บทย่อ
...เมื่อเธอผู้ยึดมั่นในคานทอง ถูกบังคับให้แต่งงานกับเด็กข้างบ้านเพื่อใช้หนี้!!ความรักปั่นป่วน ชวนจั๊กจี้หัวใจจึงเริ่มต้นขึ้น..."ผู้ชายดีๆ มันยังมีอยู่บนโลกนี้อีกเรอะ!?" ร่างบางพูดกลั้วหัวเราะ...ทว่ากลับมีเสียงของบุคคลที่เธอไม่ได้รับเชิญดังแทรกขึ้น"เจ้มีมี่พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ ผู้ชายดีๆ ที่ว่าอาจจะอยู่ใกล้ตัว จนเจ้มีมี่ลืมดูไปก็ได้นะครับ" ร่างสูงชะรูดของเด็กข้างบ้านเดินเข้ามาส่งยิ้มให้เธอ"มันมีด้วยหรอตาหนู เจ้ไม่เคยเห็นผู้ชายดีๆ ที่ไหนใกล้ตัวเลยสักคน" มารียาพูดด้วยความหงุดหงิดแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่"ก็...ผมไง!" คนพูดชี้เข้าหาตัวเองแล้วยิ้มแฉ่งออกมา
บทที่ 1
"เมื่อกี้... เมื่อกี้มี่แค่หูฝาดไปใช่ไหมคะ ?" ร่างบางที่พึ่งกลับมาจากที่ทำงานร้องถามบิดาด้วยเสียงโหยหวน ราวกับเสียงกรีดร้องของค้างคาวมากกว่าจะเป็นเสียงคน
"ไม่ฝาดหรอกอามีมี่ ป๊าพูดความจริงทุกอย่าง เราสองคนพ่อลูกกำลังจะไม่มีที่ซุกหัวนอนแล้ว"
...เสียงชายชราท่าทางเจ็บป่วยออดๆแอดๆบอกขึ้นด้วยรอยยิ้มราวกับการที่บ้านกำลังจะถูกเจ้าหนี้นอกระบบยึดไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร
"บ้านกำลังจะถูกยึด แล้วป๊ามายืนยิ้มหน้าระรื่นอยู่เนี่ยนะ" มารียาถามด้วยความสงสัย
"แล้วจะให้ป๊าเครียดเรอะ !?" คนต้นเรื่องถามกลับอย่างไม่ทุกข์ร้อนอีกครั้ง ทั้งที่คนฟังแทบจะลงไปแดดิ้นอยู่กับพื้น
"ป๊าคะ นี่มันไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาล้อเล่นนะ"
"ป๊าก็ไม่ได้ล้อเล่น บ้านเรากำลังจะถูกยึดจริงๆ เดือนหน้านี่แหละมั้ง"
"แล้วป๊ายิ้มทำไมเนี่ย !!" แอร์โฮสเตสสาวแหวใส่อย่างหัวเสีย เพราะเรื่องคอขาดบาดตายแบบนี้ บิดาของเธอไม่ควรมายิ้มแฉ่งเหมือนอาแปะแป๊ะยิ้มในคณะเชิดสิงโต
"เครียดไปป๊าก็จะตายเร็วเปล่าๆน่ะซี้"
"แต่ป๊ายิ้มแบบนี้ มันทำให้หนูรู้สึกอยากตายขึ้นมาเล่นนะเนี่ย" มารียาโวยวายก่อนจะเดินไปหยิบสัญญาหนี้ยี่สิบล้านที่บิดาไปกู้มาเมื่อห้าปีที่แล้วขึ้นมาอ่านอีกครั้ง เพื่อยืนยันว่าเธอไม่ได้หูฝาดไปจริงๆ
"ป๊า... บ้านเรากำลังจะโดนยึดจริงๆหรอ ?"
"เอ้า! อามีมี่นี่ถามแปลกๆอีกละ ก็จะโดนจริงๆน่ะซี้"
"แล้วเราสองคนพ่อลูกจะไปซุกหัวนอนที่ไหนล่ะ"
หญิงสาวขมวดคิ้วเป็นปมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ลำพังเงินเดือนของเธอสามารถใช้อยู่ใช้กินได้สบาย แต่พอเงินออกเธอก็ต้องแบ่งมาใช้หนี้ให้พ่อ แล้วคิดดูว่าตั้งยี่สิบล้าน ไม่รวมดอกเบี้ยอีกบานตะไทที่ไม่รู้ว่าชาตินี้จะใช้หมดเมื่อไหร่นั่นอีก
"ไม่ต้องเครียดหรอกอามีมี่"
"ไม่ให้มี่เครียดได้ไงป๊า มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ" เธอโวยวาย แล้วโยนสัญญาหนี้กระจัดกระจายไปทั่วบ้านอย่างหัวเสีย
"ป๊ามีทางออกแล้วกันจะเครียดไปทำไมหน้าแก่หมด"
"ทางออกหรอ ?"
"ใช่! ป๊าเตรียมทางออกเอาไว้ให้เราสองคนพ่อลูกแล้ว รับรองว่ามันดีต่ออามีมี่ของป๊า และตัวป๊าเองอย่างแน่นอน"
"ทางออกอะไรของป๊า" หญิงสาวขมวดคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ
เอ๊ะ!...หรือบิดาของเธออาจจะพอมีเงินเก็บสำรองอยู่บ้าง!
"ป๊ามีเงินเก็บหลายล้านเลยใช่ไหม ?"
"ไม่ใช่" คนเป็นพ่อส่ายหัว
"เอ้า! งั้นป๊าก็รีบบอกมาเลยว่าทางออกของป๊ามันคืออะไรกันแน่ หนูไม่อยากไปนอนข้างถนนนะเดือนหน้าน่ะ หนูยังไม่พร้อมตกจากวิมานสวรรค์ชั้นฟ้า" มารียาโวยวายไปตามประสา ก่อนจะทรุดนั่งลงกับพื้น
"โอ๊ย!จะเครียดไปทำไม ชีวิตของเรามีมุมสวยงามอยู่อีกตั้งเยอะ เครียดไปก็เท่านั้น"
"ป๊ามาถือปรัชญาโลกสวยอะไรตอนนี้เนี่ย บ้านเรากำลังจะโดนยึดนะ นี่ป๊าแทบจะกลายเป็นบุคคลล้มละลายอยู่แล้ว ป๊ายังมาโลกสวยอีกหรอ"
"ไม่ๆ โลกของป๊าน่ะหล่อเหลา ไม่เชื่อก็ไปถามแม่เขาที่ฮวงซุ้ยดูสิ" บิดาของเธอบอกด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม เพราะทุกอย่างดูเข้าที่เข้าทางไปหมด
"นี่อากงอาม่าเลี้ยงป๊ามาในทุ่งลาเวนเดอร์หรอ"