บท
ตั้งค่า

สมควรได้รับ

“มีมี่”

ร่างสูงของใครอีกคน ก้าวเข้ามาในห้องอย่างถือวิสาสะ คว้าข้อมือบางของมีมี่ไปกำไว้เหมือนกับคุ้นเคยกันมาแต่ชาติปางไหนมีมี่สะบัดมือออกทันที

“เฮ๊ย”

ถึงจะหล่อขนาดไหนแต่บอกไว้ก่อนมีมี่ไม่ง่ายนะห้ามโดนตัว ตอนนี้มีมี่เป็นคนงามไม่ให้ใครโดนตัวง่ายๆหรอกน่า

“ ไปกับข้า”

“ทำไมต้องไป”

“ก็เราตกลงกันไว้ว่าจะทำให้เทียนหลันเซ่อขายหน้าจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี นี่เจ้าจำที่ตกลงกันไว้ไม่ได้หรือ”

คนคนนี้พูดถึงเรื่องอะไรทำไมมีมี่ที่เป็นภรรยาต้องทำให้เทียนหลันเซ่อที่เป็นสามีต้องขายหน้าด้วย คิ้วเข้มของมีมี่เลิกขึ้นด้วยความสงสัย หยินเซ่อก้มลงใบหน้าแทบจะชิดใบหน้าของมีมี่ สูดดมกลิ่นหอมข้างแก้ม

“เจ้าลืมแล้วหรือมีมี่ของข้า ทุกอย่างที่ทำล้วนเพื่อเราสองคนได้อยู่ด้วยกัน”

ซวยละ คนอะไร หล่อก็หล่อแล้วยังมาพูดจาเหมือนมีมี่ไปมีอะไรกับเขาแบบนี้ แล้วเทียนหลันเซ่อคนนั้นเล่า แล้วมีมี่จะทำตัวอย่างไร

“555ข้าลืมไปจริงๆ กันเถอะไปทำอะไรที่ท่านว่ากัน”

รีบชิ่งหนีก่อนดีกว่าสายตาโลมเลียน่ากลัวว่าใจจะสั่น มีมี่แพ้คนหล่อก้าวเดินออกห้องไป หยินเซ่อยิ้มมุมปากก่อนจะก้าวเดินตามมา

“แยกกันข้างหน้า เจ้าเข้าไปก่อนข้าตามไปทีหลัง อย่าลืมเทียนหลันเซ่อจะต้องอับอายขุนนางและผู้คน เจ้าจะต้องทำให้หลายคนในท้องพระโรงรู้ว่า เทียนหลันเซ่อน่ารังเกียจเพียงใด”

โห เป็นใครมาทำอะไรแบบนี้กะจะไม่เผาผีกับสามีกำมะลอของมีมี่เลยหรือไร ใครดีใครเลวมีมี่งงไปหมดแล้ว จะเชื่อหมอนี่ดีไหม

ปอหลุนยิ้มกว้างดีใจเมื่อเห็น มีมี่ก้าวมาถึง หน้าประตูทางเข้าท้องพระโรง เทียนหลันเซ่อผู้มีหนวดเครารุงรัง ผู้นั้นเบือนหน้าหนีเสีย ชิใครง้อคงเป็นเพราะนิสัยไม่ ปรานีปราศรัยกับใครนี่เองถึงถูกคนอื่นหมั่นไส้เอา

ยืนเก้เก้กังๆ ไม่กล้าเข้าไป

“นายหญิงท่านต้องชวนองค์ชายเข้าไปข้างใน” ปอหลุนเข้ามากระซิบบอก

“ทำไมเขาไม่เข้าไปเอง”

“หากนายหญิงไม่นำองค์ชายเข้าไป เกรงว่าองค์ชายจะกลับตำหนักเสีย เพราะองค์ชายไม่ชอบอะไรที่เป้นพิธีรีตองทุกครั้งล้วนหาทางหลบเลี่ยงเสีย”

“มีข้าหรือไม่มี พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไร”

น้ำเสียงเศร้าสร้อย มีมี่สัมผัสได้ชัดเจน มันจะยากตรงไหน

“ไม่เห็นต้องสนใจใคร”

มีมี่คว้าข้อมือของเทียนหลันเซ่อเดินนำเข้าไปข้างใน

ก้าวขาเข้าไปในท้องพระโรงที่ยิ่งใหญ่อลังการขุนนางรายรอบสองฝั่งเว้นเป็นช่องทางเดิน สุดทางเดินมีมี่ไม่กล้ามองเป็นบัลลังก์มังกรที่ฮ่องเต้คงนั่งอยู่บนนั้น ก้มหน้ามองสองข้างทาง ขุนนางขันทีต่างแต่งกายเต็มยศเหมือนผีจีน

“องค์ชายสิบสี่และพระชายาเจียงมีมี่ องค์ชายน้อยจินเซ่อเสด็จจจจจจ”

“องค์ชายสิบสองหยินเซ่อเสด็จจจจจจ”

เพียงอึดใจ หยินเซ่อผู้ที่มีมี่พบก็ตามมาติดๆ

เทียนหลันเซ่อประสานมือ มีมี่หันซ้ายหันขวาไม่กล้าเอาวะเป็นไงเป็นกัน ประสานมือข้างเอวเหมือนในซีรีส์ย่อตัวลง แต่รองเท้าเจ้ากรรม แม่งเอ๊ยมันพลิก ร่างเล็กทรงตัวไม่อยู่เซแซ่ดๆ เทียนหลันเซ่อก็ไม่ยอมรับร่างบาง จนกระทั่งร่างสูงในอาภรณ์ที่มองแวบเดียวก็รู้ว่าคงเป็นองค์ชายอะไรสักอย่างถลาเข้ามารับไว้ หยินเซ่อยิ้ม นึกชื่นชมมีมี่ที่ทำให้เทียนหลันเซ่อขายหน้าตั้งแต่เริ่มต้น หารู้ไม่ว่ามีมี่ไม่ได้ตั้งใจ

“ชายาเจ้าสิบสี่เทียนหลันเซ่อ งดงามอันดับสอง แต่กิริยาล้วนไม่งดงามอย่างใบหน้า”

มีมี่ฉุนจัดขยับตัวออกจากอ้อมแขนของใครอีกคนปัดเนื้อปัดตัว

“หยินเซ่อถวายพระพรฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี และพลามัยแข็งแรงเป็นมิ่งขวัญของ ราษฎรและขุนนางยิ่งยืนนาน”

เสียงของหยินเซ่อเหมือนจะเปลี่ยนอารมณ์โมโหของมีมี่ที่ถูกว่าให้หายไปเสียก่อน เกือบลืมตัว นั่นฮ่องเต้นั่นเป็นฮ่องเต้ที่ว่ากล่าว เทียนหลันเซ่อมองไปที่มีมี่ด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะเดินไปยังที่ว่างที่ถูกเว้นไว้ ข้างๆ มีมี่ก้มหน้าเดินตาม

“เห็นหรือยังฮองเฮา แม้แต่จะเอ่ยปากอวยพรให้ข้าเขายังไม่ทำ”ฮองเฮายิ้มเศร้าๆ

“ฝ่าบาทเทียนหลันเซ่อแต่เดิมพูดน้อยอยู่แล้ว แค่วันนี้มาถวายพระพรพร้อมหน้าถือว่าสร้างความประหลาดใจ”

มีมี่เงยหน้ามองใบหน้างดงามของฮองเฮา คนอะไรจะสวยได้ขนาดนี้นี่เองละมั้งที่สวยอันดับหนึ่ง มีมี่เป็นอันดับสอง

“ช่างเขา เอ้า มากันครบแล้วเริ่มงานเฉลิมฉลองได้”

ขันทีนางในต่างเดินเป็นแถวยกเครื่องเสวย ทั้งรูปลักษณ์และสีสันสวยงามเข้ามาวางตรงหน้าเหล่าองค์ชายและขุนนางที่ต่างประสานมือนั่งลงบนพื้นที่มีโต๊ะเล็กๆ ตรงหน้า ประกอบไปด้วยสุราอาหารมากมายให้เลือกดื่มกิน

“ไทเฮาเสด็จจจจจจ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel