บท
ตั้งค่า

๒ โชคชะตานำพามาพบเจอ (๑)

โชคชะตานำพามาพบเจอ

ไม่จบสิ้นกันสักที เธอพยายามบิดแขนตนเองออกจากการเกาะกุมแต่เขาก็ยังจับไว้แน่นไม่ยอมปล่อย มองเหมือนว่าหล่อนไปฆ่าสัตว์เลี้ยงสุดโปรดของตนเองซะอย่างนั้น

เห็นแล้วขัดลูกตาชะมัด

“ฉันดีใจไหมมันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ ปล่อยได้แล้วจะมาจับไว้ทำไม ปล่อยสิ” สะบัดแรงแค่ไหนก็ไม่หลุดสักทีจนเริ่มโมโห การยืนทะเลาะกันอยู่ข้างทางนอกจากเรียกสายตาของคนผ่านไปมาแล้วก็ไม่สามารถทำอะไรได้ตามใจต้องการ

เหมือนตอนนี้ที่เธอเป็นรองชายหนุ่ม ดวงตาคมแทบเป็นเปลวเพลิงแผดเผา คงเป็นเพื่อนรักกันสิท่าถึงโกรธแค้นแทนขนาดนี้

ถ้าเป็นแบบนั้นจริงคิรินไม่บอกอะไรเลยหรือไงว่าเธอไม่เคยเรียกร้องสักครั้ง แถมยังพยายามเอาตัวเองออกมาจากวังวนรักสามเศร้า แต่วันนี้ขอเอาคืนหน่อยแล้วกัน หลังโดนแฟนเขาระรานจนต้องลาออกจากงาน

“ต่อจากนี้อย่ามายุ่งกับเพื่อนฉันอีก” ปล่อยหล่อนให้เป็นอิสระหลังพูดจบ แต่เพราะพลอยบัวดิ้นเพื่อให้หลุดพ้น กลายเป็นว่าแรงย้อนกลับทำให้เธอล้มลงบนพื้นซีเมนต์อย่างไม่ทันตั้งตัว

เงยหน้ามองร่างสูงที่นอกจากไม่ช่วยยังยืนเอามือล้วงกระเป๋าอีกต่างหาก เล่นเอาสาวเจ้าอ้าปากค้างอึ้งกับการกระทำที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษ

เขาคงตีค่าหล่อนไม่ต่างจากหญิงข้างทางสินะ

“ไม่! ฉันจะยุ่งกับเพื่อนของนาย ฉันจะโกยเงินทุกบาททุกสตางค์เข้ากระเป๋าตัวเองเอาให้เขาหมดตัวเลย คอยดูแล้วกัน!” ลุกยืนแล้วปัดฝุ่นตามกางเกงออก ไม่ลืมมองเขาอย่างท้าทายแล้วค่อยสะบัดหน้าเดินหนี

เจ็บทั้งตูดเจ็บทั้งใจ แค้นครั้งนี้ไม่อาจลบเลือนได้แต่หล่อนก็ต้องเดินหน้าต่อไป จะให้ตามราวีตลอดเวลาก็ไม่ไหว ต้องหาเงินประทังชีวิตไหนจะจ่ายหนี้คิรินอีก

สวรรค์น่าจะเมตตาประทานสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตของเธอบ้าง รอนานหลายสิบปีก็ยังไม่มีเรื่องดีสักอย่าง

เขียนฟ้ามองตามคนตัวเล็กแล้วกำหมัดแน่น ผินหน้ามองเข้าไปในร้านเห็นเพื่อนสนิทและน้องสาวซึ่งรู้จักกันมานานกำลังทะเลาะจนฝ่ายชายทนไม่ไหว แกะมือหล่อนแล้วเดินออกมาข้างนอก ดีกว่าเป็นจุดสนใจของคนทั้งร้าน

“พี่เคนมานี่เลย ฮึก เบลบอกให้มานี่ไง จะหนีไป ฮือ เบลไม่ยอมให้พี่ไปคบกับมันหรอกนะ กรี๊ด! พี่เคน!” ทั้งสะอื้นตัวโยนไหนจะรีบวิ่งตามชายคนรัก แต่ไม่ทันเพราะเขาไปขึ้นรถที่จอดอยู่ทางหน้าร้านและขับออกไปเป็นที่เรียบร้อย ปล่อยหล่อนมองตามด้วยแววตาหลากหลายอารมณ์

เปล่งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บแค้นใจจนร่างสูงต้องเข้าไปประคองหล่อน กลัวว่าจะล้มลงบนพื้นเสียก่อน

“พี่เขียนช่วยเบลด้วยนะ ฮือ เบลไม่อยากเลิกกับพี่เคน เบล รัก รักเขามาก” ถึงจะไม่ได้สนิทกับเธอมากนักแต่ก็เห็นหน้ามานานจนเป็นเหมือนพี่น้องกันแล้ว

ระยะเวลา 7 ปีที่คนทั้งคู่คบกันเขาก็เป็นดั่งพยานรัก ถึงขนาดเกือบได้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวแล้วถ้าไม่ใช่คิรินจะยกเลิกงานแต่ง เพราะผู้หญิงเพียงคนเดียว

…พลอยบัว

“ใจเย็น” ไม่รู้จะปลอบอย่างไร เขาเองก็ไม่ใช่คนที่ปลอบคนอื่นเก่ง ส่วนมากแค่นั่งรับฟังปัญหาอย่างเดียว และมันทำให้เขียนฟ้ารู้ว่าคิรินเป็นหนักแค่ไหน

ทว่าพอเจอพลอยบัวก็ทำให้เข้าใจว่าเหตุใดเพื่อนตนถึงชอบ หล่อนเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยถึงไม่ต้องแต่งตัวมาก ผมยาวผิวขาวรูปร่างผอมโปร่ง ดวงตากลมสดใสยามจ้องเหมือนต้องมนตร์ แต่มันใช้ไม่ได้กับเขา

และคิดว่าต้องรีบหาทางแก้ไขโดยด่วนก่อนเรื่องจะถึงหูครอบครัวทั้งสอง

“ตอนนี้เคนมันคงไม่ฟังหรอก เบลต้องใจเย็นแล้วคิดทบทวนใหม่ว่าจะเดินหน้ากับคนที่นอกใจหรือเปล่า” ถ้าเขาเป็นพี่ชายของเธอคงบอกให้เลิก แต่เพราะเป็นคนนอกและไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือดกับพาณิภัทรจึงไม่อาจบอกอะไรได้มาก

ทุกอย่างเธอคงต้องแก้ไขเอง และไม่ควรใช้อารมณ์แบบนี้มันทำให้เรื่องแย่ลงกว่าเดิม ดูได้จากการที่คิรินเดินออกจากร้านไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามองแฟน

“เขาอยากเลิกกับเบลนานแล้ว เขาไม่อยากแต่งงานกับเบลด้วยซ้ำ แต่เป็นเบลเองที่ไล่ตามเขา เราคบกันมาเจ็ดปีเลยนะเว้ยพี่เขียน เจ็ดปีของเบลมันจะจบลงแบบนี้จริงเหรอ” ร่ายยาวทั้งเสียงยังขาดห้วงเพราะร้องไห้หนัก

ร่างสูงมองแล้วก็นึกสงสาร จากระยะเวลาที่บอกมันไม่น้อยสักนิด ไม่น่าเชื่อว่าเลขเจ็ดจะเป็นอาถรรพ์ของคู่รักจริง

และเป็นบทพิสูจน์ใหญ่ซะด้วย

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน” ทำได้เพียงลูบหลังปลอบแล้วพาหล่อนไปส่งที่บ้าน ส่วนตนก็ขับรถกลับที่ทำงานโดยไม่ได้ดื่มกาแฟสักอึก

ถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้มทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง คิดเห็นใบหน้าหวานยามยิ้มให้คิรินก็ขมวดคิ้วมุ่น รู้ทั้งรู้ว่าเพื่อนเขามีแฟนก็ยังมาให้ท่าถึงที่

คนแบบนี้เหรอที่คิรินคิดจะคบด้วย ดูอย่างไรก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีสักนิด

“คุณกลับไปเถอะค่ะ เรื่องเมื่อตอนเย็นฉันก็แค่ทำไปเพราะอยากแก้แค้นแฟนคุณเท่านั้นเอง ฉันไม่ได้คิดกับคุณมากกว่าเจ้านายลูกน้องเลยสักครั้ง” อดีตเจ้านายมาหาถึงหน้าบ้าน เพียงแค่หล่อนบอกว่าคิดถึงใจเขาก็เต้นแรงอีกครั้ง

เหมือนเลือดมันสูบฉีดมากกว่าเดิม จนไม่อาจทนกักเก็บความรู้สึกได้ ถึงขั้นขับรถมาหาหล่อนเพื่อบอกความรู้สึกอีกครั้ง

อาการป่วยของแม่เธออาจเป็นโชคร้ายของหญิงสาว แต่คิรินกลับรู้สึกว่าตนโชคดีที่ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยดั่งเจ้าชายขี่ม้าขาว ผูกเชือกเส้นหนารัดตัวไม่ให้หล่อนไปจากกันได้

“แต่ผมรักคุณ ผมรักคุณจริงๆ นะบัว ให้โอกาสผมไม่ได้เหรอ” ไม่รู้ว่าตนเองไปทำอย่างไรผู้ชายคนนี้ถึงตามติดไม่ยอมเลิกรา หล่อนไม่ได้เล่นคุณไสยหรือมนต์ดำสักอย่าง และไม่เคยคิดจะให้ชายใดมารักชอบตนด้วย

พอโดนตื้อหนักเป็นครั้งแรกก็ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ บอกปฏิเสธอย่างสุภาพไปก็แล้ว พูดตามตรงก็หลายครั้ง แต่ดูเหมือนคิรินจะไม่ฟังเลย

“ฉันคงไม่สามารถให้โอกาสผู้ชายที่ทิ้งแฟนเพื่อมาคบกับผู้หญิงคนอื่นหรอกค่ะ ฉันกลัวว่าวันหนึ่งตัวเองจะเป็นฝ่ายถูกทิ้ง” บอกตามความคิดของตน หล่อนไม่อยากต้องมานั่งระแวงว่าวันหนึ่งเขาจะนอกใจไปหาใครอื่นหรือเปล่า

ทว่าสิ่งสำคัญคือเธอไม่ได้รักเขา แค่เศษเสี้ยวหัวใจก็ไม่มี ตอนแรกอาจหลงหน้าตาบ้างแต่แค่ชื่นชมเพียงอย่างเดียว ไม่หวังเอามาเป็นแฟน

“ไม่ ผมจะไม่ทิ้งคุณแน่นอนผมสัญญา” คำสัญญาเชื่อถือไม่ได้หรอก

หล่อนถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วตัดสินใจบอกอย่างเด็ดขาด อยากพักผ่อนหลังจากทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน

“เอาอะไรมารับประกันคะว่าคุณจะไม่ทิ้งฉัน ขนาดผู้หญิงที่คุณคบมาหลายปียังทิ้งเธอไม่เหลือเยื่อใยเลย ขอโทษทีนะฉันไม่ค่อยอินกับความรักแบบนี้เท่าไหร่” จบประโยคนั้นก็เข้าบ้านแล้วลงกลอนประตูรั้วทันที ปล่อยร่างสูงมองตามพลางเรียกชื่อเสียงดัง

มารดาที่นั่งถักกระเป๋าหันมองลูกสาว แววตาเต็มไปด้วยคำถามจนร่างบางต้องบอกกล่าวทุกอย่างเพื่อให้ท่านทราบ ไม่เคยปิดบังแม่อยู่แล้วในเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนเอง นอกจากนั้นยังระบายและใส่อารมณ์ไปบ้างตามความรู้สึก

บางทีเธอควรจะหาแฟนเป็นตัวเป็นตนหรือเปล่า จะได้ไม่ต้องมาเจอเหตุการณ์สร้างความเข้าใจผิดเช่นนี้อีก

คิดแล้วก็พาลนึกถึงหน้าของชายที่เสนอเงินให้หล่อน หน้าตาก็ดีแต่ปากเสียไปหน่อย เข้าใจแล้วว่าทำไมคบกับคิรินได้

อีกคนสมองไม่ปกติ ส่วนอีกคนก็ปากสุนัขไม่รับประทาน

โชคดีที่ไม่ต้องคบค้าสมาคมกับคนพวกนี้ ถ้าสูงส่งนักก็อยู่กันเองแล้วกัน คนต่ำต้อยอย่างหล่อนก็จะขออยู่ตามมีตามเกิด แค่ไม่ต้องพบเจอกันอีกเป็นพอ

ช่วงค่ำเธอทำงานที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยน รายได้ดีเพราะลูกค้าให้ทิปหนักแต่ก็ต้องแบ่งกับพนักงานคนอื่น หญิงสาวบริการอย่างดีเยี่ยมทั้งยิ้มแย้มสร้างบรรยากาศสดใส พูดภาษาอังกฤษพอได้ ฟังรู้เรื่องแต่การออกเสียงจะเป็นสำเนียงของประเทศบ้านเกิด

เธอโทรไปขอบคุณเพื่อนสนิทอย่างอัยยาหลายรอบที่หางานให้ตนเอง ไม่อย่างนั้นคงต้องตระเวนหางานใหม่เพราะออกจากที่เก่า

“รับอะไรเพิ่มคะ” เข้ามารับออเดอร์จากลูกค้าต่างประเทศ เธอถูกเทรนก่อนทำงานสามวันและจำชื่อเมนูได้หมด ถึงจะพูดภาษาอังกฤษแต่ก็ฟังรู้เรื่องว่าต้องการสิ่งใด

“ฉันอยากได้สเต็กปลาแซลม่อนอีกหนึ่งที่” รีบรับออเดอร์พลางบอกรอสักครู่ ทว่าจังหวะที่กำลังจะเดินไปยังห้องครัวก็รู้สึกว่าบั้นท้ายถูกสัมผัส และบีบอย่างแรงจนต้องหันไปมองโต๊ะตรงข้าม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel