หัวหน้าพรรคกระยาจก
“องค์ชายหรือหัวหน้าพรรคกระยาจก ดูสารรูปสิ เหม็นก็เหม็น น้ำก็ไม่อาบผมเผ้ารุงรัง เสื้อผ้ามีแต่ฝุ่นกับคราบสกปรก โสโครกที่สุดแล้วยังกล้าบอกว่าเป็นองค์ชาย”
แล้วทำไมมีมี่ต้องมารับผิดชอบคนแบบนี้ด้วยนะฮึให้ตายเถอะ เวรกรรมแน่ๆต้องเป็นเวรกรรม
“ลุกขึ้น ไปอาบน้ำ”
“ไม่มีใครสามารถชักจูงให้องค์ชายอาบน้ำได้หาก..องค์ชายไม่ยอมอาบเอง”ขันทีหนุ่มน้อยพยายยามอธิบายสิ่งที่เขารู้และประสบมา
มีมี่ส่ายหน้า ถึงจะอ้วนแต่ไม่เคยสกปรกถึงจะขี้เหร่แต่ก็อาบน้ำวันสองสามรอบ นี่อะไร
ดึงแขนอีกคนให้ลุกขึ้นแต่ ไม่ทันคิดว่าตัวเองผอมบางไม่ได้อ้วนเหมือนก่อนนั้น ดึงไปดึงมาจนล้มลงไปทับร่างเหม็นที่นอนตะแคง อยู่กับพื้น ไม่รู้ร้อนรูู้หนาว
“ยี้ สกปรกที่สุด”
พยุงตัวลุกขึ้นปัดเนื้อปัดตัว กลิ่นสุราติดอยู่ที่ปลายจมูก
“เอาไงทีนี้”
ดึงก็ไม่ไหวลากก็ไม่ไหว แล้วจะทันไปถวายพระพรอะไรนั่นไหม
“นาย มาช่วยฉัน”
ชี้มือไปที่ขันทีปอหลุน ขันทีน้อย ยืนเก้เก้กังๆ
“ช่วยกันจับตัวหมอนี่ไปที่ห้องน้ำแล้วราดน้ำให้สร่างเมาให้หายเหม็น”
“แต่ นายหญิงข้าน้อย..ไม่กล้าหากองคืชายได้สติคนที่ตายก็คือข้าน้อย”
“นายไม่ทำ ฉันไม่ทำ ไม่มีใครทำ ก็ไม่ได้ไป ...ไม่สำเร็จ กลัวตายขนาดนั้น แล้วจะให้ทำอย่างไร”
ปอหลุน ขยับตัวเข้ามาช่วยทั้งลากทั้งดึงร่างสูงที่เมามายผมเผ้ารุงรัง
“ไปอาบน้ำกัน แล้วภารกิจจะได้สำเร็จ” มีมี่เริ่มเชื่อแล้วว่านี่มันเป็นเควสจะต้องมีระบบที่ส่งเสียงมาแหละน่าสักพัก
พื้นห้องน้ำต่างระดับที่มีอ่างไม้ใบใหญ่ใส่น้ำเกือบเต็ม น้ำอุ่นคงเป็นปอหลุนที่เตรียมไว้ให้
“ไปเอาน้ำเย็นมา”ปอหลุน ยืนนิ่ง
“ไปซี้”
ปอหลุนวิ่งแน่บไปทันที เรียนการพยาบาลมา แค่ผู้ชายสกปรกคนหนึ่งไม่ได้เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวเสียหน่อย ดึงเสื้อผ้าที่สวมออกจนเหลือแต่กางเกงชั้นใน อ้าปากค้างผิวขาวใต้ร่มผ้ากล้ามเป็นมัดกับ หน้าท้องที่แข็งเป็นลอนโอ้แม่เจ้า หุ่นดีเป็นบ้า..แต่เหม็น น้ำเย็นถูกยกใส่ชามมา มีมี่ยกขึ้นราดไปบนหัวของร่างสูงที่นั่งขัดสมาธิหลับตา
“โอ๊ย เจ้าจะฆ่าข้าหรือไร”ตวาดเสียงดังลั่น
“นั่งนิ่งๆ ดิ”
ยังหลับตาไม่รู้ไม่ชี้เหมือนเดิม
มีมี่อมยิ้ม จับปอยผมที่ผมบิดเป็นลอนเหมือนไม่เคยถูกสระ ใบหน้าเปรอะเปื้อนหันซ้ายหันขวา จะทำอย่างไรก่อนในเมื่อกสปรกไปทุกอณูแบบนี้
“ยี้”
เมื่อโดนน้ำราดลงไป สีของน้ำเปลี่ยนจากใสเป็นสีขุ่นข้น แถวบ้านก็จะพูดว่าอาบน้ำทีปลาตายทั้งลำธารเห็นจะไม่ผิด
“สบู่ ไปหาสบู่มา”
“สบู่”
“ข้าหมายถึงอะไรสักอย่างที่มาถูทำความสะอาดให้หายเหม็น”
ปอหลุนหยิบห่อผ้าเหมือนลูกประคบแต่เล็กกว่าส่งให้มีมี่ รับไปดมดู
“อืม ใช้ได้”
กลิ่นหอมจากดอกไม้นานาพันธ์เลยทีเดียว ถูกหลังไหล่ไล่ต่ำลงไปเรื่อยๆ
“หน้าไม่อายเจ้าไร้ซึ่งยางอาย โดน ร่างกายบุรุษทั้งๆ ที่….ไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน”คงจะเริ่มสร่างเมาปากก็แพล่มไปเรื่อยเถอะ
“ไม่อาย ขัดได้ยันไข่เลยจะบอกให้ ถ้าไม่อยากให้ขัดยันไข่ก็ลุกขึ้นมาขัดเอง”
อีกคน รีบยกมือขึ้นปิดเป้ากางเกง มีมี่ขำกับอาการเขินอาย
“ปอหลุน” เสียงทุ้มสั่งเบาๆ ปอหลุนถลาเข้ามาคว้าเอาห่อผ้าไปถูเสียเอง
“นายหญิงปอหลุนทำเอง”
“ไล่นางออกไป”กำชับ เสียงดัง มีมี่เบ้ปาก
“ไม่ไป ถ้าไปแล้วหากนายไม่ให้เจ้าหมอนี่ถูตัวเล่า ปอหลุนนายต้องสระผมให้เขาด้วย”สั่งดังๆ
“อย่ามายุ่งกับข้า”ตวาดลั่นกลับมา คงสร่างเมาแล้วจริงๆเพราะฤทธิ์น้ำเย็นที่ราดไปสองสามขัน เริ่มมีปากเสียงได้แล้ว
“เสียใจ แม่ไม่มีทางเลิกล้มความคิด”
เดินออกไปข้างนอกหยิบเกลือมาเกือบเต็มกำมือ ดวงหน้าเฉยชาเพียงเหลือบตามอง
“อ้าปาก”
เทียนหลันเซ่อยังนิ่ง แล้วยังกล้าหุบปากแน่น อารยะขัดขืน มีมี่บีบปากยัดเกลือเข้าไปในปาก
“อมไว้เลย สุดจะทน เหม็นกลิ่นสุราที่สุด”
เทียนหลันเซ่อยังนั่งนิ่งให้ปอหลุนถูกตัวให้
“ปอหลุนให้นางออกไป”
“นายหญิง ท่านออกไปก่อนจึงดี”
พูดขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“ใคร ใครจะออกไป ต้องรอดูผลงาน” เทียนหลันเซ่อบ้วนเกลือในปากออก
“อย่าถือว่า เสด็จย่าถือหางเจ้าแล้วกล้ามาจัดการข้า”
มีมี่เบ้ปากหันไปบ่นอีกทาง
“ออกไปก็กลัวสิ”พูดไปอย่างนั้นความจริงแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ