บท
ตั้งค่า

บทที่ 9 ให้เป็นหน้าที่ฉันเอง

หลังออกมาจากคฤหาสน์ เย่ฝานมาที่ป้ายรถเมล์

การกระทำของหลินซิวหลิงทำให้เขาผิดหวังมาก แต่การเคลียร์ไม่สำคัญแล้ว แค่เขาทวงเงินสองล้านมาได้ เขาก็จะออกจากตระกูลถังได้

แต่เขาไม่ได้ตรงไปที่สมาคมการค้าสี่ทิศทันที แต่กำลังรอรถเมล์ไปโรงพยาบาล

เขาไม่วางใจเรื่องเชี่ยนเชี่ยน

“เอี๊ยด”

เย่ฝานรอไม่ถึงห้านาทีบีเอ็มดับเบิลยูสีแดงคันหนึ่งมาจอดข้างๆ

กระจกรถเลื่อนลงมา เห็นใบหน้าเย็นชาของถังรั่วเสวี่ย “จะไปไหน”

เย่ฝานเอ่ยเสียงเรียบ “ไปโรงพยาบาล”

ถังรั่วเสวี่ยถอนหายใจยาว “ขึ้นรถ ฉันไปส่งนายเอง”

“ไม่ต้องหรอก เธอกับฉันไปคนละทาง”

เย่ฝานปฏิเสธโดยไม่ลังเล “เธอไปทำงานเถอะ”

เขารู้ว่าถังรั่วเสวี่ยรู้ความจริงแล้ว ไม่งั้นคงไม่มารับตัวเองหรอก เพียงแต่ไม่ได้พูดขอโทษ เธอจะปล่อยตัวเองไปได้ยังไง

สิ่งที่เจอมาหนึ่งปี ทำให้เขาตระหนักได้ว่าการถ่อมตนและประนีประนอมที่ไร้หลักการ มีแต่จะทำให้คนดูถูกเท่านั้น

ถังรั่วเสวี่ยขยับมุมปาก จากนั้นพยายามสงบสติอารมณ์ “วันนี้ฉันมีเวลาเยอะ ไปส่งนายที่โรงพยาบาลได้”

เธอถามว่า “นายจะไปเยี่ยมเชี่ยนเชี่ยนเหรอ”

“ใช่”

เย่ฝานตอบว่า “อาการเธอไม่คงที่ น่าจะยังไม่พ้นขีดอันตราย ฉันอยากไปดูว่าช่วยได้หรือเปล่า”

แน่นอนว่าเขาจะถือโอกาสขอบคุณโสมของซ่งหงเหยียนด้วย

กินโสมเข้าไป เย่ฝานรู้สึกว่าพลัง ปราณ และจิตวิญญาณยกระดับขึ้นไม่น้อย อย่างน้อยไม่ต้องพยายามต่อสู้ได้สามถึงห้าปี

“ขนาดหนังสือแพทย์นายยังอ่านไม่เข้าใจ จะช่วยอะไรได้”

ถังรั่วเสวี่ยส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย แต่ก็พูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “ขึ้นรถ ไปด้วยกัน”

เย่ฝานไม่พูดอะไร เอาแต่จ้องถังรั่วเสวี่ยอยู่อย่างนั้น แค่เธอขอโทษ เขาก็จะประนีประนอม

ถังรั่วเสวี่ยตวาดอย่างก้าวร้าว “จะหยุดได้หรือยัง เป็นผู้ชายมาดแมน มาคิดเล็กคิดน้อยจนเกินเหตุ น่าสนุกตรงไหน”

เย่ฝานยังไม่พูดอะไร

“จะขึ้นไม่ขึ้น นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร”

เห็นเย่ฝานเงียบ ถังรั่วเสวี่ยรู้สึกหงุดหงิด เธอมีท่าทีอ่อนโยนขนาดนี้แล้ว เย่ฝานจะเอายังไงอีก

เธอโยนถุงกระดาษให้เย่ฝาน แล้วก็เหยียบคันเร่งออกไปเลย

“ปึก”

เย่ฝานรับถุงกระดาษไว้ พอเปิดดู เขาเห็นนมกับซาลาเปาไส้หมูแดงหนึ่งเข่ง

สีหน้าเขาเหม่อลอยเล็กน้อย เหมือนย้อนกลับไปตอนอาศัยอยู่ตามข้างทางในตอนนั้น......

“บรื้น”

เก้าโมงเช้า เย่ฝานมาถึงโรงพยาบาลจงไห่

เขาซื้อเข็มที่แผนกแพทย์แผนจีนมาหนึ่งกล่อง เมื่อสอบถามสักพัก เขามาถึงห้องผู้ป่วยที่ชั้นสี่

พอประตูลิฟต์เปิดออก เขาเห็นถังรั่วเสวี่ยหิ้วถุงผลไม้มา

เธอเดินผ่านหน้าเย่ฝานเหมือนมองไม่เห็น

เย่ฝานรู้ว่าเธอขี้โมโห เลยไม่ได้สนใจ เดินตรงมาที่ประตูห้องพักของเชี่ยนเชี่ยน เห็นซ่งหงเหยียนนั่งเหม่ออยู่ที่ม้านั่งพอดี

ใบหน้าสิ้นหวัง เหมือนน้ำหนักลดไปหลายกิโลภายในชั่วข้ามคืน

แม้ผู้หญิงใบหน้าซีดเซียว แต่ความงามกลับไม่ลดลงเลยสักนิด นัยน์ตาเศร้าทำให้คนรู้สึกหม่นเศร้าเคล้าความงาม

หญิงชายแต่งตัวหรูสิบกว่าคนรายล้อมรอบตัวเธอ แต่ไม่มีใครพูดอะไรเลยสักคน

บรรยากาศอึดอัดมาก

พอเห็นแบบนี้ ถังรั่วเสวี่ยชะงักฝีเท้าโดยไม่รู้ตัว ครุ่นคิดว่าจะปลอบซ่งหงเหยียนยังไง

“คุณซ่ง”

เย่ฝานเดินตรงเข้าไป “อาการเชี่ยนเชี่ยนเป็นยังไงบ้าง”

ซ่งหงเหยียนชะงักเล็กน้อย พอเงยหน้ามาเห็นเย่ฝาน เธอพูดอย่างตื่นเต้นว่า

“ผู้มีพระคุณ ผู้มีพระคุณมาแล้วเหรอ”

หญิงแกร่งที่มีทรัพย์สินเป็นหมื่นล้าน ตอนนี้ไม่มีมาดเลยสักนิด

“เธอเรียกฉันว่าเย่ฝานก็พอแล้ว”

เย่ฝานจับไหล่เธอ “คำว่าผู้มีพระคุณล้ำค่าเกินไป ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก”

“นายช่วยชีวิตเชี่ยนเชี่ยน นายคือผู้มีพระคุณของฉัน”

สายตาซ่งหงเหยียนดึงดัน “ต่อไปถ้ามีอะไรให้หงเหยียนช่วย รีบบอกมาได้เลย”

“ขอโทษที่ตบหน้านายเมื่อวาน”

เธอกำลังจะยกมือตบหน้าตัวเอง

รวดเร็วและเด็ดขาด

เย่ฝานหูตาว่องไว รีบคว้าข้อมือเธอไว้ “คุณซ่ง ฉันไม่โทษเธอหรอก ฉันเข้าใจ”

“ถ้าเธอรู้สึกผิด ค่อยชดใช้ให้ฉันหลังจากเชี่ยนเชี่ยนฟื้นก็ได้”

ข้อมือที่จับนุ่มนิ่มมาก จนทำให้เย่ฝานลืมปล่อยมือ

“สหายเย่เป็นคนดีจริงๆ”

ซ่งหงเหยียนก็ไม่ดึงออก ปล่อยให้เย่ฝานจับอยู่อย่างนั้น “ฉันจะจดจำบุญคุณของนายไปตลอดชีวิต”

เห็นเย่ฝานจับมือซ่งหงเหยียน อีกทั้งซ่งหงเหยียนยังอ่อนโยนกับเย่ฝานมากด้วย ถังรั่วเสวี่ยที่เดินเข้ามาขยับมุมปากแล้วกระแอมเบาๆ

เย่ฝานได้สติ เขารีบปล่อยมือที่จับอยู่ทันที

ซ่งหงเหยียนเงยหน้ามองถังรั่วเสวี่ย แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน “คุณถัง ขอบคุณที่เมื่อวานนี้บอกให้ทุกคนช่วยกัน”

ถังรั่วเสวี่ยตอบกลับเสียงเบา “ประธานซ่งเกรงใจเกินไปแล้ว”

“คุณซ่ง อาการเชี่ยนเชี่ยนเป็นยังไงบ้าง”

เย่ฝานยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “พ้นขีดอันตรายแล้วหรือยัง”

“ยังแย่มาก”

แววตาซ่งหงเหยียนหม่นลง

“อาการบาดเจ็บสาหัสมาก เมื่อวานช่วยชีวิตอยู่หลายครั้ง แต่ถึงตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตรายเลย”

“ผู้อาวุโสซุนก็ทำให้อาการดีขึ้นไม่ได้”

เธอขบริมฝีปากแดงเบาๆ เป็นกังวลมาก เห็นแล้วน่าเอ็นดู

เย่ฝานพูดปลอบใจเบาๆ “ไม่ต้องกังวล เชี่ยนเชี่ยนเป็นคนดี ฟ้าต้องคุ้มครอง เธอปลอดภัยแน่นอน”

จู่ๆ ซ่งหงเหยียนตาเป็นประกาย

“สหายเย่ เมื่อวานนายช่วยชีวิตเชี่ยนเชี่ยน ทักษะการแพทย์ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ นายช่วยดูให้หน่อยได้ไหม”

เธออับจนหนทางแล้วเหมือนกัน

“ขอโทษนะคุณซ่ง เย่ฝานไม่มีทักษะการแพทย์ เมื่อวานแค่บังเอิญโชคดีเท่านั้น”

ถังรั่วเสวี่ยจำเป็นต้องพูดความจริง แม้เธอหวังว่าเย่ฝานจะช่วยชีวิตเด็กน้อยได้ แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก

“คุณซ่ง เธอพูดถูก ฉันไม่ใช่หมอ”

เย่ฝานตอบตามตรง “ฉันไม่เคยช่วยชีวิตคนมาก่อน”

พอได้ยิน ซ่งหงเหยียนชะงักไป นัยน์ตาเธอมีความเจ็บปวด ใบหน้างดงามฉายแววเศร้า

แม้เชี่ยนเชี่ยนเป็นลูกบุญธรรมของเธอ แต่เลี้ยงดูมาเจ็ดปี ก็เป็นเหมือนลูกสาวแท้ๆ แล้ว ถ้าเด็กน้อยต้องจากไปก่อน ซ่งหงเหยียนก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเหมือนกัน

“คุณซ่ง แม้ฉันไม่เคยเรียนหมอ แต่ฉันอ่านหนังสือแพทย์มาเยอะ”

เย่ฝานพูดเปลี่ยนเรื่อง “ถ้าเธอเชื่อใจฉัน ฉันยินดีลองดู”

“ยินดีอยู่แล้วๆ”

ดวงตาซ่งหงเหยียนเป็นประกายอีกครั้ง ไม่รู้ทำไมเธอถึงรู้สึกเชื่อใจเย่ฝานอย่างประหลาด

“สหายเย่ตามฉันมาสิ”

ซ่งหงเหยียนรีบจูงมือเย่ฝานไปที่ห้องผู้ป่วยทันที

“เย่ฝาน!”

ถังรั่วเสวี่ยจ้องเย่ฝานแล้วตะโกนอย่างร้อนใจ “นายอย่าทำอะไรส่งเดชนะ นายทำคนตายได้เลยนะ”

เย่ฝานยิ้มบางๆ “วางใจเถอะ ฉันช่วยเชี่ยนเชี่ยนได้แน่นอน”

ถังรั่วเสวี่ยโมโหจนกระทืบเท้า “จะให้ฉันวางใจได้ยังไง ถ้าทำอะไรบ้าๆ จะเป็นเรื่องเอานะ!”

เย่ฝานไม่มีทางโชคดีทุกครั้งหรอก

“นายโกรธฉันใช่ไหม หงุดหงิดที่ฉันไม่ยอมขอโทษนายใช่ไหม”

จู่ๆ ถังรั่วเสวี่ยนึกอะไรขึ้นมาได้

“ได้ งั้นฉันจะขอโทษนาย เมื่อเช้าฉันบุ่มบ่ามเอง ไม่ควรโดนแม่หลอกแล้วใส่ร้ายนาย”

“ขอแค่นายหายโกรธ มีสติสักหน่อย ที่ฉันตบหน้านายไป นายมาตบคืนได้ทุกเมื่อ”

เธอคิดว่าการที่เย่ฝานช่วยชีวิตเชี่ยนเชี่ยน เพราะต้องการต่อต้านเธอ

เย่ฝานเอ่ยเสียงเรียบ “เธอไม่เคยเชื่อใจฉันเลย......”

“แย่แล้ว! คนไข้ไม่หายใจแล้ว เร็วๆ......”

ขณะนั้นสัญญาณที่ห้องไอซียูดังขึ้น จากนั้นหมอสิบกว่าคนพุ่งเข้ามา

นอกจากแพทย์ของโรงพยาบาลแล้ว ยังมีแพทย์แผนจีนจำนวนไม่น้อย ที่ซ่งหงเหยียนเชิญมาขอคำปรึกษาด้วย

คนที่เดินมาด้านหน้าสุด เป็นชายชราผมขาวอายุหกสิบกว่าปี หน้าตาดูมีราศี แต่งตัวหรูหรา

หมอเทวดาของจงไห่ ซุนหัตถ์เทวะ

เขาเป็นผู้ก่อตั้งกลับชุนถังแห่งจงไห่ มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการแพทย์แผนจีน ทำงานเป็นหมอมาสี่สิบกว่าปี ในบรรดาหมอเป็นหมื่นคน เขาได้รับเกียรตินับไม่ถ้วน

ครึ่งชีวิตของเขาอุทิศให้กับแพทย์แผนจีน ดังนั้นจึงได้รับการเคารพและต้อนรับจากภาคส่วนต่างๆ ในจงไห่

เมื่อผู้ป่วยต้องการความช่วยเหลือด่วน เขาจะมาอย่างเร็วที่สุด

ซ่งหงเหยียนกับเย่ฝานเดินตามไป

เห็นว่าเชี่ยนเชี่ยนไม่หายใจแล้ว อุปกรณ์ต่างๆ ส่งสัญญาณเตือน ทำให้รู้สึกกระวนกระวายไปหมด

แพทย์ผู้ดูแลฉีดอะดรีนาลีนด้วยใบหน้าตึงเครียด แล้วเอาเครื่องปั๊มหัวใจมาช่วยชีวิตอย่างเต็มที่

แต่อาการของเชี่ยนเชี่ยนแย่มาก แทบไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลย

“เชี่ยนเชี่ยน!”

ซ่งหงเหยียนจะร้องไห้แล้ว

เมื่อจอวัดสัญญาณชีพกลายเป็นเส้นเดียว สีหน้าของแพทย์ผู้ดูแลและคนอื่นฉายแววหม่นหมอง

“ฉันเอง!”

ขณะนั้นซุนหัตถ์เทวะบอกให้พวกหมอหลีกทาง เขาหยิบเข็มขึ้นมาหกเล่ม แล้วปักลงบนตัวเชี่ยนเชี่ยน

หกเข็มหวนคืน

เขาจะรวมพลังชีวิตเฮือกสุดท้ายบนตัวเชี่ยนเชี่ยน

เมื่อคืนกับเมื่อเช้า ซุนหัตถ์เทวะเป็นคนช่วยชีวิตเธอทั้งสองครั้ง

แต่น่าเสียดายที่ครั้งนี้เชี่ยนเชี่ยนไม่มีการตอบสนองอะไรเลย

“เฮ้อ”

ซุนหัตถ์เทวะฝังเข็มลงไปอีกหกเล่ม แต่เชี่ยนเชี่ยนก็ยังไม่ตอบสนอง

ชายชราถอนหายใจออกมา

หยุด!

ไม่สามารถช่วยอะไรได้แล้ว

พอเห็นซุนหัตถ์เทวะส่ายหน้า ทุกคนเศร้าเสียใจ ซ่งหงเหยียนหน้าซีดเผือด

เย่ฝานมองไปที่กลุ่มคน เห็นเงาของเชี่ยนเชี่ยนปรากฏออกมาอีกแล้ว

เขาพุ่งเข้าไปในห้องผู้ป่วยทันที ใช้มือตบลงบนหน้าผากเชี่ยนเชี่ยน

“ฉันเอง!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel