๒ โชคชะตานำพามาพบเจอ (๒)
เธอเห็นชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ที่มากับภรรยา สีหน้าราบเรียบเหมือนไม่ได้ทำสิ่งใดผิด แถมยังคุยกับคนรักอย่างออกรส พลอยบัวทำได้เพียงสงสัยไม่กล้าพูดอะไรมาก แล้วค่อยเดินไปหลังร้านเพื่อบอกเมนูที่สั่งเพิ่ม
ความรู้สึกไม่สบายใจติดอยู่ในหัว ถ้าถูกจับก้นตามถนนคงได้หักมือคนทำแล้ว แต่เพราะอยู่ในร้านอาหารที่ค่อนข้างหรูจึงต้องข่มใจเอาไว้
“ได้แล้วค่ะ” นำอาหารวางบนถาดแล้วเสิร์ฟลงบนโต๊ะ ลูกค้ายิ้มรับพลางบอกขอบคุณหล่อนจึงค้อมศีรษะพลางอมยิ้ม
หันไปเห็นน้ำที่ลดเหลือครึ่งแก้วจึงนำมาเติมให้ เมื่อเรียบร้อยถึงได้เดินออกไปเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวแก่คนทั้งสอง ทว่ากลับเจอเหตุการณ์ซ้ำกับเมื่อครู่คือถูกบีบก้นอย่างแรงจนไม่สามารถทนไหว
หล่อนหมุนตัวอย่างรวดเร็วแล้วใช้มือข้างที่ไม่ถนัดตบลงบนศีรษะคนทำ เรียกสายตาจากลูกค้าที่เหลือให้หันมามองอย่างพร้อมเพรียง
คนถูกกระทำตกใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่เป็นคนไทย เมื่อเจอพนักงานตบสามีของตนก็รีบผุดลุกจากเก้าอี้เพื่อมาดูด้วยความเป็นห่วง เสียงตบค่อนข้างดังจนหน้าผากเป็นรอยนิ้ว
“เธอทำบ้าอะไร มาตบสามีฉันทำไม” โวยวายเสียงดังทำให้ผู้จัดการรีบออกมาจากข้างหลังร้าน รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นแน่นอน
แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นคู่กรณีของลูกน้องตนเอง คุณรวีรำไพ วรรณไพโรจน์ ใครบ้างจะไม่รู้จักลูกสาวเจ้าของห้างสรรพสินค้า ทั้งยังมีที่ดินในเขตเมืองหลวงอีกหลายสิบไร่ หากคิดเป็นมูลค่าคงประมาณร้อยล้าน
แต่นั่นไม่สำคัญเท่าเส้นสายของอีกฝ่าย เพียงแค่ทำสิ่งใดให้ไม่พอใจก็สามารถทำให้ย่อยยับได้ทันที เหมือนตอนนี้ที่ทางร้านกำลังตกที่นั่งลำบาก
“ดิฉันขอโทษค่ะ ดิฉันไม่ได้ตั้งใจ เพียงแต่ผู้ชายคนนี้จับก้นดิฉันหลายครั้งมือเลยเผลอไปตบเข้าโดยไม่ได้คิดไว้ก่อน” ค้อมศีรษะเป็นการขอโทษแล้วเปล่งน้ำเสียงสำนึกผิด
ทั้งที่ความจริงโกรธจนอยากหักมือชายผู้นั้นที่บังอาจมาแต๊ะอั๋งหล่อน เธอดูเหมือนยอมคนนักหรือไง ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในร้านคงได้วางมวยสักรอบ
ทำไมชีวิตช่วงนี้ถึงได้ดิ่งนักนะ จะลงเหวเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“ผมเปล่านะคุณรวี ผมจะไปจับก้นเขาทำไมล่ะ ผมมีคุณอยู่แล้วทั้งคน” แทบไม่เชื่อกับการแสดงละครที่เนียนจนจับไม่ได้ หล่อนเผลอปากค้างมองผู้ชายลามกที่แสร้งทำหน้าเศร้าเล่าความเท็จ และดูเหมือนว่าผู้หญิงจะเชื่อเสียด้วย
“ผู้จัดการอยู่ไหน” เพียงเรียกหาก็รีบเดินมายืนข้างคุณผู้หญิงทันที หายใจไม่ทั่วท้องเมื่อถูกจ้องอย่างกดดัน
“คงรู้นะว่าต้องจัดการยังไง” เพียงไม่กี่ประโยคพลอยบัวทราบทันทีว่าหล่อนต้องกระเด็นออกจากร้านอาหารแห่งนี้ เพราะผู้ใหญ่คับฟ้าไม่อาจเสียหน้าที่ถูกหยามเกียรติต่อหน้าผู้อื่น
มือเล็กกำเข้าหากันแน่นจ้องผู้ชายคนนั้นไม่วางตา สมองกับหัวใจกำลังตีกันว่าควรขอโทษหรือเอาคืนให้สาสมที่โดนจับก้น ทั้งบีบจนรู้สึกเจ็บอีกต่างหาก
“จะไล่เธอออกใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอจ้างเธอต่อเลยแล้วกัน เพราะฉันเห็นเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้น...จนจบ” ขณะที่พลอยบัวกำลังคิดหนักก็มีหญิงวัยกลางคนรูปร่างสูงโปร่งหน้าตาสะสวยแทรกกลางปล้อง
เธอเดินมาหยุดข้างพนักงานพร้อมโปรยยิ้มหว่านเสน่ห์ ต้องยอมรับว่าเจอคนมาก็เยอะแต่ไม่เห็นใครดูสวยและมีสง่าราศีเท่านี้มาก่อน ทั้งทรวดทรงองค์เอว วิธีการเดิน การพูดจาหรือเอื้อนเอ่ย ไหนจะท่าทางต่างๆ
มองตาค้างไม่ผละไปไหน และเหมือนเห็นปีกสยายที่กลางหลังของอีกฝ่ายจนหญิงสาวเผลอยกยิ้มชื่นชม
“ชมเดือน” คุณรวีรำไพพึมพำเสียงเบา จ้องเขม็งไปยังคู่อริที่เจอกันตอนอยู่หน้าร้าน
ชมเดือน ประดุจเมฆา เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า Little Star ที่กำลังโด่งดังในตอนนี้ เห็นหน้าตาสะสวยเหมือนสาวแรกรุ่นแต่ที่จริงอายุเข้าเลขห้าแล้ว อาจเพราะการดูแลตนเองที่ดี ทั้งการกินและออกกำลังกายทำให้ยังดูสวยจนมีหนุ่มรุ่นลูกตามจีบ
ปรายตามองคนรุ่นราวคราวเดียวกันก่อนจะผินหน้าไปหาผู้ชายหน้าไม่อายคนนั้น จำได้ว่าเขาเคยจีบตนแต่กลายเป็นว่าประกาศแต่งงานกับอีกคนซะอย่างนั้น
ใจโลเลเหลือเกิน
“จากผู้เห็นเหตุการณ์ฉันเห็นผู้ชายคนนี้จับก้นพนักงานสองรอบ แล้วทำหน้าตาเฉยเหมือนเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่เชื่อก็เปิดกล้องวงจรปิดดูได้นะคะ” หันมาบอกผู้จัดการร้านอาหารที่ทำท่าอึกอัก เพราะเรื่องมันคงจบตรงที่พนักงานถูกไล่ออก
ทว่าพอมีพยานปากเอกโผล่มาก็ต้องคิดหนักว่าควรทำเช่นไรจึงจะไม่กระทบกับทางร้าน ผู้จัดการหน้าซีดแต่ก็รับคำ
“ทางเราจะตรวจสอบทันทีค่ะ”
“ดีค่ะ อ้อ ฉันเห็นว่าคุณกำลังจะไล่พนักงานคนนี้ออก ถ้าอย่างนั้นฉันขอจ้างเธอต่อเลยแล้วกันนะคะ ว่ายังไงอยากไปทำงานกับฉันไหม” พลอยบัวตกอยู่ในภวังค์แต่พอถูกถามก็พยักหน้าอย่างรวดเร็วไม่คิดไตร่ตรองสักวินาที
“อยากค่ะ” เสียงดังฟังชัด ทำให้ชมเดือนยิ้มเต็มปากก่อนผินหน้าไปมองรวีรำไพ ที่ตอนนี้ได้แต่กัดฟันแน่นข่มความโกรธเอาไว้ที่ถูกหยามหน้า
“ถ้างั้นก็ไปคืนชุดทางร้านเลย ฉันจะไปรอข้างนอก” ก้าวเท้าออกจากร้านปล่อยให้จัดการกันเอาเอง ปกติตนไม่ใช่คนชอบสอดเรื่องชาวบ้าน แต่เห็นหญิงสาวถูกรังแกแล้วมันอดไม่ไหว ต้องขอออกโรงหน่อยเถอะ
ตอนเห็นพนักงานหันมาตบผู้ชายเธอก็อ้าปากค้าง ไม่คิดว่าหล่อนจะกล้าทำถึงขนาดนี้ เพราะปกติไม่มีใครกล้าทำร้ายลูกค้ากลัวถูกไล่ออก คนที่มากินอาหารร้านนี้มักเป็นเหล่าเศรษฐีกระเป๋าหนัก ไม่ก็นักท่องเที่ยวต่างชาติ
ต้องยอมรับในความกล้าหาญ...
“เอ่อ คุณจะรับฉันเข้าทำงานจริงเหรอคะ” รอที่หน้าร้านได้สักพักก็เห็นร่างบางเดินแกมวิ่งออกมา สวมชุดเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ตัวโปรด ผมยังคงถูกรวบเอาไว้เช่นเดิมเพราะรีบเปลี่ยนชุดแล้ววิ่งออกมากลัวจะพลาดงาน
เชื่อว่าอีกฝ่ายไม่ใช่พวกต้มตุ๋นหรือหลอกลวงอย่างแน่นอน ถึงกระนั้นอีกใจก็แอบหวั่นเช่นกัน ไม่คิดว่าตนจะเชื่อคนง่าย
“นี่นามบัตรฉัน พรุ่งนี้อย่าลืมมาสัมภาษณ์งานนะ” รับนามบัตรมาถือไว้ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าที่กำลังดังอยู่ขณะนี้
“คุณชมเดือน...เจ้าของ Little Star แค่ชื่อก็รับรู้ถึงความใจดี สวรรค์ส่งนางฟ้ามาให้แกแล้วไอ้บัว ขออย่าให้มีอุปสรรคมาขัดขวางเลยเถอะ” กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ เป็นครั้งแรกที่ได้นามบัตรจากเจ้าของบริษัทโดยตรง
หัวใจพองโตจนไม่นึกเสียใจที่ลาออก ทว่าหล่อนต้องรีบโทรหาอัยยาเพื่อบอกเรื่องทั้งหมดและขอโทษที่ทำให้ชื่อเสียงของอีกฝ่ายเสื่อมเสีย อุตส่าห์ฝากงานให้ เธอกลับทำมันพังย่อยยับ
แต่พอเล่าเรื่องทั้งหมดเพื่อนสนิทก็ตบเข่าฉาดบอกดีแล้วที่ลาออก ถ้าเป็นตนเจอคงไม่ปล่อยผู้ชายเดินออกจากร้านได้ครบสามสิบสองส่วน
หล่อนดีใจที่มีเพื่อนเข้าใจตนเอง ระหว่างทางกลับบ้านก็คุยกับอัยยาเล่าทุกเรื่องให้ฟังไม่ปิดบัง ดีที่โทรทางแอพลิเคชั่นไลน์ ไม่อย่างนั้นคงได้เสียเงินเยอะกับค่าโทรศัพท์
พลอยบัวเลือกชุดตัวเก่งที่อยู่ในตู้เสื้อผ้า หล่อนนำมาผสมกันจนลงตัวแล้วรวบผมตึง แต่งหน้าเล็กน้อยพอให้มีสีสันค่อยออกจากบ้านเพื่อไปสมัครงานที่บริษัท Little Star หาข้อมูลเรียบร้อยพบว่าคุณชมเดือนเปิดแบรนด์มาได้ห้าปี ยอดขายพุ่งขึ้นตลอดจากการดีไซน์ที่โดนใจ เนื้อผ้านุ่มสบายและระบายความร้อนได้ดี
เน้นกลุ่มลูกค้าไปที่สาววัยรุ่น คุณแม่และเด็ก การออกแบบเป็นสไตล์สีสันสดใส มีรูปดาวจับกลุ่มกันเจ็ดดวงเป็นโลโก้ของแบรนด์ แค่ค้นหาก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
เห็นว่าท่านมีลูกตั้งแต่ยังสาวแต่ก็หย่าขาดจากสามีไปหลายปี รักครั้งใหม่ไม่ค่อยราบรื่นทำให้มีข่าวรักๆ เลิกๆ หลายครั้ง
เมื่อบริษัทอยู่ไกลจากบ้านเธอจึงต้องเดินทางหลายต่อ ลงรถเมล์มาต่อรถไฟฟ้าก็ถึงหน้าสถานที่ทำงาน เสียเงินเยอะหน่อยแต่ประหยัดเวลาไปได้เยอะ ลงจากบันไดสะพานลอยขั้นสุดท้ายก็เดินเลียบไปทางขวา เข้าตรอกเล็กก่อนพบชื่อแบรนด์ขนาดใหญ่
Little Star
แค่เห็นก็หุบยิ้มไม่อยู่ มองตัวอาคารพาณิชย์สามชั้นที่เป็นสีขาวผสมชมพู แค่ข้างนอกก็สดใสด้วยรูปการ์ตูนผู้หญิงหน้าตาน่ารักมายืนต้อนรับข้างหน้า ต้นไม้สูงใหญ่อยู่ด้านข้างทั้งยังมีไฟกระพริบติดโดยรอบ แต่เพราะเป็นช่วงกลางวันจึงไม่ได้เปิด
ชั้นล่างกรุผนังด้วยกระจกทั้งหมด แต่ปิดม่านเอาไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว ร่างบางก้าวเข้ามาใกล้แล้วผลักประตูพลางชะโงกมองโดยรอบ
โซนนี้น่าจะเป็นส่วนต้อนรับเพราะเห็นแผนกประชาสัมพันธ์ส่งยิ้มมาให้ จึงรีบเดินเข้าไปทักทายอย่างเขินอาย
“ฉันมาหาคุณชมเดือนค่ะ” บอกเสียงชัดเจนแทบอดรนทนรอไม่ไหวกับการสัมภาษณ์วันนี้ เธอไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไรบ้าง แต่ก็พร้อมเผชิญทุกอย่าง
“ไม่ทราบว่านัดไว้หรือเปล่าคะ” ประชาสัมพันธ์ถามอย่างสุภาพ
“เอ่อ ค่ะ แต่ไม่ได้นัดเวลาไว้ แค่ได้รับนามบัตรค่ะ” หยิบนามบัตรจากในกระเป๋าให้ดู พอเห็นดังนั้นจึงรีบหันไปติดต่อหาเจ้านายโดยตรง
“สักครู่นะคะ” พยักหน้าแล้วมองไปโดยรอบ
โซฟารับแขกเป็นสีสันสดใส มองแล้วก็ทำให้รู้สึกสดชื่นไปด้วย แถมยังมีโซนสำหรับเด็กเล็กคาดว่าลูกค้าคงจะเป็นเด็กน้อยเยอะพอสมควร อีกฝั่งเป็นห้องประชุมที่ตอนนี้เปิดม่านเอาไว้เพราะไม่มีคนใช้
ชั้นหนึ่งเป็นห้องเพดานสูงทำให้ดูกว้างกว่าเดิม หล่อนชอบไปหมดมีแต่คำชมให้แบรนด์ของคุณชมเดือน ลืมสนใจประชาสัมพันธ์จนถูกเรียกจึงได้หันมามอง
“เชิญที่ชั้นสองเลยค่ะ คุณชมรออยู่ที่ห้อง” พยักหน้ารับทราบไม่ลืมกล่าวขอบคุณ เธอรีบเดินขึ้นไปข้างบนแล้วเห็นประตูเขียนติดด้านหน้าไว้ว่าเป็นห้องอะไร
ก่อนจะสะดุดตาที่ห้องของคุณชมเดือน หล่อนรีบจัดชุดให้เข้าที่พลางจับผมแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดเรียกพลังให้ตนเอง เมื่อมั่นใจจึงเดินไปเคาะประตูสามครั้ง รอจนได้ยินเสียงตอบรับจึงค่อยเปิดเสียงเบา
“เชิญเลยจ้ะ” ผละสายตาจากเอกสารเพื่อมองคนมาใหม่ เห็นหญิงสาวที่ตนเองช่วยเมื่อวานก็ฉีกยิ้มกว้าง ลุกจากเก้าอี้เข้ามาจับแขนหล่อนพาไปนั่งตรงโซฟากว้างสำหรับรับแขก
ทำเอาพลอยบัวตั้งตัวไม่ทัน แต่ก็เดินตามจนได้นั่งบนโซฟานิ่ม หล่อนเผลอกระชับเอกสารสำหรับสมัครงานแน่น มาทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองจะได้ทำตำแหน่งอะไร
“ฉันคิดว่าเธอจะไม่มาแล้วซะอีก” เมื่อคืนหล่อนตื่นเต้นแทบตายที่จะได้มาทำงานบริษัทใหญ่ แถมเจ้านายยังเป็นมิตรค่อนข้างเที่ยงธรรมอีกด้วย เห็นแสงสว่างของชีวิตก็ตอนที่คุณชมเดือนเข้ามานี่แหละ
“มาสิคะ คุณชมอุตส่าห์ให้โอกาสทั้งที ประวัติของบัวค่ะ” ชินกับการแทนตัวเองด้วยชื่อเล่น คนฟังก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากหยิบเอกสารมาเปิดดูพลางพยักหน้า
แต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายเคยทำงานบริษัทนำเข้ารถยนต์ที่ตนรู้จักอย่างดีก็ชะงักครู่หนึ่ง แล้วอ่านประวัติการทำงานยาวเหยียดซึ่งส่วนมากเป็นพนักงานพาร์ทไทม์
“ทำไมทำพาร์ทไทม์เยอะขนาดนี้ล่ะ” เรียกได้ว่าทำตั้งแต่เรียนมัธยมปลายจนจบปริญญาตรี มองคณะที่เรียนก็พยักหน้าพึงพอใจ จากตอนแรกที่คิดจะให้เป็นนางแบบอย่างเดียวคงต้องพิจารณาใหม่อีกรอบเสียแล้ว
“ได้เงินเร็วแล้วก็ประหยัดเวลาค่ะ” คุณชมเดือนเปิดอ่านเอกสารถัดไปเรื่อยจนจบ ระหว่างนั้นก็ถามตอบอย่างเป็นกันเอง
“เธออยากทำงานที่บริษัทฉันไหม” เมื่ออ่านจบก็ปิดเอกสารแล้วมองคนที่นั่งอยู่ข้างกาย เอียงข้างเล็กน้อยเพื่อให้เห็นหล่อนอย่างถนัด แอบสำรวจตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าก็ตรงตามที่ต้องการ
สงสัยต้องให้เริ่มงานตั้งแต่วันนี้...
“อยากค่ะ” แววตาเป็นประกายไม่ปิดบัง ท่านเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มพึงพอใจ
“ถ้างั้นก็เริ่มเลยแล้วกัน ฉันจะให้เธอเป็นนางแบบประจำของแบรนด์ แล้วก็ช่วยงานเอกสารนิดหน่อยได้ไหม” ไม่อยากเชื่อว่าจะได้รับโชคสองชั้นเช่นนี้ พลอยบัวไม่ปฏิเสธหรือฟังข้อตกลงเพราะเชื่อใจคุณชมเดือนเต็มร้อย
จนคิดว่าตนเองคงบ้าไปแล้วที่เชื่อคนเพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรก
“ได้ค่ะ บัวพร้อมทำทุกอย่าง” เจ้าของแบรนด์เห็นอย่างนั้นก็ยิ้มเอ็นดู แล้วพาเธอขึ้นไปบนชั้นสามซึ่งเป็นสตูดิโอสำหรับถ่ายรูปของแบรนด์ แค่ก้าวเข้ามาก็เห็นคนเดินสวนกันขวักไขว่เพื่อทำงานอย่างเร่งรีบ
หล่อนเดินหลบแทบไม่ทันก่อนจะรีบสาวเท้าตามท่านไปยืนหน้าเซตที่ฉากหลังเป็นสีขาว โดยมีคนกลุ่มหนึ่งยืนก้มๆ เงยๆ ตรงหน้าจอคอมขนาดใหญ่
“นางแบบมาแล้ว เริ่มถ่ายเซตสองกันเลยไหม” พอเจ้าของบริษัทกล่าวคนที่เหลือจึงหันมามอง
มุมปากหยักยกยิ้มพลางค้อมศีรษะให้คนตรงหน้า ก่อนจะเงยขึ้นมองเพื่อนร่วมงาน แต่กลายเป็นว่าเมื่อได้สบดวงตาคมหล่อนก็ต้องยิ้มค้างอยู่อย่างนั้น
ไม่อยากเชื่อว่าจะเจอกับผู้ชายปากหมาที่นี่!