ตอนที่ 3
วิทวัสเงยหน้าขึ้นจากแฟ้มงานเมื่อประตูห้องถูกเปิดและปิดสนิทลงในเวลาอันรวดเร็ว รถวีลแชร์ไฟฟ้าที่ภายในมีร่างของจอมราชนั่งอยู่มาหยุดตรงหน้า ชายชราถอนใจเบาๆ เพราะสีหน้าของบุตรชายบอกให้รู้อย่างชัดเจนว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ใด
“ส่งตัวผู้หญิงคนนั้นกลับไปซะเถอะครับคุณพ่อ ผมไม่ต้องการแต่งงาน”
ผู้เป็นลูกชายดึงแว่นตาออก และจ้องมองใบหน้าของบิดานิ่ง
วิทวัสถอนใจออกมาด้วยความเป็นกังวล พลางจ้องหน้าบุตรชายตอบ
“ราช... หนูม่านทองเป็นคนดี เป็นผู้หญิงที่ดี พ่ออยากให้ราชลืมเรื่องร้ายๆ ที่รัสเซียซะ แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่...”
“คุณพ่อก็รู้ว่าผมไม่มีทางลืมได้!”
คนที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ลุกขึ้นยืน พร้อมกับตะโกนลั่น
“ผมเกลียดพวกหิวเงิน!”
น้ำเสียงของจอมราชเต็มไปด้วยความคลั่งแค้น สองมือกำแน่น ริมฝีปากบิดเบี้ยวด้วยความทรมาน อดีตที่รัสเซียยังคงหลอกหลอนในทุกๆ ค่ำคืนอย่างอำมหิต
“แต่หนูม่านทองไม่ใช่คนแบบนั้น”
จอมราชที่ตอนนี้ไม่เหลือร่องรอยของคนตาบอดอยู่อีกแล้วจ้องหน้าบิดาเขม็ง “ผู้ชายอย่างเราตามมารยาของผู้หญิงที่มีเป็นพันๆ เล่มเกวียนไม่ได้หรอกครับ”
“ราช...”
“ถ้าคุณพ่อไม่ส่งยายหน้าจืดกลับไป ผมนี่แหละจะเป็นคนส่งกลับไปเอง”
นัยน์ตาสีนิลของจอมราชลุกเป็นไฟ วิทวัสเห็นแล้วก็เต็มไปด้วยความเป็นกังวล
“ราช... อย่าใช้กำลังกับหนูม่านทอง พ่อขอร้อง”
คนเป็นลูกชายเดินไปหยุดที่ขอบหน้าต่างบานใหญ่ภายในห้องทำงานของบิดา ดวงตาคมกริบที่หายจากความมืดมนมาแล้วสามเดือนจ้องลงไปยังพื้นด้านล่างเขม็ง ร่างเล็กในชุดสีขาวสะอาดของม่านทองกำลังเดินอยู่ภายในสวนดอกไม้ วูบหนึ่งเขารู้สึกถึงความงดงามของหล่อน แต่ความหลังอันแสนเจ็บปวดทำให้เขาต้องกัดฟันเมินหน้าหนี
“ผมเป็นลูกผู้ชายพอครับ ผมไม่มีวันใช้กำลังกับผู้หญิง”
“แล้วราชจะทำยังไง”
จอมราชหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับบิดา แสงอาทิตย์ที่สาดกระทบเข้ามาทางด้านหลังยิ่งทำให้เขาดูแข็งกระด้างน่าสะพรึงกลัวมากยิ่งขึ้น
“ผมก็จะทำให้แม่นี่ต้องเดินออกไปจากบ้านของเราด้วยเท้าของตัวเองน่ะสิครับ”
“ราช...”
“ไม่มีผู้หญิงคนไหนทนอยู่กับผู้ชายหยาบคาย แถมยังพิการได้หรอกครับ”
วิสวัทเต็มไปด้วยความหวั่นใจ เขาต้องการม่านทองในฐานะลูกสะใภ้ แต่จอมราชกลับคัดค้านหัวชนฝา
“ราชหมายถึง...”
“ห้ามคุณพ่อบอกใครนะครับว่าผมมองเห็นแล้ว”
วิทวิสเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ
“ราช... พ่อขอร้องล่ะ อย่าทำแบบนี้เลย ราชควรจะให้โอกาสหนูม่านทอง...”
ผู้เป็นบิดายังพูดไม่ทันจบประโยค จอมราชก็แทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเลือดเย็นเสียก่อน
“ถ้าแม่นั่นสามารถทนผมได้ และอยู่ที่นี่ได้ครบหนึ่งเดือน ผมจะแต่งงานกับเธอ คุณพ่อตกลงไหมครับ”
“แล้วถ้าไม่ได้ล่ะราช”
คนถูกถามหัวเราะเบาๆ นัยน์ตากร้าวกระด้างน่ากลัว
“ผมก็เป็นอิสระยังไงล่ะครับ”
จอมราชกลับมานั่งบนรถวีลแชร์อีกครั้ง พร้อมๆ กับแว่นตาสีดำที่ถูกสวมลงบนใบหน้า
“ขอตัวนะครับคุณพ่อ ผมพึ่งคิดได้ว่ามีเรื่องสนุกๆ รออยู่”
“ราช...”
วิทวัสร้องเรียกลูกชาย แต่หนุ่มหล่อบนวีลแชร์กลับหายออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว เขาถอนใจออกมาอย่างอ่อนล้า พลางภาวนาให้ม่านทองทนต่อแรงอารมณ์ของจอมราชได้ถึงหนึ่งเดือนเถอะ
หลังจากเผชิญหน้ากับพายุอารมณ์ของว่าที่เจ้าบ่าวแล้ว ม่านทองก็หนีลงมาเดินเล่นในสวนดอกไม้แทน หล่อนพยายามจะไม่คิดอะไรมาก แต่กระนั้นก็ห้ามสมองที่ช่างสอดรู้สอดเห็นไม่ได้เลย เรื่องราวของจอมราชยังคงมืดดำ และก็น่าใคร่รู้ยิ่งนัก
“เธอ...”
สาวใช้ที่กำลังเดินผ่านไปถูกเรียกเอาไว้ด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร
“เรียกหนูเหรอคะ”
ม่านทองระบายยิ้ม พลางชวนคุย
“จะรีบไปไหนหรือเปล่าจ๊ะ”
“เอ่อ ไม่รีบหรอกค่ะ ว่าแต่คุณม่านทองมีอะไรให้หนูรับใช้คะ”
“นี่เธอรู้จักชื่อฉันด้วยเหรอ”
คิ้วโก่งสวยของม่านทองเลิกสูง พร้อมๆ กับรอยยิ้มหวานที่เกลื่อนใบหน้าตลอดเวลา
“รู้จักสิคะ ก่อนที่คุณม่านทองจะมาที่นี่ นายท่านได้บอกกับพวกเราทุกคนแล้วล่ะค่ะว่าคุณม่านทองจะมาเป็นนายหญิงของที่นี่”
แก้มนวลแดงระเรื่อขึ้นโดยอัตโนมัติ อดรู้สึกขัดเขินไม่ได้
“เอ่อ แล้วเธอชื่ออะไรจ๊ะ อยู่ที่นี่มานานหรือยัง”
คนถูกถามยิ้มกว้าง พลางแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงสดใส
“หนูชื่อจำปาค่ะ เป็นลูกของแม่จำปี หนูรับใช้นายท่านมาตั้งแต่เกิดแล้วค่ะ”
ม่านทองฟังแล้วก็อมยิ้มอย่างถูกใจ
“งั้นแบบนี้... จำปาก็รู้เรื่องที่นี่ดีใช่ไหมจ๊ะ”
เด็กสาวช่างเจรจาพยักหน้ารับ
“จำปารู้ทุกเรื่องเลยค่ะ ว่าแต่คุณม่านทองอยากจะรู้เรื่องอะไรล่ะคะ”
ดวงตาของม่านทองเป็นประกาย อีกประเดี๋ยวความมืดดำของจอมราชก็คงจะกระจ่างชัดกับหล่อนแล้วสินะ
“เรื่องของพี่ราชน่ะจ้ะ”
รอยยิ้มบนริมฝีปากของคู่สนทนาจางหายวับไปในทันที ก่อนที่จำปาจะรีบขยับตัวออกห่าง ปฏิกริยาเปลี่ยนแปลงไปชนิดเฉียบพลันเลยทีเดียว
“เอ่อ จำปาขอตัวก่อนนะคะ คุณม่านทอง พอดีพึ่งนึกขึ้นได้ว่าแม่เรียก”
“จำปา เดี๋ยวก่อนสิจ๊ะ จำปา...”
ไม่ว่าหล่อนจะตะโกนเรียกเสียงดังแค่ไหน แต่จำปาก็รีบเดินหนีหายไปอย่างรวดเร็ว ม่านทองถอนใจออกมาอย่างผิดหวัง พลางทรุดกายนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตัวยาวใต้ต้นลีลาวดี
“แล้วแบบนี้เราจะรู้เรื่องของพี่ราชได้จากที่ไหนกันล่ะ”
“คุณม่านทองอยากรู้เรื่องไหนของนายน้อยครับ”
คนที่นั่งอยู่สะดุ้ง ก่อนจะหน้าซีดเมื่อเห็นผู้ชายตัวใหญ่มาหยุดตรงหน้าไม่ไกลนัก หล่อนรีบขยับลุกขึ้นยืน และคลี่ยิ้มน้อยๆ ให้
“คุณ... เป็นใครคะ”
“ผมชื่อธีรดลเป็นคนสนิทของคุณราชครับ”
“คนสนิท”
ม่านทองทวนคำก่อนจะระบายยิ้มกว้างออกมา
“งั้นคุณพอจะเล่าเรื่องของเจ้านายคุณให้ฉันฟังได้ไหมคะ”
นัยน์ตาของคู่สนทนาไม่มีร่องรอยความรู้สึกอะไรเลยนอกจากเฉยเมย หมอนี่ท่าทางเย็นชาพอๆ กับผู้เป็นนายไม่มีผิด
“คุณม่านทองอยากรู้เรื่องอะไรล่ะครับ”
หญิงสาวขยับเข้าไปหาคู่สนทนา พลางเงยหน้าและยิ้มกว้างจนดวงตากลมโตหยีแคบลง
“ทุกเรื่องค่ะ”