บทที่ 11 ไม่หาเรื่องก็ไม่ตาย
หลิวตงนึกว่าหวางเย๋เกิดกลัวขึ้นมา สองตากลอกกลิ้ง เกิดความคิดอันเลวร้ายขึ้นมา
“หวางเย๋ ฉันช่วยแกปิดเป็นความลับ และมอบเยียนหรานนังสารเลวนี่ให้แก แกคิดหาวิธี ให้ฉันได้นอนกับหลงเหม่ยซินสักครั้ง เป็นยังไง?”
“ฉันจะบอกแกให้ นังสารเลวหวางเยียนหรานนี่ ฉันได้ปลดล็อกกับเธออยู่หลายท่า รับรองว่าแกจะต้องพอใจ นอกจากนี้ เธอจะมีรังแกแกเหมือนหลงเหม่ยซินแน่ ตอนอยู่บนเตียงเชื่อฟังมากเลยล่ะ”
หลิวตงที่ถูกสเปิร์มขึ้นสมอง ตบไหล่หวางเย๋เบา ๆ ด้วยท่าทางที่บอกว่านายได้กำไรแล้ว
“ถ้าแกอยากจะเล่นแบบตื่นเต้นหน่อย......”
“เล่นแม่มึงสิ” หวางเย๋ตวาดขึ้นมา และฟาดเข้าไปที่หน้าของหลิวตง ร่างของหลิวตงหมุนลอยออกไป
หลังจากที่ตกลงบนพื้น หลิวตงก็ได้กระอักเลือดออกมา ในกองเลือดมีฟันหลายซี่ปะปนอยู่
“มึงเอ๊ย มึง...มึงกล้าตบกู......” หลิวตงเอามือกุมหน้า จ้องมองหวางเย๋อย่างไม่อยากจะเชื่อ
“มึงตายแน่ มึงตายแน่ มึงไอ้เศษสวะ กล้าตบกูได้ยังไง”
“กูจะบอกมึงนะ กูจะต้องนอนกับหลงเหม่ยซินให้ได้ และกูยังจะนอนกับผู้หญิงสองคนของมึงพร้อมกัน ชายหนึ่งหญิงสอง มึงแม่งกล้าตบกู”
“กูจะทำให้มึงพิการซะ ให้มึงมองดูกูเล่นหลงเหม่ยซินและนังสารเลวหวางเยียนหราน......”
หลิวตงร้องโวยวายราวกับคนเสียสติ หวางเย๋เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ปรากฏตัวขึ้นที่ข้างกายของเขา และฟาดลงไปบนใบหน้าของเขาอีกรอบ หลิวตงลอยกระเด็นออกไปอีกครั้ง ฟันอีกครึ่งหนึ่งที่เหลืออยู่ ล้วนถูกตบจนหลุดร่วงออกมา
เมื่อเห็นหลิวตงถูกตีอีกครั้ง คนที่เขาพามาด้วยตาลุกเป็นไฟ “แม่ง กล้าตีคุณชายหลิว อัดมันให้ตาย” คนพวกนั้นกระโจนเข้าหาหวางเย๋ด้วยความโมโห
“อย่าตีกันอีกเลย ฉัน...ฉันไปกับพวกแก ปล่อยเขาไป” ทันทีที่หวางเยียนหรานเห็น คนยี่สิบสามสิบคนกระโจนเข้าใส่หวางเย๋ ก็พุ่งตัวออกมาจากในบ้าน และตะโกนเสียงดัง
แต่หลังจากนั้น เธอก็ต้องตะลึงงัน
คนที่ปิดล้อมหวางเย๋เอาไว้พวกนั้นเหมือนดั่งกำลังแสดงลอยตัวในอากาศ แต่ละคนต่างลอยกลับออกไป
เพียงแค่สิบกว่าวินาที คนทั้งหมด ล้วนลงไปนอนกองบนพื้น ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
ถ้าหากไม่ใช่เพราะหวางเย๋กังวลว่าหวางเยียนหรานที่จิตใจงดงามได้เห็นสถานการณ์นองเลือดเข้า จะทนรับไม่ไหว คนพวกนี้ คงตายไปนานแล้ว
หวางเย๋เดินเข้าไปหาหลิวตงทีละก้าว ตอนนี้เองในที่สุดหลิวตงก็รู้สึกกลัวขึ้นมา ร่างกายขยับถอยไปด้านหลัง “แก...แกอย่าเข้ามานะ ฉัน...ฉันเป็นถึงคนตระกูลหลิวเชียวนะ”
“ในเมื่อแกอยากจะทำให้ฉันต้องพิการ งั้นแกก็ลิ้มรสชาติของการถูกทำให้พิการก่อนแล้วกัน”
หวางเย๋กล่าวไป มือก็กดลงไปที่ไหล่ทั้งสองข้างของหลิวตง ออกแรงเล็กน้อย ทำให้กระดูกไหล่ของเขาแหลกสลาย หลิวตงร้องอย่างเจ็บปวด และสลบไป
จากนั้น หวางเย๋ก็เหยียบลงไปด้วยสองเท้า เหยียบกระดูกหัวเท่าของหลิวตงแหลกเป็นชิ้น ๆ หลิวตงที่สลบอยู่ ถูกความเจ็บปวดกระตุ้นให้ฟื้นขึ้นมา และสลบลงไปอีกครั้ง
“พาไอ้สวะนี่ ไสหัวไปซะ”
“บอกนายท่านของพวกแก ฉันคือหวางเย่แห่งตระกูลหลง ต้องการแก้แค้น ก็มาได้เลย” หวางเย๋ชายตามองเจ้าอ้วนที่แขนหักอย่างเย็นชา
พวกเจ้าอ้วนได้ยินดังนั้น ก็หามหลิวตง ล้มลุกคลุกคลาน ออกไปจากบ้านของหวางเยียนหรานอย่างทุลักทุเล
หวางเยียนหรานปากอ้าตาค้างมองหวางเย๋ จนกระทั่งหวางเย๋ยื่นมือขึ้นมาโบกที่ด้านหน้าของเธอ เธอถึงได้สติกลับคืนมา “คุณ...คุณเป็นลูกเลยตระกูลหลง......”
หวางเยียนหรานทำงานอยู่ที่บาร์มาโดยตลอด สำหรับเรื่องเขยไม่เอาในแห่งตระกูลหลงนั้น เธอก็พอได้ยินมาบ้าง
วันนี้ได้พบ กับที่ล่ำลือกันนั้น ไม่เหมือนกันเลยสักนิด ใจดีมีเมตตา เด็ดขาด อ่อนโยน เชื่อมั่นในตัวเอง......
“คุณ...คุณรีบหนีไปเร็ว ตระกูลหลิวจะไม่จบง่าย ๆ แน่......” หวางเยียนหรานพลันนึกขึ้นมาได้ เธอคว้าเข้าที่แขนของหวางเย๋ และกล่าวอย่างร้อนใจ
หวางเย๋ตบมือของเธอเบา ๆ บอกว่าไม่เป็นไร ทุกอย่างมีเขาอยู่
“คุณปู่ ไปกับผมเถอะ! หลังจากนี้ พวกเราก็คือครอบครัวเดียวกัน” หวางเย๋มองหวางเจี๋ยฟ่าง และกล่าวอย่างจริงจัง
หวางเจี๋ยฟ่างมองดูหวางเย๋ แล้วก็มองดูหลานสาวของตัวเอง
“หรือว่าท่านกลัวว่าผมจะหลอกท่าน? ถ้าหากท่านไม่รังเกียจ หลังจากนี้ผมก็คือหลานชายของท่าน เยียนหรานก็คือน้องสาวแท้ ๆ ของผม” เห็นหวางเจี๋ยฟ่างลังเล หางเย๋ก็กล่าวอย่างจริงจังอีกครั้ง
หวางเยียนหราน มองดูหวางเย๋ รอยยิ้มแห่งความปีติยินดีปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า
“คุณปู่คะ หนูเชื่อเขา...ไม่สิ หนูเชื่อพี่ใหญ่ พี่ใหญ่สามารถรักษาคุณปู่ได้ พี่ใหญ่เป็นคนดี”
หวางเจี๋ยฟ่างน้ำตาไหล และพยักหน้าอย่างหนัก ๆ
เมื่อมาถึงคฤหาสน์ที่ไอ้สกินเฮดจัดเตรียมเอาไว้ หวางเจี๋ยฟ่างตะลึงงันอยู่ครึ่งค่อนวัน ถึงได้ค่อย ๆ ยอมรับความจริงที่ว่า ที่นี่ จากนี้ไปก็คือบ้านของเขา
“คุณปู่ครับ วันนี้ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ผมจะรักษาอาการป่วยให้ท่าน วางใจเถอะ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นแน่” ภายในคฤหาสน์หลังจากที่ทานอาหารเย็นเสร็จ หวางเย๋จับมือของหวางเจี๋ยฟ่าง และกล่าวเบา ๆ
หลังจากได้กำชับให้ไอ้สกินเฮดดูแลให้ดี หวางเย๋ก็ออกไป
เวลานี้ หลงเหม่ยซินโทรหาหวางเย๋อย่างบ้าคลั่ง หลังจากที่ถูกตัดสาย ก็ยังคงโทรซ้ำ
ไม่ต้องถาม หลงเหม่ยซินรีบร้อนตามหาตัวเองแบบนี้ จะต้องเป็นเพราะตระกูลหลิวมาถามหาความผิดแน่
รอหวางเย๋กลับถึงบ้านตระกูลหลง หลงเหม่ยซินยืนรออยู่ที่หน้าประตูอย่างร้อนใจ หลังจากที่เห็นหวางเย๋ ก็ต่อว่าด้วยความเป็นห่วง: “คุณมักจะสร้างปัญหาอยู่น้างนอกบ่อย ๆ ทำไมถึงได้มีเรื่องกับคนตระกูลหลิวอีกล่ะ?”
หวางเย๋ไม่คิดจะปิดบัง จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่บ้านของหวางเจี๋ยฟ่างออกมา แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่หลิวตงเหยียบย่ำหวางเยียนหราน เขาไม่อยากจะให้หลงเหม่ยซินรับรู้เรื่องสกปรกพวกนี้
“คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าหลิวตงจะเลวแบบนี้ แต่คุณก็อารมณ์ร้อนไปหน่อย ครั้งนี้ตระกูลหลิวต้องมีปัญหาใหญ่กับคุณแน่”
หลงเหม่ยซินกล่าวด้วยความเป็นกังวล จากนั้นก็มองไปที่หวางเย๋ และกล่าวแนะนำ: “คุณออกไปซ่อนตัวสักระยะดีไหม?”
หวางเย๋หัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ขึ้นมาทันที อันตรายแบบไหนที่เขาไม่เคยเผชิญมาบ้าง เป็นถึงท่านชายแค่ปัญหาเล็ก ๆ ก็ต้องหนีไปซ่อน หากได้ยินไปถึงองค์กรฮั๋วพวกเต่าดำจะต้องหัวเราะจนฟันร่วงแน่
“ไม่เป็นไร คุณปู่จะต้องเห็นแก่หน้าคุณและปกป้องผมอย่างเต็มที่แน่นอน”
พูดจบ หวางเย๋ก็เดินนำหน้าเข้าไปในบ้านตระกูลหลง
หลงเหม่ยซินชะงักงัน คุณปู่ปกป้องเขา? ก่อนหน้านี้เขาได้ล่วงเกินคุณปู่ไปแล้ว ทำไมถึงได้คิดว่าคุณปู่จะปกป้องเขา?
เขามีวิธีอะไรที่สามารถเอาตัวรอดได้กันแน่???