EP.5 คิดว่าชอบได้มากกว่านี้
-5-
“ทะเบียนปลอมสินะ”
“น่าแปลกใจตรงไหน คนสติดีที่ไหนจะใช้รถที่ทะเบียนถูกกฏหมายมาฆ่าคนกัน”
“นี่ มันใช่เรื่องของเธอหรือไง ตอนนี้เธอควรจะไปอยู่กับใบปอ ไม่ใช่มานั่งชันคางชันเข่าฟังเรื่องพวกนี้”
“แล้วยังไงละ? ฉันก็น้องพี่ ก็ลูกมาเฟีย พ่อก็นั่งหัวโด่อยู่ทนโท่ อย่าทำเหมือนกับว่าฉันไม่มีประโยชน์อะไรสักอย่างเลยกับเรื่องนี้จะได้ไหม”
“ไปอยู่กับใบปอ อย่าให้ต้องพูดอะไรเยอะ”
“พี่!”
“ตอนนี้ฉันไปอยู่กับใบปอได้หรือไง?”
“….” ธารินหยุดเถียงก่อนจะถูกธิวาบิดบี้หูบางๆจนเธอเขย่งตัวตาม “โอ้ยๆ เจ็บๆ เจ็บนะ!”
“ไปอยู่เป็นเพื่อนใบปอ” ธิวาย้ำคำพูดที่ว่าอีกครั้ง ก่อนจะปล่อยมือที่บีบหูน้องสาวตัวเองจนมันเห่อแดง
“ไปเถอะลูก เรื่องนี้ให้พวกพ่อกับธิวาจัดการเองดีกว่า ลูกก็ทำหน้าที่ คอยดูแลใบปอไปก่อน”
“ก็ได้ค่ะ! แต่รู้อะไรแล้วก็ต้องบอกกันด้วยนะ ฉันไม่อยากเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องเพียงเพราะทุกคนคิดว่าฉันเป็นผู้หญิง โดยเฉพาะพี่! อย่า มา ทำ เหมือน ฉัน เป็น เด็ก สาม ขวบ! ชิ๊!” นี่แหละเด็กชัดๆในสายตาของธิวา ธารินเน้นย้ำคำที่ละคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนจะสบัดผมยาวๆแล้วเดินออกไปจากห้องรับแขก แต่ไม่ทันได้เดินไปไหนไกล ก็เจอกับใบปอที่เดินลงมาจากชั้นสองของบ้านพอดี
“ปอ” เสียงของธาริน ทำให้ทุกคนหันกลับมามอง ใบปอเข้าใจสถานการณ์ว่าทุกคนกำลังคุยอะไร ท่าทางจริงจังมากๆขนาดนี้ เป็นเรื่องที่ฉันยังไม่ควรรู้สินะ
ว่าแล้วเธอก็เดินเพียงไม่กี่ก้าวและหยุดในระยะที่สามารถพูดให้ทุกคนในบ้านตอนนี้ได้ยิน
“คือ ปอจะมาบอกว่า ปอขอเก็บอัฐิของพ่อไว้ที่ห้องนอนของปอนะคะ คุณอากับพี่ไม่ว่าอะไรใช่ไหม?”
“กินข้าวหรือยัง?”
“ห๊า เอ่อ ยังค่ะ” การไม่พูดถึงเรื่องอัฐิ ก็น่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าใบปอนั่นก็มีสิทธิ์เหมือนกับคนในบ้านทุกประการ ธิวาพยักหน้าก่อนจะดันเอกสารบนโต๊ะให้กับเข้มผู้ติดตามคนสนิท ตบมือกับกระดาษที่ว่านั่นสองที แล้วหันหาคนตัวบางที่อยู่ในชุดไปรเวทสีขาวเพื่อไว้อาลัยกับพ่อไปอีกสักพัก
“อยากกินอะไรไหม เดี๋ยวพาไป”
“ไม่เป็นไรค่ะ ทุกคนทำงานอยู่เดี๋ยวปอไปหาอะไรกินหลังครัวก็ได้ค่ะ”
“ไม่มีหรอก”
“….”
“ไปกินข้าวข้างนอกกัน” ธิวาเดินผ่านตัวใบปอแบบไม่หยุดชะงัก พร้อมกับจับแขนเล็กๆของเธอให้เดินตามหลัง ทิ้งให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นมองตามกันเป็นแถว
“แหม ที่กับน้องไม่ยักกะใส่ใจขนาดนี้” ธารินยกมือชี้หน้าตัวเอง แม้ว่าใบปอกับธาวินจะเดินออกไปไกลแล้วก็ตาม “แล้วไอ้คนเสียงเข้มที่สั่งนั่นสั่งนี่เมื่อกี้มันหายไปไหนกัน ชักจะหมั้นไส้แล้วนะ==^”
“ก็หาผู้ชายสักคนไหมละ”
“พ่ออออออ”
“ลืมไป คงไม่มีผู้ชายคนไหนอยากจะได้ลูกสาวพ่อ^^”
“เนี่ย!!” ธารินบู้ปาก ก่อนจะสบัดผมแล้วเดินก้นบิดขึ้นชั้นสองของบ้านไป ธารินเหมือนสีสันของบ้านหลังนี้
•••
“พี่จะ พาปอไปไหนคะ ปอไปกินข้าวหลังครัวได้นะ แค่ข้าวไข่ดาวก็ได้”
“ขึ้นรถ”
“….”
“ขึ้น”
“..อื้ม” ใบปอไม่รู้หรอกว่าเธอในตอนนี้ซูบผอมลงขนาดไหน แม้จะเลยวันงานมาไม่กี่วันแต่ก็พอจะเดาๆได้ไม่ยากว่าตัวเธอนั้นแทบจะไม่ได้กินอะไรหลังจากคืนที่เกิดเรื่อง
ธิวานั่งลงที่ตำแหน่งคนขับ เครื่องยนต์ถูกสตาร์ทและแอร์ก็เย็นจนหนาวในไม่กี่นาที
“ไปร้านเดิมไหม?”
“..ได้ค่ะ แล้วแต่พี่เลย”
“ทำไม? ไม่ชินกับฉันในโหมดนี้?”
“อื้ม ไม่ชิน” ธิวาแค่นยิ้มเพียงนิด ก่อนจะยื่นมือไปวางบนหัวน้อยๆของอีกฝ่าย
“แล้วชอบไหมละ”
“ค๊ะ?”
“ฉันถามว่าชอบฉันในตอนนี้ไหม” คอเล็กกลืนน้ำลาย ตั้งแต่บอกว่าฉันเป็นผู้หญิงในการดูแลของเขา เขาก็มีคำพูดแล้วก็ท่าทางที่เปลี่ยนไปมากอยู่ คือกำลังจะละลายพฤติกรรมกันเหรอ? แต่รู้จักกันมา โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ละลายพฤติกรรมตอนนี้ไม่จำเป็นหรอกมั้ง ใบปอเอียงหัวสงสัยทีท่าของธิวาอยู่ครู่นึง แต่สุดท้ายก็เม้มปาก
“..พี่เป็นยังไง ปอก็ชอบแหละ”
“ฮึ๊~ ยังเป็นคนที่ปากตรงกันใจสุดๆเหมือนเดิม”
“ก็คิดว่าชีวิตคนเรามันสั้นนิคะ อย่างกับเรื่องของพ่อไง ปอเคยตั้งใจว่าจะตื่นเช้ามาเพื่อบอกรักพ่อทุกครั้งที่เจอหน้า อยากจะบอกเป็นพันๆครั้ง.. จนถึงตอนนี้ มันก็ยังไม่ถึงพันครั้งเลย” คนตัวเล็กยิ้มบางๆ
“ทั้งที่พ่อเก่งมากๆแท้ๆ แต่มันกลับ.. (เจ้าตัวนิ่งไป ไม่สบายใจและแค่นใจกับการสูญเสียเฉิน หากเฉินไม่ใช่คนเก่งกาจก็จะไม่ตั้งข้อสงสัยอะไรเลย แต่นี่ไม่ใช่) ก็เลยคิดว่า การที่ชอบพี่มาตลอด ชอบมานานเป็นสิบๆปี มันก็น่าจะบอกได้แล้วละค่ะ ถ้าสุดท้ายแล้วพี่ปฎิเสธ ก็เจ็บแค่แปบเดียว”
“มันง่ายขนาดนั้น?”
“ไม่ง่ายหรอก แต่ปอแค่รู้ว่า พี่จะทำให้มันง่าย”
“….”
“พี่ทำกับปอแบบนั้นมาตลอด ตอนนี้ก็เหมือนกัน” เอาจริงๆถ้าพูดถึงเรื่องที่สารภาพรักละก็ ลึกๆก็เตรียมใจไว้แล้ว ว่าโอกาสที่จะถูกปฎิเสธมันมีสูงมาก แต่ฉันก็แค่อยากจะบอกออกไป อย่างน้อยๆก็ได้บอกไปแล้ว
โชคดีที่เราโตมาด้วยกัน ฉันเลยพอรู้นิสัยของพี่ธิวาเป็นอย่างดี ถึงจะเป็นมาเฟีย เป็นคนที่มีอิทธิพลและโหดร้ายขนาดไหน แต่กับฉันและยัยริน พี่ธิวาใจดีเข้าข่ายพี่ชายที่แสนดีสุดๆถึงเเม้ว่าสองพี่น้องจะคอยตีคอยเถียงกันอยู่บ้างก็ตาม
“ถึงแล้ว” พี่ธิวาบอกหลังจากที่ตีไฟเลี้ยวเข้าร้านอาหารร้านโปรดของพวกเราสามคน
“ยัยรินหัวร้อนแน่ ถ้ารู้ว่าเราแอบมาร้านนี้กันแค่สองคนแล้วไม่ชวน”
“ปล่อยให้หัวร้อนไป ตอนนี้ฉันแค่อยากอยู่กับเธอ”
“….”
“ฉันก็ไม่ค่อยเก่ง แต่ก็.. สัญญากับอาเฉินไปแล้วว่าจะไม่ทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยว อาเฉินเป็นคนสำคัญของแก๊ง เธอเองก็สำคัญ”
“..พูดอะไรแบบนี้อีกแล้วนะ นี่มันใช่คำพูด ของคนที่ไม่คิดอะไรด้วยกันหรือไงกัน ไม่เอาไม่คุยแล้วค่ะ” ใบปอก้มหน้าเพราะความเขิน มาเฟียหนุ่มก็เพิ่งรู้สึกว่า มันก็น่ารักดี แก้มพวงๆนั่นจะนุ่มแค่ไหนตอนที่มันแดงขนาดนี้
“เดี๋ยวสิ”
“….”
“หรือเรา จะลองคบกันดีไหม?”
“ห๊า!”
“ลองคบกัน ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าเธอจะทำให้ฉันใจเต้นแรงได้เหมือนคืนนั้นอีกหรือเปล่า”
“บอกแล้วไงว่าอย่าพูดถึงคืนนั้นอะ”
“ก็เพราะมันไม่ได้แย่ ก็ถึงพูด” อะไรกัน คืนนั้นยังบอกว่ารู้สึกกับฉันเหมือนน้องสาวอยู่เลยนะ
ธิวาปลดเบลล์ของตัวเอง ขยับตัวเพื่อเชยคางเล็กๆของใบปอให้เอียงรับแสง เสียงหัวใจของหญิงสาวนั้นสั่นและเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก เธอกุมอกข้างซ้ายของตัวเองและเริ่มหายใจถี่ขึ้น
“ใจเย็นๆ ฉันยังไม่ทันทำอะไรเลย”
“เอ่อ เรา ลงไปกินข้าวกันเถอะค่ะ”
“ขอทำอะไรสักอย่างได้ไหม”
“ค๊ะ! เอ่อ แบบว่า” แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกไปอีก มือหยาบก็ประคองทั้งใบหน้าให้อยู่ในอุ้งมือ เอียงองศาหน้าเข้าประชิดจนใบปอหลับตาปี๋
ตอนนี้ฉันตื่นเต้นมาก และกำลังคิดว่าคืนนั้นฉันบ้ากล้าทำแบบนั้นกับพี่เขาไปได้ยังไง! เม้มปากดีไหม? ถ้าพี่เขาจูบแล้วส่งลิ้นมา.. กัดลิ้นเขากลับไปเหรอ ทุกอย่างมันจะ
“อึ่ก!” นิ้วโป้งไล้บี้เกลี่ยริมฝีปากนุ่มหยุ่นจนแอบเผยถึงไรฟัน ใบปอลืมตาเพราะตกใจนิดหน่อยที่ถูกอีกฝ่ายรุกล้ำแม้เพียงปลายนิ้ว แต่เพียงแค่คนตัวน้อยเบิกตาโต
“อึ่ก!” ริมฝีปากหนากดประทับลงบนริมฝีปากที่ชุ่มไปด้วยรสสตอเบอรี่ มันหวานหอมสำหรับคนที่ได้ชิมได้ลิ้มลอง ใบปอขยำปกเสื้อของธิวาจนแน่นคามือ มาเฟียหนุ่มกระทำกับเธออ่อนโยนเกินไป
ใช่ลิปกลิ่นสตอเบอรี่ที่เขาพาเธอกับยัยรินไปซื้อหรือเปล่านะ? หอมดี.. คราวหน้าจะซื้อไว้ให้แบบเป็นตับ
มือใหญ่สอดประสานตรึงมือน้อยๆที่เกร็งจัด ประสานมือแล้วค่อยๆบีบมัน ส่งไออุ่นผ่านร่องนิ้วจนใบปอเริ่มผ่อนคลาย เมื่อเริ่มผ่อนคลายแล้วก็คลายมือออก และผละริมฝีปากออกจากกัน
“โอเคใช่ไหม? หัวใจยังไม่หยุดเต้น?”
“อะ อื้ม.. พี่กำลังจะบอกอะไรปอหรือเปล่า?” ฉันกลืนน้ำลาย และที่ฉันถามออกไปตรงๆแบบนี้ก็เพราะพี่ธิวาไม่ใช่คนที่จะทำเรื่องแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนง่ายๆ ฉันรู้จักพี่เขาดี เพราะงั้นฉันเลยต้องการคำตอบ
“อย่าเล่นกับความรู้สึกปอนะ”
มาเฟียหนุ่มหยักยิ้มที่มุมปาก ยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้จนสันจมูกแทบจะชนกัน
“ไม่ได้เล่นกับความรู้สึกหรอก แค่รู้สึกว่ามีโอกาสแล้วก็เลยอยากจะทำ”
“….”
“ก็รู้สึกว่าเธอเป็นน้องสาวคนนึงมาตลอด คืนนั้นก็เหมือนกัน.. แต่กลับรู้สึกหงุดหงิดเวลาไอ้คูเปอร์มันอยู่ใกล้ๆ”
“ค๊ะ? พี่คูเปอร์เนี่ยนะ?”
“ฉันไม่ไว้ใจมัน”
“เอ่อ.. ปอก็ไม่ได้คิดอะไรกับพี่เขานี่คะ” ปากตรงกับใจสุดๆ ฉันว่าฉันชัดเจนแล้วนะ
ใบปอจับมือหยาบๆของธิวา เธอมองมัน มองรอยสักตามมือ รอยสักที่ลามขึ้นคอ.. ก่อนจะใช้มือบางๆไล่เลี่ยเกลี่ยรอยสักพวกนั้น แล้ววางมันลงที่คอของธิวาครู่ใหญ่แล้วชักมือออก
“ปอชอบใครนอกจากพี่ไม่ได้แล้วละ” ธิวาใช้เวลาหมดไปกับการจ้องหน้าใบปอในระยะประชิด รอยหยักยิ้มที่มุมปาก แก้มพวงนิ่มๆ ขนคิ้วหนาๆ ปากกระจับจิ้มลิ้มน่ารัก
“..ไปกินข้าวเถอะค่ะ เราเสียเวลาเยอะแล้ว”
“ปอ”
“ค๊ะ?”
“ถ้าฉันจับตัวไอ้ระยำที่ทำอาเฉินได้”
“….”
“เธอจะยอมคบกับฉันได้ไหม?”
“ค๊ะ? ทะ ทำไมต้องรอให้จับได้ก่อนละคะ?”
“….”
“เอ่อ ไม่ใช่อะไรนะ แต่ว่า”
“เพราะถ้าฉันยังจับตัวมันไม่ได้ ฉันก็ไม่มีหน้าที่จะไปพูดต่อหน้ารูปอาเฉิน ว่าฉันจะขอดูแลเธออย่างจริงจัง”
“…พี่ชอบปอแล้วเหรอ?”
“คิดว่าชอบได้มากกว่านี้”
“….”
“ตกลงไหม?”
“..เอ่อ จริงๆแล้วพ่อปอก็ไม่ใช่คนเรื่องเยอะขนาดนั้นนะ^////^” ใบปอพูดพร้อมกับอมยิ้มและทัดผมกับใบหู เธอยิ้มแล้ว เธอเขินแล้ว เธอไม่เศร้าแล้ว
“ใจเร็วไปนะ”
“สิบปีแล้วนะ อดทนถึงที่สุดแล้วค่ะ”
ˋ°•*⁀➷ ˚₊· ͟͟͞͞➳❥
กดใจ กดเข้าชั้น คอมเมนต์ = กำลังใจนะคะ
น่ารัก พูดเยอะกับเธอแค่คนเดียว?