บทที่ 2
"ดอกลาเวนเดอร์มันไม่สวยนะ ป๊าไม่ค่อยชอบเลย" คนเป็นพ่อเปลี่ยนเรื่องกลุ้มใจไปวิพากวิจารณ์ดอกไม้หน้าตาเฉย ราวกับตัวเองไม่ได้กำลังจะถูกยึดบ้านยังไงอย่างนั้น
"ป๊า !!!!"
"จะเสียงดังทำไมเล่าา ?"
"หนูเครียด !"
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเครียด ป๊ามีทางออกสำหรับเราสองคนพ่อลูกแล้ว" มารียาอยากยกเท้าขึ้นมาก่ายหน้าผากเสียเหลือเกิน เมื่อได้ยินบิดาพูดแบบนี้ แต่ไม่เห็นว่าท่านจะลงมือทำอะไรสักอย่างนอกจากนั่งยิ้มไปวันๆเหมือนแป๊ะยิ้มอย่างตอนนี้
"เอ้า! งั้นก็บอกมี่มาสิ ว่าทางออกที่ป๊าเตรียมไว้มันคืออะไรกันแน่ มานั่งยิ้มอยู่ได้ ไม่มีใครเขาจ้างป๊าไปเชิดสิงโตหรอกนะ ป๊าแก่แล้ว"
"เอ๊ะ! ไอ้ลูกคนนี้ เดี๋ยวปั๊ดตบกระโหลกร้าว"
"บอกมาสิคะ มี่ไม่มีอารมณ์มาหัวเราะกับป๊าหรอกนะ หนี้ตั้งยี่สิบล้านไปยืมมาทำไมเนี่ย" หญิงสาวบ่นยาวเหยียด ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าพ่อเธอ ต้องยืมเงินมาลงทุนทำธุรกิจส่งออกอะไหล่เครื่องจักร ซึ่งตอนนี้คงขาดทุนย่อยยับ เพราะบริษัทพึ่งปิดตัวลงเมื่อสองเดือนก่อน
"รู้แล้วอย่าตกใจนะ"
"คงไม่มีอะไรน่าตกใจไปมากกว่านี้แล้วแหละ" หญิงสาวบอก แล้วตั้งใจฟังสิ่งที่บิดากำลังจะพูด...
"ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วนะเรา?" จู่ๆคนเป็นพ่อที่ตั้งท่าจะเล่าแผนการเอาตัวรอดก็ถามขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
"ป๊าถามทำไม?"
"เอ้า! ถามไม่ได้หรือไงไอ้ลูกคนนี้นี่" คนเป็นพ่อแกล้งโวยวายอย่างไม่จริงจังนักก่อนจะไอค่อกๆแค่กๆออกมา
"โถ่... ก็มี่อุตส่าห์ตั้งใจฟังว่าเราจะแก้ปัญหากันยังไงป๊าดันมาถามเรื่องอายุซะงั้นแบบนี้มี่ก็งงน่ะสิป๊า" มารียาโวยวายอย่างไม่เกรงกลัวเพราะเธอกับบิดามีกันอยู่แค่สองคนและสนิทกันเหมือนเพื่อนคนนึง
"ป๊าก็แค่ถามทำไมต้องโวยวายด้วย"
"โอเคๆไม่โวยวายแล้วก็ได้" แอร์โฮสเตสสาวทำท่าจะยอมสงบศึกแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาเก่าๆข้างบิดาด้วยท่าทางเหนื่อยๆ "ปีนี้มี่อายุสามสิบแล้วป๊ามีอะไรหรือเปล่า?"
"โห... แก่แล้วเหมือนกันนะเนี่ย"
"เฮ้ย! ป๊าถามอายุลูกสาวตัวเองเพื่อจะบอกว่าลูกแก่แล้วเนี่ยนะ" มารียาแหวบิดาเสียงเขียวเพราะเธอรู้สึกขุ่นเคืองกับคำว่า'แก่' เป็นอย่างมาก
เขาเรียกพึ่ง'สามสิบ' ไหมล่ะ !
แก่เก่ออะไรกัน - -!
"ป๊าพูดจริงๆนะอายุสามสิบแล้วทำไมไม่แต่งงานแต่งการไปสักทีเป็นโสดทำไมตายไปเดี๋ยวยมบาลก็ถามหรอก" คนอารมณ์ดีบอกลูกสาวแบบติดตลกทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้นึกตลกด้วยเลยสักนิด
"ขำหรอ? มันน่าขำตรงไหนอะมี่อายุสามสิบป๊าก็เกือบจะเจ็ดสิบแล้วมันน่าขำตรงไหน!?" หญิงสาวถามขึ้นด้วยอาการหัวร้อนเพราะดูท่าทางพ่อของเธอไม่ได้เครียดเลยที่บ้านกำลังถูกยึด
"ป๊าว่าอามีมี่น่าจะแต่งงานได้แล้ว"
"ไม่แต่ง !" มารียาร้องลั่นราวกับถูกเชือดเมื่อบิดาเอ่ยถึงการแต่งงาน
"ทำไมล่ะ?"
"มี่ยังไม่มีแฟนเลยนะป๊าจะให้ไปแต่งกับใครที่ไหนล่ะ?"
"แล้วทำไมไม่ยอมมีสักทีล่ะหน้าตาก็ไม่ได้ขี้รี้วขี้เหร่สักหน่อย" คนเป็นพ่อมองหน้าลูกสาวอย่างพิจารณาก่อนจะเอ่ยขึ้น
"ไม่อะไม่แต่งไม่รู้จะแต่งไปทำไมอยู่เป็นโสดน่ะดีจะตายมี่ไม่อยากช้ำใจเวลาแฟนไปมีกิ๊กเหมือนยัยอีวี่อะ" มารียาเอ่ยถึงรุ่นน้องแอร์โฮสเตสในแก๊งค์ที่แฟนหนุ่มของนางชอบแอบไปมีกิ๊กทุกครั้งที่มีโอกาสและถ้าเธอต้องใช้ชีวิตหวานอมขมกลืนแบบนั้นเธอยอมตายเสียยังดีกว่า!