บท
ตั้งค่า

บทที่4 เจ้าสาวของภากร

บทที่4 เจ้าสาวของภากร

ณ ห้องโถงของบ้าน

หญิงชราประมุขของบ้านเอ่ยขึ้นเสียงเรียบกับบุตรชาย

“ตาภาคต้องรับผิดชอบยัยดา เรื่องงามหน้ามาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าข่าวแพร่ออกไป จะเอาหน้ากันไปไว้ที่ไหน” คุณหญิงย่าผู้เป็นมารดาของพาสกร เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าหนักใจ

“ครับ คุณแม่” พาสกรรับคำมารดา

“ แล้วนี่ ไอ้ตัวดียังไม่ออกมารับผิดชอบเรื่องที่ก่ออีกเหรอ”

“ ป้าอุ่น ป้าอุ่น ไปตามไอ้ลูกชายตัวดีลงมาซิ” พาสกรตะโกนลั่นเรียกแม่บ้าน ทันใดนั้น

“ ผมไม่แต่งครับ คนไม่รักกันจะแต่งกันได้ยังไง อีกอย่างเด็กนั่นก็เป็นเด็กในบ้าน และผมก็มั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องมีใครจัดฉากแน่นอน” เขาพูดเสียงกร้าว หนักแน่น

ผั๊ว…. พาสกรตบไปที่หน้าของบุตรชายอย่างเดือดดาลหลังได้ยินสิ่งที่ลูกชายพูดออกมา

“คุณพ่อ”

“ถ้าแก ไม่แต่งแกก็เอาตำแหน่งรองประธานคืนฉันมา และฉันจะยกหุ้นทั้งหมดของแกให้ดาริน เป็นค่าเสียหาย” ผู้เป็นพ่อพูดเสียงกร้าว จ้องมองภากรอย่างผิดหวัง ที่ผ่านมาเขาคิดมาตลอดว่าลูกชายน่าจะสนใจในตัวดาริน เด็กสาวอาภัพ หลานสาวของภรรยา

“ แกพูดออกมาได้ยังไงตาภาค แกกำลังทำให้คนแก่จะเป็นลมตายอยู่แล้ว”

“ย่าเลี้ยงแกมา ย่าไม่เคยสอนให้แกไร้ความรับผิดชอบแบบนี้ ต่อให้ดารินเป็นแค่เด็กในบ้าน แกก็ต้องรับผิดชอบ ไม่งั้นแกกับย่าขาดกัน” ทั้งพ่อและย่ายื่นคำขาด ตอนนี้หนุ่มหล่อหน้าเครียด คิ้วขมวดเป็นปม เขาคิดไม่ตกจริงๆจะจัดการปัญหานี้ได้อย่างไร

ตั้งแต่โตมาฉันไม่เคยจนตรอกแบบนี้เลย นี่มันเรื่องบ้า เรื่องซวยอะไรวะเนี่ย ยัยเด็กนั่นกับป้าของหล่อน…คงเป็นแผนจับฉันสินะ ภากรได้แค่คิดในใจ

บรื้นนนนน เสียงรถไม่คุ้นหูแล่นเข้ามาจอดในบ้าน ทำให้การสนทนาของทั้งสามคนต้องหยุดลง ทุกสายตามองออกไปที่หน้าประตู สักพักร่างของชายหนุ่มร่างโปร่งก็โผล่พ้นประตูเข้ามา

“สวัสดีครับคุณย่า คุณอา” กฤตยกมือไหว้สวัสดี ก่อนชำเลืองตามองมาที่ภากรตัวต้นเรื่องที่โทรปลุกให้เขาต้องเข้ามารับ

“คือ มีเรื่องซีเรียสอะไรหรือเปล่าครับ แต่ละคนหน้าเครียดมาก ผมเข้ามารับไอ้ภาคออกไปบริษัทครับ หุ้นส่วนของเราคนหนึ่งที่ภูเก็ต เมื่อคืนมีปัญหา เขาต้องการทำข้อตกลงใหม่กับเรา ด่วนภายในวันนี้ครับ” กฤตออกอุบายพูดเพื่อแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าตอนนี้ ท่าทางมีเลศนัยของเขาทำให้พาสกับย่าไม่ค่อยเชื่อมากนัก

“งั้นผมขอตัวไปจัดการเรื่องนี้ก่อนนะครับ ส่วนเรื่องวันนี้พรุ่งนี้ผมจะกลับมาคุย” ภากรพูดโดยไม่ทิ้งช่วงให้ผู้ใหญ่ทั้งสองท่านอนุญาต พูดจบหนุ่มหล่อก็เดินนำหน้าเพื่อนรักของเขาออกไปขึ้นรถเลย

อีกด้านของบ้าน ดาริน เอาแต่ร้องไห้กับเรื่องที่เกิดขึ้น สาวน้อยน่าสงสารจำเรื่องราวเมื่อคืนไม่ได้เลย จำได้แค่เพียงว่าเธอเมาเล็กน้อยกลับมาที่บ้าน แต่ไปอยู่ในห้องของภากรได้อย่างไรนั้น เธอเองก็ไม่แน่ใจจริงๆ

“ ฉันถามแกไม่ได้ยินเหรอไง นังหลานไม่รักดี แกทำตัวไร้ยางอายแบบนี้ได้ยังไง แกกับคุณภาคมีเรื่องแบบนี้กันมากี่ครั้งแล้ว นี่ถ้าวันนี้ฉันไม่ไปเจอ ก็คงไม่มีทางรู้สินะ อ๋อ..ที่แกจะย้ายไปอยู่ข้างนอก คอนโดของเขาก็เพราะจะได้ทำเรื่องบัดสีนี่ได้สะดวกสินะ แกนี่มันชั่วเหมือนพ่อของแกจริงๆ” โฉมลดาทั้งตำหนิและทุบตีหลานสาวไม่หยุดตั้งแต่ลากเธอกลับมาที่ห้อง ซึ่งเธอก็เห็นแล้วว่าเนื้อตัวของดารินมีรอยช้ำจากการจูบกระจายไปทั่ว

เพี๊ยะ… โฉมลดาตบไปอีกครั้งที่หน้าของสาวร่างเล็ก ที่ตอนนี้นั่งขดตัว ร้องไห้ตัวสั่นอยู่ที่พื้นห้อง

“แม่…พอได้แล้ว แม่ไม่สงสารดาบ้างเหรอ แค่นี้มันก็หนักหนามากพอแล้ว” เมลดาเอาตัวเข้าป้องน้องสาวและกอดเธอไว้

“ฉันจะให้คุณภาค รับผิดชอบ ไม่ได้ละฉันต้องไปคุยกับคุณพี่ กับคุณแม่” พูดจบโฉมลดาก็หมุนตัวเดินออกไป

เมลดาได้แต่กอดน้องสาวไว้ สองพี่น้องร้องไห้สะอื้นไปด้วยกัน โดยที่ไม่มีคำพูดอะไรออกมา เธอเชื่อน้องของเธอและเธอก็เชื่อพี่ชายของเธอเช่นกัน แต่มันเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรนั้น มันไม่มีเหตุผลเข้าข้างพวกเขาเลยสักนิด เมลดาคิดไม่ตก

ด้านชายหนุ่มแม้ว่าไม่มั่นใจเต็มร้อย ว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ลึกๆเขายังคิดเข้าข้างตัวเองว่า ไม่น่าจะมีอะไรเลยเถิดไปกว่าที่เห็นอย่างแน่นอน เขาพยายามคิดมาตลอดทางที่นั่งอยู่บนรถของเพื่อนรัก เขาจำได้เพียงแค่ว่าเมื่อคืนหลังจากแยกกับชายคนนั้นแล้ว เขาเจอผู้หญิงคนหนึ่งและแน่นอนว่าเขาโดนวางยาปลุกเซ็กส์ในเหล้าแก้วนั้น แต่ทำไมเขามาตื่นในห้องนั้นพร้อมกับเด็กกะโปโลนั่น…… ใครกัน สร้างสถานการณ์นี้ขึ้น แต่เดี๋ยวนะ…เมื่อคืนเหมือนเขาไม่ได้อยู่คนเดียวมีใครสักคนพาเขากลับมา ใช่แล้ว…นี่คงเป็นแผนของใครสักคนจริงๆ ตั้งแต่โตมาฉันไม่เคยจนตรอกแบบนี้เลย นี่มันเรื่องบ้า เรื่องซวยอะไรวะเนี่ย ยัยเด็กนั่นกับป้าของหล่อน…คงเป็นแผนจับฉันสินะ เขาได้แค่คิดในใจ

เช้าของอีกวัน หนุ่มหล่อร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าเครียด บรรยากาศภายในบ้านรู้สึกอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก เขาคลายเนคไทออก และนั่งลงตรงข้ามกับผู้เป็นพ่อ ก่อนจะหันไปมองหน้าหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเพิ่งเป็นเมียเขาไปหมาดๆ

“ คุณย่าครับ คุณพ่อครับ….ผมจะรับผิดชอบดารินครับ” ภากรเอ่ยออกไปทำลายความเงียบและความเครียดที่ครุกรุ่นในห้องนั้น

“ คุณภาคหมายความว่า…จะแต่งงานกับน้องใช่มั้ยคะ” ป้าของหญิงสาวเอ่ยขึ้นร้อนรน

“ครับคุณน้า” ภากรตอบกลับเสียงเรียบ แววตาเจ็บปวดเมื่อมองไปที่ดาริน สาวน้อยน่าสงสารที่นั่งก้มหน้าไม่แม้แต่จะเงยมองเขาสักนิด สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นอะไร เขามีส่วนที่ต้องรับผิดชอบชีวิตเธอจะเป็นใคร หน้าไหนไม่ได้ทั้งนั้น…. ดาต้องเป็นของพี่คนเดียว ภากรแน่ใจคำตอบข้อนี้ของตัวเอง

“คุณน้าอยากให้ผมรับผิดชอบอย่างไรบ้าง คุณน้าบอกมาได้เลยครับ ผมไม่อยากให้ทุกคนในบ้านเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก หรือซักไซ้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และขอร้องคุณน้าเลิกทำโทษน้องดาด้วยครับ” ชายหนุ่มพูดเมื่อเห็นว่าเนื้อตัวดารินนอกร่มผ้า มีรอยเขียวช้ำ จากการถูกป้าของเธอตี หรือ หยิกเหมือนทุกๆครั้งแน่นอน

ทุกคนในบ้านต่างประหลาดใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของภากรวันนี้

“แกคิดได้แบบนี้ก็ดี เรื่องงานแต่งรอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อน รอให้แกรับโอนหุ้นเข้ารับตำแหน่งให้เสร็จซะก่อน ตอนนี้พ่อยังไม่อยากให้มีข่าวเสียอะไรออกไป แกสองคนไปจดทะเบียนสมรสไว้ก่อน อีกครึ่งปีค่อยมาหาฤกษ์แต่งงานอีกที” พาสกร สรุป

ทศกำหมัดแน่น หลังได้ฟัง เขาเงียบมานานและคิดว่าเขาไม่น่าพาภากรกลับเข้าบ้านคืนนั้นเลย น่าจะปล่อยให้ไปกับผู้หญิงคนนั้นซะ ลึกๆแล้ว ทศ แอบชอบดารินมาตลอด ซึ่งความคิดนี้ไม่สามารถลอดพ้นสายตา พัชรินทร์ ไปได้นางรู้ดีว่าลูกชายรู้สึกยังไงกับดาริน

พัชรินทร์เอื้อมมือไปบีบมือลูกชายเบาๆ คล้ายส่งสัญญาณให้เขารับรู้ว่าใจเย็นๆ อย่าทำอะไรวู่วาม ทศหันมามองหน้าแม่ก่อนจะลุกเดินออกไปอย่างหัวเสีย ท่าทีของทศไม่ใช่แค่พัชรินทร์ที่รู้แต่คุณหญิงย่ารวมทั้งภากรก็เข้าใจได้ดีว่าหมายความว่าอย่างไร

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel