บทที่ 1-1 ชะตาของคนจะมีผัวแก่
ฉันไม่รู้เรื่องแผนส่งลูกสาวไปขัดดอกอะไรนี่หรอก ถ้ารู้ก็คงบอกให้แม่ไปศรีสวัสดิ์เงินติดล้อแล้ว ฉันรู้แค่ว่าตอนสองทุ่ม แม่เข้ามาในห้องแล้วสั่งให้แต่งตัวด่วนๆ แต่ฉันอาบน้ำประแป้งนอนอืดเล่นเกมคุกกี้รันไปแล้วอ่ะ แม่มาถึงก็พูดๆๆ บ่นๆๆ เปิดตู้เสื้อผ้า หยิบโน่นจับนี่ แต่ฉันไม่ได้สนใจอะไรไง สมองถูกดูดไปอยู่ที่เกมหมดแล้ว
“ยัยจีจี้ วันนี้แม่ให้ออกไปเที่ยวได้ ไปที่ผับฮาร์ทบีตแถวทองหล่อนะ”
“...” นิ้วฉันกดยิกๆ แม่จะพูดอะไรก็พูดไปก่อนได้เลย เดี๋ยวตามไปฟังทีหลัง
“ไอ้จี้!”
“เหนียวนักนะ นี่แน่ะๆ”
“ไอ้จี้!!”
“ไม่ไปอ่ะ” ฉันกำลังจดจ่ออยู่กับเกม ถามคำตอบคำ แม่เริ่มเท้าสะเอวนับหนึ่งถึงสิบและนึกถึงคำเตือนของสามีที่บอกว่าเสี่ยฤทธิ์ชาติดุมาก ถ้าส่งลูกสาวคนโตไปก็ยังพอลุ้น แต่ยัยคนเล็กนี่ แม่ต้องคำนวณให้ดีๆ
“พี่โตโต้เขาจะไปเป็นเพื่อนด้วย ไปเหอะ”
“พี่โตเขาจะไปจีบสาว แม่จะให้หนูไปคอยคุมอ่ะดิ ไม่ไปหรอก น่าเบื่อจะตายชัก แม่ให้พี่อ้อแอ้ไปก็แล้วกัน”
“ใจฉันก็อยากให้อ้อแอ้ไปย่ะ แต่พี่แกเขาทำงานตาเหลือกอยู่ เพราะฉะนั้นแกต้องไปแทน ทำตัวให้เรียบร้อยด้วย พูดจาเพราะๆ เข้าใจมั้ย”
“ไปผับแต่ให้ทำตัวเรียบร้อยอ่อแม่ ทำไงอ่ะ พนมมือ อัญชลี วันทา อภิวาท ดื่มเหล้า?”
แม่เริ่มเท้าสะเอวครบทั้งสองมือ เป็นสัญญาณอันตราย “รบกวนสอบถามหน่อยนะคะคุณลูก นี่จะครึ่งปีแล้ว มัวแต่อุดอู้อยู่อย่างนี้ เมื่อไรหล่อนจะมีผัวเหรอคะ”
“โธ่ แม่ ถ้าใจเราร่าน หน้าบ้านก็หาผัวได้ เลิกคลุมถุงชนลูกๆ สักทีเหอะแม่”
“อีลูกคนนี้ ฟาดด้วยรองเท้าแตะดีมั้ย พ่อแม่หาคู่ให้ก็โวยวายว่าถูกคลุมถุงชน เทพหาคู่ให้ก็เรียกบุพเพสันนิวาส เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ”
“นี่มันปีไหนแล้วค่ะคุณนายทองสุก การมีผัวไม่ได้แปลว่าชีวิตจะคอมพลีสสักหน่อย”
“เขาหล่อมากเลยนะ”
“ผัวหนูก็หล่อทุกคนอ่ะ หล่อล่ำหำจัมโบ้” ฉันชี้ไปที่โปสเตอร์ดาราเกาหลีที่แปะเต็มข้างฝา สองมือกดเกมยิกๆ แม่ก็ยังไม่ยอมแพ้ สวมวิญญาณพนักงานขายประกัน พยายามขายของให้ได้
“แต่เขารวยมากเลยนะ”
“รวยแค่ไหนอ่ะแม่”
“รวยแบบแบตมือถือหมดแล้วซื้อเครื่องใหม่เลยเพราะขี้เกียจชาร์จ”
“เอาดีๆ รวยหรือขี้เกียจ เดี๋ยวนี้ผู้หญิงก็หาเงินเองได้ไม่ต้องรอผัวเลี้ยง จิ๋มก็จิ๋มหนู หนูเป็นเจ้าของจิ๋มไม่ได้เดือดร้อนอะไร แล้วทำไมใครต่อใครถึงเดือดร้อนกันจัง”
“เขารวยมาก คนเรียกเสี่ยตั้งแต่หนุ่มๆ เพราะรวยโคตรๆ รวยระดับนอนอยู่บ้านเฉยๆ ก็มีเงินเข้าบัญชีวันละหลักร้อยล้านเชียวนะไอ้จี้”
“แล้วไงอ่ะ ในเกมหนูก็รวยเป็นอภิมหาเศรษฐีนีเหมือนกัน เนี่ย มีเพชรตั้งแปดหมื่นล้าน”
ฉันรัวนิ้วกดเกมต่อไปไม่หยุด ไม่มีท่าทีว่าจะยอมลุกขึ้นจากเตียง แม่เห็นว่าจะบ่นยังไงฉันก็ไม่ยอมกระดิกตัวแน่ๆ จึงควานหาไม้แขวนเสื้อเตรียมฟาดนังเด็กเถียงคำไม่ตกฟาก ผีเจาะปากส่งเข้าประกวด แม่พูดด้วยดีๆ ไม่ชอบ ชอบคุยกันทั้งน้ำตา
ขั้นแรก แม่ถอดปลั๊กอินเตอร์เนตก่อนเลยหนึ่งกรุบ
“แม่! เกมหนูหลุดแล้ววว...”
“เออ นั่นแหละดี!”
“หนูสะสมยอดมาตั้งแต่เมื่อวานเลยนะแม่” ฉันงอแง ดิ้นพราดๆ เพราะกำลังจะเคลียร์ด่านได้แล้วอ่ะ แม่เห็นสภาพลูกสาวแล้วก็ปวดกบาล นี่กูเลี้ยงตัวอะไรมาวะเนี่ย ทำไมยิ่งโตยิ่งน่ากระทืบ แม่จึงเงื้อไม้แขวนเสื้อขึ้นประมาณว่าขอสักตุบเถอะ พี่โตแต่งตัวพร้อมออกบินท่องราตรีตามคำสั่งแม่แล้วจึงเข้ามากู้ซากน้องสาวด้วยการกระซิบเบาๆ ว่า
“แถวนั้นมีร้านเนื้อโคขุนย่างเนยอร่อยนะ”
ฉันกระเด้งตัวขึ้นยืนตรงและควานหารองเท้าผ้าใบใต้เตียงทันที “ออกจากผับสี่ทุ่ม ต่อด้วยเนื้อย่าง โอเคนะ”
“โอเคยัยตะกละ” พี่โตหัวเราะ พี่ชายของฉันคนนี้ถ้าว่ากันตามตรงก็ถือว่าหล่อเหลาสูงเกินมาตรฐาน ตัวใหญ่กำยำตามประสาสมาชิกกิตติมศักดิ์ของจีจี้เลิฟเลิฟฟิสเนต พี่โตแต่งตัวเท่ดูดีมีรสนิยม ฉีดน้ำหอมฟุ้งและปาดเจลใส่ผมเสยไปด้านหลัง หนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว ส่วนฉันปาดลิปเมเบอลีนนิวหยวกสองสามปึ้ด เปลี่ยนกางเกงนอนเป็นกางเกงยีนส์และคว้าไอโฟนกับพาวเวอร์แบงค์ไปแค่นั้นแหละ
“แน่ใจนะว่าจะไม่เปลี่ยนชุด”
“แน่ใจดิพี่”
ฉันโพสท่านางแบบ อาชีพเก่าก่อนตกงาน ปากจือตาปรือเหมือนเมาน้ำท่อม บิดเอวเอสแอ่นนมให้พี่ดู แต่พี่โตทำหน้าปวดกบาล อะไรกัน นี่นางแบบที่สวยที่สุดในตำบลเลยนะยะ แขนเล็กขาก็เล็ก เล็กกว่านี้อีกนิดก็ก้างแล้ว เห็นเอวไหมเนี่ย เอวคอด ผมยาว ผิวขาวใสอมชมพู หน้าอ่อนเยาว์เหมือนเด็กเพิ่งหย่านมขนาดนี้นะคะ หน้าสดก็ยังสวยไม่ต้องง้อคอนทัวร์เลย
“แกไปเอาความเชื่อผิดๆ แบบนั้นมาจากไหน”
“เอ้า ตอนจี้เด็กๆ พี่โตก็ชมหนูว่าสวยที่สุดในโลกไม่ใช่อ่อ พอโตมาก็ต้องสวยยิ่งขึ้น ยิ่งๆ ขึ้นไป จริงป่ะ” ฉันทำท่าจะไปทั้งชุดแบบนั้น แต่แม่ทนดูไม่ได้เลยลากไปแต่งตัวเสียใหม่ให้เป็นผู้เป็นคนมากกว่านี้
“นี่เป็นสาริกาลิ้นทอง ห้อยคอไว้ เวลาจะพูดอะไรเผื่อสาลิกาจะช่วยเบรกๆ ให้ เผ้าผมทำไมมันถึงยุ่งแบบนี้ มาๆ แม่หวีผมให้”
คุณนายทองสุกรวบผมตึงให้แล้วมวยผมติดกิ๊บ ตึงจนหัวเหน่ง ซึ่งในสายตาพระมารดา ชุดที่ใส่แล้วสุภาพน่ารักน่ามองก็คือเสื้อสีขาวแขนยาว กระโปรงสีขาวยาวคลุมตาตุ่ม มีระบายๆ พร้อยไปทั้งตัวและรองเท้าหุ้มส้น แม่ชอบร้อยลูกปัดเป็นงานอดิเรกก็เลยสวมสร้อยคอให้เพียบ ห้อยไอเทมศักดิ์สิทธิ์เต็มตัว อารมณ์ออกจากผับตอนตีห้าแล้วไปทำบุญใส่บาตรต่อได้เลย ขนาดพี่โตเห็นแล้วยังขมวดคิ้วถามว่าเอาจริงอ่ะ
“แม่ว่าสวย น่ารักดีออก เรียบร้อยด้วย นี่แหวนพระแม่อุมาเทวี ด้ายแดงจากวัดหวังต้าเซียน แล้วก็เข็มกลัดขุนแผนบริหารเสน่ห์”
“แต่เราจะไปผับนะแม่ ไม่ใช่สถานฝึกกรรมฐาน”
“ไปเหอะๆ เดี๋ยวเนื้อหมด”
“อีนี่ก็ห่วงแต่กิน ทำความตกลงกันก่อน พี่จะแนะนำรุ่นพี่ให้เรารู้จัก ถ้าแกทำให้เขาขอไลน์แกได้ พี่ถึงจะพาไปกินเนื้อย่าง ตกลงมั้ย”
“โอ้ย ไม่เอาหรอก ทำไมหนูต้องให้ไลน์ด้วยอ่ะ”
“เอาไลน์ของอ้อแอ้ให้เขาไปสิ”
“พี่อ้อแอ้ได้ฟันศอกให้จี้อ่ะดิพี่โต พี่ก็รู้ว่าพี่อ้อแอ้เวลาโมโหโคตรน่ากลัว”
“ถ้าแกไม่อยากมีผัวก็ไม่เป็นไร คิดซะว่าช่วยหาผัวให้อ้อแอ้ไง”
“พี่อ้อแอ้เขาไม่ได้อยากมีผัวสักหน่อย ทำไมคุยกันตั้งนานแล้วไม่หลุดประเด็นมีผัวสักทีเนี่ยแม่” ฉันทำท่าจะควักไอโฟนออกมาเล่นเกมอีก พี่โตจึงกระซิบเป่ามนต์
“ติดกับร้านเนื้อย่าง มีร้านโอมากาเสะ มีซาซิมิ อูนิ ไข่ปลาคาเวียร์ หอยเชลล์ย่างสาหร่าย ไข่ปลาแซลมอน ซูโทโร่ มันปูซูไว”
ฉันพ่นลมหายใจเหมือนกระทิง “แค่ไลน์ไม่พอหรอก เดี๋ยวจี้ตามเฝ้าถึงบ้านผู้ชายคนนั้นเลยค่ะ จี้จะหาลูกเขยให้แม่เอง ไว้ใจได้เลย”
พี่โตโต้พูดไม่กี่คำ มนุษย์เนื้ออย่างจีจี้ก็พร้อมลุยค่ะ ก่อนไปก็ไม่ลืมคว้าผ้ากันเปื้อนติดมือไปด้วย เดี๋ยวกินเนื้อย่างเนยกระเด็นเปื้อนชุดขาวมันซักยาก แม่ช่วยรวบหางกระโปรงพาไปส่งขึ้นรถแล้วโบกมือบ๊ายบาย รอจนรถแล่นออกถนนไปจนสุดสายตาให้ชัวร์ว่าไอ้ลูกชายมันไม่ได้แวะถีบน้องลงจากรถ คุณนายทองสุกอุตส่าห์หาชุดกระโปรงสีขาวสวยๆ ให้ใส่เป็นเคล็ดว่าเหมือนชุดแต่งงานขนาดนี้ ขอให้นังจีจี้มันรัดเสี่ยฤทธิ์ชาติให้แน่นๆ เหมือนงูเหลือมรัดหมาได้ก็เป็นพอ พอหันหน้ามาก็เจอสามียืนน้ำตาซึมอยู่ คุณนายทองสุกก็ทำหน้าตกใจ รีบเข้ามาลูบหน้าลูบหลังถามว่าเป็นอะไร
“สงสารเสี่ย”
“ฮ่วย!”
................