บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 ฉันจะหย่า

“ทำไมมันไม่ตายไปซะๆ”

เพิ่งกลับมาถึงคฤหาสน์ตระกูลถัง ประตูยังไม่ทันได้ล็อก หลินซิวหลิงที่อัดอั้นมาทั้งคืนอาละวาดทันที

“ไล่ไอ้สวะนี่ออกไปจากตระกูลถังของเรา”

เธอชี้เย่ฝานที่ยังไม่ทันเดินเข้ามาแล้วตวาดใส่

“ไสหัวไปได้ไกลแค่ไหนยิ่งดี”

เย่ฝานเปิดโปงต่อหน้าทุกคนว่าเป็นภาพปลอม นอกจากจะตบหน้าหานเจี้ยนเฟิงแล้ว ยังทำให้ตัวเอกอย่างเธอรู้สึกกระอักกระอ่วนด้วย

เขยเกาะเมียกินยังดูออกว่าเป็นของปลอม แต่เธอกับถังซานกั๋วกลับดูไม่ออก ยิ่งกว่าสวะเสียอีก

หลินซิวหลิงบอกทุกคนไม่ได้ว่าเธอเข้าข้างหานเจี้ยนเฟิง

แน่นอนว่าที่เธอโมโหจริงๆ คือโสมต้นนั้น

ราคาตั้งสามล้าน

ช่วยยืดอายุขัย

เย่ฝานกินของล้ำค่าแบบนี้จนหมดเพียงคนเดียว

รู้ไหมว่าตอนแรกมันเป็นของเธอกับถังซานกั๋ว

นี่ทำให้หลินซิวหลิงเจ็บปวดใจมาก

รู้สึกเหมือนหวยมูลค่าสามล้านโดนเครื่องซักผ้าตัวเองปั่นจนขาด

เธอเสียหน้า เธอโมโห เธออึดอัดใจ

เธอไม่โทษหานเจี้ยนเฟิง แต่เคียดแค้นไอ้อกตัญญูเย่ฝานแทน

“ไสหัวไป ได้ยินหรือยัง”

หลินซิวหลิงตะโกนใส่เย่ฝาน “ตระกูลถังไม่ต้องการคนอกตัญญูอย่างนาย”

ใบหน้าถังซานกั๋วเต็มไปด้วยความเหนื่อยใจ อยากพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็เงียบ

เย่ฝานไม่ได้เดินเข้ามา เพราะไม่อยากเจอมลพิษทางเสียง

หลังจากฝึกฝนคัมภีร์ไท้เก๊กและควบคุมหยกชีวิต เย่ฝานกลายเป็นคนมั่นใจและสุขุมโดยไม่รู้ตัว

“แม่ ฉันทำผิดอะไร”

เย่ฝานไม่ได้ขี้ขลาดเหมือนที่ผ่านมา เขาพูดออกมาอย่างห้าวหาญ

“ฉันไม่ได้เป็นคนให้ภาพ พี่เขยเป็นคนให้ ถ้าจะด่าก็ไปด่าพี่เขยที่ให้ภาพปลอมสิ”

“อีกทั้งโสมนั่นพ่อกับแม่ก็บอกว่าไม่มีค่านิ”

เย่ฝานเผชิญหน้ากับสายตาดุดันของหลินซิวหลิงด้วยความเยือกเย็น “ถึงแม่จะเสียใจขนาดไหน ก็มาตำหนิฉันไม่ได้นะ”

“นายคิดว่าฉันเพี้ยนจนดูไม่ออกเหรอว่าภาพนั้นเป็นของปลอม ส่วนโสมนั่นเป็นของจริง”

“มองแวบเดียวฉันก็ดูออกหมดแล้ว”

หลินซิวหลิงตวาดเสียงดุ “แต่สถานการณ์ในตอนนั้น ฉันจะทำให้พี่เขยนายเสียหน้าได้ยังไง”

“แม่ทำให้พี่เขยเสียหน้าไม่ได้ แล้วทำให้ฉันเสียหน้าได้เหรอ”

สีหน้าเย่ฝานฉายแววยียวน “อีกทั้งกลับผิดเป็นถูก ไม่ยุติธรรมกับฉันมาก”

ถังรั่วเสวี่ยถึงกับขมวดคิ้ว รู้สึกว่าเย่ฝานเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน

“ทำให้นายเสียหน้างั้นเหรอ เขยแต่งเข้าบ้านเมียอย่างนายมีอะไรต้องเสีย”

หลินซิวหลิงโมโหกว่าเดิม “หน้านายเทียบกับหน้าพี่เขยนายได้เหรอ”

“ลูกเขยที่ทำเป็นแต่งานบ้าน เทียบกับพี่เขยที่เป็นเถ้าแก่ได้ยังไง”

“เจี้ยนเฟิงแสดงความกตัญญูต่อตระกูลถังปีละหลายแสน ส่วนนายใช้เงินตระกูลถังหลายแสน จะเทียบกันได้ยังไง”

“ฉันทำให้นายเสียหน้า ถือเป็นเกียรติของคนอกตัญญูอย่างนาย”

เธอชี้หน้าเย่ฝานแล้วก่นด่า “เกียรติน่ะ เข้าใจหรือเปล่า”

ในความคิดของหลินซิวหลิง เย่ฝานสมควรโดนกดขี่และไม่ได้รับความเท่าเทียม แค่ต่อต้านก็ถือว่าเนรคุณแล้ว

เย่ฝานยิ้มบางๆ ไม่พูดอะไรอีก เขาหันไปมองถังรั่วเสวี่ย หวังว่าเธอจะพูดอะไรที่เป็นธรรมออกมาสักหน่อย

เย่ฝานไม่ได้กลัวแตกหักกับหลินซิวหลิง แค่หวังว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้ตัวคนเดียว

เขาอยากให้ตัวเองรู้ว่าเขาเป็นคนที่มีภรรยา

ถังรั่วเสวี่ยสบตาอย่างเฉยเมย ดูหงุดหงิดนิดหน่อย

“พอแล้ว ดึกๆ ดื่นๆ เลิกทะเลาะกันได้แล้ว”

“เย่ฝาน ขอโทษแม่สิ”

“ไม่ว่ายังไงแม่ก็อาวุโสกว่า ทำให้เธอโกรธ ยังไงก็เป็นความผิดของนาย”

สุดท้ายถังรั่วเสวี่ยก็เข้าข้างแม่ “รีบขอโทษแม่เร็วๆ”

ถังซานกั๋วพูดเสริม “เย่ฝาน ขอโทษเถอะ”

หลินซิวหลิงชี้ข้างนอกแล้วตวาดว่า “ฉันไม่ต้องการให้เขาขอโทษ ฉันต้องการให้เขาไสหัวออกไป”

เย่ฝานก้าวขึ้นมาแล้วเอ่ยเสียงเรียบ “แม่ ฉันจะหย่ากับรั่วเสวี่ย”

“ได้......”

หลินซิวหลิงพูดต่อโดยไม่รู้ตัว “หย่าก็หย่า......”

พูดได้ครึ่งหนึ่ง เธอประหลาดใจทันที

“นายว่าอะไรนะ”

เย่ฝานพูดซ้ำอีกรอบ “ฉันจะหย่ากับรั่วเสวี่ย”

หย่าเหรอ

ทั้งบ้านตกอยู่ในความเงียบ

พวกหลินซิวหลิงมองเย่ฝานอย่างตกตะลึง

ไม่มีใครคิดว่าเย่ฝานจะพูดแบบนี้

สิ่งที่หลินซิวหลิงคิดไว้ เย่ฝานควรคุกเข่าอ้อนวอนร้องไห้ฟูมฟายสิ

เพราะเย่ฝานไม่มีอะไรดีเลย แม้แต่งานก็ยังไม่มี อีกทั้งยังต้องพึ่งเงินค่าขนมของตระกูลถังไปรักษาเสิ่นปี้ฉิน

ผลปรากฏว่าเขาจะหย่ากับถังรั่วเสวี่ยซะอย่างนั้น

นอกจากประโยคนี้จะทำให้พวกหลินซิวหลิงตกตะลึงแล้ว ยังทำให้รู้สึกกลุ้มอีกด้วย

ใบหน้าถังรั่วเสวี่ยชะงักไป “นาย......จะหย่ากับฉันเหรอ”

“จากกันด้วยดี”

เย่ฝานเอ่ยเสียงเรียบ “สำหรับตระกูลถัง ฉันหมดค่าในการแก้เคล็ดแล้ว อยู่ต่อก็ขวางหูขวางตาทุกคนเปล่าๆ”

“รั่วเสวี่ย พรุ่งนี้เอาทะเบียนบ้านไปหย่ากันที่สํานักงานกิจการพลเรือน”

เมื่อกี้ท่าทีของถังรั่วเสวี่ย ทำให้ภาพฝันสุดท้ายของพวกเขาสองคนหายไปเช่นกัน

เธอไม่เคยเห็นตัวเองเป็นสามี ตัวเองคิดไปเองฝ่ายเดียว

ภาพที่รู้จักกันครั้งแรกเมื่อสิบแปดปีก่อนผุดขึ้นมาในหัว

แต่คนเราต้องเปลี่ยนไปอยู่แล้ว เด็กผู้หญิงขี้โมโห แต่รู้จักแยกแยะบุญคุณความแค้นคนนั้นหายไปนานแล้ว......

“หย่าเหรอ”

หลินซิวหลิงตั้งสติได้แล้ว เธอโมโหจนหัวเราะออกมา

“เขยเกาะเมียกินมีหน้ามาขอหย่างั้นเหรอ นายคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน”

หลายเดือนมานี้ เธอจะให้ถังรั่วเสวี่ยหย่ากับเย่ฝานหลายครั้ง แต่มักมีเรื่องไม่คาดฝัน ทำให้ไม่สำเร็จทุกครั้ง

หลินซิวหลิงอยากให้เย่ฝานออกไปจากตระกูลถังจนทนไม่ไหวแล้ว

แต่ตอนนี้เธอไม่ได้คิดแบบนั้นแล้ว

เพราะครั้งนี้เย่ฝานเป็นฝ่ายพูดออกมาเอง

แบบนี้นอกจากลูกสาวเธอจะเสียหน้าแล้ว เธอกับตระกูลถังก็เสียหน้าด้วย

“นายมีสิทธิ์อะไรมาขอหย่า”

หลินซิวหลิงชี้หน้าเย่ฝานแล้วพูดด้วยความโมโห

“ไม่มีตระกูลถัง สวะอย่างนายอยู่ข้างนอกไม่ถึงสองวันต้องอดตายแน่นอน”

แววตาเย่ฝานราบเรียบ “หย่าเถอะ ฉันไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลถังแล้ว”

ไม่อยากเกี่ยวข้องกับตระกูลถังงั้นเหรอ

หลินซิวหลิงโมโหจนหัวเราะออกมา “ได้ อยากหย่าก็ได้”

“เงินห้าแสนนั่นฉันไม่พูดถึงแล้ว”

“หนึ่งปีมานี้นายกินอยู่ที่ตระกูลถัง นายติดหนี้บุญคุณเราอย่างใหญ่หลวง”

จู่ๆ เสียงเธอสูงขึ้น “ถ้าอยากหย่า ก็ชดใช้บุญคุณนี้มาก่อน”

เย่ฝานเอ่ยเสียงเรียบ “จะให้ชดใช้ยังไง”

“สมาคมการค้าสี่ทิศติดเงินชุนเฟิงคลินิกของฉันสองล้าน”

หลินซิวหลิงแสยะยิ้ม

“นายอดทนและกล้าหาญขนาดนี้ พรุ่งนี้นายไปทวงเงินก้อนนี้มาให้ฉันสิ”

“ถ้าทวงคืนมาได้ ฉันจะให้นายหย่ากับรั่วเสวี่ยทันที”

เธอกดดันเย่ฝานโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

“ไม่งั้นนายก็ไปขนอิฐ ขายเลือด ทำงานเหมือนหมูเหมือนหมา มาใช้หนี้ตระกูลถัง”

สีหน้าถังรั่วเสวี่ยเปลี่ยนไปทันที “แม่......”

“หุบปาก!”

หลินซิวหลิงพูดตัดบท เธอจ้องเย่ฝานแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “มีปัญหาอะไรไหม”

เย่ฝานพยักหน้า “ไม่มีปัญหา”

จากนั้นเขาเดินผ่านห้องโถงขึ้นไปชั้นสองเงียบๆ มาที่ห้องนอนของถังรั่วเสวี่ย

ห้องนอนเป็นห้องชุดหรู เข้าไปจะเป็นที่นั่งเล่นเล็กๆ ด้านหลังเป็นห้อง

ถังรั่วเสวี่ยนอนด้านใน ส่วนเย่ฝานนอนตรงโซฟาที่นั่งเล่น

หนึ่งปีมานี้เย่ฝานกับถังรั่วเสวี่ยห่างกันเพียงกำแพงกั้น แต่ไม่เคยเข้าไปข้างในเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องแตะเนื้อต้องตัว

หลินซิวหลิงแซะเขาบ่อยๆ ว่าเป็นสุนัขเฝ้าบ้าน

เย่ฝานอยากเข้าไปนอนที่เตียงในห้องนับครั้งไม่ถ้วน

แต่หนึ่งปีมานี้ เย่ฝานยิ่งเข้าใจว่ามันคือความฝันที่ไกลเกินเอื้อม

คืนนี้ทำให้เย่ฝานรู้ว่าถึงเวลาปล่อยมือแล้ว......

เย่ฝานเพิ่งนั่งลงบนโซฟา ถังรั่วเสวี่ยก็ผลักประตูเข้ามาด้วยท่าทางดุดัน

“เย่ฝาน นายเป็นใครไม่ทราบ นายมีสิทธิ์อะไรมาทิ้งฉัน”

เธอถามอย่างไม่เกรงใจ “นายมีสิทธิ์อะไรมาหย่ากับฉัน”

เย่ฝานจงใจยั่วโมโหเธอ “ผู้หญิงบ้าที่ไม่รู้จักถูกผิด ถ้าไม่หย่าแล้วจะเก็บไว้ทำไม”

“ผู้หญิงบ้างั้นเหรอ”

ถังรั่วเสวี่ยโมโหจนหัวเราะออกมา

“แล้วนายมีดีอะไร”

“หางานไม่ได้ ทำงานบ้านก็แย่ อีกทั้งยังมาขอเงินผู้หญิงบ้าไปรักษาแม่นายอีก นายมันสวะยิ่งกว่าผู้หญิงบ้าอีก”

เธอยิ่งรังเกียจเย่ฝานขึ้นอีก นอกจากไม่ได้เรื่องและขี้ขลาดแล้ว ยังอวดดีอีกด้วย

เย่ฝานไม่ได้แสดงความเห็นอะไร เขายิ้มแล้วพูดว่า “ในเมื่อฉันเป็นสวะ งั้นรีบหย่าสิ จากกันด้วยดี”

ถังรั่วเสวี่ยอายจนโมโห “นายไม่มีสิทธิ์พูดว่าหย่า มีแค่ฉันที่ทิ้งนายได้”

“นายคิดว่าจะทวงเงินสองล้านคืนได้เหรอ เย่ฝาน เจียมตัวซะบ้างเถอะ”

เธอแสยะยิ้มอย่างดูหมิ่น “หนี้ของสมาคมการค้าสี่ทิศ สวะแบบนาย ทวงเป็นร้อยปีก็ไม่มีทางทวงได้หรอก......”

พอพูดจบ ถังรั่วเสวี่ยก็กระแทกประตูออกไปเลย

เธอไม่มีทางเชื่อว่าเย่ฝานจะทวงหนี้สองล้านได้

แต่ในใจเธอมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก

เพราะตอนเธอสบตาเย่ฝานเมื่อกี้ เธอเห็นความลุ่มลึกจากแววตาคู่นั้น

อีกทั้งยังมีความมั่นใจมากด้วย......

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel