บทที่ 2 เลือกคนเลี้ยงควาย
“กูไม่ได้เบี้ยว แต่รถสตาร์ทไม่ติดครับชาติ กูเพิ่งกลับจากตุรกีเมื่อ 3 ชั่วโมงก่อน ต้องเรียกศูนย์มาเอารถไปซ่อมแล้วยืมรถเขากลับไปอาบน้ำเนี่ยครับคุณเลขา ถ้าถึงเวลานัดแล้วกูยังไม่ถึง คุณมึงก็เรียกหัวหน้าฝ่ายบุคคลมาร่วมสัมภาษณ์เลยไม่ใช่ให้เขามารอกูครับ แม่ง ไอ้ชาตินี้กูยิ่งปวดฟันจะให้พูดทำไมนักวะ”
‘อ๋อ...เฮ้อ...วันนี้มีนัดมา 3 คน บอสอยากได้คนแบบไหนครับ’ สุรชาติร้องอ๋อเหมือนเพิ่งนึกได้ขึ้นมาทันที พรางถามความต้องการของผู้เป็นนาย เพราะฟังแล้วหน้าที่สัมภาษณ์ผู้ช่วยวันนี้น่าจะเป็นเขาแน่นอน
“มึงอยากได้ผู้ช่วยแบบไหนก็พิจารณาเอาสิครับ เขาจะมาช่วยมึงไม่ได้มาช่วยกูนะชาติ” ชายหนุ่มถอนหายใจเซ็ง ๆ
‘แต่บอสครับ’ *เฮ้อ...แล้วถ้ากูเลือกไม่ถูกใจจะเป็นยังไงล่ะวะ ท่านยิ่งบอกว่าให้หาคนที่ได้ภาษาแล้วก็สามารถทำงานกับบอสได้ด้วย...* สุรชาติอึกอักคิดในใจอย่างหนักหน่วงกลัวว่าคนที่ตัวเองเลือกจะไม่ถูกใจผู้เป็นนาย
“เฮ้อ...ฟังนะครับสุรชาติ มึงถามไปเลยบ้านใครเลี้ยงควายกูเลือกคนนั้น จบนะ” คำพูดของบอสทำเอาเลขาอ้าปากค้างเหมือนไม่เชื่อหู
‘ฮะ!’
“ตามนั้นเลยคนไหนบ้านเลี้ยงควายกูเลือกคนนั้น” ว่าจบกดวางสายปิดเครื่องเรียบร้อย ขับรถกลับบ้านอย่างสบายใจ
ส่วนคนที่รับงานมานั้น...กระพริบตาปริบ ๆ มองมือถือของตัวเองที่หน้าจอค่อย ๆ ดับลง ก่อนจะถอนหายใจเดินออกไปหาหัวหน้าฝ่ายบุคคลที่กำลังรอคำสั่งจากรองประธานหนุ่มอยู่หน้าห้อง
“บอสว่ายังไงคะคุณเลขา” ณปรางรีบขยับแว่นตาถามเลขาของบอสทันที เพราะตอนนี้หน้าห้องมีคนมารอสัมภาษณ์ครบทั้ง 3 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“บอสเพิ่งกลับจากตุรกีเมื่อเช้า แต่รถสตาร์ทไม่ติด ตอนนี้กำลังกลับไปอาบน้ำที่บ้าน คิดว่ามาไม่ทันแน่นอน” สุรชาติตอบพรางย่นปากกับจมูกติดกันแล้วถอนหายใจแรง ๆ มองหน้าหัวหน้าฝ่ายบุคคล
“เอ้อ... แล้วจะให้รอหรือให้เลื่อนคะ”
“ไม่ต้องรอไม่ต้องเลื่อน สัมภาษณ์เลยบอสล็อกสเปกมาแล้วเรียบร้อย”
“ล็อกมาแล้ว? ล็อกคนไหนคะ?”
“คนที่บ้านเลี้ยงควายครับ บอสสั่งว่าเอาคนที่บ้านเลี้ยงควายพิจารณาแค่นั้นเลย จบ!” คำตอบของเลขาทำเอาหัวหน้าฝ่ายบุคคลอ้าปากค้างเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง พรางกระพริบตาปริบ ๆ อึ้งกับกฎเกณฑ์การพิจารณาคนเข้าทำงานตำแหน่งค่อนข้างสูงของบริษัท
“คุณพระ! คุณเลขาคะ ท่านประธานให้บอสหาผู้ช่วยให้คุณเลขานะคะไม่ใช่หาลูกหาบไปเดินป่าด้วยกัน” ณปรางว่าพรางขยับแว่นตาอีกรอบ
“ตามนั้นครับ บอสอยากได้แบบนั้นไม่แน่หรอกด้านหลังโรงทอเหลือที่เป็นไร่อาจมีโครงการเลี้ยงควายไว้ดูเล่นแทนการเข้าป่าส่องสัตว์ของบอสก็ได้ ตอนนี้ดูแล 2 บริษัทคงกลัวว่าจะไม่มีเวลาส่องสัตว์ล่ะมั้ง แต่ถ้าจะเลี้ยงเสือเลี้ยงลิงมันจะหาคนยากน่ะ เฮ้อ... เรียกเข้ามาเลยครับณปราง เดี๋ยวบอสมาผมจะถามให้ว่าทำไมถึงเลือกอะไรแบบนี้ ถ้าไม่มีเหตุผลอันควรท่านดอกเตอร์รู้คงระเบิดลงแน่” สุรชาติพูดหัวหน้าฝ่ายบุคคลเบา ๆ พร้อมกับขยับเสื้อผ้าให้เข้าที่ กับการสัมภาษณ์แทนผู้เป็นนาย ซึ่งผู้เข้าสัมภาษณ์เป็นสาวสวย 3 คน 3 แบบ แต่ละคนจบการศึกษาต่างกันและ 2 ใน 3 คนบอกว่าเคยผ่านงานมาบ้าง ยกเว้นคนสุดท้ายที่เป็นเด็กจบใหม่และยังไม่เคยทำงานที่ไหนมาก่อนแต่มีความสามารถทางด้านภาษาที่บริษัทต้องการ
“พรพรรษา คุณจบมาปีกว่าแล้วยังไม่เคยทำงานเลยหรือ” สุรชาติถามขึ้นเมื่ออ่านประวัติของเธอจบแล้วยื่นให้หัวหน้าฝ่ายบุคคลอ่านต่อ
“ก็ (ถอนหายใจแรง ๆ) ยังค่ะ” หญิงสาวตอบสั้น ๆ
“เพิ่งมาจากต่างจังหวัดหรือคะ” หัวหน้าฝ่ายบุคคลถามอีกประโยค
“อยู่ที่นี่มาตลอดค่ะ แต่เป็นช่วงพักผ่อน พอดีเห็นว่าที่นี่รับสมัครตรงสายที่เรียนมาเลยมาลองสมัครดูถ้าได้ก็ทำงาน ถ้าไม่ได้ก็กลับบ้านไปเลี้ยงควาย” หญิงสาวตอบประชดไปส่ง ๆ แต่ไม่คิดว่าประโยคของเธอกลับสะดุด 2 ผู้สัมภาษณ์ที่ได้รับคำสั่งจากผู้เป็นนายมาว่าให้รับคนเลี้ยงควายเข้าทำงาน
“ที่บ้านเลี้ยงควายหรือคะ” หัวหน้าฝ่ายบุคคลถามพรางเขียนอะไรบางอย่างบนหัวกระดาษ
“ค่ะ เลี้ยงมาแต่เด็ก ๆ นั่นแหละเลยไม่อยากกลับไปเลี้ยงอีกแล้ว ถ้าไม่ได้งานนี้ก็ว่าจะลองสมัครโรงทอดู แต่ถ้าไม่ได้เลยก็ต้องกลับไปเลี้ยงจริง ๆ นั่นแหละ”
“โถ...บ้านนอกดีจัง เคยเลี้ยงควายแล้วจะทำงานในเมืองไหวหรือเธอ” สาวสวยสุดเซ็กซี่ 1 ในคนมาสัมภาษณ์ว่าพรางเบะปากทำท่าขยับเก้าอี้ออกห่างจากคนนั่งใกล้
“ทำงานผู้ช่วยเลขาคงไม่ต้องตื่นตี 5 ตัดหญ้าเข็นน้ำหรอกมั้ง แต่ขยับห่างก็ดีค่ะอยากบอกเหมือนกันแต่เกรงใจ ว่าน้ำหอมที่คุณใช้นี่แสบจมูกฉิบหาย วันหลังถ้ามาสัมภาษณ์งานหรือมาทำงานก็ให้มันกลิ่นมันเบากว่านี้หน่อยนะคะ สงสารจมูกคนอื่นเขา” คนตรงพูดออกแบบไม่หันไปมองคนข้าง ๆ
“นี่ อีบ้านนอก!” “จ้า คนบ้านใน... แต่ตอนกรอกใบสมัครไม่ได้บอกว่าบ้านอยู่กรุงเทพนี่เนอะ หมู่ 15 นี่เขตเทศบาลหรือเขตทุรกันดารจ๊ะคุณ” หญิงสาวสวนขึ้นนิ่ง ๆ สงครามเล็กทำท่าจะเกิดขึ้น ในขณะที่อีกคนสวยหวานนั่งยิ้มมุมปากมองผู้สัมภาษณ์ทั้ง 2 ที่กำลังลับฝีปากกันข้าง ๆ ด้วยหางตา
“หยุดค่ะ ไม่หยุดน้ำร้อนสาดนะคะ” หัวหน้าฝ่ายบุคคลเบรกคนทั้งคู่พรางหันไปมองสาวสวยคนที่ 3 “แล้วเราเลี้ยงควายเป็นมั้ยคะ”
“ควาย? ไม่เป็นหรอกค่ะ เกิดที่กรุงเทพโตที่แอลเอ ไม่เคยเห็นควายตัวเป็น ๆ หรอก” หญิงสาวตอบยิ้ม ๆ
“โอเคค่ะ เดี๋ยวเราจะทำเรื่องเสนอให้บอสพิจารณาแล้วจะติดต่อกลับไปนะคะ วันนี้ต้องขอบคุณทุกคนมากค่ะ” ณปรางตัดบทรวบเอกสารลุกขึ้นเดินออกจากห้อง
“เชิญครับ” สุรชาติลุกขึ้นผายมือเชิญทั้ง 3 คนยิ้ม ๆ
“ไว้เจอกันนะคะคุณเลขา” สาวสวยสุดเซ็กซี่ว่าพรางปรายตามองอย่างมีจริต
“มั่นกะโหลกดีเนอะ คนอื่นนั่งเรียบร้อยเขายังไม่อ่อยเลย” สาวสวยนั่งใกล้พูดขึ้นลอย ๆแอบถอนหายใจเมื่อคิดว่างานนี้ตัวเองไม่ได้แน่นอน แต่ไหน ๆ ก็เสียค่ารถมาแล้วจะลองไปสมัครที่ฝั่งโรงทอดูเผื่อมีตำแหน่งว่างอะไรก็ทำไปก่อนดีกว่ากลับบ้าน และก่อนเข้ามาเธอถ่ายรูปเช็คอินให้แม่ดูแล้วว่าได้งานทำที่นี่ (แม่บ้านก็ต้องทำไปก่อน ณ จุดนี้)
“ก็ต้องมั่นสิ ฉันรู้จักบอสที่นี่ย่ะ เมื่อคืนเรายังนั่งดื่มด้วยกันอยู่เลยยังไงก็ต้องได้ชัวร์” สาวสวยว่าอย่างมั่นใจ
“จ่ะ งั้นเราไปลองสมัครฝั่งโรงทอดีมั้ยเธอเผื่อมีตำแหน่งงานว่างดีกว่ากลับมือเปล่า” ตอบอีกคนหันไปชวนอีกคนด้วยความหวังดี
“ไม่เอาหรอก คุณตาเรารู้จักดอกเตอร์รวัชประธานที่นี่น่ะ ส่วนรองประธานที่นี่ชื่อพี่จากัวร์ เป็นหลานชายคนโตของท่าน จริง ๆ เราไม่ต้องมาสัมภาษณ์หรอกคุณย่าให้มาทำความรู้จักกับพี่จากัวร์เฉย ๆ แต่เราอยากลองสัมภาษณ์ดูแค่นั้นเอง” คนเรียบร้อยพูดขึ้นยืดยาวพร้อมกับยิ้มอ่อนอย่างผู้ดีที่มีชัยเหนือกว่า
“ลองสัมภาษณ์?” มัดหมี่ทวนคำ
“ใช่ คือผู้ใหญ่อยากให้เราเกี่ยวดองกันน่ะ แต่เราไม่อยากเข้ามาแบบไม่มีต้นสายปลายเหตุ เลยมานั่งสัมภาษณ์เซอร์ไพรส์พี่เขาเฉย ๆ”
“อ๋อ...มีแต่เด็กเส้นว่างั้น แล้วนัดกูมาสัมภาษณ์ทำขี้เกลืออะไรให้เสียเวลานอนวะ โวะ! ไปนะคะคุณเลขา สวัสดีค่ะ เอ้อ...ทีหลังถ้ามีตัวจริงอยู่แล้ว แต่นัดเอาปริมาณอย่านัดมาอีกนะ เสียค่ารถมาหลายบาทแถมต้องตื่นเช้าเสียเวลาเสียความรู้สึกมาก” ว่าพรางยกมือไหว้ส่ง ๆ คว้าแฟ้มเอกสารของตัวเองเดินออกจากห้อง เดินลงบันไดข้างลิฟต์สวนกับชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในชุดทำงานที่เดินออกมาจากลิฟต์เห็นแค่หลังไว ๆ ของเธอลงบันไดไป
“ใช่คนเมื่อเช้ามั้ยวะ ทำไมเสร็จไวจัง” ชายหนุ่มขมวดคิ้วเดินเข้าห้องทำงานของตัวเองไม่เข้าห้องสัมภาษณ์เพราะคิดว่าสัมภาษณ์เสร็จหมดแล้ว
“เข้ามาหน่อยชาติ” ชายหนุ่มกดอินเตอร์คอมเรียกเลขาหน้าห้องทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานด้านหน้า
“สวัสดีครับบอส นี่เป็นเอกสารคนมาสมัครงานวันนี้ครับ” สุรชาติเดินเข้ามาพรางยื่นเอกสารทั้งหมดให้ตรงหน้า
“ว่ายังไง” ถามไปตาอ่านประวัติคนมาสัมภาษณ์งานไปด้วยเริ่มที่คนแรกเป็นสาวสวยหน้าคุ้น นามสกุลดังพอสมควร
“คนแรก เคยทำงานฝ่ายประชาสัมพันธ์เป็นพาร์ทไทม์ที่ต่างประเทศมาก่อน ภาษาอังกฤษค่อนข้างดี บอกว่ารู้จักกับท่านประธานและบอสเป็นการส่วนตัวผู้ใหญ่อยากให้มาทำงานที่นี่จะได้ใกล้ชิดกันและกำลังจะเกี่ยวดองกันครับ” สุรชาติรายงานแต่คนฟังไม่รู้ได้ยินหรือเปล่า
“อืม...2”
“คนที่ 2 สาวสวย เซ็กซี่ เคยทำงานเป็นเลขาของบริษัทฝรั่ง 3 เดือนไม่ผ่านโปร ภาษาพอใช้ได้แต่ยังไม่ค่อยดีนัก บอกว่าเมื่อคืนนั่งกินเหล้าอยู่กับบอสรู้จักสนิทสนมกันดีครับ” คำพูดของเลขาทำให้ชายหนุ่มถึงกับส่ายหน้าโยนเอกสารของเธอลงถังขยะทันทีโดยไม่เปิดอ่าน
“แสดงว่าบอสที่นี่ไม่ได้มีแค่กูหรือไง
ยังไงหรือเมื่อคืนจะเจอกันบนเครื่องคะบอส เอ๊ะ หรือบอสจะมีบอสอีกคน??...