ตอนที่ 2 ติดเกาะหรือติดใจ
“บ้าที่สุดเลยทำไมต้องคิดถึงแต่ภาพนั้น” เอิงเอยเดินไปตามชายหาด เมื่อคืนเธอแทบไม่ได้นอนเพราะคิดถึงแต่ภาพบาดตาของเจ้าคุณ
“สาวน้อย”
“ใครเรียก”
“เดี๋ยวสิจะรีบไปไหน” เจ้าคุณเดินเข้ามาใกล้เขาว่าแล้วว่าหญิงสาวต้องเห็นต้องเห็นตอนที่เขากำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกัน เป็นเด็กเป็นเล็กแอบดูเรื่องของผู้ใหญ่
“หนูจะไปเดินเล่นทางอื่นค่ะ”
“แล้วทำไมต้องหลบหน้าฉัน”
“ลุงบอกว่าพี่เจฟฟ์ต้องการเวลาส่วนตัว”
“แน่ใจ?”
“ค่ะ เมื่อคืนก็เห็นแล้ว” เธอพูดเบาๆ เพื่อไม่ให้เขาได้ยิน รู้สึกเจ็บที่หัวใจเพราะเขามีคนอื่นตลอด เธอมันก็แค่เด็กที่เขาไม่มีวันชายตามอง
“ขึ้นมาสิ”
“ไม่เอาค่ะเดี๋ยวโดนลุงดุ”
“ขึ้นมา!” เจ้าคุณกลายเป็นคนพูดเยอะไปตั้งแต่เมื่อไร ตั้งแต่เขาเจอกับเด็กสาว เขากลายเป็นคนต่อปากต่อคำเก่งไปได้
“กอดเอวไว้”
“ว้าย” เอิงเอยรีบกอดเอวเขาไว้แน่นเมื่อเขาขับเจ็ทสกีออกจากชายฝั่ง พวกเรานั่งชมวิวกันมาเรื่อยๆ จนมาถึงแกเกาะซึ่งก็ไม่รู้ว่าที่ไหน
“อายุแค่นี้ทำไมกล้ามากับผู้ชายคนอื่น”
“ผู้ชายคนที่ไหนคะหนูมากับพี่เจฟฟ์พี่เป็นเจ้านายของลุงศักดิ์” และยังเป็นว่าที่สามีของเธอในอนาคตอีก เวลานี้อยู่กันสองต่อสองแล้วเป็นโอกาสดี
“พี่เจฟฟ์ชอบเด็กมั้ยคะ?”
“ไม่ชอบ”
“แต่เด็กน่ารักนะคะ อยู่กับเด็กแล้วจะทำให้อายุเราดูน้อยลง”
เอิงเอยชวนเขาคุยเพราะเขาคุยน้อยมาก เธอต้องถามตลอดเวลาเขาถึงจะยอมตอบ ทั้งสองนั่งหลบแดดและพูดคุยกันส่วนมากจะมีแต่เอิงเอยมากกว่าที่ถามเขา
“ถึงพี่เจฟฟ์จะอายุเท่าหนู แต่หนูไม่ได้คิดว่าพี่เจฟฟ์เป็นพ่อเลยนะคะ”
“...” คนอื่นบอกว่าแก่ไม่เจ็บเท่าคนตรงหน้าพูด ย้ำเขาจังเลยว่าเขาอายุเท่าพ่อตัวเอง แถมยังพูดแบบหน้าตาใสซื่อเอาซะเขาพูดไม่ออก
“พี่เจฟฟ์มีแฟนหรือยังคะ”
“ถามทำไม”
“ก็หนูอยากรู้ค่ะพี่เจฟฟ์มีแฟนรึยัง?” เด็กสาวถามไปก็เขินไป เขาหล่อมากยิ่งอยู่ใกล้แบบนี้เธอยิ่งเขินอายมากไปกว่าเดิม
“จะจีบฉันหรือไง ฉันบอกไว้เลยว่าไม่ชอบเด็ก”
“แต่หนูน่ารักนะคะ รับหนูไปเลี้ยงมั้ยหนูกินไม่เยอะไม่งอแงด้วยค่ะ ที่สำคัญหนูรักเดียวใจเดียว”
“อายุแค่นี้รู้หรือไงว่าความรักคืออะไร” ทำไมเขาต้องหัวใจเต้นแรงด้วยเวลาอยู่กับเด็กสาว แถมยังเจ็บหัวใจขึ้นมาแปลกๆ จนเขาต้องจับหน้าอกอีกครั้ง
“ความรักแบบนี้ใช่มั้ยคะ...” เอิงเอยโน้มตัวเข้าไปใกล้เขาและแตะที่ริมฝีปากเขาเบาๆ เธอรู้สึกเหมือนลอยอยู่บนก้อนเมฆ เมื่อเขาเริ่มจูบตอบเธอวางมือบนอกของเขา รู้ถึงหัวใจที่เต้นรัว ขณะที่ริมฝีปากของทั้งสองแนบชิดกันอย่างแผ่วเบา
“อืม”
เจ้าคุณจับคางเธอไว้แน่นเพื่อไม่ให้หันหน้าหนีไปไหน เขาเริ่มลงน้ำหนักมากขึ้น จนสามารถดันลิ้นเข้าไปกวาดต้อนน้ำหวานได้ เขาครางอย่างพอใจเมื่อหญิงสาวจูบตอบ จูบที่ไร้เดียงสาทำให้เขาแทบคุมตัวเองไม่อยู่
ซ่า ซ่า
“แม่งเอ๊ย!” ฝนกระหน่ำเทลงมาเขาจึงมองหาที่หลบฝน เขาพาเอิงเอยไปหลบที่ก้อนหินใหญ่ที่มีโพรงให้หลบฝนได้ เขาลืมดูสภาพอาการตอนนี้พายุกำลังก่อตัว
“เราจะกลับกันยังไงคะ”
“รอ มานั่งใกล้ๆ ฉันสิ”
“...” เอิงเอยกลัวว่าเขาจะทำอะไร คนปากเก่งแต่ไม่มีประสบการณ์เรื่องแบบนั้นเลย แค่โดนเขาจูบก็อ่อนระทวยไปตามเขา
“เข้าใจหรือยังว่าความรักแบบผู้ใหญ่เป็นแบบไหน ไม่ใช่เด็กน้อยที่จีบกันไปมา”
“...”
“อยากจีบฉันไม่ใช่เหรอ”
“หนูอยากได้พี่เจฟฟ์เป็นแฟนค่ะ” เธอแอบมองเขามานานแล้ว แต่เขาไม่เคยรู้จักเธอเลย
“อายุครบ 18 รึยัง”
“อีกไม่ถึงเดือนก็ครบแล้วค่ะ”
“ถึงวันนั้นเมื่อไรฉันจะให้คำตอบอีกที” ไม่อยากเข้าคุกเพราะหลอกเด็ก เอิงเอยเป็นคนแรกที่เขาให้เข้าใกล้ และพูดคุยกันได้นานขนาดนี้
“พี่เจฟฟ์จะให้หนูจีบใช่ไหมคะ”
“มากกว่าจีบจะให้ทำมั้ย แบบเมื่อคืนไง”
“พี่เจฟฟ์” เธอหน้าแดงด้วยความเขินอาย ภาพเมื่อคืนยังติดตาเธออยู่เลย ยังไม่ทันจะได้พูดต่อเขาโน้มตัวลงมาจูบเธออีกครั้ง
“อื้ออออ”
“อยากเป็นแฟนฉันก็ต้องให้ฉันตรวจเช็คก่อน”
“ตรวจเช็คอะไรคะ?”
“หึ...” เขาหัวเราะในลำคอและก้มหน้าซุกไซ้ที่ซอกคอขาวเนียนและสูดดมกลิ่น กลิ่นแป้งเด็กทำให้เขาคลายเครียด มือหนาเริ่มไม่อยู่นิ่ง เขาล้วงเข้าไปในเสื้อยืดของเธอและขย้ำหน้าอกผ่านเสื้อใน
“อื้อ อะ พี่เจฟฟ์”
“แค่นี้ตัวสั่นเชียว ฉันกินจุมากนะบอกไว้ก่อน” เขาผละออกเมื่อเช็คของแล้ว ตัวแค่นี้แต่หน้าอกกลับไม่เล็กด้วย เขากำลังจะกลายเป็นตาแก่แอบเลี้ยงเด็ก
“คนนะไม่ใช่ข้าวจะได้กินจุ”
“ครบรอบวันเกิดเมื่อไรมาหาฉัน” ในเมื่อเสนอเขาก็จะสนองให้
“พี่เจฟฟ์จะให้หนูจีบใช่ไหมคะ”
“ตามนั้น” เขาไม่ได้พูดอะไรต่อเกือบหนึ่งชั่วโมงลูกน้องเขาจึงออกตามหา ฝนเริ่มเทกระหน่ำลงมาอีกรอบ คนที่เพิ่งหายป่วยเหมือนจะกลับมาป่วยอีก
“โอ๊ยลุงหนูเจ็บนะ”
“เจ็บสิดีจะได้จำ เพิ่งหายป่วยทำไมมาตากฝนอีก”
“อย่าไปว่าน้องเลยครับผมพาน้องออกมาเอง” ก็เขาพาเอิงเอยออกมาจริงๆ เริ่มคิดไปเลยว่าหญิงสาวเพิ่งหายป่วย
“ผมจะกลับกรุงเทพพรุ่งนี้เตรียมตัวให้พร้อม”
เอิงเอยหน้าจ๋อยเพราะต้องกลับเร็วกว่ากำหนด กลับกรุงเทพไปไม่รู้ว่าจะได้เจอหน้าเจอเขาอีกไหม จะมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดเขาแบบนี้อีกไหม
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น” หลังจากที่กลับมาถึงบ้านพักเขาจึงเข้ามาอาบน้ำ ช่วงนี้พายุเข้าเขาก็มาพักผ่อนไม่ดูสภาพอากาศเลย
“กลับกรุงเทพไปแล้วหนูจะได้เจอพี่เจฟฟ์มั้ยคะ”
“หนูขอเบอร์ ขอไลน์พี่เจฟฟ์ได้มั้ย”
“ขอเบอร์ผู้ชายแบบนี้บ่อยๆ เหรอ” ดูเหมือนจะทำจนชินไปแล้ว
“ก็มีบ้างค่ะ” เพื่อนชอบใช้ให้เธอเดินไปขอเบอร์ขอไลน์ผู้ชาย ซึ่งเธอก็ทำจนชินไปแล้วแค่ขอเบอร์ไม่ได้ไปทำอะไรเสียหาย
“ว่าอะไรนะ!” แสดงว่าทำบ่อยอย่างนั้นเหรอ ที่มาจีบเขาก็แปลว่าจีบคนอื่นไปด้วยนั้นสิ เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องหงุดหงิดด้วย
“พี่เจฟฟ์เป็นอะไรคะ”
“ออกไป”
“แต่พี่ยังไม่ได้ให้เบอร์หนูเลยนะคะ”
“ฉันไม่ให้” เขาย้ำลงไปคิดว่าเขาเป็นอะไรถึงได้ขอเบอร์ผู้ชายไปทั่ว เขายอมรับว่าโกรธไม่พอใจที่เธอทำตัวแบบนี้ เจ้าคุณเดินหนี ไม่ยอมให้เบอร์ติดต่อ
หลังจากกลับมาถึงกรุงเทพเอิงเอยก็เปิดเทอมพอดี จึงไม่มีเวลาตามลุงไปที่บ้านของเจ้าคุณ แถมเธอไม่มีเบอร์ติดต่อเขาอีก จะติดต่อกันยังไง
“นึกยังไงถึงชวนธามมาดูหนังเนี้ย”
“เหงาอ่ะแป้งหอมก็ไปกับแฟน”
“ธามบอกให้หาแฟนสักคนไง” ทั้งสองคนดูหนังจนเสร็จกลับออกมาก็เย็นแล้ว ทั้งสองจึงแยกย้ายกันกลับบ้านแต่สายตาของเอิงเอยไปสะดุดตากับเจ้าคุณพอดี
“พี่เจฟฟ์ขา พี่เจฟฟ์!”
เสียงเรียกที่คุ้นเคยทำให้เจ้าคุณหันไปมอง เด็กสาวที่อยู่ในชุดนักเรียนเปียผมทั้งสองข้างดูน่ารักสมวัย กำลังวิ่งมาหาเขา ทำไมถึงยังไม่กลับบ้าน
“พี่เจฟฟ์”
“ทำไมถึงยังไม่กลับบ้าน”
“หนูมาดูหนังกับธามค่ะ คิดถึงพี่เจฟฟ์จังเลยค่ะ”
เอิงเอยจับมือของเขาไว้แน่น และส่งยิ้มให้เขาไม่รู้เลยว่าชื่อผู้ชายที่หลุดออกมาจากปากของเธอทำให้เจ้าคุณไม่พอใจเป็นอย่างมาก ปากบอกจะจีบเขาแต่กลับมาดูหนังกับผู้ชายคนอื่น
“ปล่อย!” มากับคนอื่นแต่กล้ามาบอกคิดถึงเขา เอิงเอยเป็นคนยังไงกัน
“เจฟฟ์ขา ใครเหรอคะ” เชอรีลไม่พอใจที่เขาให้ความสนใจคนอื่นมากกว่าเธอ เด็กแบบนั้นเขาคงไม่ชอบแน่นอนแต่สายตาของเขากลับเปลี่ยนไป
“น้องสาว กลับบ้านดีๆ นะ”
“...”
เจ้าคุณขึ้นรถไปพร้อมกับคนของเขา เขาไม่ได้หันมามองเอิงเอยอีกเลยเขาแค่พาเชอรีลมาทานข้าวและจะไปต่อกันที่โรงแรมพอเจอหน้าเอิงเอย ทำให้เขาหมดอารมณ์ทันที