บท
ตั้งค่า

บทที่ 12 ขอบคุณ

“ทะทะทะ……ท่านประธาน!”

อู๋ต้าไห่ตกใจจนพูดติดอ่าง และตะลึงงันอย่างที่สุด ลุกพรวดขึ้นจากที่นั่งอย่างว่องไว

ให้ตายเขาก็ไม่คิดว่า เซียวชุ่นจะโทรตามท่านประธานของสำนักงานใหญ่อย่างหวางเฟิงมาถึงที่นี่ได้

หวางเฟิงไม่สนใจอู๋ต้าไห่ หันมองไปยังเซียวชุ่น โค้งคำนับอย่างสุภาพ “ผู้มีพระคุณ ขอบคุณสำหรับการช่วยชีวิตของคุณ”

จากนั้นเขาก็ยืดหลังตรง หันไปหาเหยาเสิน ยิ้มอย่างสุภาพว่า“ผมหวางเฟิง คิดว่า นี่คงเป็นประธานเหยาใช่ไหมครับ ? เรื่องนี้เพราะผมดูแลได้ไม่ดีได้โปรดอภัยให้ด้วยครับ”

อันที่จริงแล้วระหว่างทางที่มา ช่วงเวลาสั้นๆเพียงสิบนาทีหวางเฟิงก็ได้ให้คนไปเช็กยู่เหลยอินเตอร์เนชั่นเนล เป็นเรื่องจริงเมื่อครึ่งปีที่แล้วยู่เหลย อินเตอร์เนชั่นเนลได้จัดส่งสินค้ามาให้ในราคาสองล้าน แต่ในตอนนั้นเขาได้เซ็นอนุมัติสัญญานี้ไปแล้ว และค่าสินค้าก็ได้ทำการเบิกจ่ายไปแล้ว

จากความเป็นไปได้ที่เกิดขึ้น ดูเหมือนอู๋ต้าไห่จะยักยอกเงินส่วนนี้ไปแล้ว

“ได้โปรดวางใจ เรื่องนี้ผมจะจัดการให้เองครับ และจะให้คำอธิบายที่น่าพึงพอใจกับคุณ!”

ขณะที่หวางเฟิงพูด ก็หันมองไปยังอู๋ต้าไห่ เค้นเสียงหึ ทำเอาคนที่อยู่ด้านหลังตกใจจนเหยียดตัวหลังตรงขึ้นในทันที

“ดูเรื่องงามหน้าที่คุณทำ ไสหัวมานี่ แล้วขอโทษประธานเหยาซะ!”

ใบหน้าหวางเฟิงมืดมนตะคอกเสียงดังด้วยความโกรธ

“ครับๆๆ……”

อู๋ต้าไห่กุลีกุจอเข้ามาในทันที หมอบลงแทบเท้าเหยาเสิน และพูดขอความเมตตา

“ประธานเหยา ผมมีตาแต่หามีแววไม่!ต้องขอโทษจริงๆ เพราะผมถูกผีร้ายเข้าสิง ผมผิดไปแล้ว เป็นความผิดของผมครับ!”ในขณะที่พูด ตาตี่ๆของเขาก็บีบน้ำตาออกมาด้วยเล็กน้อย ไม่มีความอวดดีอย่างเมื่อครู่อีก

อู๋ต้าไห่ตกใจกลัวจนตัวสั่น เขาไม่กลัวอะไรทั้งนั้น มีแค่หวางเฟิงคนเดียวที่เขากลัว

แค่คำพูดเดียวของหวางเฟิง เขาก็สามารถขึ้นบัญชีดำในทุกสาขาอาชีพได้เลย!

อีกทั้งการยักยอกทรัพย์สินของบริษัท มันมีโทษจำคุกด้วย

หวางเฟิงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กดโทรหาเลขาของตัวเอง“ ยึดทรัพย์ประธานสาขาอู๋ต้าไห่ทั้งหมด และตรวจสอบอย่างละเอียดในทันที!”

ได้ยินประโยคนี้ อู๋ต้าไห่ก็ราวกับถูกแช่แข็ง ร้องห่มร้องไห้และร้องขอความเมตตาในทันที

“ประธานเหยา……ประธานหวาง……ผมผิดไปแล้ว หากคุณไล่ผมออก ผมจะมีชีวิตอยู่ยังไง?”

“ฉันไม่เพียงจะไล่แกออก ยังจะส่งแกเข้าคุกด้วย”

ท่าทีหวางเฟิงเย็นชา

ประจวบเหมาะกับในตอนนี้ ตำรวจก็มาถึงพอดี หวางเฟิงแสดงตัว บอกเล่าเรื่องราวคร่าวๆ ตำรวจก็ลากอู๋ต้าไห่ที่กำลังร้องห่มร้องไห้ออกไปในทันที

ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที อู๋ต้าไห่ก็หายหัวไปในที่สุด

เหยาเสินในตอนนี้ก็ตกใจอย่างมาก หวางเฟิงเป็นใคร ? เขาเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีชื่อเสียงและมีทรัพย์สินกว่าพันล้านในเมืองเจียงไห่ ไม่คิดว่าเขาจะเป็นชายคนที่มาขอร้องให้เซียวชุ่นไปช่วยลูกสาวที่ถูกไฟไหม้ และเซียวชุ่นที่จับพลัดจับผลู ก็กลายมาเป็นผู้มีพระคุณของหวางเฟิงไปซะงั้น

เหยาเสินรู้สึกเพียงทุกอย่างเป็นเหมือนความฝัน จนกระทั่งหวางเฟิงยืนเช็คจำนวนเงินสองล้านและเอกสารสัญญาฉบับหนึ่งมาตรงหน้าเธอ ก็ถึงจะได้สติ

“ต้องขอโทษจริงๆครับ ”

หวางเฟิงยิ้มและกล่าวว่า“ นี่คือเงินสองล้านที่ค้างชำระ นอกจากนี้ เพื่อขอบคุณหมอเทวดาเซียวที่ช่วยลูกสาวของผม ผมตัดสินใจเซ็นสัญญากับยู่เหลย อินเตอร์เนชั่นเนลเป็นเวลาสิบปี ในทุกๆปีจะมีการซื้อขายกันปีละห้าสิบล้าน”

“นี่มัน……เรื่องจริงเหรอคะ?”

เหยาเสินไม่อยากจะเชื่อ ดวงตาที่สวยงามเป็นประกาย

หากมีลูกค้ารายใหญ่แบบนี้ บริษัทของเธอก็สามารถลืมตาอ้าปาก และสามารถผงาดเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของเมืองเจียงไห่ได้เลย!

“แน่นอนครับ ยังต้องรบกวนคุณตรวจสอบด้วย ว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ”

เมื่อได้ยินคำพูดของหวางเฟิง เหยาเสินก็รีบรับมันมา ตรวจสอบอย่างละเอียด เมื่อตรวจดูแล้ว เธอก็ต้องตกใจ สัญญาฉบับนี้จำเพาะเจาะจงกับยู่เหลย อินเตอร์เนชั่นเนล เนื้อหาระบุไว้อย่างชัดเจน เธอรีบเซ็นชื่อลงนามของตัวเองในทันที และพูดขอบคุณอีกครั้ง

เห็นทั้งสองคนพูดคุยกัน เซียวชุ่นที่ยืนอยู่ข้างๆ ท่าทีสงบนิ่ง

การตอบแทนบุญคุณนี้ของหวางเฟิงก็ถือว่าไม่เลวเลย ช่วยตัวเองเรื่องหาหนทางพัฒนาบริษัทของเหยาเสินไปได้ด้วย

หลังจากที่เซ็นสัญญากันแล้ว หวางเฟิงก็มาส่งคนทั้งสองออกจากอาคารสำนักงานด้วยตัวเอง

“หมอเทวดาเซียว หากมีเวลาจะไปเยี่ยมเยือนนะครับ !”

หลังจากที่หวางเฟิงพูดจบ ก็โค้งคำนับให้เซียวชุ่นด้วยความเคารพ จากนั้นก็ขึ้นรถและกลับไปที่โรงพยาบาล

แต่เหยาเสินเองกลับถือสัญญาไว้ในมือ และพลิกเปิดดูไปมาอยู่ซ้ำๆ ยังคงมึนเบลอไม่ได้สติ เธอในตอนนี้ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าทุกอย่างเป็นความจริง

จนกระทั่งระหว่างทางที่กำลังเดินทางกลับบ้าน

ที่สุดแล้วเหยาเสินก็จัดการกับอารมณ์ได้ หลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่ และแล้วก็พูดเสียงเบาว่า “ขอบคุณนะ”

คำพูดประโยคง่ายๆ บนรถที่เงียบสงบก็ทำเอาอึดอัดไม่น้อย

เมื่อเซียวชุ่นได้ยินก็รู้สึกอบอุ่นไปที่หัวใจ มุมปากอดไม่ได้ที่จะมีรอยยิ้มปรากฏ

สามปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่น้ำเสียงของเหยาเสินฟังดูอ่อนโยนอย่างมาก ที่แท้การถูกภรรยาตัวเองพูดขอบคุณ ความรู้สึกมันกระชุ่มกระชวยแบบนี้นี่เอง ราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ พัดมาปะทะเข้าที่ใบหน้า

ความโกรธเมื่อตอนงานเลี้ยงที่สะสมอยู่ภายในใจของเขาก็พลันหายไปในทันที

เมื่อเหยาเสินเหลือบไปเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวชุ่น ดวงตาของเธอก็โค้งเป็นจันทร์เสี้ยว แต่ปากก็กลับพูดขึ้นว่า“คุณอย่าได้ใจไป แค่เรื่องนี้ ไม่เพียงพอจะเปลี่ยนความรู้สึกแย่ๆที่มันฝังรากลึกของฉันที่มีต่อคุณไปได้หรอกนะ”

เมื่อเซียวชุ่นได้ยินก็ยักไหล่ให้ ไม่ออกความเห็นใดๆ

ปล่อยให้เวลาเดินไป เขามีเวลามากพอที่จะทำให้เหยาเสินค่อยๆเปลี่ยนใจ

ในขณะที่บรรยากาศระหว่างคนทั้งสองเป็นไปด้วยความอบอุ่น โทรศัพท์ของเซียวชุ่นก็ดังขึ้นมา เป็นสายจากหวางเฟิง ทันทีที่รับสาย ก็ได้ยินเสียงที่ร้อนรนของหวางเฟิง

“หมอเทวดาเซียว!เร็วครับ มาช่วยลูกสาวผมด้วย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆอาการของเธอก็ทรุดหนัก หมอทุกคนก็ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้!”

เซียวชุ่นขมวดคิ้ว ปากก็รับคำ“ได้ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้”

หลังจากที่วางสาย เขาก็พูดกับเหยาเสินว่า“ช่างไม่ได้หยุดได้หย่อนซะจริง ไปโรงพยาบาลกัน เด็กน้อยที่ช่วยชีวิตมาจากกองเพลิง อาการทรุดหนัก ”

ดวงตากลมโตของเหยาเสินจ้องเขม็งมองไปที่เซียวชุ่น ราวกับมองคนแปลกหน้า ผู้ชายตรงหน้านี้คือคนที่ไร้ประโยชน์และอยู่ด้วยกันกับตัวเองทุกเช้าค่ำคนนั้นจริงๆเหรอ?

ทำไมเวลาแค่ครึ่งวันนี้ก็ดูราวกับเป็นคนละคนซะงั้น?

“ทำไมคุณมองผมแบบนี้ ? หรือเพิ่งจะรู้วันนี้ว่าจริงๆแล้วผมก็หล่อเหมือนกัน ?”เซียวชุ่นถูกเธอมองจนรู้สึกขาดความมั่นใจ ปล่อยมุกตลกฝืดเพื่อกลบเกลื่อน

ใบหน้าที่สวยงามของเหยาเสินเห่อร้อน จิ๊ปากเสียงเบา แล้วขับรถมุ่งตรงไปโรงพยาบาล

ที่ประตูหน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเมือง ในมือของหวางเฟิงถือใบแจ้งอาการของคนป่วย นั่งไม่ติด เดินวนไปมาอย่างเคร่งเครียด

เมื่อเห็นเซียวชุ่นเดินออกมาจากประตูลิฟต์ เขาก็รีบปรี่เข้าไปหาอย่างรวดเร็ว น้ำตาที่ตื้นตันก็แทบจะไหลออกมา พูดสะเปะสะปะ“หมอเทวดาเซียว ในที่สุดคุณก็มาสักที ได้โปรดช่วยลูกสาวของผมด้วย ขอแค่คุณสามารถช่วยชีวิตลูกสาวผมได้ ต้องการเงินเท่าไรว่ามาได้เลย……”

“ประธานหวาง อย่ากังวลไป ขอผมดูก่อนแล้วค่อยคุยกันครับ” เซียวชุ่นพูดปลอบ

ทั้งสามคนเดินมาที่ประตูห้องฉุกเฉินทันที ประตูห้องผ่าตัดปิดสนิท

หวางเฟิงที่ร้อนอกร้อนใจก็ทุบไปที่ประตูอยู่ซ้ำๆ ไม่นานก็มีพยาบาลหญิงคนหนึ่งที่สวมหมวกผ่าตัดโผล่หน้าออกมาตำหนิ “ด้านในกำลังปฐมพยาบาลกันอยู่ ญาติคนไข้ช่วยให้ความร่วมมือหน่อยได้ไหม อย่าสร้างปัญหา!”

เมื่อพูดจบก็กำลังจะปิดประตูลงอีกครั้ง หวางเฟิงก็รีบเอาข้อศอกไปขวางประตูเอาไว้

สถานที่แบบนี้ของโรงพยาบาลเกี่ยวพันถึงความเป็นความตาย อีกทั้งคนที่นอนอยู่ด้านในเป็นลูกสาวของเขา แม้เขาจะมีชื่อเสียง ก็ไม่กล้าก้าวร้าวจนเกินไป พูดอ้อนวอน“คุณพยาบาล ผมตามหมอเทวดาเซียวมาแล้ว รบกวนให้เขาเข้าไปดูแวบหนึ่ง ไม่แน่ลูกสาวของผมอาจจะมีทางรอดก็ได้ ได้โปรดเถอะครับ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel