บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 ตามติดชีวิต

ตามติดชีวิต

“มาทำไมแต่เช้า” เธียรวัฒน์พูดขึ้นมา เมื่อกำลังจะเดินออกไปตรวจงาน เหมือนเช่นทุกวันในตอนเช้า แต่กลับพบหญิงสาวที่สวมชุดเดรสสีหวาน พร้อมกับหมวกใบโตเพื่อเป็นเกราะบังแสงแดด

“...” ธาวินหันไปมองหน้าเจ้านายหนุ่ม แต่กลับไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาสักคำ พร้อมกับมองสำรวจไปที่หญิงสาวที่กำลังเดินมา

“หึ ใส่หมวกมา แต่ไม่สวมเสื้อแขนยาว ไม่รู้ว่าเข้าสวนมันจะระคายเคืองคันหรือยังไง เดี๋ยวก็ผืนขึ้นหรอก...”

ธาวินเอาแต่ส่ายหน้าให้กับเจ้านายหนุ่มเบา ๆ ตอนแรกบ่นว่าไม่อยากดูแล แต่พอมาตอนนี้พูดอย่างกับเป็นห่วงเธอ แต่ก็แปลกใจอยู่บ้าง ที่ครั้งนี้เธียรวัฒน์ยอมให้หญิงสาวคนนี้เข้าใกล้ แถมเจ้าตัวพร้อมที่จะบริการเจ้าหล่อนอีกด้วย

“ทำไมพี่เธียรไม่เอาร่มไปกางให้น้องเขาเลยละครับ ถ้ากลัวว่าน้องเขาจะร้อน” ธาวินเอ่ยแซวเจ้านายหนุ่มขึ้นมาทันที

“เสือก! มีอะไรทำก็รีบ ๆ ไปให้ไกลตีนกู” เธียรวัฒน์ตวัดสายตามองธาวินอย่างคาดโทษเอาไว้ทันที และรีบไล่ชายหนุ่มออกไป

“พอเห็นสาวสวย ๆ หน่อย ไอ้วินคนนี้ก็หมดประโยชน์เลยน่ะ” ธาวินบ่นอุบอิบเบา ๆ แต่ตั้งใจให้เจ้านายหนุ่มได้ยิน

“เงินเดือนมึง เดือนนี้คงไม่อยากได้สินะ”

“โธ่!...พี่เธียร” ธาวินร้องอวดครวญขึ้นมาทันที เมื่อเจ้านายหนุ่มเอาเรื่องเวินเดือนมาขู่

“ยังไม่รีบไปอีก” เธียรวัฒน์เอ่ยปากไล่ขึ้นมาอีกครั้ง

“สวัสดีค่ะ คุณเธียรวัฒน์ พี่วินไปไหนหรือค่ะ ท่าทางรีบร้อนจัง” หญิงสาวกล่าวทักทาย เมื่อเดินมาถึงชายร่างสูงที่ยืนกอดอกมองเธออยู่ใต้ร่มต้นไม้ใหญ่ข้างบ้านพักของเขา

วันนี้เธียรวัฒน์ให้เธอมาพบเขาอยู่ที่บ้านพักส่วนตัวของเขาแทน ไม่ใช่ที่สำนักงานเหมือนเมื่อวาน แต่ไม่คิดว่าหญิงสาวจะมาหาตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้

“ไอ้วินมันก็มีงานที่ต้องทำ ใครเขาจะว่างแบบคุณล่ะ...” เสียงเข้มพร้อมกับใบหน้านิ่งขรึมเอ่ยตอบเอออกไป

“ฉันก็มีงานทำค่ะ เพียงแค่ช่วงนี้ว่าง เลยอยากหาบรรยากาศดี ๆ มาพักผ่อนเตรียมไปทำงานต่อ” เธอเชิดหน้าตอบเขาออกไปตามตรง

เพราะอีกไม่นานเธอก็จะไปถ่ายละครเรื่องใหม่ ที่พร้อมจะเปิดกล้องในเร็ว ๆ นี้ด้วยตามคำสั่งของผู้เป็นพ่อ ซึ่งเรื่องนี้เธอได้รับแสดงในบทของนักแสดงนำ ก็คือบทนางเอกนั้นเอก ส่วนนักแสดงชายที่เธอต้องเล่นด้วย เธอก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าคือใคร เพราะทางผู้ตัดและพ่อของเธอไม่ได้แจ้งมา

“อ้อ...ผมลืมบอก เลิกเรียกไอ้วินว่าพี่เถอะ เรียกแค่ชื่อเฉย ๆ ก็พอ” เขาหันมาสั่งเธอขึ้นมาทันที เมื่อพึ่งจะนึกขึ้นมาได้

“ทำไมค่ะ ก็พี่เขาอายุเยอะกว่าฉันนะคะ ฉันก็อยากให้เกียรติเขาบ้างสิ” ศิริพัชชาถามกลับไปอย่างไม่เข้าใจ เธอแค่เรียกคนที่อายุมากกว่าว่าพี่ เธอผิดตรงไหนนัก ทำไมเขาต้องสั่งห้าม หรือเพียงเพราะชายหนุ่มนั้นเป็นแค่ลูกน้อง แบบนี้มันก็แบ่งชนชั้นกันเกินไปหรือเปล่า

“ผมอายุเยอะกว่ามันทำไมอีก ไม่เรียกพี่บ้างล่ะ” เธียรวัฒน์บ่นอุบอิบเบา ๆ คนเดียวอย่างไม่สบอารมณ์

“คุณพูดว่าอะไรน่ะค่ะ!” หญิงสาวเลิกคิ้วถามเขากลับไปทันที ที่ได้ยินเขาบ่นเกี่ยวกับเธอ แต่ก็ไม่สามารถจับใจความได้ว่าเขาพูดอะไร

“ไม่มีอะไร ตามผมมา” เธียรวัฒน์รีบเปลี่ยนเรื่อง แล้วเดินนำหน้าหญิงสาวไปทางสำนักงานของเขาที่อยู่อีกฟากหนึ่งทันที

“...” ศิริพัชชาได้แต่กึ่งวิ่งกึ่งเดินตามไปอย่างเงียบ ๆ ไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมา

เมื่อมาถึงสำนักงาน หนุ่มเจ้าของไร่ก็เดินเข้าไปหยิบเสื้อแขนยาวของเขาที่พาดไว้ เอามายื่นให้ตรงหน้าหญิงสาว ที่ทำหน้างุนงงทันที

“ใส่ทับไว้ ถ้าไม่อยากผิวเสีย” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น เมื่อหญิงสาวตรงหน้าทำหน้างงอยู่

“เสื้อคุณเหรอ?” เธอถามขึ้นมา พร้อมกับรับเสื้อแขนยาวของเขามาอย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะเธอแต่งตัวมาไม่เหมาะที่จะเดินเข้าสวนด้วยแหละ

“แล้วคุณคิดว่าเป็นเสื้อใครล่ะ ผมถึงกล้าเอาให้คุณใส่” เสียงเข้มพูดขึ้นมาพร้อมกับหน้าตาที่ยังคงเคร่งขรึมวางมาดเท่ห์ไว้

“ขอบคุณค่ะ”

“ใครบอกให้คุณใส่แบบนี้มา นี่มันไร่ส้มนะครับคุณผู้หญิง ไม่ใช่ทุ่งดอกลาเวนเดอร์” เธียรวัฒน์มองสำรวจหญิงสาว พร้อมกับตำหนิเธอออกมาทันที แถมพูดจาประชดประชันใส่เธออีกด้วย

“พรุ่งนี้ฉันจะแต่งตัวให้มิดชิดกว่านี้ค่ะ” เธอเอ่ยตอบด้วยคำพูดที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไร พร้อมกับสวมเสื้อแขนยาวตัวโตของเขาไปในทันที

“ยังจะมีพรุ่งนี้อีกเหรอ” เขาเลิกคิ้วขึ้นถามเธอทันที

“ค่ะ ฉันจะอยู่เที่ยวชมที่นี่ จนกว่าจะเยื่อและใกล้จะถึงเวลาทำงาน ฉันถึงจะกลับกรุงเทพ ช่วงนี้ว่างงานมากขอเก็บเกี่ยวอยู่กับธรรมชาติไปก่อน”

“พิลึกคน ตามมา!” เธียรวัฒน์ไม่วายที่จะตำหนิเธอ และเดินนำเธอออกไปทันที เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าสวมเสื้อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ปกติของใช้ส่วนตัว เขาจะไม่เคยให้ใครใช้แบบนี้ แม้แต่ธาวินเองที่โตมาด้วยกันยังไม่ได้รับสิทธิ์นั้นเลย นอกเสียจากว่าเขาจะยกให้ทันไปเลย แต่กลับหญิงสาวผู้นี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไรถึงกล้ายื่นของส่วนตัวให้เธอไปเสียดื้อ ๆ โดยที่เธอไม่ได้ร้องขอเสียด้วยซ้ำ

“เอ่อ...คุณ เราจะเดินไปเหรอ” ศิริพัชชาถามขึ้นมาทันที เมื่อเขาเดินนำหน้าเธอออกไปทางสวน

“ใช่นะสิ คุณคงคิดว่าผมจะพาคุณปั่นจักรยานเที่ยวชมไร่แบบคู่รักสุดโรแมนติกหรอกน่ะ”

“ปะ เปล่า ฉันคิดว่าระยะทางไปที่สวนมันก็ไกลมากพอสมควร ปกติคุณเข้าสวนแบบไหนเหรอ” หญิงสาวเริ่มมีความกังวลขึ้นมา แต่ก็พยายามเก็บอารมณ์เอาไว้

“เดิน หรือไม่ก็ไอ้แดงคันนั้น” เขาชี้ไปทางโรงจอดรถทันที ที่ตอนนี้มีรถเพียงแค่คันเดียวเท่านั่นที่จอดอยู่

“...” หญิงสาวหับขวับไปตามที่เขาชี้ กลับต้องเบิกตากว้างขึ้นมาทันที

“เป็นอะไร หรือว่าไม่กล้านั่ง เลือกเอาระหว่างที่จะนั่งไอ้แดงไปหรือจะใช้สองเท้าเดินไป แต่ผมขอบอกไว้ก่อนเลยน่ะ หากคุณเป็นลมแดด หรือเดินกลับมาเองไม่ไหวผมไม่แบกคุณกลับมาเด็ดขาด” เธียรวัฒน์ร่ายยาวออกมาทันที

แท้จริงแล้ว รถที่เข้าไปในสวนก็ทั้งรถยนต์รถกระบะ แต่เขาเพียงต้องการแกล้งเธอเลยชี้บอกไปทางรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างที่จอดอยู่ และประจวบเหมาะกับรถคันอื่นที่คนงานใช้ขับเข้าเมืองไปทำธุระพอดี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel