[3/2]
##### [3/2]
เมื่อเข้าสู่เขตจังหวัดภูเก็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใยบัวตัดสินใจขับรถแวะเข้าไปทางย่านชุนชนเก่าแก่ของจังหวัดแห่งนี้ โดยที่เธอใช้ระยะเวลาในการเดินทางทั้งหมด 1 วัน กับอีก 15 ชั่วโมงเศษ
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าเธอต้องแวะพักผ่อนนอนค้างคืนโรงแรมที่เป็นทางผ่านก่อนจะถึงที่หมาย การขับรถที่กินระยะเวลานานมากขนาดนี้ถึงเป็นครั้งแรกของเธอ
ทั้งๆ ที่ตอนนี้ใยบัวเองก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องมาไกลถึงที่นี่ แต่เธอจำได้ว่าสมัยเด็กๆ เคยมาเที่ยวที่แห่งนี้กับแม่และพี่ชายอยู่บ่อยครั้ง เพราะมีเพื่อนของแม่อาศัยอยู่ที่นี่
ชุมชนชิโนโปรตุกีส ชุมชนเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิคและเรอเนซองส์ ที่ตั้งโดดเด่นสวยงามเต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์ มีบ้านเรือน ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ รวมอยู่ในนี้
โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินรสเด็ดของทางภาคใต้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใยบัวไม่รอช้าที่จะได้ลิ้มรสร้านอาหารที่ขึ้นชื่อจากการที่เธอได้เสิร์ชหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตมาแล้ว
Mini Cooper 3 door Hatch รถยนต์ลูกรักของเธอที่ยังผ่อนไม่หมด ถูกจอดเทียบหน้าร้านอาหารชื่อดังในย่านนี้ ก่อนที่เจ้าของรถคันเล็กนั้นจะออกมาจากรถ และเดินเข้าไปในร้าน
“สวัสดีจ้าหนู นั่งก่อนนะ ดูเมนูได้เลยจ้ะ” แม่ค้าวัยกลางคนกำลังยืนขมักเขม่นทำอาหารอยู่ ต้อนรับลูกค้าอย่างดี
ร่างบางดูเมนูที่ขึ้นชื่อมาแล้วจากในอินเตอร์เน็ตและตั้งใจอย่างมากว่าวันนี้จะได้กิน หลังจากที่ขับรถมาเหนื่อยๆ
“ป้าจ๊ะ หนูเอาราดหน้าปลากะพงทอด แล้วก็วุ้นเส้นผัดซีอิ๊ว อ่อ! แล้วก็โค้กแก้วนึงจ๊ะ”
“ได้จ้ะหนู”
เห็นร้านป้าเขาดังจากในโลกออนไลน์ ใยบัวก็ไม่พลาดที่จะสั่งมาลองบ้าง แล้วยิ่งอากาศร้อนๆ แบบนี้ได้น้ำอัดลมสักแก้วก็สดชื่นแล้ว
ทว่าใยบัวกลับคิดถึงคำพูดของคุณหมอคนสวยขึ้นมาได้ เธอลืมคิดไปว่าน้ำอัดลมคงจะไม่ดีต่อท้องเธอเท่าไหร่ในตอนนี้ อีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ในท้องคงจะไม่ชอบนัก กับของกินที่ไม่มีประโยชน์
“เอ่อ ป้าจ้ะ หนูเปลี่ยนจากน้ำโค้กเป็นน้ำเปล่าได้ไหมคะ?”
“ได้จ้ะหนู รอแปบนะลูก”
จากนั้นใช้เวลาไม่นานนักอาหารที่เธอสั่งมาก็ได้ครบหมด เตรียมจะลงมือทานพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ แต่ไม่ได้อัพลงโลกโซเชี่ยลตามนิสัยที่เธอเป็น
“หนูมาเที่ยวหรอจ๊ะ? ป้ารู้สึกว่าหนูคงไม่ใช่คนแถวนี้ใช่ไหม?” ป้าเจ้าของร้านเดินมาเสิร์ฟอาหารให้เธอถึงโต๊ะ ทว่าก่อนจะเดินออกไปก็อยากจะทำความรู้จักหญิงสาวเอาไว้บ้างตามประสาแม่ค้า
“เอ่อ... คือก็ไม่เชิงหรอกค่ะ หนูกะจะมาหางานทำที่นี่” ใยบัวตอบด้วยใบหน้ายิ้มแห้ง เธอเองยังไม่รู้เลยว่าจะมาทำงานอะไรที่นี่
“อ่อ! งั้นเหรอ? แล้วหนูมากับใคร จะมาทำงานอะไรล่ะลูก”
“ความจริงแล้วหนูยังไม่รู้เลยค่ะ ว่าจะมาทำอะไร แฮะๆ ... ป้าคะ? ขอถามได้ไหมคะว่าแถวนี้พอจะมีห้องเช่าว่างๆ ราคาถูกๆ ปล่อยเช่าบ้างไหมคะ?”
จริงๆ เธอก็คิดอยู่ว่าที่ทำเลแถวๆ นี้ ก็น่าอยู่มากในระดับหนึ่งเลย ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแบบนี้ ดูไปดูมาก็เหมาะแก่การหาอะไรทำ เพื่อสร้างรายได้ให้ตัวเองอยู่เหมือนกัน
“ถ้าห้องเช่ามันก็พอจะมีอยู่หรอกนะ แต่ไอ้ราคาถูกๆ นี่หายากอยู่นะหนู”
ใยบัวเริ่มคิดหนักแล้วว่าที่ตัวเองตัดสินใจทำอะไรแบบนี้ มันถูกแล้วหรือยัง ทำไมเพียงแค่เริ่มมันถึงได้ลำบากขนาดนี้
มันก็จริงอย่างที่แม่ค้าคนนี้บอก ถึงที่นี่จะเป็นชุมชนเก่าแก่ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าค่าครองชีพมันจะถูกเสียหน่อย ห้องราคาไม่แพงอย่างที่เธอว่าก็คงจะหายาก
“แล้วหนูจะมาอยู่กี่เดือนล่ะ?” เจ้าของร้านถาม
“เอ่อ... ยังไม่รู้เลยค่ะ แต่น่าจะนาน” ไม่รู้ว่าจะนานเท่าไหร่ ถึงจะพร้อมกลับไปในที่ที่จากมา และก็ไม่รู้ว่าถ้ากลับไปจะยังกล้าสู้หน้าใครอีก
“แปบนะลูก ป้าว่าพอจะหาให้หนูได้แล้วล่ะ... เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าหลานชายป้าเขาปล่อยเช่าห้องอยู่นะ เพราะเขาเพิ่งจะซื้อบ้าน” จังหวะนี้เหมือนมีคนมาปลุกร่างที่ไร้วินญาณให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ด้วยความหวังครั้งใหม่
“จริงหรอคะป้า! ขอบคุณนะคะ” ร่างบางไม่รอช้าที่จะขอบคุณป้าเจ้าของร้านไป
“แต่เรื่องราคาคงต้องคุยกันเอาเองนะ ป้าคงจะช่วยพูดให้ไม่ได้”
จากนั้นป้าเจ้าของร้านก็เดินออกไปคุยโทรศัพท์กับคนที่เธอบอกว่ามีห้องเช่าปล่อยอยู่ ใยบัวก็นั่งทานอาหารรอระหว่างที่ป้ายังคุยกับทางนั้นอยู่ กระทั่งป้าแกเดินกลับมาที่โต๊ะอีกครั้ง
“หลานชายป้าบอกว่าเขาไม่ได้ปล่อยเป็นห้องเช่าแล้วจ้ะหนู จะมีแต่แบบเป็นตึกพาณิชย์เลย หนูสนไหม? อยู่ล็อกถัดไปจากร้านป้าไป 3 ล็อกนี่เอง”
“แต่หนูอยู่คนเดียวคงจะไม่มีเงินจ่ายมากขนาดนั้นหรอกค่ะ” ตึกพาณิชย์แถวยาว 2 ชั้น แบบนี้ ใยบัวไม่รู้ว่าจะเช่าไปทำไม เพราะเธอก็แค่อยากได้ห้องเล็กๆ ราคาถูกๆ พอได้หลับนอนก็เท่านั้น
“นี่หนูทำอะไรเป็นบ้างล่ะ อาหาร เครื่องดื่ม ทำผม ทำเล็บ เย็บผ้า หรืออะไรก็ได้นะ ข้างบนหนูก็ทำเป็นที่พักส่วนข้างล่างก็เปิดร้านหารายได้ไปสิจ๊ะ เช่าเถอะ.... ป้าเสียดาย ที่ทำเลก็ดีออก”
“แต่ราคามันจะไม่แรงไปหรอคะป้า”
“งั้นนัดเจ้าของเขามาคุยด้วยเลยไหมล่ะหนู จะได้รู้ราคา ถ้าไม่ไหวก็ปล่อยผ่านได้”
“เอ่อ เอางั้นก็ได้ค่ะ”
คำแนะนำของป้าแก เรื่องที่เปิดร้านทำกิจการส่วนตัวเป็นของตัวเอง มันทำให้ใยบัวกำลังสนใจอยากลองดู เธอคิดว่าทักษะการเป็นแม่ค้าที่ถูกถ่ายทอดมาจากบัวแก้ว จะทำให้เธอเอาตัวรอดและสามารถประกอบอาชีพอยู่ที่นี่ได้ ต้องขอบคุณป้าร้านข้าวที่จุดประกายความคิดนี้ให้เธอ
ส่วนทางด้านของหมอกันต์ ตอนนี้ก็กลับมาอยู่กรุงเทพฯ กับภรรยาหลังจากแต่งงานไป เขาก็พาปิ่นหยกมาอยู่ด้วยกัน เนื่องจากภาระหน้าที่ของตัวเองที่ยังต้องรับผิดชอบอยู่
และปิ่นหยกเองก็ต้องยอมมาอยู่ที่นี่กับเขา ตอนนี้เธอเองก็อายุครรภ์ได้ 4 เดือนแล้ว เอกสารการย้ายโรงพยาบาลก็ได้ให้หมอกันต์ทำเรื่องมาที่โรงพยาบาลของเขาเรียบร้อยทุกอย่าง โดยที่เธอไม่ต้องเหนื่อยอะไร
ทั้งพ่อและแม่ของกันต์เอ่ยปากเด็ดขาดกับลูกสะใภ้แล้วว่า ไม่ให้เธอต้องทำงานอะไรอีก อยู่บ้านรอปรนนิบัติสามีอย่างหมอชลกันต์แค่นั้นก็พอ
วันนี้หมอกันต์ต้องเข้าร่วมประชุมเรื่องแผนการเปิดสาขาโรงพยาบาลของเขาไปทางภาคใต้ โดยผู้อำนวยการอย่างเขาต้องดูข้อมูลทุกอย่างให้ละเอียดก่อนที่จะอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างขึ้น
ซึ่งคาดว่าโปรเจคนี้น่าจะเสร็จประมาณปลายปีหน้า และถ้าถึงตอนนั้นปิ่นหยกก็คลอดพอดี เขาอาจจะต้องบินไปกลับกรุงเทพฯ – ภูเก็ต หนักขึ้นในช่วงนั้นด้วย แค่คิดก็ท้อแล้ว อุตส่าห์หวังจะได้อยู่เลี้ยงดูลูกตัวน้อยช่วยภรรยา
“อ้าว! ตากันต์ มาพอดีเลยลูก แม่ว่าจะชวนลงไปจิบกาแฟด้วยกันซะหน่อย” คุณหญิงวิมลรัตน์เดินออกมาจากห้องทำงานของตัวเอง ก็ดันเจอเข้ากับลูกชาย ก่อนที่เธอจะโทรไปเรียกเขาเสียอีก
“อารุณสวัสดิ์ครับแม่ จะลงไปข้างล่างหรอครับ?” หมอกันต์ถามคุณหญิง
“ใช่ ลงไปเป็นเพื่อนแม่หน่อยสิ กว่าจะถึงเวลาประชุมอีกตั้งนานแหนะ”
ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแม่ของหมอกันต์ แต่หลังจากงานแต่งงานผ่านพ้นมา คุณหญิงวิมลรัตน์ก็ขอตัวออกมาอยู่เพ้นท์เฮาส์ของตัวเองเลย
เพื่อสะดวกต่อการเดินทางไปมาจากที่ทำงานดีกว่าอยู่บ้านที่ค่อนข้างไกล จึงปล่อยให้ลูกชายและลูกสะใภ้อยู่บ้านหลังนั้นแทน
“เป็นไงบ้างช่วงนี้ น้องยังแพ้ท้องอยู่รึเปล่าลูก?” สองแม่ลูกสั่งกาแฟร้อนคนละแก้ว จากร้านประจำในโรงพยาบาล ก่อนจะพากันมานั่งจิบคุยกันตามประสา
“ก็เพลาๆ ลงแล้วครับแม่”
“ดีแล้วล่ะจ้ะ”
ช่วงนี้ภรรยาของเขาก็ไม่ค่อยมีอาการแพ้ท้องเหมือนอย่าง 3 เดือนแรก จะมีก็แต่พฤติกรรมที่กินเยอะขึ้น หิวบ่อย และอารมณ์ไม่คงที่ให้เห็นก็เท่านั้น ถึงแม้จะแต่งงานกัน ทว่าอีกคนกลับขอนอนแยกห้องกับเขาเสียอย่างนั้น ทั้งๆ ที่เขา ก็ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมปิ่นหยกถึงไม่อยากนอนด้วยกัน