บทที่ 5คู่หมาย
ความสนิทสนมคืบหน้ารวดเร็วกว่าที่เขาคิด ดารณีคบคนง่าย นี่เป็นเสน่ห์ของหล่อนอีกอย่างหนึ่ง
“ยัยดาบ่นหาแกทุกวัน ทำไมไม่ไปเที่ยวบ้านฉันบ้างวะ มัวแต่วุ่นอยู่กับงาน เดี๋ยวฉันยุให้ยัยดามีแฟนใหม่เสียหรอก”
“เฮ้ย.อย่านะโว้ย เอาไว้ฉันว่างๆ จะไปก็แล้วกัน แต่ตอนนี้จะเร่งทำเพลงใหม่ให้เสร็จ อัลบั้มใหม่ต้องดีกว่าเก่า แกเข้าใจฉันนะ ให้ดามาหาฉันที่บ้านก็ได้ ถ้าที่ผับไม่อยากมา”
“อยากมาแต่ตอนนี้เพื่อนเพิ่งกลับจากอเมริกา พากันไปเที่ยวทะเล พรุ่งนี้ฉันจะบอกให้ไปหาแกที่บ้าน ฉันไปด้วย อยากคุยกับไพลินว่ะ”
ดนัยมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ในกลุ่มหนุ่มๆ วงเดอะเฟรนด์แล้วยิ้ม ภุชงค์มองตามสายตาเพื่อนก็เข้าใจว่าเพื่อนรู้สึกอย่างไรกับไพลิน หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นมาทันที
ชายหนุ่มอารมณ์ดีเมื่อกลับเข้าบ้านพัก ไพลินชงกาแฟมาให้เขาแล้วกลับเข้าห้องของหล่อน วันนี้หล่อนเห็นดนัยและได้ยินเสียงสรรพยอกถึงดารณี ผู้หญิงที่มีความสำคัญกับภุชงค์มาก ดารณีคือหญิงสาวที่ภุชงค์รักเพราะอย่างนี้หล่อนจึงไม่ต้องการให้ใครรู้ความในใจของหล่อน แม้มันจะเจ็บปวดแต่หล่อนก็ไม่คิดจะเลิกรักผู้ชายคนนี้
เขาไม่เคยเห็นความสำคัญของหล่อน ความรู้สึกที่เขามีให้หล่อนคือพี่ชายเท่านั้น แม้ไพลินจะมีหน้าตาดีกว่าดารณีก็ตามแต่ภุชงค์ก็ยังมองเห็นหล่อนเป็นน้องสาวที่น่ารักอยู่ดี ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตสดใส จมูกโด่งรับกับริมฝีปากอิ่มกระจับอ่อน ผิวสีน้ำผึ้งยิ่งมองยิ่งน่าสนใจ ร่างเพรียวระหงโดดเด่นอยู่ในกลุ่มแฟนคลับที่เข้ามาขอลายเซ็นและพูดคุย แต่หล่อนไม่เคยแต่งหน้าไม่ทำตัวเป็นสาวสวย มีแต่ความเปิ่นและเซอร์เท่านั้นซึ่งหล่อนก็พอใจในสภาพแบบนี้
สักวันหนึ่งหล่อนต้องจากภุชงค์ไป เมื่อไหร่ที่เขาแต่งงานเมื่อนั้นหล่อนจะเนรเทศตัวเองออกไปจากชีวิตของเขาและจะไปอย่างเงียบๆ หญิงสาวผ่อนลมหายใจออกช้าๆ ก่อนจะหลับตานิ่ง เสียงเพลงก้าวไปให้ได้ฝัน ดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท หล่อนยิ้มกับเสียงเพลงนั้นกระทั่งหลับไป
เช้าวันใหม่ภุชงค์ตื่นแต่เช้าเพื่อรอผู้หญิงที่เขารัก ดนัยกำลังพาหล่อนมาหาเขา ครู่ใหญ่เสียงรถแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน เจ้าของบ้านเดินเร็วๆ ออกไปรับหญิงสาวถึงรถ
“สวัสดีค่ะพี่ภุ” ดารณีก้าวลงจากรถยกมือไหว้ที่หน้าอกภุชงค์แล้วยื่นหน้าเข้ามาจูบที่แก้มเขาโดยไม่เกรงใจสายตาของพี่ชาย
“สวัสดีจ้ะ”
“คิดถึงจังเลยค่ะ”
ภุชงค์หอมแก้มด้วยความคุ้นเคย เขามองความรักเป็นสิ่งสวยงาม หากจะแสดงความรักกับคนที่รักมันไม่ใช่เรื่องน่าอายในความรู้สึกของเขา
“พี่ก็คิดถึงดาจ้ะ”
“เลี่ยนว่ะ พาเข้าบ้านซะทีสิ ฉันหิวกาแฟจะแย่อยู่แล้ว”
ดนัยแทรกขึ้นแล้วเดินเข้าบ้านโดยไม่รอให้เจ้าของเชิญ เขาเดินเข้าครัวหวังว่าจะเจอไพลินที่นั่นแต่ไม่เห็นหล่อน จึงเดินกลับออกมาที่ห้องโถงซึ่งจัดเป็นห้องรับแขกง่ายๆ สบายๆ มีเก้าอี้ไม้ตัวยาว มีโต๊ะไม้ตัวเล็กตรงกลาง ที่ผนังห้องมีตู้หนังสือตัวเตี้ยอยู่หลังเดียว นอกนั้นปล่อยโล่ง
“ภุ ไพยังไม่ตื่นเหรอ”
“เออ พวกนั้นยังหลับอยู่ แกจะกินกาแฟใช่มั้ย ฉันชงให้”
ภุชงค์ทำหน้าที่เจ้าของบ้านเต็มตัว ดนัยมองบันไดขึ้นชั้นบน เขาชอบหญิงสาวจริงจังแต่หล่อนไม่ได้ชอบเขาเช่นคนรักซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนใจหล่อนได้อย่างไร นอกจากจะทำใจรักหล่อนเช่นน้องสาวเหมือนที่หล่อนมองเห็นเขาเป็นเพียงแค่พี่ชายเท่านั้น
“พี่ภุมีเพลงใหม่เหรอคะพี่นัยบอกดา” ดารณีเดินเข้ามากอดภุชงค์หลวมๆ แนบหน้ากับไหล่เขา
“จ้ะ พี่เพิ่งเขียนเสร็จก็เอาไปร้องที่ผับเมื่อคืน ไอ้นัยไปพอดี” เขายิ้มกับใบหน้าสวยของหล่อน
“ร้องให้ดาฟังได้มั้ยคะ”
“ได้สิครับ ฟังนะ..”
ภุชงค์ร้องเพลงที่เขาเขียนขึ้นมาเพื่อปลอบใจใครสักคนให้หญิงสาวฟัง ก่อนที่จะเจอดารณี เขาปิดกั้นความรักไว้นานพอควรแต่เมื่อเห็นหน้าน้องสาวเพื่อนพร้อมรอยยิ้มหวานกับคำพูดอ้อนเก่งของหล่อนเขาลืมความตั้งใจจะทำเพลงเพียงอย่างเดียวจนหมดสิ้น แม้แต่น้องๆ ในบ้านเช่าหลังใหญ่นี่ด้วยซึ่งน้องในวงก็ไม่ได้ว่าอะไร เข้าใจพี่ใหญ่และคิดว่าถึงเวลาที่ภุชงค์จะมีใครสักคนที่เข้าใจและรักเขาอย่างจริงจัง ดารณีก็ไม่ได้เสียหายอะไรแต่ประโดมเคยเปรยกับเพื่อนๆ ว่า
“น้องสาวของพี่นัยดูจะเริ่ดเกินไปหน่อย แต่ก็น่ารักดี สมกับพี่ภุของเราแกว่าจริงมั้ยไอ้ไพ”
ประโดมหันมาถามความเห็นของไพลินซึ่งหญิงสาวได้แต่ยิ้มพร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วยแต่ใครจะรู้ว่าในใจของหล่อนมันเจ็บแปลบมากเพียงใด หล่อนเคยแอบร้องไห้เมื่อภุชงค์กับดารณีเดินกอดเอวกันเข้ามาในบ้านหลังนี้ เขารักกัน เหมาะสมกัน หล่อนต้องยอมรับข้อนี้และต้องยอมรับอีกข้อหนึ่งคือหล่อนเป็นเด็กกำพร้ามาจากบ้านนอกไม่มีอะไรติดตัว นอกจากความรู้แค่ระดับปวช.เท่านั้น