บทที่ 10 สาวสวยที่ด้านชา
มีความสุข?
ซ่งซานสี่มั่นใจว่าสิ่งที่หวงชางหยงพูด ไม่ใช่ความสุข
“หมาสี่ คืนนี้ก่อนสี่ทุ่ม ฉันจะคอยดูผลงานของแก ความอดทนของฉันมีจำกัด และแกก็รู้กลอุบายของของฉัน ฮ่า ๆ........”
หวงชางหยงยิ้มด้วยความชั่วร้าย แล้ววางสาย
ซ่งซานสี่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ มีรอยยิ้มเยาะอยู่ที่มุมปาก
รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งเหมือนราชา
“หวงชางหยง คนเลวทรามอย่างคุณ ทำให้เจ้าของร่างนี้ล้มละลาย เกือบทำให้บ้านแตกสาแหรกขาด ตอนนี้ ยังคิดจะรังแกภรรยาของเขาอีก ผมจะไม่เกรงใจคุณอีกแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเศษสวะ แต่ตอนนี้ผมกลายเป็นเขาแล้ว”
ซ่งซานสี่จับเสื้อโค้ตไว้แน่น และเดินไปข้างหน้าท่ามกลางลมหนาว
ไม่ต้องขี่มอเตอร์ไซค์ เพราะตอนเย็นหลังจากเถียนเถียนเลิกเรียนแล้ว เขายังต้องกลับมารับเถียนเถียนกลับบ้าน
อาจเป็นการไถ่โทษ อาจเป็นความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ทุกสิ่งที่พี่สี่กำลังทำตอนนี้ เพื่อให้ซูโหย่วหรงสองแม่ลูกมีความสุขเท่านั้น...
เที่ยงเวลา 12.30 น.
โรงงานซานหยวนอิเล็คทริคพักเที่ยง โรงอาหารเต็มไปด้วยเสียง
คนงานพูดคุยหัวเราะ ต่างคนต่างรับประทานอาหารของตนเอง
ซูโหย่วหรงชินกับการอยู่คนเดียว เธอหลบอยู่ที่มุมหนึ่ง
บะหมี่น้ำใสหนึ่งชาม ข้างในมีบะหมี่สองก้อน มีถั่วงอกเล็กน้อย และมีเครื่องเคียงเล็กน้อย
เธอก้มหน้า น้ำซุปใสสามารถสะท้อนเห็นใบหน้าของเธอได้
ผมยาวคลุมใบหน้าที่สวยงาม และใบหน้าที่ด้านชาจากความทุกข์ทรมานของชีวิต
ถ้าเธอจัดทรงผมดี ๆ และเชิดหน้า เธอจะสวยขนาดไหน
คนที่รู้สึกสงสารเธอ มีไม่มากแล้ว
ถึงมี! ก็เธอถูกขับไล่ไปแล้ว
เธอต้องการเกียรติและศักดิ์ศรีเหมือนกัน!
ดังนั้น ตอนนี้เธอแทบไม่มีเพื่อนแล้ว
ขณะที่เธอกำลังทานอาหาร โจวเหวินปิงก็เดินเข้ามา
ถือกล่องข้าวขนาดใหญ่ นั่งตรงข้ามซูโหย่วหรง
ทุกคนต่างมองพวกเขา
เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นตอนเช้า แพร่กระจายไปทั่วโรงงานแล้ว
ทุกคนต่างรู้ว่าระหว่างหัวหน้าโจวและซูโหย่วหรง จะต้องมีความลับที่ไม่สามารถบอกคนอื่นได้
“โหย่วหรง นี่เป็น...... ”
ยังไม่ทันที่โจวเหวินปิงจะพูดจบ ซูโหย่วหรงก็โมโหแล้ว
“ฉันเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าเอาอาหารมาให้ฉัน! ฉันไม่ต้องการให้ใครสงสารและเห็นใจ! ฉันสามารถมีชีวิตอยู่ได้! เอาอาหารของคุณออกไป!”
เธอกรีดร้อง น้ำตาไหล และรู้สึกเศร้า
โจวเหวินปิงรู้สึกทรมาน
อยากกอดเธอไว้ในอ้อมแขน และบอกเธอว่า: ผมรักคุณจริง ๆ! สามีของคุณยอมหย่าแล้ว!
แต่เขาตกใจ รีบลุกขึ้นและถอยไปข้างหลัง
“โหย่วหรง สามีคุณเป็นคนทำอาหารกล่องนี้ ผมไม่ได้ซื้อมา”
“อะไรน่ะ?”
ซูโหย่วหรงไม่อยากเชื่อหูตนเอง
เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองกล่องข้าวที่สวยงาม
มีกลิ่นหอมจาง ๆ เล็ดลอดออกมาจากกล่อง
โจวเหวินปิงกล่าวว่า “เขาให้คนขับแท็กซี่นำมามอบให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และให้ผมนำมาส่งให้คุณ ผม...จึงทำได้เพียงนำมาส่งให้คุณ คุณกินเถอะ มันหอมด้วย”
เขารู้สึกเศร้าเล็กน้อย
“อ้อ......” ซูโหย่วหรงพยักหน้าด้วยความมึน เธอรู้สึกตกใจมาก
เศษสวะที่สมควรตาย!
เขาทำแบบนี้ทำไม?
เขายังอยากได้เงินเบี้ยขยันประจำไตรมาสอีกเหรอ?
ให้แท็กซี่มาส่งอาหาร โอ้ สวรรค์...
จากบ้านมาที่นี่ ต้องเสียเงินค่ารถหลายสิบหยวน มันแพงมาก!
เขาเอาเงินมาจากไหน?
เธอมองกล่องข้าว และรู้สึกมึนงงอยู่พักหนึ่ง
โจวเหวินปิงซึ่งยืนห่างออกไปสามเมตร เขากล่าวด้วยความระมัดระวังว่า “โหย่วหรง โหย่วหรง……”
ซูโหย่วหรงกลับมามีสติอีกครั้ง เธอหยิบกล่องข้าวซึ่งทำจากสเตนเลส และยังอุ่นอยู่
เปิดกล่องข้าว ทันใดนั้น...
กลิ่นหอมเย้ายวนโชยออกมา
ซูโหย่วหรงตกตะลึงไปชั่วขณะ น้ำลายเกือบไหลออกมา
เธอหยิบอาหารออกมาอย่างเงียบ ๆ
ข้าวหอมกรุ่น กุ้งอบน้ำมัน น่องไก่ ปลาหิมะ…..
เขาเตรียมมาแม้แต่ผ้าเช็ดปาก เก็บไว้ตรงชั้นล่าง ห่อด้วยพลาสติก และยังอุ่นอยู่
เธอไม่รู้ว่าซ่งซานสี่เก็บอาหารพวกนี้ไว้ให้เธอ ตอนที่เขาทำอาหารกลางวันให้เถียนเถียน
หอมกรุ่นไปทั่ว ทำให้เพื่อนคนงานที่อยู่ใกล้เคียงน้ำลายไหล
“โอ้ สวรรค์ กลิ่นหอมมาก!”
“อาหารนี้เป็นฝีมือของสามีโหย่วหรงจริง ๆ เหรอ?”
“ถ้าฉันมีสามีแบบนี้ คงจะดีมาก..... ”
“กลิ่นหอมมาก…..”
“โหย่วหรงโชคดีมาก..... ”
เมื่อซูโหย่วหรงได้ยินเช่นนั้น เธอรู้สึกอึดอัดมาก
อาหารพวกนี้ ต้องเสียเงินไปเท่าไหร่?
เธอไม่ได้กินเนื้อ.....นานแล้ว
ถ้าเขาเป็นแบบนี้ไปตลอด คงจะดีมาก?
เธอก้มหน้ากินอย่างเงียบ ๆ รสชาติอร่อยมาก
ไม่เคยกินอาหารอร่อยขนาดนี้มาก่อน
แม้แต่อาหารในงานแต่งงาน และอาหารชั้นเลิศในเมืองจงไห่ ก็ไม่อร่อยแบบนี้
น้ำตาของเธอร่วงลงบนข้าวโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว......
ความสุขคืออะไร?
ซูโหย่วหรงไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน...
ตอนนี้ เหมือนความฝัน
ถ้าไม่ตื่นจากฝันตลอดไป คงจะดีมาก??
โจวเหวินปิงรู้สึกเศร้าใจมาก
เขาไม่พูดอะไร และเดินจากไปเงียบ ๆ
สามีเศษสวะที่เป็นคนล้างผลาญ ที่ทำร้ายเมียและลูก และจู่ ๆ กลายเป็นคนดี ก็สามารถทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งขนาดนี้?
ไม่ว่าผมโจวเหวินปิงจะดีกับเธอแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถเทียบสามีที่ส่งเธอมาทำงานหนึ่งครั้ง และส่งอาหารมาให้เธอหนึ่งครั้งได้......
แต่หลังจากเขาเดินออกมาจากโรงอาหารแล้ว เขาก็ถูกเรียก บอกว่าผู้จัดการโรงงานมีเรื่องจะพูดกับเขา เดาว่าน่าจะไม่ใช่เรื่องดี
โจวเหวินปิงรู้สึกกระสับกระส่ายเล็กน้อย
ผู้จัดการโรงงานเป็นคนแก่บ้ากาม เมื่อโจวเหวินปิงพบเขาแล้ว ไม่ใช่เรื่องดีตามที่คาดการณ์ไว้จริง ๆ
ผู้จัดการโรงงานกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “อย่าคิดอะไรกับซูโหย่วหรง มิเช่นนั้น ไสหัวออกไปจากที่นี่!”
เมื่อมองคนแก่บ้ากามคนนี้แล้ว ดูเหมือนโจวเหวินปิงจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
เพื่องานที่ได้มาด้วยความยากลำบาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงกัดฟันอดทน
เขาพยักหน้า ก้มหน้าและไม่พูดอะไร แล้วเดินออกไปจากห้องทำงานของผู้จัดการโรงงาน
นี่คือความน่าเกรงขามของผู้จัดการโรงงาน
เมื่อพนักงานมาพบเขา ตอนที่ออกไปก็ต้องเป็นแบบนี้ ก้มหน้าเดินออกไป
หลังจากโจวเหวินปิงปิดประตู ผู้จัดการโรงงานถึงได้พ่นลมออกมาอย่างเย็นขา และกล่าวว่า “แกคิดว่าตนเองเป็นใคร? อยากได้ซูโหย่วหรงเหมือนกัน? หลังจากผ่านช่วงนี้ไป เมื่องานของผมหายยุ่งแล้ว เธอก็จะเป็นของผม!”
……
เวลา 14:00 น. สถานบันเทิงบิ๊กเรกัล
ชายวัยกลางคนหน้าตาธรรมดาคนหนึ่งเดินเข้ามา
ที่นี่เป็นธุรกิจของหวงชางหยง มีมูลค่ามากกว่าสี่ห้าสิบล้าน และเป็นสถานะของหวงชางหยงอีกด้วย
ในปี 2010 ถือว่าร่ำรวยมาก
หวงชางหยงเป็นรุ่นที่สอง และมีภูมิหลังไม่ธรรมดา
สถานบันเทิงแห่งนี้ทำให้เขาร่ำรวยมาก
ที่นี่มีไนต์คลับ สปา กาสิโน และห้องเล่นไพ่ระดับไฮเอนด์
คืนหนึ่งในห้องเล่นไพ่ระดับไฮเอนด์ หวงชางหยงใช้เล่ห์เหลี่ยม
เขาชนะพนันซ่งซานสี่เป็นเงินสดสองล้าน บวกห้องชุดที่ตกแต่งอย่างดีอีกสามหลัง
และชายวัยกลางคนที่มาที่นี่ในวันนี้ ก็คือซ่งซานสี่ปลอมตัวมา
การเข้ามาในอาณาเขตของหวงชางหยงเป็นก้าวแรกของเขา
หน้าเกมปลามังกร ซ่งซานสี่เติมแต้มเป็นเงิน 5,000 หยวน
หลังจากนั่งเงียบ ๆ ประมาณครึ่งชั่วโมง พรึบ! เขาวางเดิมพันปลามังกรทองด้วยเงินทั้งหมด!
เขาชนะ ได้เงินรางวัล 200 เท่า!
ได้เงิน 100,000 หยวน ในเวลาเพียงแค่พริบตาเดียว!
ทุกคนรู้สึกตื่นตระหนก
ซ่งซานสี่ขอเป็นเงินสด
หลังจากได้เงิน 100,000 หยวน
เขาหันหลัง แล้วเดินไปตรงพื้นที่เกมสนุกเกอร์
ขณะนี้ เขาตกเป็นเป้าหมายของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในของสถานบันเทิงบิ๊กเรกัลแล้ว
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แบ่งออกเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายนอก และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายใน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายนอก ทำหน้าที่เฝ้าประตู เดินตรวจสถานที่และงานทั่วไป
ส่วนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายใน เวลาปกติจะไม่ปรากฏตัวออกมา และถ้าปรากฏตัว ก็จะต้องมีคนแขนขาหัก
เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ก็จะมีเจ้านายคอยแก้ปัญหาให้
ซ่งซานสี่สูบบุหรี่ และเดินเล่นเหมือนเที่ยวอยู่ในสวนสนุก
เขาเห็นเกมสนุกเกอร์ทั้งหมดสิบห้าเครื่อง
เวลาผ่านไปสองชั่วโมง
หลังจากนั้น เขาเลือกเครื่องหนึ่ง
นั่งลงแล้วเติมแต้มเป็นเงิน 1,000 หยวน
หลังจากเล่นสักพัก ไม่มีแต้มเหลือแม้แต่แต้มเดียว
หลังจากเสียแต้มไปหมดแล้ว เขาเติมแต้มอีก 1,000 หยวนทันที
ตอนนี้ เขารู้ว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายใน ไม่จับตามองเขาแล้ว
ถ้าเจ้าพ่อสี่อย่างเขา มองไม่เห็นสัญญาณอันตรายแค่นี้ได้ ก็เสียชาติเกิดแล้ว
ต่อไป เล่นขั้นเทพ
ไม่ว่าจะเป็นความแรง และมุมยิง เขายิงได้แม่นยำมาก
เกมสนุกเกอร์ วางเดิมพัน 1,000 แต้ม แทงไม้เดียวหมดโต๊ะ
หน้าจอระบุว่าได้ 120 เท่า
ทำให้พนักงานสาวเติมแต้มรู้สึกตกตะลึง
ได้เงินสด 120,000 หยวน
ตอนนี้มีเงินสดอยู่ในกระเป๋าหนังสีดำใบใหญ่ 220,000 กว่าหยวน ซ่งซานสี่หยิบกระเป๋าเงิน แล้วเดินออกไปจากที่นี่ทันที
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายใน ที่อยู่ด้านหลังเห็นสถานการณ์และเริ่มเคลื่อนไหว
ชายสวมชุดดำสี่คนเดินออกไปจากประตูหลัง และเดินตามซ่งซานสี่ไป
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หวงชางหยงได้รับข่าวที่ทำให้เขาตกใจ.....