บทที่ 2 ข้อเสนอของคาสโนว่า 1
บทที่ 2
ข้อเสนอของคาสโนว่า
ร่างสูงนั่งอยู่ที่ขอบเตียงโดยมีสาวหุ่นอวบยืนอิงแอบคล้องแขนรอบคอของเขา ริมฝีปากที่ถูกเคลือบด้วยสีแดงสดของรุจิราขยับเปิดรอยยิ้มกว้างขวางอย่างเย้ายวน มือที่ถูกทาเล็บสีส้มกรีดไปตามแผงอกกำยำที่เปลือยเปล่าลูบไล้ไปทั่ว สายตาฉ่ำไปด้วยเสน่หาเหลือบขึ้นมองเสี้ยวหน้าคมคายของภีรวัทน์อย่างหลงใหล
“คุณมีอะไรเครียดหรือเปล่าคะ”
“...” ชายหนุ่มไม่ตอบ แต่กลับยกแก้วที่มีน้ำสีอำพันยกขึ้นมาจิบ สายตาที่มองตรงไปข้างหน้ามีแต่ความกังวล
“มีอะไรก็บอกรุจี้ได้นะคะ” รุจิราออดอ้อนเสียงหวาน มือไล้ลงต่ำจนถึงขอบกางเกงยีนส์ราคาแพงของชายหนุ่ม
ภีรวัทน์จับมือซุกซนของหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะตอบออกมาเสียงเรียบว่า “แม่จะให้ผมหาเจ้าสาว”
“รุจี้เป็นเจ้าสาวให้ภีมได้นะคะ” รุจิราตาพองรีบเสนอด้วยหัวใจเต้นระรัวแล้วค่อยๆฟีบลงเมื่อชายหนุ่มพูดอย่างตัดเยื่อใยว่า
“เราเคยตกลงกันไว้แล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไม่มีการผูกมัด ผมไม่มีทางให้คุณมาเป็นเจ้าสาวของผมแน่ๆ แม่ผมอยากอุ้มหลานภายใน1ปี ผมก็จะต้องทำ สิ้นสุด1ปีเมื่อไหร่ ผมจะกลับมาเป็นโสดอีกครั้ง”
“ให้รุจี้ทำหน้าที่นั้นก็ได้นี่คะ รุจี้ท้องลูกให้คุณได้นะ”
ภีรวัทน์เบนสายตามามองหน้าสวยหวานที่ถูกแต่งจนสวยเข้มของรุจิรา ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่า...รุจิราเป็นผู้หญิงแบบไหน ถ้าเขายอมแต่งงานกับเธอ เธอจะต้องไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆแน่ๆ ซึ่งเขาไม่ต้องการผู้หญิงเจนจัดอย่างเธอมาเป็นแม่ของลูกเขา พลัน!ใบหน้าใสๆซื่อๆไร้เครื่องสำอางมาโปะของผู้หญิงคนหนึ่งก็ลอยขึ้นมาซ้อนทับใบหน้าของรุจิรา
ผู้หญิงท่าทางไร้เดียงสาแบบผู้หญิงคนนั้นต่างหากที่ดูจะไม่มีพิษภัย ที่สำคัญ...เหมาะกับการเป็นแม่ของลูกเขาที่สุด
ร่างสูงเพรียวผุดลุกขึ้นอย่างว่องไวจนรุจิราที่นั่งอิงแอบลูบไล้เนื้อตัวเขาอยู่แทบจะหน้าคะมำ
“ผมไปก่อนนะ” เขาบอกเมื่อคว้าเสื้อขึ้นมาสวมแล้วรีบติดกระดุมอย่างรวดเร็ว
“จะไปไหนคะ” เธอร้องถาม
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ” เขาหันมาตอบหน้าตายแล้วก้าวเดินออกไปจากห้องโรงแรมสุดหรู ด้วยความคิดที่ล่องลอยออกไปถึงผู้หญิงที่เป็นเป้าหมายของเขาเสียนานแล้ว
พีระดานั่งจ๋อยอยู่บนแคร่ที่ตั้งไว้ข้างทาง เบื้องหน้าเป็นขนมครกที่เธอเพิ่งทำเสร็จใหม่ๆวางเรียงรายไว้หลายห่อ เธอนั่งมองดูผู้คนที่เดินผ่านไปคนแล้วคนเล่าอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะหยิบโน๊ตบุ๊คขึ้นมา
ในระหว่างที่รอลูกค้า...เธอนั่งแต่งนิยายไปพลางๆก่อนดีกว่า
พอคิดได้แบบนี้แล้ว พีระดาก็หยิบโน๊ตบุ๊คขึ้นมาเปิด สมองเริ่มแล่น จินตนาการเริ่มไปไกลส่งผลให้นิ้วเรียวเริ่มเคาะบนแป้นพิมพ์ไปอย่างราบรื่น ก่อนที่นิ้วของเธอจะชะงักลงเมื่อสมองเริ่มตัน...
บทเลิฟซีนของพระเอกกับนางเอกนี่เธอจะแต่งยังไงดีนะหญิงสาวคิดไปก็หน้าแดงไป แต่ยังไม่ทันที่จะได้คิดต่อ เสียงรถยนต์คันหรูราคาแพงหลุดโลกก็แล่นเข้ามาจอดบริเวณหน้าร้านของเธอ
พีระดากระวีกระวาดลุกขึ้นก่อนจะเดินออกมาหยุดยืนที่หน้าร้าน สายตากลมโตบ๊องแบ๊วมองผู้ชายร่างสูงเพรียวที่สวมชุดสูทสีดำหล่อเต็มยศลงมาจากรถยนต์อย่างสงสัย
“ติดใจรสชาติขนมครกเหรอไงคะ” หญิงสาวกอดอกเลิกคิ้วถามด้วยน้ำเสียงยียวน
“ติดใจคนขายมากกว่า” เขาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่กวนอวัยวะเบื้องล่างไม่ต่างไปจากเธอ ลำแขนแข็งแรงยกขึ้นมากอดอกเมื่อหลุบตาลงมองผู้หญิงร่างเล็กหน้าตาเหมือนเด็กม.ต้น
“ขอโทษด้วยนะคะ คนขาย...ห้ามซื้อ” หญิงสาวตอบกลับ รู้สึกหน้าร้อนวูบวาบเมื่อเห็นสายตาองเขามองเธอราวกับจะกลืนกิน
“แล้วถ้าผมอยากซื้อล่ะ” ดวงตาคู่คมเชื่อมเหมือนคนเจ้าชู้ดูเหมือนจะมีร่องรอยขบขันนิดๆในแววตา
“ยังไงก็ไม่ขายค่ะ ฉันขายขนมครกนะคะ ไม่ได้ขายตัว” เธอตอบด้วยเสียงที่เริ่มสูงขึ้น รู้สึกผิดหวังอยู่พอสมควรที่นิสัยของชายหนุ่มช่างแตกต่างจากบุคลิกและหน้าตาราวฟ้ากับเหว
“เหรอ” ภีรวัทน์เลิกคิ้วเข้มขึ้นสูงพร้อมกับดึงกระเป๋าหนังขึ้นมาหยิบธนบัตรใบสีเทาออกมานับๆๆแล้วเก็บเอาไว้เหมือนเดิม
“ผมอยากจ้างคุณมาเป็นเจ้าสาวของผม”
“อะไรนะคะ!!” คราวนี้พีระดาดูเหมือนจะหูอื้อตาลายกับคำว่าเจ้าสาว....มีอาชีพแบบนี้ในโลกด้วยเหรอไง
“ผมจะจ้างคุณมาเป็นเจ้าสาวให้ผม1ปี หลังจากนั้นเราก็เลิกกัน” เขาพูดต่อไปเรื่อยๆราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วๆไป
“คุณจะบ้าเหรอไงคะ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณมีความจำเป็นอะไรถึงต้องมาจ้างฉันไปเป็นเจ้าสาว แต่ฉันเป็นผู้หญิง ฉันเสียหายนะคะ”
“ผมจ้างคุณแสนหนึ่ง”
“ห๋า” คราวนี้หน้าเล็กๆเหมือนงบน้ำอ้อยเหวอขึ้นมาทันที ดวงตาแทบจะเห็นเงินแบงค์พันปลิวว่อนลอยอยู่ต่อหน้า แต่ถ้าได้เงินพวกนั้นมาเพื่อแลกกับศักดิ์ศรีของเธอ1ปี เธอไม่เอาดีกว่า