ตอนที่ 3 ตามจีบ
ตั้งแต่ที่เจอกับเจ้าคุณในวันนั้นเธอไม่ได้พบเขาอีก แค่ติดต่อยังยากจะเอาเวลาที่ไหนไปจีบ เขาไม่ให้เบอร์ติดต่อหรือเปิดโอกาสให้เธอเลย
“เอย เอย!”
“ลุงหนูตกใจหมด”
“เหม่ออะไรนะเรา ไปหยิบมือถือให้ลุงหน่อย”
“จ้า” เอิงเอยวิ่งเข้ามาในบ้านหยิบมือถือ และคิดอะไรออกเธอจึงเข้าไปในรายชื่อ คุณลุงต้องมีเบอร์ติดต่อเขาแน่ๆ เลื่อนไปสักพักจึงเห็นชื่อของคนที่กำลังคิดถึง
เอิงเอยเอามือถือมาให้ลุงจึงเดินเข้าไปในห้องนอน เธอชั่งใจว่าจะโทรหาเขาดีหรือไม่ ถ้าเขาติดธุระอยู่จะทำยังไง หรืออาจจะไม่รับสายเธอเลย
“ไม่ลองก็ไม่รู้ อยากได้ก็ต้องลอง ฮึบ!”
หญิงสาวกดโทรออกแต่ต้องรีบตัดสายทิ้ง จะโทรหาเขาในฐานะอะไร และคำแรกจะพูดกับเขาว่าอย่างไร เกิดเขาไม่รับสายละ
“สวัสดีค่ะพี่เจฟฟ์ ไม่สิ พี่เจฟฟ์จำหนูได้มั้ยคะ” เธอซ้อมพูดกับตัวเองในกระจก และกดโทรอีกครั้งแต่ต้องรีบตัดสายอีกเหมือนเดิม
“ฮือ จะพูดกับเขาว่ายังไงหนูคิดถึงพี่เจฟฟ์นะคะ”
“พี่เจฟฟ์คิดถึงหนูมั้ย เฮ้ย ไม่ได้เป็นอะไรกันจะถามแบบนั้นไม่ได้”
เอิงเอยนั่งจ้องมือถืออยู่พักใหญ่จึงกดโทรออก เธอเปิดสปีกเกอร์โฟนไว้และวางมือถือไว้บนหมอน
ตู้ด ตู้ด
รอสายไม่นานปลายสายมีการตอบรับ ทำให้เธอเหลือบมองเล็กน้อย เจ้าคุณเขารับสายเธอแต่ปลายทางเงียบ มีเสียงแทรกเข้ามาเรื่อยๆ จน...
“อื้อ อ๊ะ เจฟฟ์คะเอาลึกๆ ค่ะ เสียวกีมาก...”
“กรี๊ดดดดด” เอิงเอยรีบตัดสายทิ้งเพราะเสียงนั้นไม่ใช่เสียงของเขาแต่เป็นเสียงผู้หญิง เธอไม่ใช่เด็กเธอเคยเรียนเพศศึกษามา เสียงเนื้อกระทบกันที่ดังลอดออกมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขากำลังทำอะไรกันอยู่
“ฮึก ฮือ พี่เจฟฟ์นอกใจหนูอีกแล้ว” ครั้งนั้นก็อีกหนมาครั้งนี้อีก เจ็บใจแทบพังแต่ไม่ได้เป็นอะไรกับเขา กลางวันแสกๆ ไม่อายฟ้าอายเทวดาเลย
เอิงเอยจึงเข้าไปในอินสตาแกรมและเลือกหาภาพสวยๆ ที่ไปเที่ยวทะเลกับเขาเป็นรูปที่เธอแอบถ่ายมือของเขาและเธอวางไว้ใกล้ๆ กัน
“คนสวยที่เธอเรียกยายี เราต่อยห-มันมาแล้วนะ” โมโหและหวงเขามากด้วย แต่ไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเอิงเอยเสียใจ ก้มหน้าลงกับหมอนและกรีดร้องออกมา
“what the heck!”
“อุ้ย อ๊ะ เอาออกทำไมคะ” เชอรีลไม่พอใจก่อนหน้านั้นเขาโยกสะโพกอย่างเอาเป็นเอาตาย พอมีสายโทรเข้าเขากลับหยุด
“ผมไม่มีอารมณ์แล้ว”
“อะไรคะ กับแค่มีคนโทรมา”
“คุณแต่งตัวกลับไปได้แล้วเงินวางอยู่ตรงนั้น” เจ้าคุณหยิบมือถือและเดินออกมาจากห้อง เขาสวมแค่เสื้อคลุมตัวเดียว เขาได้ยินเสียงด่าทอตามหลัง
นั้นคือเสียงเอิงเอยเขาจำได้ โทรมาอะไรตอนนี้สองครั้งแล้วที่หญิงสาวทำสวรรค์เขาล่ม และเขาต้องหยุดตัวเองทุกครั้ง
“ไปเอาเบอร์มาจากไหน” เขากดโทรกลับแต่ปลายสายไม่ยอมรับ คงจะโกรธเขาแล้วจริงๆ แล้วก็เหมือนตอนนั้นที่เขาต้องช่วยตัวเอง มีสาวสวยนอนรออ้าขาให้แต่กลับต้องมาชักว่าวจนกล้ามขึ้น
โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง อีกแค่สามเดือนก็จะปิดการศึกษา เด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกต้องแยกย้ายกันไปเรียนต่อมหาลัย
“เอย ไปกินลูกชิ้นกันป่าว”
“ไม่ไปอ่ะ”
“ใจร้าย เดี๋ยวนี้ทำเป็นปฏิเสธเพื่อน” ธามไททำหน้างอ หนุ่มนักเรียนลูกครึ่งไทย-อังกฤษ แถมบ้านยังรวยล้นฟ้าแต่ไม่มีเพื่อนคบ จะมีแต่เอิงเอยที่ยอมเป็นเพื่อนกับเขา เพราะเขานั้นไม่ยอมคบใครเป็นเพื่อน
“นายไปกับเดียร์เลย”
“ยัยหมูอ้วนเหรอ ไม่ไป”
“ด่าเขาบ่อยๆ แปลว่ารักเขา” ไม่มีวันไหนที่ทั้งสองจะไม่ทะเลาะกัน เดียร์เป็นคนอวบแต่น่ารักโตขึ้นไปเดี๋ยวก็ผอมเอง
“เฮ้ย! Ferrari 812 GTS รถใครวะ” เป็นสี Liquid Silver ที่เขาอยากได้ด้วย ราคาไม่ต้องพูดถึงคันละ 30 กว่าล้าน ใครมันมีวาสนาได้ครอบครอง
เอิงเอยหันไปตามที่เพื่อนพูดต้องตกใจเพราะคนที่ยืนอยู่ข้างๆ รถสปอร์ตคันหรูคือเจ้าคุณ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีดำปลดกระดุมจนสามเม็ดจนเห็นแผงอกเล็กน้อย พับขาเสื้อขึ้นจนถึงข้อศอก ใส่กางเกงสแล็คสีดำกับแว่นตากันแดดสีชา
“เอยรอด้วย!!”
“พี่เจฟฟ์มาทำอะไรคะ” หญิงสาววิ่งมาหาเขา แปลกใจที่เขามาทำอะไรที่หน้าโรงเรียนของเธอ มารอรับใครหรือเปล่า
“...”
เขาไม่ตอบแต่มองตามหลังเอิงเอยเห็นเด็กหนุ่มหน้าตาลูกครึ่งวิ่งตามตูดมาติดๆ เขาเห็นทั้งสองยืนคุยกันสักพักใหญ่ บอกเลยว่าเขาหงุดหงิดมาก ปากบอกจะจีบเขาแต่กลับไปยืนคุยกับผู้ชายคนอื่น
“มารับน้องเหรอคะ”
“ขึ้นรถ!”
“คะ? พี่เจฟฟ์ให้ใครขึ้นคะ” เอิงเอยมองไปรอบๆ ก็มีแต่เธอที่ยืนอยู่กับเขา
“ขึ้นรถอย่าให้ต้องพูดซ้ำ” เจ้าคุณเข้าไปนั่งรอฝั่งคนขับ เขาให้ลูกน้องไปตามสืบว่าเอิงเอยเรียนอยู่ที่ไหน วันนี้จึงมาดักรอเพื่อจะขอโทษเรื่องเมื่อวาน เขาไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ด้วยเลยซ้ำ
“เอย!!”
“ธามเดี๋ยวเจอกันยะ บ๊าย” เอิงเอยขึ้นมาจะขึ้นรถแต่ต้องยืนนิ่งเพราะเธอไม่เคยขึ้นรถหรูขนาดนี้มาก่อน
“ยืนทำอะไร” เจ้าคุณลดกระจกลงมาเห็นเธอไม่ยอมขึ้นรถ ทำไมเด็กถึงเอาใจยากจังเลย
“หนูหาที่เปิดไม่เจอค่ะ”
“...” เจ้าคุณปลดล็อกประตูรถให้ เอิงเอยรีบสอดตัวเข้ามา ไม่ลืมที่จะคาดเบลท์ด้วย ตื่นเต้นที่เขามารับเธอไม่คิดว่าเขาจะรู้ว่าเรียนอยู่ที่ไหน
“จะไปไหนกันคะ”
“เรื่องเมื่อวาน...”
“...” เขาคงจะหมายถึงเรื่องที่เธอโทรไปเมื่อวานแน่ๆ คงจะต่อว่าที่โทรไปรบกวนเวลาว่างของเขา เอิงเอยรู้สึกผิดขึ้นมา
“ฉันขะ...”
“หนูขอโทษค่ะพอไปจะไม่แอบฟังอีกแล้ว ไม่โทรไปด้วย” กลัวได้ยินเสียงแบบนั้นอีกคงจะถึงสวรรค์ชั้นไหนก็ไม่รู้ เสียงร้องมีความสุขขนาดนั้น
“...” เจ้าคุณกำลังจะพูดคำว่าขอโทษแต่เขาต้องเงียบเสียงลง ทำไมเขาต้องรู้สึกผิดเหมือนว่าสามีทำผิดแล้วกลัวภรรยาโกรธ เขาไม่ได้เป็นอะไรกับเอิงเอย
“นั่นหนูไถ่โทษ จะพาพี่เจฟฟ์ไปดูหนังดีมั้ยคะหนูแอบหยอดกระปุกออมสินจนครบค่าตั๋วหนังพอดี” เรื่องนี้เธอเคยไปดูกับธามไทมาแล้ว ดูอีกครั้งก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย
“นะคะไปดูหนังกับหูนะ เดี๋ยวหนูเลี้ยงพี่เจฟฟ์เอง”
“อืม” ลงทุนหยอดกระปุกออมสินเพื่อเก็บเงินจะพาเขาไปดูหนังเนี้ยนะ และเขาก็ใจอ่อนยอมไปดูหนังกับเด็กสาว ตั้งแต่เกิดมาจนเหยียบโลกใบนี้อายุ 36 ปียังไม่เคยไปดูหนังในโรงหนังเลย
“แต่หนูไม่เลี้ยงขนมนะคะหมดตังค์แล้ว แฮร่ๆ”
เจ้าคุณพยักหน้าเด็กยังขอเงินผู้ปกครองอยู่เขาเข้าใจ เห็นว่าหญิงสาวมีความตั้งใจจะพาเขาไปดูหนัง เขาไม่ขัดครั้งแรกที่ถูกผู้หญิงเปย์ด้วยการพาไปดูหนัง
“รสชาติยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน” เอิงเอยนั่งกินขนมป๊อปคอร์นระหว่างรอเข้าไปดูหนัง มาเมื่อวันก่อนก็กินรสชาตินี้
“เหมือนเดิม? กินบ่อยเหรอ”
“เมื่อวันก่อนก็เพิ่งกินมา ดูหนังเรื่องนี้สนุกมากเลยนะคะ หนูเลยพาพี่เจฟฟ์มาดูค่ะ”
“เธอเคยมาดูแล้วเหรอ มากับใคร!” เจ้าคุณขึ้นเสียงโดยไม่รู้ เขาเหมือนถูกต่อยหน้าตรงที่เธอบอกว่าเคยมาดูแล้วรอบหนึ่ง
“กับธามไงคะหนังสนุกมาก จะไปไหนคะ...”
“ฉันไม่ดู!”
“แต่หนังจะเล่นแล้วนะคะ” เอิงเอยงงเป็นไก่ตาแตกเขาเป็นอะไร ถึงได้โมโหขนาดนั้น
“เธอมัน...” หลายใจพาผู้ชายคนอื่นมาดูก่อนเขา และพาเขามาดูอีกรอบเขารับไม่ได้
เหมือนจงใจหลอกลวงเขา เขาไม่อยากเป็นรองใครเงินที่บอกว่าหมดแล้วคงเอาไปเลี้ยงขนมมันก่อนสินะ เจ้าคุณเดินออกมาจากบริเวณนั้น
“จะไปไหนคะรอหนูด้วย” เอิงเอยวิ่งตามเขาออกมาในมือยังกอดถังใส่ป๊อปคอร์นไว้แน่น ไม่เข้าใจว่าเขาโกรธอะไร
“เจฟฟ์คะ ใช่คุณจริงๆ ด้วย”
“คุณ...” เจ้าคุณกำลังนึกชื่อของคนที่เข้ามาทักทาย เขาจำชื่อไม่ได้แต่จำได้ว่าเราทั้งสองเคยขึ้นเตียงด้วยกันเมื่อไม่นานมานี้เอง
“มากับใครคะ?”
“พี่เจฟฟ์รอหนูด้วยค่ะ...” เอิงเอยหยุดวิ่งทันทีเมื่อเห็นเขายืนอยู่กับผู้หญิงคนอื่น เขาคงไม่อยากจะดูหนังกับเด็กกะโปโลแบบเธอ
“เจฟฟ์มากับเด็กที่ไหนคะ”
“เปล่าผมมาคนเดียว” เขาตอบออกไปเพื่อไม่ให้ใครสงสัยว่าเขากับเอิงเอยเป็นอะไรกัน มันจะดีต่อตัวเด็กสาวมากกว่า
“น้องเป็นอะไรกับเจฟฟ์”
“เปล่าค่ะ หนูเป็นคนใช้ค่ะหนังใกล้เล่นแล้วหนูไปก่อนนะคะ” ตัวจริงเข้ามาแล้วจะอยู่ทำไมละ เจ็บมากที่เขาบอกว่ามาคนเดียว เอิงเอยเดินเข้าโรงหนังคนเดียวตั๋วอีกใบคงฉีกทิ้ง เป็นการนั่งดูหนังคนเดียวครั้งแรกพร้อมกับความหน่วงในหัวใจจนน้ำตาจะไหลออกมาให้ได้