บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 การแก้แค้น

จิรดาดึงแขนชุติกาญจน์เอาไว้เมื่อออกมาจากห้องรับแขกแล้ว “เดี๋ยวก่อนกาน เมื่อกี้ฉันคิดว่าเธอรู้จักกับเจ้าชายเรฮานเสียอีกเธอทำท่าเหมือนกับเกลียดพระองค์มาก” จิรดามองหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจ

“ขอฉันคุยกับเพื่อนก่อนนะ” ชุติกาญจน์หันไปบอกกับนางกำนัลเป็นภาษาอังกฤษ และดูเหมือนพวกนางจะฟังเข้าใจจึงเดินไปหยุดยืนอยู่ห่างๆ ชุติกาญจน์มองหาที่นั่งเพื่ออธิบายเรื่องทุกอย่างให้จิรดาเข้าใจ

“ไปนั่งที่มุมนั้นกันเถอะ” หญิงสาวชี้ไปทางมุมตึกที่มีก้อนหินก้อนใหญ่วางเอาไว้เป็นที่นั่งพัก ก่อนจะเดินตามกันไป

“เอาล่ะเล่ามาให้หมดทุกเรื่องไม่มียกเว้นโดยเฉพาะเรื่องที่เธอไม่พอใจเจ้าชายเรฮานด้วย” จิรดามองจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างคาดคั้น

“เรื่องนี้ฉันไม่อยากนึกถึงอีกแต่เมื่อมาเจอกับเขาฉันก็อดคิดไปถึงมันไม่ได้ฉันเกลียดเขา เกลียดที่เขาทำให้ฉันต้องสูญเสียสิ่งที่ฉันหวงแหนมาตลอดชีวิต” ชุติกาญจน์พูดเสียงเครือ

“เธอกำลังจะพูดอะไรฉันยังไม่เข้าใจอยู่ดี แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้าชายด้วย” จิรดาขมวดคิ้ว

“ฉันถูกข่มขืน” ชุติกาญจน์พูดออกมาอย่างขมขื่นน้ำตาเริ่มเอ่อออกมาคลอเบ้าตา จิรดาอ้าปากค้างอย่างตกใจก่อนจะกระพริบตาถี่ๆเพื่อเรียกสติของตัวเอง

“แล้วใครทำเธอ มันเกิดขึ้นได้ยังไง”หญิงสาวถามเสียงรั่วเร็ว

“เมื่อ 1 อาทิตย์ก่อนพี่พักตร์ใช้ให้ฉันเอาของขวัญไปให้เขาที่โรงแรมคุณวุธแฟนของพี่พักตร์ แล้วพนักงานที่นั่นก็เข้าใจผิดคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงบริการจึงพาฉันไปที่ห้องของเขาแล้วเขาก็ไม่ฟังฉันเลยฉันพยายามจะอธิบายให้เขาฟังว่าฉันไม่ใช่แต่มันก็...” เสียงของชุติกาญจน์กลืนหายไปกับเสียงสะอื้นพร้อมกับหยดน้ำตา

“โธ่กาน แล้วมีใครรู้เรื่องนี้หรือเปล่า” จิรดาถาม ชุติกาญจน์ส่ายหน้า

“ไม่มี ฉันบอกเธอเป็นคนแรก” จิรดามองหญิงสาวด้วยความสงสาร

“มิน่าเธอถึงมีอาการเหม่ออยู่ตลอดเวลาเมื่ออยู่คนเดียวเป็นแบบนี้นี่เองแล้วเขาคนนั้นก็คือเจ้าชายเรฮานใช่ไหม” จิรดาถามเพื่อความแน่ใจ

“ฉันเกลียดเขา ผู้ชายมักง่ายฉันอยากจะให้เขารู้สึกเจ็บปวดเมื่อต้องสูญเสียบ้าง” ชุติกาญจน์กลั้นเสียงสะอื้นและมองจิรดา

“ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ” จิรดาพูดเสียงเบาลง

“ใช่ เขานี่แหละฉันจำได้ไม่เคยลืมแม้แต่วันเดียว” แววตาของหญิงสาวเปลี่ยนจากอ่อนโยนมาเป็นแววตาแห่งความโกรธแค้น จิรดาเข้าใจได้ทันทีว่าหญิงสาวกำลังคิดจะแก้แค้นนั้นเอง

“เธอคิดจะแก้แค้นเขาใช่หรือเปล่า แต่ชีวิตเธอทั้งชีวิตเชียวนะเธอยอมรับได้หรือที่ต้องแต่งกับคนที่เขาไม่ได้รักเธอ”

จิรดาถามอีกฝ่าย

“ได้สิ เขาจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำกับฉัน”

“กาน เธอคิดดีแล้วเหรอ”

“ดีแล้ว ฉันจะต้องทำให้เขาเจ็บและทรมานไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต” ชุติกาญจน์เช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า

“งั้นก็ตามใจแต่ถ้าคุณลุงกับคุณป้ารู้เรื่องนี้จะทำยังไง” จิรดาอดเป็นห่วงเพื่อนสาวไม่ได้

“ฉันยังไม่รู้เหมือนกันเอาไว้ถึงเวลานั้นแล้วค่อยคิดกันอีกที”

จิรดาพยักหน้าอย่างเข้าใจเธอเองก็เห็นใจหญิงสาวมากที่ต้องโดนแบบนี้และเจ้าชายเรฮานก็สมควรที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่พระองค์ทำลงไป เธอเองก็เกลียดผู้ชายที่เห็นผู้หญิงเป็นที่ระบายทางอารมณ์เหมือนกัน

“ฉันจะช่วยเธออีกแรงถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้”

“ขอบใจมากนะดาที่เข้าใจฉัน” ชุติกาญจน์ยิ้มและจูงมือจิรดาเดินกลับมาหานางกำนัลทั้งสองที่ยืนรออยู่

เจนเซ่นและอายาล่าเดินผ่านมาทางที่หญิงสาวทั้งสองยืนอยู่ ทั้งสองคนหยุดยืนมองชุติกาญจน์และจิรดาอย่างไม่พอใจ

“นี่เหรอคู่หมั้นของเจ้าพี่เรฮาน”เจนเซ่นมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างพิจารณา..ผู้หญิงสองคนนี้สวยมากถึงไม่แต่งหน้าและอยู่ในเสื้อผ้าธรรมดายังงามขนาดนี้...

“แล้วใครกันที่เป็นคู่หมั้นของเจ้าพี่เรฮาน” หญิงสาวถามข้น แต่ก็ไม่มีผู้ใดตอบ ชุติกาญจน์และจิรดามองหน้ากันก่อนจะหันกลับไปมองหญิงสาวสวยที่อยู่ในชุดสีขาวยาวกับผ้าคลุมหน้าสีเดียวกันดวงตากลมโตดำขลับเข้ากันกับคิ้วเรียวยาวได้รูปบวกกับริมฝีปากที่อวบอิ่มทำให้ดูงดงามดุจเทพธิดา

“ว่าไงล่ะยะพี่สาวฉันถามพวกเธอฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องหรือไง” อายาล่ามองชุติกาญจน์ตาเขม็ง

“ได้ยินค่ะแต่ไม่เห็นจำเป็นต้องรู้เลยนี่ว่าเป็นใคร” จิรดาเชิดหน้าขึ้น

“พวกเธอกล้าขัดคำสั่งของท่านหญิงเจนเซ่นพระคู่หมั้นของเจ้าชายมาริคเชียวเหรอ” นางกำนัลที่ตามมาด้วยลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาหญิงสาวทั้งสอง

“ขออภัยด้วย ฉันเองค่ะคู่หมั้นของเจ้าชายเรฮาน” ชุติกาญจน์ตอบ

“เธอเองเหรอรูปร่างหน้าตาก็งั้นๆ เธอไม่รู้หรือไงว่าเจ้าชายกับน้องสาวของฉันรักกันแต่ติดอยู่ที่เธอ ถ้าเธอขอถอนหมั้นฉันจะจ่ายให้เธออย่างพอใจเลย” เจนเซ่นบอกอย่างไม่อ้อมค้อม ชุติกาญจน์ยิ้มแบบเยาะๆให้หญิงสาวทั้งสอง

“เพิ่งรู้ว่าที่นี่ผู้หญิงขอซื้อผู้ชายกันแบบนี้เอง” คำพูดแบบตรงๆของชุติกาญจน์ทำให้ท่านหญิงทั้งสองถึงกับสะอึกเหมือนโดนตบหน้าอย่างแรง เจนเซ่นยืนนิ่งกำมือแน่นเพื่อระงับความโกรธที่ปะทุขึ้น

“แล้วเธอจะขายให้เขาหรือเปล่าล่ะกาน” จิรดายิ้มกับคำพูดของเพื่อนสาว

“ขอคิดดูก่อนนะเพคะ แล้ววันหลังจะให้คำตอบตอนนี้พวกเราเพลียมากแล้วก็ขอตัวก่อนนะคะ” ชุติกาญจน์และจิรดาถอนสายบัวให้หญิงสาวทั้งสองและเดินจากไป

“ท่านพี่พวกมันร้ายกาจมากแล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ” อายาล่าหันมามองหน้าพี่สาว

“เรื่องนี้ไม่ยากหรอกเจ้าพี่เรฮานไม่ชอบหญิงต่างชาติ น้องต้องเอาใจพระองค์ให้มากๆและทำให้พระองค์รักเจ้าจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วก็บอกให้พระองค์ยกเลิกการหมั้นกับผู้หญิงคนนั้นแล้วมาแต่งงานกับเจ้าแทนแค่นี้เองเจ้าทำได้หรือเปล่า”

“ได้ค่ะ แต่ว่านางงามมากข้ากลัวว่า..”

“อย่าวิตกเจ้าก็งามและยังเป็นถึงธิดาท่านชีคอัสมินอีกด้วยไม่ใช่สามัญชนอย่างพวกนาง”เจนเซ่นพูดเพื่อให้กำลังใจน้องสาว

“ค่ะ” อายาล่ายิ้ม นางและเจ้าชายเรฮานพอใจกันและกันตั้งแต่แรกเห็นเมื่อครั้งที่เจ้าชายเรฮานเสด็จไปกับองค์สุลต่านเพื่อขอหมั้นหมายพี่สาวของนางให้กับเจ้าชายมาริค หลังจากนั้นก็ติดต่อกันเรื่อยมาและมีบางครั้งที่ไปเที่ยวด้วยกัน

จิรดาดึงแขนเพื่อนสาวให้เดินช้าลงเพื่อให้นางกำนัลที่เดินนำหน้าไปมีระยะห่างกับตัวเอง ชุติกาญจน์หันไปมองหน้าหญิงสาวพร้อมกับเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“เธอจะสู้เจ้าหญิงทั้งสององค์นั่นได้เหรอกาน” จิรดาถามขึ้นอย่างเป็นห่วง

“ไม่รู้สิ แต่ที่ฉันรู้การแต่งงานครั้งนี้จะต้องเกิดขึ้นและคนที่ทรมานก็คือเจ้าชายเรฮานและคนรักของเขา ฉันก็อยากรู้ว่าถ้าไม่ได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรักเจ้าชายจะเป็นยังไงบางทีอาจจะกระอักเลือดจนสิ้นพระชนม์ไปเลยก็ได้” หญิงสาวยิ้มอย่างพอใจเมื่อนึกถึงแผนการของตัวเอง

“กาน ปรกติเธอเป็นคนเงียบๆและเรียบร้อยถึงฉันจะคบกับเธอได้ไม่นานฉันก็รู้ว่าเธอเป็นคนแบบไหนแต่ฉันไม่ว่าเธอหรอกถ้าเป็นฉันโดนแบบเธอฉันก็คงจะทำทุกทางเหมือนกันเพื่อให้ได้แก้แค้น” จิรดาเข้าใจจิตใจของชุติกาญจน์ดีความสาวของลูกผู้หญิงจะต้องเก็บเอาไว้ให้คนที่ตนเองรักเท่านั้น

“อีก 2 วันก็จะถึงวันงานฉลองการครองราชแล้ว ฉันคงต้องเหนื่อยกับท่านหญิงทั้งสองคนนั่นแน่ ดูท่าทางจะไม่ปล่อยฉันอยู่ที่นี่อย่างสบายแน่นอน” ชุติกาญจน์มีสีหน้าเศร้าลง

จิรดาจับมือเพื่อนมากุมไว้และแตะที่หลังมือเบาๆ “อย่าลืมสิว่าฉันก็อยู่ด้วยทั้งคน” ชุติกาญจน์ยิ้มและซาบซึ้งกับคำพูดของจิรดา

“ห้องนี้ของคุณชุติกาญจน์ค่ะ” เสียงนางกำนัลดังขึ้นสองสาวจึงหันไปมอง

“ส่วนของคุณจิรดาอยู่ด้านนี้ค่ะเชิญค่ะ” นางกำนัลอีกคนบอกและเดินนำหน้าหญิงสาวไป

“แล้วเจอกันนะ” จิรดาบอกก่อนจะเดินตามนางกำนัลที่เดินนำหน้าไป

นางกำนัลเปิดประตูให้และยืนรออยู่ด้านข้าง ชุติกาญจน์มองห้องอย่างตกตะลึง ทุกอย่างสวยงามไปหมดทั้งผ้าม่าน เตียงนอนที่มีผ้าสีทองประดับเอาไว้ด้านบนและปล่อยภู่ระย้าห้อยลงเล็กน้อยราวกับเตียงของเจ้าหญิงในเทพนิยาย

“จะอาบน้ำก่อนหรือเปล่าคะ” นางกำนัลเอ่ยถามขึ้น

“ไม่ล่ะ ขอบใจมาก” หญิงสาวบอก นางจึงโค้งศีรษะให้ก่อนจะเดินออกไป ชุติกาญจน์เดินไปนั่งที่เตียงและรินน้ำที่ตั้งไว้ที่โต๊ะหัวเตียงขึ้นดื่ม

“กลิ่นหอมอ่อนๆสดชื่นดีเขาเอาอะไรใส่ลงไปนะ” หญิงสาวยกแก้วน้ำขึ้นสูดดมอีกครั้ง

“ก๊อก ก๊อก” “ขอประทานโทษค่ะดิฉันเป็นนางกำนัลที่จะมารับใช้คุณค่ะ”

ชุติกาญจน์มองหญิงสาวที่ยืนก้มหน้าอยู่ตรงหน้าประตู “เข้ามาสิจ๊ะ” หญิงสาวบอก

“ชื่ออะไร”

“ชื่อยานะเจ้าค่ะ” หญิงสาวตอบ

ชุติกาญจน์อมยิ้มกับคำที่หญิงสาวใช้ “พูดธรรมดากับฉันดีกว่าไม่ต้องมากเรื่องหรอก”

“ค่ะ” นางกำนัลสาวพยักหน้ารับคำ

“เธอไม่เต็มใจที่มารับใช้ฉันหรือเปล่า” ชุติกาญจน์เอ่ยถาม หญิงสาวรีบเงยหน้าขึ้นแล้วตอบกลับไป

“ไม่ใช่นะคะดิฉันเต็มใจค่ะ ทำไมคุณคิดแบบนั้นล่ะคะ” ยานะถามกลับ

“ก็เห็นเธอเอาแต่ยืนก้มหน้า”

“มันเป็นธรรมเนียมค่ะ” ยานะตอบ หญิงสาวพยักหน้ารับรู้

“แล้วเธอมีอะไรจะแนะนำฉันหรือเปล่า ฉันไม่รู้จักที่นี่เลย”

“ขอนึกก่อนนะคะแล้วคุณไปเจอใครมาบ้างแล้วคะ” ยานะยิ้มให้หญิงสาวและรู้สึกผ่อนคลายลงเมื่อหญิงสาวยิ้มให้

“เออ..องค์สุลต่าน พระชายาและเจ้าชายทั้งสององค์ เออ..แล้วก็ท่านหญิงพระคู่หมั้นกับน้องสาว แค่นี้เอง” ชุติกาญจน์ตอบ

“2 คนหลังถ้าไม่จำเป็นคุณอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาดนะคะ อันตรายที่สุดเลยค่ะ”

“ทำไมล่ะ” หญิงสาวเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

“เจ้าหญิงเจนเซ่นเป็นพระคู่หมั้นของเจ้าชายมาริคด้านนอกดูเรียบร้อยน่ารักแต่ภายในจิตใจสิคะยังกับนางปีศาจไม่รู้ว่าเจ้าชายทรงหมั้นหมายกับนางได้ยังไง”

“คงรักกันล่ะสิ” หญิงสาวเสริมให้

“คงงั้นมั้งคะ ส่วนท่านหญิงอายาล่าเมื่ออยู่ต่อพระพักตร์เจ้าชายเรฮานก็เรียบร้อยอ่อนหวานน่ารักแต่ลึกๆแล้วนิสัยเดียวกับพี่สาวเป๊ะเลยล่ะค่ะ”นางกำนัลสาวเล่าอย่างเมามัน

“แสดงว่าเจ้าชายเรฮานกับท่านหญิงอายาล่าทรงรักกัน”

“ไม่ทราบค่ะ แต่องค์สุลต่านรับสั่งว่าเจ้าชายจะต้องแต่งงานกับคุณเท่านั้น”

“ดีจัง” ชุติกาญจน์พูดออกมาอย่างลืมตัว

“ค่ะ ดิฉันก็ว่าดีค่ะเพราะคุณสวยและงามกว่าท่านหญิงอายาล่าอีกติดอยู่ที่เจ้าชายทรงไม่ชอบผู้หญิงต่างชาติไม่รู้เป็นเพราะอะไร” ยานะส่ายหน้าไปมา

“เธอนี่คุยเก่งดีฉันชอบ แล้วที่นี่เขามีกฎระเบียบอะไรบ้าง”

“มีเยอะมากค่ะดิฉันก็จำไม่หมดเอาที่เป็นหลักๆก่อนนะคะ ผู้หญิงกับผู้ชายห้ามอยู่กันตามลำพังทั้งในที่ลับและที่แจ้ง ผู้หญิงห้ามเข้าไปที่ส่วนขวาของพระราชวังยกเว้นพระชายาเพราะที่นั่นเป็นที่ประทับขององค์สุลต่านและพระโอรสเป็นฝั่งของผู้ชายค่ะ”

“แล้วผู้ชายห้ามเข้ามาฝั่งเราด้วยหรือเปล่า” ชุติกาญจน์ถามอย่างใคร่รู้

“ไม่ห้ามค่ะ” หญิงสาวตอบ

ชุติกาญจน์ทำหน้าผิดหวัง “อ้าว ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะอย่างนี้ก็ขี้โกงกันนะสิ”

“มันเป็นกฎค่ะ”

“แล้วพวกเหล่านางสนมกับสาวๆในฮาเร็มล่ะอยู่กันที่ไหน” หญิงสาวซักถามอย่างสงสัย

“องค์สุลต่านไม่มีสนมหรือฮาเร็มหรอกค่ะพระองค์รักพระชายาเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น” ยานะหัวเราะ

“แล้วเจ้าชายล่ะ”

“คุณหึงเหรอคะ” ชุติกาญจน์มองอีกฝ่ายตาขวางเมื่อถูกถามแบบนั้น

“เปล่าฉันแค่อยากรู้เพราะฉันเป็นคู่หมั้น”

“เจ้าชายก็ไม่มีค่ะนอกจากข่าวกับบรรดาสาวๆของพระองค์ มีอีกอย่างนะคะที่นี่เคร่งครัดเรื่องการตรงต่อเวลามาก คุณอยู่ไปเดี๋ยวก็ชินไปเองค่ะ”

“ขอบใจมาก เธอมีอะไรก็ไปทำก่อนเถอะฉันขอพักสักนิดรู้สึกเพลียๆ” หญิงสาวบอก

“ค่ะ ดิฉันจะอยู่แถวๆนี้ถ้าคุณต้องการอะไรเรียกได้นะคะ” สาวใช้บอกและเดินออกไปปล่อยให้หญิงสาวได้นอนพักผ่อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel