เมียในนาม
ตอนที่ 3
เมียในนาม
“มินดา”
ธีภพเรียกชื่อหญิงสาวที่เพิ่งก้าวเดินลงจากรถของเขาก่อนที่จะรีบเดินไปหาตัวเธอ
“ดึงกระโปรงลงมาอีกได้ไหม ผมว่าที่คุณใส่อยู่มันดูสั้นไปนะ”
ชายหนุ่มไม่ใช่แค่เพียงพูดแต่เขาใช้มือทั้งสองข้างพยายามขยับกระโปรงของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาเพื่อหวังให้มันลงมายาว กว่าเดิม
“มันดึงได้แค่นี้ล่ะค่ะถ้าคุณไม่ชอบวันหลังฉันก็จะไม่ใส่มา”
“ผมไม่ได้สนใจว่าคุณจะใส่กระโปรงสั้นหรือกระโปรงยาวแต่แค่เห็นว่าที่นี่เป็นบริษัทของผมก็เลยอยากให้พนักงานแต่งตัวเรียบร้อย”
ธีภพรีบเดินนำเข้าบริษัทไปเมื่อรู้ว่าตอนนี้เขาเผลอแสดงอาการให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขากำลังหวงเธอทั้งที่ตลอดเวลาที่แต่งงานมาเกือบ 1 เดือนเขาเลือกที่จะทำเป็นเฉยเมยไม่คิดแม้แต่จะยุ่งเกี่ยวหรือสัมผัสตัวเธอในฐานะภรรยาเลย
“คุณทำดีได้แค่นี้หรือ ถ้าทำแบบนี้ผมก็ไม่ต้องให้เลขาทำหรอกแม่บ้านทำความสะอาดก็ทำได้”
ท่านประธานเดินออกมาจากห้องทำงานวางแฟ้มลงบนโต๊ะทำงานของเลขาที่ฟังดูแล้วคล้ายๆกับเสียงโยนมากกว่า
“มันมีอะไรผิดพลาดหรือคะ”
มินดาถามด้วยท่าทางตกใจ เธอคิดว่าเอกสารที่อยู่ในแฟ้มเธอได้เตรียมทุกอย่างครบตามที่เจ้านายต้องการ
“คุณลองเปิดดูเองแล้วกันถ้ายังหาไม่เจอก็ไม่สมควรเป็นเลขา”
ธีภพพูดต่อว่าภรรยาที่ทำงานในตำแหน่งเลขาด้วยเสียงดังจนลั่นบริษัท พนักงานทุกคนต่างหลบสายตาแต่ก็ตั้งใจฟังว่าสามีภรรยาคู่นี้กำลังมีเรื่องอะไรกัน
“โถ...ภรรยาของท่านประธานทำอะไรไม่ถูกใจคุณธีภพหรือคะ ถึงได้โดนต่อว่าเสียงดังแบบนี้ เชอรี่บอกแล้วไงว่าถ้ามีอะไรก็ให้ถามเชอรี่ได้จะได้ทำถูกใจท่านก็อย่างว่าคุณสองคนคงไม่ค่อยได้ รู้จักกัน ไม่เหมือนกับฉันที่รู้จักท่านประธานสนิทสนมกันจนรู้ไปถึงหัวใจ”
เชอรี่ได้ทีรีบเดินมาซ้ำเติมภรรยาเจ้านายเพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าถึงเวลานี้มินดาคงรู้ว่าเธอกับท่านประธานเคยเป็นอะไรกัน
“ขอบคุณนะคะแต่ในฐานะเมียท่านประธานฉันคงไม่ไปถามอะไรกับขนมกรุบกรอบกินเล่นอย่างคุณหรอกมันเสียเวลา”
มินดาโต้กลับแล้วเธอหลบสายตากลับมามองที่งานที่เธอต้องแก้ไขทันที หญิงสาวไม่อยากจะเสียเวลาพูดอะไรกับเชอรี่อีกต่อไปถึงทั้งสองจะมีความสัมพันธ์อะไรกันและจะยุ่งเกี่ยวกันอยู่ไหม มินดาก็ไม่สนใจ เธอสนใจแค่ว่าเธอแต่งงานครั้งนี้เพื่อทำให้ครอบครัวของเธอประสบความสำเร็จในธุรกิจและเมื่อไหร่ที่พ่อของเธอสามารถยืนด้วยขาของตัวเองได้ เธอก็พร้อมจะหย่าให้เขาในวันที่จะไม่กระทบต่อครอบครัวเธอ
นับตั้งแต่วันนั้นมาก็ยังมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆธีภพมักจะมาตำหนิภรรยาของเขาในการทำงานต่อหน้าพนักงาน คนอื่นมันสร้างความอับอายให้กับตัวมินดาเป็นอย่างมากเพราะเธอกับเขาเป็นเลขาเจ้านายกันแทนที่เขาจะเรียกเธอไปตำหนิในห้องแต่เขาเลือกทำแบบนี้คงเพราะหวังจะบีบให้เธอทนไม่ไหวและขอหย่ากับเขา
“เชอรี่ผมรบกวนคุณช่วยสอนมินดาชงกาแฟให้ผมหน่อยนะทนกินรสชาติไม่ได้เรื่องมาหลายวันแล้ว”
ธีภพหันไปส่งยิ้มให้กับอดีตคู่ขาก่อนที่จะหันมามองหน้าภรรยาส่ายหัวเหมือนรู้สึกว่าคนตรงหน้าไม่ได้เรื่องไม่ได้อย่างใจ
“ตามมานะคะ เดี๋ยวฉันจะสอนการชงกาแฟแบบที่บอสชอบให้คุณดู”
เชอรี่เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังได้เปรียบก็มองทอดสายตาหยามเหยียดไปยังเมียของท่านประธาน
“ดูแล้วก็จำด้วยนะคะเพราะฉันคงไม่มีเวลามาสอนคุณบ่อยยังต้องทำงานอีกหลายอย่างให้คุณธีภพ”
มินดาเลือกที่จะไม่พูดอะไรเพราะเธอต้องการให้เขาสอนเธอชงจริงๆจะได้ไม่ต้องถูกตำหนิอีกจึงปล่อยให้เชอรี่พูดในสิ่งที่เธออยากพูดแต่มินดาก็ไม่เก็บคำพูดเหล่านั้นมาคิดอะไรให้ต้องเสียความรู้สึก
“น่าสงสารคุณธีร์ คงต้องอดทนกินกาแฟรสชาติไม่ได้เรื่องมาหลายวันกว่าจะกล้าบอกให้คุณมาถามเชอรี่ก็อย่างว่าคนไม่ได้รักก็ย่อมจะไม่รู้ใจกันเป็นธรรมดา”
พนักงานสาวพูดทิ้งท้ายให้อีกฝ่ายรู้สึกเสียใจและกำลังจะก้าวออกจากประตูห้องครัวแต่กลับถูกมินดาดึงแขนของเธอไว้
“ขอบคุณนะคะที่มาสอนเรื่องชงกาแฟแล้วก็ช่วยไปเก็บกวาดบริเวณนั้นให้เรียบร้อยด้วยเพราะมันเป็นหน้าที่ของพนักงานไม่ใช่หน้าที่ของเมียเจ้านายทำ ขอบคุณนะคะที่บางอย่างคุณก็ช่วยทำเกินหน้าที่ สำหรับฉันแล้วฉันไม่ค่อยถืออะไรหรอกค่ะเพราะชอบทำบุญทำทานถือว่าแบ่งๆกันไป”
มินดาปล่อยมือของเธอออกจากแขนของเชอรี่และมองอย่างดูถูกเดินผ่านออกจากห้องครัวไป เธอไม่ได้รู้สึกชนะแต่เธอแค่รู้สึกว่าคำพูดของเธอมันก็ได้ปกป้องตัวเองแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นการเงียบของเธอจะยิ่งทำให้ผู้หญิงของเขาได้ใจและเข้ามาล้ำเส้นเกินกว่าที่เธอจะรับได้
“กาแฟค่ะรสชาติคงจะถูกปากคุณมากขึ้นเพราะได้ผู้หญิงที่คุ้นเคยและสนิทกับคุณมาช่วยสอน”
มินดาวางแก้วกาแฟลงแต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้หันหลังเดินออกจากโต๊ะเจ้านายก็ถูกคนตัวสูงกว่าเดินมาคว้าเอวและดึงตัวเธอมานั่งตักเขา
“ภรรยาผมตัวหอมกับกาแฟอีก”
ธีภพไม่ใช่แค่เพียงพูดแต่เขาใช้จมูกโด่งหอมไปตั้งแต่ส่วนใบหน้าลงมาถึงคอสร้างความรู้สึกปวดท้องน้อยให้กับหญิงสาวที่ตลอดการแต่งงานเธอกับเขาแทบจะไม่ได้เคยสัมผัสตัวกันแบบนี้
“ปล่อยฉันเถอะค่ะฉันจะไปทำงาน”
“ก็ไปสิผมก็ไม่ได้พิศวาสอะไรคุยเสียหน่อยก็แค่อยากจะทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยใจบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าเป็นเมียผมแล้วไม่ได้รู้เลยว่ารสชาติแบบนั้นเป็นอย่างไร”
มินดาอยากจะหันไปตอบโต้คนที่พูดจากับเธอแบบนี้แต่คิดดูแล้วไม่มีประโยชน์อะไรที่เธอจะเป็นไปตามอารมณ์ที่เขาต้องการ ในเมื่อคำพูดของเขาต้องการทำให้เธอโกรธ เธอก็เลือกที่จะไม่รู้สึกอะไรดีกว่าอย่างน้อยเกมนี้เขาก็ไม่ได้ชนะ