บท
ตั้งค่า

[4/1]

##### [4/1]

ใยบัวได้คุยกับเจ้าของอาคารพาณิชย์แล้ว เธอตัดสินใจจะเช่าเลย 1 คูหา ที่อยู่ถัดจากร้านอาหารของป้ายัชฟินที่ช่วยเธอหาที่เช่า เนื่องจากเจ้าของที่ปล่อยเช่านั้นใจดีให้ราคาถูกเป็นพิเศษ ตอนแรกใยบัวเองก็ตกใจกับราคาเช่า คิดว่าเธอจะสู้ไม่ไหวเสียแล้ว

วันนี้เป็นวันแรกที่เธอเปิดร้านขายของ ร้านกาแฟและเบเกอรี่ที่เธอตั้งใจทำมันขึ้นมาด้วยตัวเอง เพื่อหวังจะตั้งตัวที่นี่ให้เจ้าหนูน้อยที่จะกำลังลืมตามาดูโลกอีกไม่กี่เดือนนี้ไม่ลำบาก ต้องขอบคุณปรเมทหรือคุณปลื้มที่เป็นเจ้าของตึกแห่งนี้ และป้ายัชฟินที่ช่วยเป็นธุระให้ในหลายวันก่อน

ตอนแรกใยบัวคิดได้ว่าตัวเองอยากลองเปิดร้านกาแฟดู เพราะโดยปกติเธอเป็นคนชอบดื่มอยู่แล้ว ทว่าเธอก็ไม่รู้ว่าจะไปหาอุปกรณ์จากไหนมาลงทุนเพราะวัตถุดิบก็ค่อนข้างแพง

โชคดีที่น้องสาวของปรเมทเธอเคยเปิดร้านกาแฟและต้องยกเลิกกิจการไป เพราะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศอุปกรณ์และเครื่องทำกาแฟต่างๆ ก็ยังไม่ได้ทิ้งไปไหน ใยบัวก็เลยขอผ่อนของพวกนี้โดยมีเจ้าของตึกอย่างปรเมทเป็นธุระให้อีกราย

“หนูบัวจ๊ะ วันนี้เปิดร้านวันแรกป้าเลยมีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ มาแสดงความยินด้วยน่ะ”

ยัชฟินสาวมุสลิมสัญชาติไทยคนนี้ ช่วยเหลือใยบัวมาตั้งแต่วันแรกจนถึงนาทีนี้ป้าแกก็ยังอุตส่าห์หอบข้าวหอบของมาให้เธอถึงร้าน

“บัวขอบคุณนะคะป้า หอบอะไรมาเยอะแยะเลยคะเนี่ย ไม่น่าลำบากเลยค่ะ” ใยบัววางมือจากการตกแต่งร้านอยู่ ก่อนจะรีบเดินมารับของจากป้ายัชฟิน

ซึ่งของที่ป้ายัชฟินถือมาก็คือชุดเครื่องนอนพวกผ้าห่มผ้าปูที่นอน และรวมไปถึงนมบำรุงครรภ์หลายกล่อง ยัชฟินทราบมาจากเจ้าตัวแล้วว่ากำลังตั้งท้องอยู่ ใยบัวบอกป้ายัชฟินหมดทุกอย่าง และป้าแกเองก็อดสงสัยหญิงสาวไม่ได้เลยจริงๆ

“ชุดเครื่องนอนเอาไว้เปลี่ยนไว้ใช้นะลูก และนี่นมบำรุงกินเยอะๆ เจ้าหนูของป้าจะได้โตไวๆ นะ”

“ฮึก! บัวขอบคุณป้ามากจริงๆ บัวไม่รู้ว่าจะตอบแทนป้ายังไงดีค่ะ ที่อุตส่าห์เมตตาบัว ฮืออ~~”

ใบหน้าสวยเปรอะเปื้อนด้วยหยดน้ำตา ด้วยความตื้นตันใจที่เธอมาอยู่ต่างถิ่นต่างแดนขนาดนี้ ยังมีคนใจดีมีเมตตากับเธออยู่ ทั้งๆ ที่ก็ไม่ใช่ลูกหลานของป้ายัชฟินเลยด้วยซ้ำ

“ไม่ต้องคิดมากเลยนะจ๊ะ ป้าน่ะยินดีช่วยเหลือหนูเสมอ รวมทั้งพ่อปลื้มด้วย ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรหนูบอกป้ากับพ่อปลื้มได้เลยนะ ไม่เกรงใจ”

“ขอบคุณป้าอีกครั้งนะคะ ฮึก!”

“ไม่ต้องร้องแล้วๆ ไปเถอะลูก เอาของเก็บล้างหน้าล้างตาซะ เดี๋ยวป้าดูร้านให้จ๊ะ”

“ค่ะป้า”

ร่างบางเดินขึ้นไปเก็บของชั้นบนที่เป็นส่วนที่พักหลับนอนของตนเองกับลูก หลายวันที่ผ่านมาตั้งแต่ได้เช่าที่แห่งนี้ เธอก็วุ่นวายกับการจัดแจงร้านกาแฟด้านล่าง จนไม่มีเวลาไปหาซื้อของเข้าห้องเลย

ระหว่างกำลังเก็บของเข้าที่อยู่ ร่างบางก็อดคิดไม่ได้ว่าป่านนี้ทางบ้านเธอจะเป็นอย่างไร แม่ของเธอจะรู้ไหมว่าตัวเองกำลังจะมีหลานตัวน้อยเกิดขึ้นมาอีกคน

หากวันหนึ่งเธอคลอดแล้วแม่ของเธอจะยอมรับหลาน ที่เกิดจากความมักง่ายของเธอและเขาหรือไม่

“อ้าวคุณปลื้ม สวัสดีค่ะ.... มาแต่เช้าเลยนะคะ” ทันทีที่ก้าวขาลงมาได้ใยบัวก็เห็นชายวัยเลข 3 นั่งคุยอยู่กับป้ายัชฟินแล้ว

ปรเมทหนุ่มหล่อสุภาพอารมณ์ดี ผู้ปล่อยราคาค่าเช่าให้เธอถูกกว่าราคาตลาด วันนี้ก็มาแสดงความยินดีกับเธอด้วยในฐานะคนรู้จักกันแล้ว

“ครับผม เป็นยังไงบ้างบัว วันนี้มีลูกค้าเข้ายัง” ปรเมทถามไถ่หญิงสาว

“ยังเลยค่ะ นี่ยังแอบลุ้นเลยว่าจะมีไหม? ฮ่าๆๆ” เธอไม่มั่นใจเท่าไหร่นักว่าจะพอมีลูกค้ามาแวะเข้าร้านหรือไม่ อย่างไรก็ต้องรอลุ้น

“แหมหนูบัว ก็ต้องมีสิจ๊ะแหล่งทำเลดีแบบนี้คงไม่มีใครพลาด” ยัชฟินรีบให้กำลังใจร่างบาง เพราะไม่อยากให้เธอคิดมาก

“ใช่ครับ ถ้างั้นผมกับป้าจะเป็นลูกค้าคนแรกให้บัวเอง ดีไหมครับ?”

“งั้นดีเลย เดี๋ยวบัวจะทำให้อร่อยๆ เลย คิกๆ ...”

ว่าแล้วเธอก็รับออเดอร์ทั้งป้าหลานนั้นมาก่อนจะลงมือทำ ความจริงเธอเคยไปเรียนชงกาแฟมาแล้วบ้าง ตอนเรียนจบใหม่ๆ ไม่รู้ว่าจะทำอะไรและจะไปทางไหนดี ทว่าตอนนั้นก็ยังไม่มีเงินก้อนทำทุน จึงต้องพับเสื่อเก็บโครงการของตัวเองเอาไว้ก่อน

พอมาวันนี้ที่เธอหนีมาไกลถึงที่นี่พร้อมกับเงินแสนก้อนสุดท้ายในชีวิต มันไม่ได้มากมายอะไรที่จะพอลงทุนได้หรอก ทว่าเธอก็ต้องขอบคุณป้าหลานสองคนนี้ที่ช่วยหาทางออกให้เธอได้มีโอกาสสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง

หลังจาก 3-4 วันที่ผ่านมา หมอชลกันต์ได้มีการประชุมโครงการขยายสาขาโรงพยาบาลในเครือเพิ่ม วันนี้เขาต้องลงไปดูพื้นที่ทำเลจริงๆ ในภูเก็ต

โดยวันนี้มีคุณหญิงวิมลรัตน์แม่ของหมอหนุ่มเดินทางมาด้วย ซึ่งตอนแรกเขาก็อยากจะชวนภรรยามาด้วยกัน ทว่าปิ่นหยกก็ได้ขอตัวกลับไปเยี่ยมครอบครัวของเธอที่บ้านสวนเสียก่อน

“ตากันต์วันนี้ก็เย็นมากแล้ว พรุ่งนี้ก็วันหยุดอีกแม่ว่าเราพักค้างคืนที่นี่ก่อนดีไหมลูก?” วิมลรัตน์ถามลูกชาย

หลังจากที่วันนี้คุยงานทั้งวันกับทีมผู้รับเหมาและวิศวะกร คุณหญิงและลูกชายก็ขับรถมาหาทานอาหารกัน ตอนนี้ก็ตะวันจะตกดินอยู่แล้วแม่ของหมอกันต์เลยอยากจะชวนเขาพักที่นี่เสียก่อน

“ก็ดีนะครับ หยกเองก็บอกว่าจะอยู่ที่จันท์ฯ ต่ออีกสักสองสามวัน กลับไปตอนนี้ผมก็คงเหงา”

อย่างที่หมอกันต์บอก ภรรยาของเขากลับบ้านไปหาครอบครัวเมื่อวาน และก็คงจะยังไม่กลับง่ายๆ หากเขากลับไปกรุงเทพฯ ตอนนี้ก็คงไม่เจอเธอ

สองแม่ลูกเดินทางมาพักโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ที่มาดูงานเมื่อช่วงกลางวัน และอยู่ไม่ไกลจากชุมชนชิโนโปรกีสมากนัก

และวิมลรัตน์ยังชวนลูกชายเธอด้วยซ้ำว่าให้พาไปเที่ยว ก่อนกลับกรุงเทพฯ ในวันพรุ่งนี้

“ฝันดีนะตากันต์ พรุ่งนี้อย่าลืมตื่นแต่เช้าล่ะ แม่อยากเที่ยวเต็มทนแล้ว”

“ครับคุณหญิง อย่าเพิ่งใจร้อนนะครับ เดี๋ยวหน้าจะไม่สวยเอา”

“แหม... ลูกก็นานๆ ทีแม่จะมีโอกาสได้มาเที่ยวทางใต้บ้าง อยู่แต่กรุงเทพฯ น่าเบื่อจะตาย”

เช้าวันรุ่งขึ้นยามนี้อากาศถือว่าค่อนข้างดีมาก ไม่ได้ร้อนจัดจนเกินไป สามารถเดินเที่ยวได้อย่างสบายๆ ทั้งวันด้วยซ้ำไป

สองแม่ลูกคู่หูคนคลั่งงาน วันนี้ถือโอกาสหลังจากที่ทำงานเสร็จแล้ว มาพักผ่อนเดินชิวๆ แถวเมืองเก่าที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น ตึกพาณิชย์ที่ถูกตกแต่งด้วยสไตล์ชิโนโปรตุกีส ดึงความน่าหลงใหลนั้นออกมา

แต่ละคูหาในหลายๆ ตึกที่เรียงรายกันเป็นแถวทั้งสองฟากฝั่ง เต็มไปด้วยร้านต่างๆ มากมาย ร้านเด็ดร้านดังที่คุณหญิงได้ยินคนเขาเล่ามาปากต่อปากนักในย่านนี้ เธอก็ไม่ลืมแวะพาลูกชายมาลองชิมรสชาติอาหารของคนจังหวัดนี้ดู

“แล้วนี่ลูกพาหนูหยกไปให้หมออัลตร้าซาวด์ดูเพศยัง?” คุณหญิงวิมลรัตน์เอ่ยถามลูกชายที่นั่งตรงข้าม และกำลังตักอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยอยู่

“ยังเลยครับแม่ เดี๋ยวรอหมอนัดอาทิตย์หน้าทีเดียวเลยครับ”

“แม่ล่ะอดใจไม่ไหวแล้วนะตากันต์ อยากจะอุ้มหลานเร็วๆ จัง เฮ้ออ! นับวันก็ยิ่งแก่ลง ไม่รู้ว่าจะมีแรงอุ้มหลานกับเขาไหม หึหึ”

คุณหญิงวัยวิมลรัตน์ที่หันหน้าออกไปทางริมถนนตอนนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะกำลังจมอยู่กับความคิดต่างๆ นานา ตามประสาคนเข้าสู่วัยกลางคน เธอมีลูกชายเพียงคนเดียวซึ่งอายุก็มากแล้ว การที่มีหลานตัวน้อยๆ คอยวิ่งเล่นให้เธอไล่จับ มันเป็นความฝันของคนวัยเธอ

ใยบัวเดินมาร้านป้ายัชฟินที่อยู่ไม่ไกลจากร้านของตัวเอง ตอนนี้เธอเริ่มสนิทกับป้ายัชฟินและปรเมทมากขึ้นแล้ว

“ป้าจ๊ะ บัวปั่นน้ำสับปะรดมาให้ลองชิมดูหน่อยค่ะ ว่ารสชาติแบบนี้โอเคไหม พอดีว่าได้สับปะรดมาจากตลาดน่ะค่ะ เลยว่าจะเพิ่มเมนูใหม่เข้าร้าน”

และวันนี้ปรเมทก็อาสามาช่วยเป็นลูกมือของเธอที่ร้านด้วย เพียงแค่เปิดร้านได้ 4 วันแรก ลูกค้ามาจากไหนก็ไม่รู้เข้าออกเต็มร้านเธอไม่หยุดเลย ถ้าไม่ได้ปรเมทมาช่วยป่านนี้เธอคงหัวหมุน

“ขอบใจนะจ๊ะบัว วางไว้ตรงนั้นแหละลูก พอดีป้ากำลังยุ่งอยู่”

ทางร้านของป้ายัชฟินเองก็ลูกค้าแน่นเต็มร้านไม่ต่างจากใยบัวเลย อาจจะเป็นเพราะวันหยุดเสาร์อาทิตย์ด้วย คนมาเที่ยวจึงเริ่มเยอะ

“มาเดี๋ยวหนูช่วยยกไปเสิร์ฟให้จ้ะ โต๊ะไหนจ๊ะป้า?”

“โต๊ะ 4 จ้ะหนู เขาเพิ่งสั่งเพิ่ม ....ขอบใจนะ เสิร์ฟแค่โต๊ะนั้นก็พอ ป่านนี้ร้านหนูก็คงยุ่งแล้วเหมือนกันแหละป้าว่า”

ใยบัววางแก้วน้ำลงที่โต๊ะทำอาหารของป้ายัชฟิน และเห็นว่าป้าเองก็ยุ่งอยู่มาก จึงเสนอตัวของช่วยบ้างเล็กๆ น้อยๆ

จากนั้นมือเรียวบางก็ยกถาดอาหารที่ป้ายัชฟินบอกให้ไปเสิร์ฟที่โต๊ะตรงนั้น หญิงสาวไม่รีรอที่จะช่วยและเดินไปเสิร์ฟ

“อาหารได้แล้วค่า” ใยบัวรีบเดินมาวางจานอาหารลงที่โต๊ะลูกค้าของป้ายัชฟิน

“อ ฮึ่ม!”

“คุณ...! 0_0”

เสียงคนที่นั่งที่โต๊ะกระแอมขึ้น จนคนที่เดินมาแบบไม่ทันสนใจมองเงยหน้าขึ้นจากจานอาหารที่วางไว้ให้ลูกค้า แล้วเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะพบว่าลูกค้าของป้ายัชฟินก็คือคนที่เป็นตัวปัญหาทำให้เธอต้องหอบมาไกลถึงที่นี่

“มีอะไรรึเปล่าจ๊ะหนู?”

คุณหญิงวิมลรัตน์ที่ไม่รู้ว่าหญิงสาวที่เดินมาเสิร์ฟเป็นใคร เพราะถึงแม้ว่าใยบัวจะทำงานอยู่กับท่านผู้ว่าฯ ที่เป็นสามีของคุณหญิง

แม้กระทั่งที่เคยไปวันแต่งงานของปิ่นหยกกับหมอกันต์ ทว่าก็ไม่ได้เจอหน้ากันจริงๆ จังๆ เลยสักครั้งเดียว การกระทำเลิ่กลักของใยบัวในตอนนี้คุณหญิงวิมลรัตน์จึงต้องเอ่ยถามขึ้น ด้วยความสงสัยที่เห็นสีหน้าตกใจจากเธอ

“อะ.. เอ่อ! เปล่าค่ะ เชิญตามสบายเลยนะคะ” ร่างบางพูดจบก็รีบเดินออกไปเลย

“แม่ครับเรารีบกินรีบกลับกันเถอะ”

หมอกันต์ยอมรับว่าทั้งตกใจและก็สงสัยว่าทำไม ใยบัวถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ทั้งๆ ที่เธอควรจะอยู่ที่จันทบุรีอย่างนั้นไม่ใช่หรือ

ความคิดทิฐิที่ยังมีต่ออีกคน ยังทำให้หมอกันต์กลัวว่าเธออาจจะตามเขามาถึงที่นี่ เพื่อจะเปิดโปงเขาหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นเขาคงจะต้องมีปัญหากับปิ่นหยกและผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel