมีคนเข้ามาในนี้จึงคาบผ้าพันคอของตัวเองไว้เพื่อกลั้นเสียงร้อง มือแกร่งจึงขยับไวเบรเตอร์ ไม่ใช่ขยับออก แต่เลื่อนลงไปยังหว่างขาของหนึ่งฤทัย
“ไม่ ไม่เอา”
“แต่ดูเหมือนร่างกายคุณจะชอบนะ” ผอ.บดจูบเธอขณะแนบไวเบรเตอร์ไว้ขณะเสียดสีช่วงล่างเข้าหากัน ขยับโยก บดเอวเข้าหาเป็นจังหวะไปพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนจากไวเบรเตอร์ มันร้อนมาก ร้อนจนหนึ่งฤทัยตาลาย
“อึ่กก... อ๊า... อ๊า... หนึ่ง... หนึ่งจะเสร็จ...”
เธอทะยานขึ้นสู่จุดสุดยอดอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะทรุดตัวลงเกาะเกี่ยวไหล่กำยำไว้พลางหอบหายใจไม่เป็นส่ำ มันสับสนและเรียบเรียงความคิดไม่ได้ไปชั่วขณะ แต่ความรู้สึกที่เด่นชัดที่สุดในตอนนี้ก็คือดีเหลือเกิน... ไม่อยากจะคิดอะไรอีกแล้ว
“ในสายตาคุณ ผมเป็นคนยังไง”
“ก็...”
หนึ่งฤทัยรู้สึกอึดอัดที่จะตอบ ไม่รู้ตัวเลยว่าบทสนทนาลากมาถึงจุดไล่ต้อนเธอได้อย่างไร การล้อเล่นจบลง และผอ.กำลังสบตาเธอนิ่ง หนึ่งฤทัยไม่ต้องการตอบคำถามนี้
“ผอ.ทำงานต่อเถอะค่ะ หนึ่งจะไปจัดการเอกสารตามที่ผอ.สั่งให้เสร็จ”
หนึ่งฤทัยรวบเสื้อ กลัดกระดุมแล้วหมุนตัวออกจากห้องเก็บเอกสาร รีบๆ ออกไปก่อนจะอึดอัดมากไปกว่านี้ อย่างน้อยก็ขอให้เธอได้พักหายใจหายคอและหยุดนึกถึงผอ.บ้างเถอะ