บทที่ 3 ในเมื่อคุณยั่วมา...ผมก็จะจัดให้ 2
“ฉันบอกว่าจะไม่ร้อง แต่ก็ไม่ได้บอกนี่นาว่าจะไม่ทุบคุณ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ” หญิงสาวเลิกทุบเขา ก่อนจะถอยออกไปยืนห่างๆพร้อมกับยกมือขึ้นเท้าเอวข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็ชี้ไปทางประตู
“ออกไป”
“ผมออ...” เขายังพูดไม่ทันจบประโยค ดวงตาคมก็เบิกกว้าง ปากสีชมพูตามธรรมชาติอ้าค้างอย่างตกตะลึง เพราะ...
เพราะผ้าขนหนูของเธอหลุดออกไปกองอยู่ที่พื้นน่ะสิ
พีระดาขมวดคิ้วเมื่อเห็นอาการแปลกๆของเขา ใบหน้าเรียวก้มลงมองตัวเองแล้วก็ต้องกรีดร้องออกมาอีกครั้ง
“กรี๊ดดดด”
“หยุดร้องเดี๋ยวนี้นะ คุณจงใจจะยั่วผมใช่มั๊ย มาทำผ้าหลุดต่อหน้าผมแบบนี้น่ะ” เขากระซิบถามเมื่อกระโจนเข้ามาปิดปากเธอไว้แน่นอีกครั้ง ในขณะที่ร่างบางทำตาเหลือกพยายามจะก้มลงหยิบผ้าขนหนูที่หล่นอยู่บนพื้นมาปิดบังกายแต่ติดตรงคนตัวสูงที่จับเธอไว้แน่นแถมปิดปากเอาไว้เสียอีกจนเธอก้มลงไม่ได้
มือหนาละออกจากปากบาง แต่ยังเอาออกได้ไม่ถึง 2 วินาที หญิงสาวก็แหกปากกรี๊ดอีกจนได้
“คุณกินนกหวีดเข้าไปเหรอไง” พูดจบเขาก็ก้มลงจูบปิดปากเธออย่างรุนแรง ลิ้นร้อนๆสอดเข้าไปควานหาความหวานในโพรงปากเธออย่างช่ำชอง มือใหญ่เลื่อนขึ้นมาลูบไล้แผ่นหลังนวลเนียนอย่างห้ามใจไม่อยู่
พีระดาเบิกตาค้าง รู้สึกเหมือนแข้งขาจะอ่อนระทวย ความวาบหวามพลุ่งพล่านไปทั่วช่องท้อง ก่อนที่สติของเธอจะกลับมามือเรียวยกขึ้นผลักหน้าอกของเขาให้ออกห่าง ซึ่งก็น่าแปลกที่เขากลับยอมถอนจุมพิตออกและปล่อยเธอแต่โดยดี
คราวนี้พีระดาไม่กล้าโวยวายอีกแล้ว ขาเรียวๆทรุดลงไปนั่งกองอยู่กับพื้นพร้อมกับดึงผ้าขนหนูมาพันร่างกายตัวเองมือไม้สั่น
“คุณมันจอมฉวยโอกาส” เธอต่อว่าเสียงเครือ เล่นเอาภีรวัทน์ที่ยืนหันหน้าไปทางอื่นต้องตวัดสายตากลับมาอย่างดุดัน
“ผมมาฟังคำตอบ”
“ฉันไม่เอาศักดิ์ศรีตัวเองไปแลกกับงานบ้าๆแบบนั้นเด็ดขาด มีผู้หญิงมากมายที่คุณสามารถซื้อได้ ทำไมคุณไม่ทำ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นเถียง ที่ดวงตากลมโตมีคราบน้ำตาฉาบบางๆอย่างอ่อนแอเล่นเอาเขาใจอ่อนยวบ ประโยคต่อมาจึงฟังดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
“แต่ผมต้องการคุณ”
“ทำไมต้องเป็นฉัน” หญิงสาวถามอย่างไม่เข้าใจ
“เพราะแม่ของลูกผมจะต้องบริสุทธิ์ สะอาด” เขาตอบอย่างมั่นใจ ส่วนเธอก็ได้แต่เม้มปากแน่น
“รู้ได้ไงว่าฉันเป็นผู้หญิงที่สะอาด”
“สายตาของผมไม่เคยพลาด” เขากระตุกรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก แล้วถามย้ำขึ้นมาอีกรอบว่า “ตกลงคำตอบของคุณคืออะไร”
“ถ้าฉันจะปฏิเสธล่ะ”
“คุณก็จะไม่ได้เจอแม่ของคุณน่ะสิ” เขายักไหล่พลางตอบหน้าตาย เล่นเอาหญิงสาวต้องเม้มปากอีกรอบอย่างคิดไม่ตก
“แล้วฉันจะบอกคุณทีหลัง ตอนนี้คุณช่วยออกไปข้างนอกก่อนได้มั๊ย ฉันจะแต่งตัว”
“ได้” เขารับคำพร้อมกับหลุบเปลือกตาคมลงมองร่างแบบบางให้เต็มตาอีกครั้งแล้วหันหลังเดินออกไปจากประตูพร้อมกับปิดประตูเอาไว้เหมือนเดิม
ร่างสูงเดินออกมายืนนอกบ้านพร้อมกับหันไปมองบ้าน 2 ชั้นสีฟ้าหลังน้อยอีกครั้งอย่างพินิจ บ้านหลังนี้ถูกสร้างน่ารักเหมือนบ้านของตุ๊กตา ที่หน้าบ้านประดับด้วยโมบายเล็กๆหลายอันที่แขวนเรียงรายไว้ ข้างๆบ้านมีสวนดอกไม้หลายชนิดที่แข่งกันชูช่อออกดอกสวยงามส่งกลิ่นหอมระริน
ใช่..ดอกไม้เหล่านี้ออกดอกสวย กลีบดอกเล็กๆดูจะบอบบางยามที่ต้องลม จนไม่น่าเชื่อเลยว่ามันจะทำให้จิตใจของคนที่ยุ่งอยู่แต่กับงานอย่างเขาผ่อนคลายขึ้น
ชายหนุ่มเดินไปนั่งบนเข่ามองดอกไม้ดอกเล็กๆอย่างใกล้ชิด มือใหญ่ซ้อนดอกดาวกระจายสีส้มขึ้นมาดูพลางหันหน้าไปมองต้นอื่นๆ
มีทั้งต้นดาวเรือง กุหลาบ กล้วยไม้ จำปีจำปา มะลิ แล้วก็...ดอกแก้ว
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเดินไปก้มหน้าลงมองต้นดอกแก้วใกล้ๆ
ดอกสีขาวเล็กๆส่งกลิ่นหอมระรวย จนชายหนุ่มอดนึกไปถึงเจ้าของบ้านเล็กหลังนี้ไม่ได้
ผู้หญิงร่างเล็กเสียงดังจอมโวยวาย แต่ใบหน้ากลับดูเหมือนเด็กๆบอบบางชวนให้น่าทนุถนอม
พอนึกมาถึงตรงนี้แล้ว ภาพหญิงสาวหน้าเด็กเหมือนสาวมัธยมที่นุ่งกระโจมอกผืนสั้นเหนือเข่าเกือบคืบก็ลอยเข้ามาในความคิด
หยดน้ำที่เกาะพราวตามผิวบางๆอกอวบๆที่ชูชันอวดสายตาเขายามที่ผ้าได้หลุดออกไปจากร่างระหง
ผิวแก้มแดงปลั่งด้วยความอับอาย บวกกับเนื้อตัวที่บ่งบอกถึง วัยสาวเต็มที่ของเธอทำให้เลือดในกายชายหนุ่มพลุ่งพล่านไปทั่วร่าง
เพียงแค่นึกถึง อารมณ์ของเขาก็กระเจิดกระเจิงจนอยากจะกลับเข้าไปในบ้านแล้วคว้าตัวเธอมากอดจูบ
เธอดูน่ารัก น่าปรารถนากว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยร่วมเตียงด้วย...!!
“เด็ดดอกไม้ที่บ้านฉัน คุณขออนุญาตแล้วหรือยังคะ” เสียงใสๆที่ถามขึ้นจากทางด้านหลังทำให้เขาต้องหันไปมอง ดวงตาคมกวาดไปทั่วเรือนร่างที่สวมใส่ชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์อย่างมิดชิด ทำให้เขาอดจะทอดถอนหายใจออกมาด้วยความเสียดายไม่ได้
“อือ ขออนุญาตนะ” เขาบอกเบาๆ เล่นเอาเธอต้องค้อนตาคว่ำ
“มาขอตอนเด็ดไปแล้วนี่นะ”
“แค่ดอกแก้ว ทำเป็นหวงไปได้” เขาว่าพลางเลิกคิ้วขึ้นสูงเท้าใหญ่ที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้รองเท้าหนังสีดำมันปลาบราคาแพงก้าวมาหยุดยืนประชิดตัวเธอ พร้อมชูช่อดอกแก้วขึ้นมาอยู่ในระดับใบหน้าของหญิงสาว
“ผิวของคุณ...หอมเหมือนกลิ่นดอกแก้ว” เขากระซิบบอกลมหายใจร้อนๆเป่ารดอยู่ข้างแก้มของเธอ จนหญิงสาวต้องผลักหน้าคมออกไปเพื่อระงับอาการเต้นแปลกๆของหัวใจ
เหตุการณ์ผ้าหลุดต่อหน้าผู้ชายแปลกหน้าลอยผุดขึ้นมาในมโนนึกอีกครั้ง ทำเอาหญิงสาวต้องแก้มแดงลามไปถึงลำคอระหง ในขณะที่ชายหนุ่มได้แต่หัวเราะหึหึในลำคอเมื่อรู้ว่าเธอกำลัง 'นึก' ถึงอะไร
“ตกลงว่าคุณจะไปเป็นเจ้าสาวให้ผมได้มั๊ยครับ” เขาถามออกมา พลางมองไปยังสวนดอกไม้ที่ออกดอกสะพรั่งหลายสีสัน
“ถ้าฉันยอม ฉันจะได้พบแม่ใช่มั๊ย” เธอย้อนถาม
“ผมไม่รับปากว่าคุณจะได้พบแม่หรือเปล่า แต่ผมสัญญาว่าจะช่วยคุณตามหาแม่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” เขาหลุบเปลือกตาลงมองทรวงอกที่พุ่งดันเสื้อยืดออกมาของเธอพร้อมกับคิดอะไรไปเรื่อยจนแทบจะกู่ไม่กลับ
“หน้าตาของคุณตอนนี้มันหื่นเป็นบ้า” พีระดาว่าออกมาตรงๆจนชายหนุ่มแทบจะกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
“อะไรนะ คุณว่าผมหื่นงั้นเหรอ” คิ้วเข้มถูกยกขึ้นสูง ดวงตาคมพราวระยับอย่างขบขัน
“ใช่ ลูกกะตาคุณมันฟ้อง” หญิงสาวว่าออกมาตรงๆ แล้วหันหน้าไปทางอื่นก่อนจะพูดประโยคต่อไปออกมาว่า “เงินแค่แสนเดียวคงไม่พอสำหรับงานชิ้นนี้”
“เจอกันไม่นานก็ขอขึ้นค่าตัวเชียวนะ งกว่ะ” เขาบ่นอุบอิบพลางส่ายหน้าไปมา ตอนแรกที่เห็นหน้าแม่ค้าขนมครกคนนี้ เขาก็นึกว่าเธอจะดูซื่อๆไร้พิษสงและ..ไร้ปากเสียงซะอีก ที่ไหนได้... เค็มพอตัวเชียวล่ะ
“ฉันไม่ได้งกนะ” หญิงสาวเถียงขึ้นมาทันที
“ก็นี่แหละที่เขาเรียกว่างก”
“คุณนั่นแหละ เป็นถึงเศรษฐีแต่ขี้เหนียวเป็นบ้า”
“ว่าไงนะยัยขนมครก คุณนั่นแหละโคตรจะงก”
“ถ้าไม่พอใจก็ไปจ้างคนอื่นสิอีตาเศรษฐีขี้ตืด”
ทั้งสองฝ่ายประสานสายตากันอย่างไม่ลดละ ก่อนที่ชายหนุ่มจะลดสายตาลงมองที่อกอวบของเธออีกครั้ง .. เพียงเท่านี้อารมณ์ร้อนๆของเขาก็เย็นลงได้ในพริบตา เขาจึงเลื่อนสายตาขึ้นมาสบกับดวงตาลุกวาวของเธอใหม่แล้วถามออกมาเสียงนุ่มจนหญิงสาวเองยังนึก แปลกใจว่า
“คุณต้องการค่าจ้างเท่าไหร่ ? ”
“ฉันต้องการ1ล้านบาทสำหรับ1ปีที่ฉันต้องไปเป็นเมียคุณ” เธอยื่นข้อเสนอขึ้นมาโดยไม่ต้องคิด ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้มีทีท่าเดือดร้อนอะไร เขาเพียงแค่กระตุกรอยยิ้มขึ้นมาพร้อมกับพยักหน้า
“ได้ 1 แสนบาทสำหรับงานที่คุณต้องทำ ส่วนอีก 9 แสน ผมจะจ่ายให้เป็นค่าพรหมจารีย์ของคุณ” ประโยคนั้นของภีรวัทน์ทำเอาหน้านวลๆต้องแดงก่ำขึ้นมาอีกรอบ
“งั้นก็ตกลงตามนี้...ฉันจะเป็นเจ้าสาวให้คุณเอง !! ”