บทที่ 14 ไก่ฟ้าตัวอ้วน
หมู่บ้านต้าเฉียวมีภูเขาสองลูก ภูเขาทางทิศตะวันออกคือเขาชิงจู๋ ภูเขาทางทิศเหนือคือสันเขาเสี่ยวลู่
เขาชิงจู๋ไม่สูงเท่าใดนัก ส่วนใหญ่อุดมไปด้วยไม้พุ่มและต้นไผ่ ยามำไม่มีอะไรทำชาวบ้านมักจะเข้าไปเก็บสมุนไพรกับผักป่า แต่หากเป็นวสันตฤดูก็จะไปเก็บหน่อไม้
ซึ่งเขาชิงจู๋ก็คือภูเขาลูกที่กู้หมิงซวงกับกู้หมิงซวงเพิ่งไปมาเมื่อยามเช้านั่นแล
ส่วนเขาเสี่ยวลู่หากเทียบกับเขาชิงจู๋แล้วนั้น ไม่ค่อยมีผู้คนไปเก็บของป่าเท่าไหร่ บนสันเขาเสี่ยวลู่อุดมไปด้วยไม้ยืนต้นพันธุ์ใหญ่ และเป็นป่ารกดิบชื้น งูเงี้ยวแมลงมีพิษต่างๆไม่ต้องพูดถึง ยิ่งพวกสัตว์ป่ายิ่งแล้วใหญ่
ก่อนหน้านี้ เคยมีนายพรานเกือบถูกสัตว์ป่ากัดตายในป่าแห่งนี้ ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้น ก็ไม่มีผู้ใดกล้ามาเยือนสันเขาเสี่ยวลู่อีก
แม้นชาวบ้านคนอื่นจะไม่กล้า แต่กู้หมิงซวงกล้า
แม้ว่าสันเขาเสี่ยวลู่จะเต็มไปด้วยภัยอันตราย แต่โบราณกล่าวเอาไว้ว่า อันตรายมักจะมาพร้อมกับความมั่งคั่ง
สันเขาเสี่ยวลู่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสมุนไพรและสัตว์ป่า หากเก็บสมุนไพรหายากหรือล่าสัตว์ป่ามาได้ ต้องนำไปขายแลกเงินที่ตลาดได้เป็นแน่
กู้หมิงซวงสะพายตะกร้าสานและเหน็บมีดพร้าไว้บนหลัง จากนั้นก็ออกเดินทางไปยังสันเขาเสี่ยวลู่โดยไม่บอกกล่าวผู้ใด
นางเลือกเดินทางลัดทางหลังเขา ตัดไผ่ที่ขึ้นอยู่บริเวณตีนเขามาทำเป็นเครื่องมือในการใช้ปีนเขา ขุดทางไปพลาง เดินเข้าไปในป่าลึกไปพลาง
ช่วงนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เพิ่งผลัดใบ สีของมันจึงกลายเป็นสีเหลืองแก่จนเกือบทั่วเขาทั้งลูก ในป่าลึกมีเสียงร้องของนกและแมลงหลากหลายชนิดดังขึ้นมาระงม รวมไปถึงเสียงไหลของธารน้ำบนภูเขา
กู้หมิงซวงหอบบั้นท้ายอันอวบอัดของตนเอง ตระเวนไปมาในป่ากว้าง เมื่อเก็บสมุนไพรได้ก็นำใส่ตะกร้า แล้วเดินเข้าไปข้างในต่อ
กระทั่งเดินเข้ามาในป่าสน ตาตี่ๆของสาวน้อยพลันทอประกายคมกริบ
ร่างกายอ้วนท้วมรีบหลบหลังก้อนหิน ชะโงกหน้าใช้ดวงตาเรียวเล็กมองไปยังเป้าหมาย กู้หมิงซวงจ้องเขม็งไปยังไก่ป่าที่กำลังจิกหาอาหารบนพื้นอย่างนิ่งๆ
ไม่ผิดแน่ นั่นมันไก่ฟ้าสีทอง ดูจากรูปร่างอวบอ้วนนั้นแล้ว คงหนักสามชั่งเห็นจะได้
กู้หมิงซวงที่ไม่ได้ลิ้มรสเนื้อสัตว์มานานพลันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ สายตาที่มองไปยังไก่ฟ้าตัวนั้น เปรียบดั่งสายตาที่กำลังมองเนื้ออันโอชะ
ไก่ฟ้ามีสัญชาตญาณระวังภัยสูง ขณะที่มันกำลังจิกหาอาหารก็จะคอยกระโดดหลบเข้าไปในพุ่มไม้ เมื่อไม่เห็นการเคลื่อนไหวใดมันก็จะโผล่ออกมาอีกครา
กู้หมิงซวงไม่ได้รีบร้อน นางค่อนข้างมีนิสัยนิ่งและใจเย็น ซุ่มอยู่หลังก้อนหินเหมือนเสือดาว คอยท่าให้ไก่ฟ้าตัวนั้นเผลอ
ไม่นาน ไก่ฟ้าก็โผล่มาอีกหน สัญชาตญาณระวังภัยของมันค่อยๆผ่อนปรน ก้มจิกหาอาหารอย่างไม่สนสิ่งรอบข้าง
ตอนนี้แหละ!
กู้หมิงซวงตาเป็นประกาย สายตาวาววับเพ่งเล็งไปที่ไก่ฟ้าตัวนั้น จากนั้นก็ขว้างก้อนหินในมือไปโดนปีกของมัน
ไก่ฟ้าตื่นตัวเตรียมโผ่บิน
แต่เนื่องจากปีกได้รับบาดเจ็บ จึงบินไม่ขึ้น
กู้หมิงซวงอาศัยจังหวะนี้ นำปลายไม้ไผ่แหลมคมเสียบเข้าที่ปีกของไก่ฟ้า
แล้วนำวางใส่ในตะกร้า เมื่อจับไก่ฟ้าได้มุมปากของกู้หมิงซวงพลันประดับไปด้วยรอยยิ้ม
ยอดเยี่ยม!
จับไก่ได้ตั้งตัวหนึ่ง การมาเยือนสันเขาเสี่ยวลู่ในครานี้ถือว่าไม่เสียเที่ยว
ไม่ทันได้รู้ตัว ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงเสียแล้ว
กู้หมิงซวงไม่อยากให้มารดาและพี่ชายเป็นห่วง จึงปัดมือเตรียมย้อนกลับไปทางเดิม
ทว่าวินาทีที่นางหันหลังกลับ ทันใดนั้นมีเสียงสวบสาบดังขึ้นมา
ซึ่งเสียงนี้ พลันทำให้กู้หมิงซวงขนลุกวูบ
หากนางเดาไม่ผิดล่ะก็ เสียงนี้คงเป็น……