ตอนที่ 3 หาข้ออ้าง
หาข้ออ้าง
“พี่เธียรครับ วันนี้มีคนมารอพบพี่อีกแล้วครับ” ธาวินรายงานบอกทันที ที่เห็นหนุ่มเจ้าของไร่เดินกลับมาด้วยใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก เพราะวันนี้อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าวกว่าทุกวัน
เดิมทีธาวินจะเรียกเขาว่าคุณ แต่เพราะดูห่างเหินมากเกินไป และอยู่บ้านชายคาเดียวกัน แถมโตตามกันมา เขาเลยให้เรียกว่าพี่ จะได้ดูสนิทกัน
“คงไม่พ้นเรื่องเดิม ๆ สินะ” เธียรวัฒน์พูดขึ้น พร้อมกับถอนหายใจอย่างรู้สึกเบื่อหน่ายกับเรื่องเดิม ๆ เขาก็เดาได้ทันที เพราะแต่ละวันจะมีแต่หญิงสาวเข้ามาหาเขาไม่เว้นในแต่ละวันอยู่แล้ว บ้างก็มาเสรอตัวให้ถึงที่ แต่เขาจะปฏิเสธคนที่เข้ามาทุกราย เพราะไม่อยากให้มีเรื่องวุ่นวายตามมาทีหลัง และคนที่เขาพร้อมปรนเปรอในที่แห่งนี้ หญิงคนนั้นต้องเป็นแม่ของลูกเขาเท่านั้น
“แต่คนนี้มาแปลกมากกว่าคนอื่น ๆ ครับ” ธาวินพูดพร้อมกับเอานิ้วแตะที่ปลายคาง เหมือนใช้ความคิดอะไรบางอย่าง
“แปลก? แปลกยังไงว่ะ!?” เธียรวัฒน์เลิกคิ้วหันมาถามทางธาวินขึ้นมาทันที เมื่อลูกน้องคนสนิทรายงาย
“พี่ไปเจอเองก็น่าจะรู้ครับ ตอนนี้ผมให้น้องเขานั่งรอข้างในออฟฟิศของพี่แล้ว” ธาวินเลี่ยงที่จะตอบออกไปตามตรง จึงได้แต่บอกให้เจ้านายเจ้าของไร่ เข้าไปดูด้วยตาตัวเอง
“น้อง! มึงไปมีน้องตอนไหนอีกไอ้วิน” เจ้านายหนุ่มตวาดเสียงลั่นมองธาวินตาขวางขึ้นมาทันที เพราะเท่าที่รู้ ชายหนุ่มเองก็เป็นลูกคนเดียว แถมยังกำพร้าพ่อของเขาจึงเลี้ยงดูมา เพราะพ่อของชายหนุ่มเคยเป็นลูกน้องของพ่อเขามาก่อน
“เปล่าครับ ผมแค่เรียกแทนตัวน้องเขาครับ เพราะดูแล้วเธอคงจะอายุน้อยกว่าผมมากอยู่” ธาวินโค้งศีรษะลง พร้อมกับคำแก้ต่างออกไป
“กูไม่เคยรู้จักคนที่อายุน้อยกว่ามึงเป็นการส่วนตัวน่ะ มึงก็น่าจะทราบเรื่องนี้ดี” เพราะหญิงสาวที่เขารู้จักส่วนใหญ่จะรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขา หรืออายุราว ๆ กับธาวิน เขาไม่ชอบเด็กสาว เพราะเด็กชอบเอาแต่ใจตัวเอง
“พี่ไปเจอ ก็จะรู้เองแหล่ะครับ” ทำไมธาวินจะไม่ทราบ ว่าเจ้านายหนุ่มของเขาเป็นแบบไหน เพราะโตมาด้วยกันเขาย่อมรู้ดี ว่าเธียรวัฒน์ชอบแบบไหน ไม่ชอบแบบไหน
“หัวบันไดไม่เคยแห้งเลยจริง ๆ พี่เธียรเรา ไม่รู้ว่าคุณท่านเลี้ยงมาด้วยอะไร โตมาถึงเสน่ห์แรงขนาดนี้ แต่แปลกจนอายุปูนี้แล้วก็ยังครองโสดอยู่ ไม่ยอมมีแฟนเป็นตัวเป็นสักที” ธาวินพูดไล่หลังเสียงเบา เมื่อเจ้านายหนุ่มกำลังสาวเท้ายาวก้าวไปได้เพียงไม่กี่ก้าว
“มึงนินทาอะไร กูได้ยินน่ะ” เธียรวัฒน์หันมาตวาดเสียงใส่ทันที
“ขอโทษครับพี่เธียร แฮร่ ๆ ดูแลแขกดี ๆ ล่ะพี่ ผมไปดูคนงานก่อน”
ธาวินรีบเดินออกไปจากสถานการณ์ตรงนี้ทันที เพราะสายตาเจ้านายหนุ่มที่เอาจริงกว่าครั้งไหน ๆ
ทันทีที่เข้ามาภายในสำนักงานของตัวเอง ก็ต้องพบกับความเงียบมีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ทำงาน และสายตาก็มองไปเห็นบนโซฟาตัวยาวมีหญิงสาวร่างบอบบาง ผิวขาวใสเนียนสะอาดสะอ้าน นอนหลับอยู่อย่างสนิท โดยไม่ได้รับรู้ถึงการมาเยือนของหนุ่มเจ้าของไร่เลยแม้แต่น้อย
เธอเป็นใครกัน ถึงกล้ามาหลับในสถานที่ ที่ไม่ใช่บ้านของตัวเอง ทำไมเธอถึงกล้าไว้ใจคน นอนหลับง่าย ๆ ได้ลงคอ
เธียรวัฒน์เดินเข้าไปหาร่างบางที่หลับสนิทอยู่บนโซฟานั้นอย่างเงียบ ๆ โดยไม่ได้สงเสียงเอ่ยอะไรออกมา เพื่อได้เห็นหน้าหญิงสาวชัด ๆ
ร่างสูงหยุดอยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะนั่งลงข้าง ๆ มองสำรวจหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะลงมาจรดปลายเท้า ใบหน้าขาวใสจิ้มลิ้มหน้าหลงใหลแก่สายตาของเขายิ่งนัก
“อื้อ...” เสียงครางร้องอู้อี้ออกมา เมื่อถูกสิ่งรบกวนในการหลับพักผ่อนของเธอ
เธียรวัฒน์รีบชักมือกลับดีดตัวขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะยกมือขึ้นกอดอกจ้องมองหญิงสาวผู้มาเยือน ที่กล้ามานอนหลับในที่ของเขา
“เอ่อ...”
“คุณเป็นใคร เราไม่เคยรู้จักกันทำไมถึงมาหาผมถึงที่นี่ได้” เธียรวัฒน์ยิงคำถามรัว ๆ ใส่หญิงสาวทันที ที่เธองัวเงียตื่นขึ้นมา
“คุณคือคุณเธียรวัฒน์สินะ”
“แล้วคุณคิดว่าไง” เขาเลิกคิ้วมองอย่างหยั่งเชิงเธอ
“ฉันชื่อพัชชานะคะ” หญิงสาวเอ่ยแนะนำตัวขึ้นทันทีอย่างรู้สึกประหม่า
“ผมไม่ได้อยากรู้ว่าคุณชื่ออะไร แต่ผมเพียงอยากทราบว่าคุณมาที่นี่ทำไม เพราะเราไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว” เธียรวัฒน์พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ตัดเยื่อใย
“ฉันชอบที่นี่ค่ะ เห็นคนในเมืองบอกว่ามีไร่ส้มอยู่แถวนี้ ฉันอยากเห็นเลยให้คนพาเข้ามาชมดูค่ะ” เธอเอ่ยบอกขึ้นมาตามตรง
“...”
“คุณไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันไม่ใช่พวกเน็ตไอดอลมาทำคอนเทนต์อะไรทั้งนั้น ที่มาที่นี่ก็เพื่อชอบ และอยากเห็นเพียงเท่านั้น ไม่มีเจตนาอื่นจริง ๆ ค่ะ” ศิริพัชชารีบอธิบายให้คนร่างสูงตรงหน้าฟังทันที เพราะเกรงว่าหนุ่มเจ้าของไร่จะเข้าใจผิดไปใหญ่
“ผมว่าที่นี่คงจะไม่เหมาะกับคนผิวบอบบางแบบคุณหรอกครับ และอีกอย่างที่ไร่ของผมก็ไม่ได้มีที่พักไว้รองรับแขกด้วย” เธียรวัฒน์บอกออกไป เพื่อให้หญิงสาวตรงหน้าล้มเลิกความคิดนั้น เพื่อที่เธออาจจะเปลี่ยนใจบ้าง
“เรื่องที่พัก คงไม่ต้องรบกวนคุณหรอกค่ะ ฉันพักที่รีสอร์ทข้าง ๆ ไร่คุณนี้เอง เพื่อจะได้สะดวกต่อการเดินทาง”
นอกจากเธอจะไม่ทิ้งความพยายามแล้ว เหมือนเธอยังมีความหวังท้าทายเขาอีก เขาละยอมใจผู้หญิงคนนี้จริง ๆ
“ที่นี่มีอะไรดีกัน แถมแดดก็ร้อน ผู้หญิงบอบบางแบบคุณถึงอยากรู้อยากเห็นนัก” เขาถามเธอขึ้นมาตามตรงอีกที เมื่อยังเห็นว่าหญิงสาวผู้นี้ยังคงยืนยันคำเดิม
“บอกตามตรงเลยนะคะ ฉันชอบทุกอย่างที่เกี่ยวกับส้มค่ะ แถมชอบทานมาก ๆ อีกด้วย”
“แปลกคนพิลึก” หนุ่มเจ้าของไร่ขมวดคิ้วมองเธออย่างงุนงง เพราะไม่รู้จะสันหาคำไหนมาพูดให้เธอล้มเลิกความพยายามนี้
“เท่าไหร่ค่ะ”
“...” เธียรวัฒน์เลิกคิ้วขึ้นมาด้วยความแปลกใจ ที่ได้นินเธอพูดคำนี้ออกมา
“สำหรับค่าเสียเวลาที่คุณจะพาฉันเที่ยวชมไร่ของคุณคะ ว่าคุณจะคิดเท่าไหร่”
“อวดรวยเสียด้วย”
“ฉันไม่ชอบใช้งานใครฟรี ๆ คะ ค่าเสียเวลาของคุณเท่าไหร่ คุณประเมินค่ามาได้เลยค่ะ”
“ผมบอกว่าผมไม่ว่างล่ะ”
“พี่วินบอกว่าช่วงนี้คุณว่างค่ะ”
“พี่วิน!”
อะไรกันพึ่งเจอหน้ากันวันแรก กล้าเรียกไอ้วินว่าพี่ แล้วเขาละ อายุเยอะกว่ามันด้วยซ้ำ แต่เธอกลับเรียกคุณ ช่างห่างเหินเสียเกิน