บทที่ 4 เมียจ๋า...ช่วยผมทีเถอะ !! 1
บทที่ 4
เมียจ๋า...ช่วยผมทีเถอะ !!
“ดี งั้นก็ตกลงตามนี้... 1 ปีกับลูกอีก 1 คน” เขาพยักหน้าอย่าง พึงพอใจพร้อมกับก้มหน้าลงมาหมายจะก้มจูบแก้มนวลแต่หญิงสาวกลับผงะถอยห่างอย่างตกใจ
“แต่คุณต้องให้เวลาฉันบ้าง ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อม” เธอก้มหน้านิ่งพลางพูดอุบอิบ ใบหน้านวลร้อนผ่าวราวกับจะจับไข้
“ผมมีเวลาจำกัดนะ แค่3เดือน คุณต้องท้อง” เขาเกาท้ายทอยแกรกๆอย่างขัดใจพร้อมหันหน้าไปทางอื่นแล้วลอบถอนหายใจลึกๆ
“แล้วฉันต้องไปอยู่บ้านคุณใช่ไหม” หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องถาม
“ใช่”
“ฉันขออยู่ทำใจที่บ้านฉันก่อนได้หรือเปล่า บ้านหลังนี้พ่อเป็นคนสร้างให้ฉัน ฉันไม่อยากจากมันไปแบบปุบปับ” เธอต่อรองเสียงอ่อน รู้สึกแย่ไม่น้อยที่อยู่ๆก็ต้องมาทำงานแปลกๆแบบนี้ งานที่ไม่มีศักดิ์ศรีเอาเสียเลย!
“คุณจะย้ายไปอยู่บ้านของผมเมื่อไหร่”
“อีก 3 วัน” หญิงสาวตอบในขณะที่เขาพยักหน้าหงึกหงัก แล้ว ทำเนียนพูดหน้าตายออกมาว่า
“งั้น 3 วันนี้ผมขออยู่บ้านคุณด้วย”
“อะไรนะ!!”
“จะตกใจทำไมเล่า ให้ตายเถอะ เสียงคุณนี่แหลมเป็นบ้า” เขาทำท่าตบหูตัวเองไปมาพร้อมกับเบ้ปาก
“มาอยู่บ้านฉัน คนอื่นเขาจะคิดยังไง”
“ก็เรื่องของคนอื่นสิ ยังไงคุณก็ต้องมาแต่งงานกับผมอยู่แล้วไม่เป็นไรหรอกน่า อย่าคิดมากเป็นยายแก่นักเลย”
“จะให้มาอยู่กันก่อนแต่งนี่นะ!” หญิงสาวยังคงทำหน้าเหมือนไม่เห็นด้วย ส่วนชายหนุ่มก็ได้แต่ยักไหล่ราวกับว่าเธอนี่ช่าง 'เต่าล้านปี' เหลือเกิน
“คุณนี่หัวโบราณชะมัด”
“ใครจะไปทันสมัยเหมือนคุณกันล่ะ” พีระดาค้อนตาคว่ำ
“ผมเป็นเจ้านายของคุณนะ แล้วก็จะเป็นเจ้าบ่าวของคุณด้วย อย่ามาขัดคำสั่งผม”
พีระดาเม้มปากแน่น เหลือบตาขึ้นมองใบหน้ากวนๆของชายหนุ่มอย่างขัดใจ ก่อนจะพูดออกมาว่า
“คุณอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก ที่นี่ไม่สะดวกเหมือนบ้านคุณ”
“รู้ได้ไงว่าที่บ้านผมมันสบาย”
“คนรวยๆอย่างคุณต้องอยู่บ้านสบายๆอยู่แล้วล่ะ”
“ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ผมก็อยู่ได้” เขาพูดพลางเชิดหน้าขึ้นอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าคนอย่างเขาต้องอยู่ได้ทุกที่อย่างแน่นอน
“เหรอคะ” หญิงสาวยักคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ และเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกที่เหมือนมีอะไรหนักๆมากดทับที่อกแบบนี้มันคืออะไร
“ครับ” เขายิ้มรับ ดวงตาคมสีน้ำตาลพราววิบวับขึ้นเมื่อก้มลงมองเรียวปากอิ่มของหญิงสาว
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว...ขอเขามัดจำเป็นจูบหน่อยคงไม่ผิดอะไรสินะ
ชายหนุ่มคิดพร้อมกับยกมือขึ้นเชยคางหญิงสาว ดวงตาคมสบกับดวงตากลมโตอย่างมีความหมาย
พีระดาอยากจะผลักเขาออกห่าง แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรมือของเธอจึงไม่ยอมผลักเขาตามที่สมองสั่ง หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักเมื่อริมฝีปากสีชมพูอ่อนของเขาค่อยๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
อะไรบางอย่างที่กระโดดมาเกาะที่รองเท้าหนังของเขาทำให้ ชายหนุ่มต้องชะงักพร้อมกับก้มลงมองที่รองเท้า
“เฮ้ยยย!! ” ภีรวัทน์ร้องลั่น อารมณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวหายวับในพริบตา เมื่อเปล่งเสียงออกมาด้วยความตกใจว่า “คางคกกระโดดเกาะรองเท้าผม!! ”
ร่างสูงเพรียวในชุดลำลองแบบสบายๆก้าวเดินเข้ามาภายในบริเวณบ้านกว้างใหญ่ ดวงตาเรียวเหลียวมองไปรอบๆห้องโถงก่อนจะมาหยุดที่ร่างของสตรีสูงวัยที่นั่งอ่านนิตยสารอยู่บนโซฟาตัวใหญ่
“อ้าว คุณแม่ พี่ภีมไม่อยู่บ้านเหรอครับ ไม่เห็นจะมีรถจอดที่โรงรถ” พิพัฒน์ถามผู้เป็นมารดาพร้อมกับเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำมารินใส่แก้วดื่ม
“พี่ชายแกไม่อยู่หรอก สงสัยจะงอนแม่” คุณสายพิณโยนหนังสือวางลงบนโต๊ะแล้วเอนหลังพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางอ่อนใจ
“งอนอะไรล่ะครับ” พิพัฒน์หันมาถามเมื่อปิดตู้เย็นไว้เหมือนเดิมแล้ว
“แม่บังคับให้ตาภีมหาเมียน่ะสิ”
“อะไรนะครับ” คราวนี้พิพัฒน์แทบจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเลยทีเดียว ใครๆก็รู้ว่าภีรวัทน์น่ะเจ้าชู้ขนาดไหน การที่จะให้พี่ชายเขามาแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนสักคนจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก..
“แม่อยากอุ้มหลานนี่ตาพัฒน์” คุณสายพิณถอนหายใจออกมา ดวงตามองเหม่อออกไปด้านหน้าอย่างคนที่กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ในขณะที่พิพัฒน์เดินมาทรุดลงนั่งข้างๆมารดาแล้วกอดเอวที่เริ่มอวบของแม่ไว้แล้วพูดออกมาเสียงเรียบแต่แฝงร่องรอยความขันเอาไว้ว่า
“ผมเดาไม่ออกเลยจริงๆว่าเรื่องนี้จะจบยังไง ! ”
“ปล่อยหนูไปเถอะนะคะ หนูไม่เอาเงินแล้ว หนูไม่อยากทำงานแบบนี้” เสียงร่ำไห้ของเด็กสาววัยไม่เกิน 20 ปีดังขึ้นแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ก๋วยจั๊บรู้สึกสงสารขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย
“เสี่ยอู๊ดเขาจะเปิดซิงแกเป็นคนแรกก่อนที่จะส่งแกไปให้ผู้ชายคนอื่น อย่าร้องแล้วเข้าไปเรียนรู้การเป็นนางบำเรอในห้องซะโดยดี” ก๋วยจั๊บพูดด้วยใบหน้าเหี้ยมๆ แววตามีแต่ความสะใจและเห็นแก่ตัวเมื่อผลักร่างบอบบางของหญิงสาวเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูลงท่ามกลางเสียงกรีดร้องของเด็กสาวผู้โชคร้าย
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดปล่อยหนู”
“แกทำได้ดีมากไอ้ก๋วยจั๊บ” จุรีที่ยืนมองอยู่ด้านหลังมาพักใหญ่พูดขึ้น ดวงตาของสาวใหญ่จ้องไปที่ประตูที่ปิดสนิทอยู่ด้วยแววตาที่ไม่มีความเห็นใจคนเพศเดียวกันเลยสักนิด
ป่านนี้เสี่ยคงจะจัดการกำหราบยัยเด็กคนนั้นได้แล้ว เพราะตอนนี้...ทุกอย่างในห้องดูเงียบกริบ ไม่มีเสียงกรีดร้องอีก
“ขอบคุณที่ชมครับ” ก๋วยจั๊บยกมือขึ้นลูบหัวโล้นๆมันๆของตัวเองด้วยท่าทางเขินๆก่อนจะตาพองด้วยความตื่นเต้นจนหนวดแทบจะกระดิกเมื่อเห็นจุรีหยิบกระเป๋าเงินออกมา
“ฉันให้เงินพิเศษแก”