บทที่ 10 เป็นแกไอ้เศษสวะนี่เอง
ผู้หญิงคนนั้นสลัดหลุดออกมาจากเงื้อมมือของชายฉกรรจ์เหล่านั้น และรีบวิ่งเข้าไปหาชายชราทันที “คุณปู่ ไม่เป็นอะไรนะคะ คุณปู่......”
ชายชราจับมือของหลานสาวเอาไว้ด้วยความดีใจ และบอกว่าไม่เป็นไรติดต่อกัน แล้วดึงหลานสาวให้ไปหลบที่ด้านหลัง
“ไสหัวไป!”
สำหรับมดตัวเล็ก ๆ อย่างคนพวกนี้ หวางเย๋คร้านที่จะสนใจ หลังจากที่ทำเสียงหึออกมาหนึ่งครั้ง เจ้าอ้วนก็พาพรรคพวกของเขา วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว เมื่อวิ่งออกมาได้หลายร้อยเมตร พวกเขาถึงได้ผ่อนคลายลง มีความรู้สึกเหมือนกับพึ่งเอาชีวิตรอดมาจากความตาย
“เฮียอ้วน จับคนมาไม่ได้ พวกเราจะอธิบายยังไง?” หนึ่งในนั้นพูดกับเจ้าอ้วน
เจ้าอ้วนตบเข้าที่ใบหน้าของคนคนนั้น “แม่ง ผู้ชายคนเมื่อกี้แกกล้ามีเรื่องด้วยไหม?”
“แต่ทางด้านคุณชายหลิว?”
“แกนี่แม่งโง่จริง ๆ เลย พวกเราไม่กล้ามีเรื่องด้วย ไม่ได้หมายความว่าคุณชายหลิวจะไม่กล้า ที่เมืองจินห่าย กล้าแย่งผู้หญิงกับคุณชายหลิว ช่างกล้ามากจริง ๆ” เจ้าอ้วนกล่าวไป พลางโบกมือขึ้นรถ และขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
ภายในบ้านเก่า ๆ หลังเล็ก ชายชราพาหลานสาว จะคุกเข่าโขกศีรษะให้กับหวางเย๋ให้ได้ หวางเย๋รีบดึงพวกเขาเอาไว้
“ผู้เฒ่า ท่านชื่อหวางเจี๋ยฟ่างใช่ไหม?” หวางเย๋มองชายชรา และถามด้วยความตื่นเต้น
ชายชรามองหวางเย๋ด้วยความสงสัย “ผู้มีพระคุณ นี่คุณ......”
ไม่ผิดแน่ เขาก็คือผู้มีพระคุณของอาจารย์
ไฝดำตรงหางตาเม็ดนั้น มีรอยแผลเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวที่คอ
“ผมคือหลานชายของสหายเก่าคนหนึ่งของท่าน มาหาท่านโดยเฉพาะ ท่านไม่ค่อยสบาย นั่งก่อน” หวางเย๋กล่าวไป พลางพยุงชายชราเข้าไปในห้อง
สำหรับเรื่องของอาจารย์ หวางเย๋ไม่กล้าเอ่ยถึง กลัวว่าจะนำปัญหามาให้ชายชรา
ในตอนที่ชายชราถามอย่างละเอียดอีกครั้ง หวางเย๋ก็ได้เปลี่ยนเรื่อง ถามชายชราว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมคนพวกนั้นต้องมาจับคนด้วย
ชายชราบอกกับหวางเย๋ว่า หลานสาวของเขาชื่อหวางเยียนหราน สองตาหลานพึ่งพาอาศัยกัน หวางเยียนหรานเพื่อรักษาอาการป่วยให้กับคุณปู่ อยู่ที่มหาลัยเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย และไปเป็นพนักงานบริการที่บาร์แห่งหนึ่ง
แต่คิดไม่ถึงว่า เธอได้เข้าตาหลิวตงคุณชายรองแห่งตระกูลหลิวเข้า บังคับให้เยียนหรานหลับนอนกับเขา และรับปากว่า ขอแค่เยียนหรานยอมตามใจเขา ก็จะให้เงินเยียนหรานก้อนหนึ่ง ช่วยรักษาอาการป่วยให้คุณปู่ของเธอ
เพื่อรักษาอาการป่วยให้กับคุณปู่ เยียนหรานไม่มีทางเลือก จึงได้แต่กัดฟันรับปาก หลังจากเสร็จเรื่อง หลิวตงไม่เพียงไม่ให้เงิน ยังเห็นเยียนหรานเป็นของเล่น สุดท้ายเยียนหรานทนต่อไปไม่ไหว จึงใช้ขวดเหล้าฟาดเข้าที่หัวของหลิวตง จนเขาสลบไป และหนีออกมาจากบาร์
จากนั้นคนของหลิวตงก็ตามมาจนถึงที่นี่ จึงได้เกิดเหตุการณ์เมื่อสักครู่ขึ้น
“ฉันเป็นคนทำร้ายหลานสาวของฉันเอง ล้วนเป็นความผิดของฉัน ถ้าหากไม่ใช่เพื่อฉัน เยียนหรานคงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้ หลิวตงนั่น เป็นสัตว์เดรัจฉานชัด ๆ” หวางเจี๋ยฟ่างทุบหน้าอก น้ำตาไหลอาบแก้ม
“คุณปู่ เป็นหลานที่ไม่ได้เรื่อง”
สองตาหลานกอดกันร้องไห้ หวางเย๋เบือนหน้าหนี และเช็ดน้ำตาที่หางตา
เมื่อหวางเจี๋ยฟ่างมีอะไรมาเร้าใจ ก็ไออย่างรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง
หวางเย๋รีบล้วงเอาเข็มเงินออกมา ช่วยหวางเจี๋ยฟ่างหยุดอาการไอ “ผู้เฒ่า ท่านอย่างเป็นกังวล มีผมอยู่ เยียนหรานจะต้องไม่ได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างแน่นอน หลังจากนี้ เธอก็คือน้องสาวแท้ ๆ ของผม จะไม่มีใครรังแกเธอได้อีกแน่นอน”
“เยียนหราน ฉันสามารถรักษาอาการป่วยของคุณปู่ได้ เธอวางใจเถอะ” หวางเย๋มองดูเยียนหรานที่ได้รับความทุกข์ทรมานมามากมาย และกล่าวด้วยความปวดใจ
เมื่อหวางเยียนหรานได้ยินดังนั้น ก็จับมือของหวางเย๋ด้วยความดีอกดีใจ “คุณ...คุณพูดจริง ๆ เหรอ? คุณสามารถรักษาอาการป่วยของคุณปู่ได้?”
หวางเย๋มองตาหวางเยียนหราน และพยักหน้าอย่างจริงจัง
แต่ว่า ที่นี่ไม่เหมาะที่จะรักษาโรค ยิ่งไปกว่านั้น ในเมื่อตามหาหวางเจี๋ยฟ่างเจอแล้ว หวางเย๋จะไม่อนุญาตให้พวกเขาพักอยู่ในที่ซอมซ่อแบบนี้แน่นอน
หวางเย๋ล้วงโทรศัพท์ออกมา โทรหาไอ้สกินเฮด ให้เขาจัดเตรียมบ้านหลังใหญ่ไว้ให้หวางเจี๋ยฟ่าง และให้พวกไอ้สกินเฮดทั้งสามพักเข้าไปด้วย ระยะนี้ให้คอยดูผู้เฒ่าโดยเฉพาะ และคุ้มครองความปลอดภัยของหวางเยียนหราน
เรื่องพวกนี้ ถ้าเอลลี่เป็นคนไปจัดการ จะถูกคนสืบหาเอาได้ง่าย ๆ พวกไอ้สกินเฮดทั้งสามไอ้ถูกเปิดเผยแล้ว ตอนนี้ให้ดูแลผู้เฒ่า เป็นการเหมาะสมมากเลยทีเดียว
ในตอนนี้เอง ที่นอกประตูได้มีคนกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามา คนที่นำหน้านั้นเป็นชายหนุ่มผมมันหน้าทาแป้งคนหนึ่ง “หวางเยียนหราน นังสารเลว ไสหัวออกมาซะ กล้าแอบฉันไปหาไอ้หนุ่มหน้าละอ่อน ดุสิว่าฉันจะตีเธอให้ตายไหม”
เมื่อเห็นคนที่มา ร่างของหวางเยียนหรานก็สั่นสะท้านขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ แต่ก็ยังคงกัดฟันแน่น ยืนบังอยู่ด้านหน้าของคุณปู่
หวางเย๋มองเห็นเจ้าอ้วนที่อยู่ด้านหลังชายหนุ่ม ก็รู้ทันทีว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นใคร คุณชายรองแห่งตระกูลหลิวหลิวตง
“เยียนหราน อยู่ในบ้านกับคุณปู่ ไม่ต้องออกไป ให้ฉันจัดการเอง” หวางเย๋กล่าวจบ ก็เดินออกไปจากห้อง
เดิมทีคิดว่าพรุ่งนี้จะไปหาเขา คิดไม่ถึงว่า เขาจะเป็นคนมาหาเอง
“เดรัจฉาน หุบปาก” หวางเย๋มองดูหลิวตงที่กำลังชูคออวดดี และกล่าวอย่างเยือกเย็น
หลังจากที่หลิวตงได้เห็นหวางเย๋ ก็ชะงักไป “หวางเย๋? เป็นแกไอ้เศษสวะเองหรอกเหรอ?”
หวางเย๋ไม่รู้จักหลิวตง แต่หลิวตงรู้จักหวางเย๋ สาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองจินห่ายได้แต่งเขยไม่เอาไหนเข้าบ้าน เรื่องนี้ ผู้คนทั่วทั้งเมืองจินห่าย แทบจะไม่มีใครไม่รู้
โดยเฉพาะพวกคนที่หลงใหลในความงามของหลงเหม่ยซิน ยิ่งเกลียดชังหวางเย๋เป็นพิเศษ หลิงตงเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
“แกไอ้เศษสวะ ปีกกล้าขาแข็งแล้วนี่ แอบหลงเหม่ยซินมากินของป่า มาหาคนของฉัน แกไม่กลัวตระกูลหลงจะหักขาแกหรือไงวะ” หลิวตงมองหวางเย๋ และกล่าวอย่างยโสโอหัง
หวางเย๋ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเย็นชา ไม่เอ่ยอะไรแม้แต่คำเดียว