บทที่ 6 คนดูแล
หล่อนคิดถึงวันที่หลุดพ้นจากสภาพสาวเสิร์ฟที่เสี่ยงกับการถูกลวนลามจากแขกและหากวันนั้นภุชงค์ไม่ช่วยหล่อนออกมาจากอุ้งมือเถื่อนของเสี่ยหื่นกาม ป่านนี้หล่อนคงถูกยำยียับเยินไปแล้ว บุญคุณครั้งนั้นหล่อนไม่มีวันลืมและจะรักภุชงค์ตลอดไป
“เพราะจังเลยค่ะดาว่าเพลงนี้จะต้องดังแน่ๆ”
หญิงสาวยังคงออดอ้อนชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน หล่อนรักเขามากและพร้อมที่จะไปอยู่กับเขาทันทีที่เขาเอ่ยปาก หล่อนไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้แต่งงานหรูหราเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ สิ่งเดียวที่หล่อนคิดเวลานี้ก็คือ การที่มีภุชงค์เป็นคนรักและอยู่เคียงข้างหล่อนตลอดไปเท่านั้น
ภุชงค์เป็นชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดี จมูกโด่ง คิ้วเข้ม ตาคมซึ้ง ปากอิ่มรูปกระจับ ผิวขาวเนียนราวกับหญิงสาว ร่างสูงโปร่ง เพียงแค่นี้สาวๆ ที่เห็นก็กรี๊ดกันแล้ว ในเมื่อหล่อนได้หัวใจของเขาแล้วทำไมตัวเขาหล่อนจะไม่อยากได้ล่ะ ต่อไปถ้าวงเดอะเฟรนด์ดังขึ้นมา หล่อนก็จะพลอยสบายไปด้วย
“ดาว่าอย่างนั้นเหรอ” เขาหันมาหอมแก้มหล่อนเบาๆ
“ค่ะ พี่ภุเอาขึ้นเพลงแรกหน้าเอเลยนะคะ”
“พี่ตั้งใจจะเอาไว้เพลงสุดท้ายหน้าบี เพราะเพลงนี้เป็นเพลงให้กำลังใจคนที่กำลังท้อแท้”
“เหรอคะ แล้วจะเข้าห้องอัดเมื่อไหร่คะ”
“วันนี้เข้าไปจองคิวก่อนแล้วก็จะลุยเลย”
“ให้ดาไปด้วยนะคะ ดาจะเข้าไปคอยเชียร์แล้วก็เป็นกำลังใจให้พี่ด้วย”
“ได้เลยครับ”
“เออ หวานกันจริงนะ”
ดนัยหันมาพูดประชดเพราะเขาไม่มีโอกาสแทรกเข้ามาเลยสักนาทีเดียวแต่ก็ดีใจที่เพื่อนรักน้องสาวของเขาจริง ภุชงค์นิสัยดี มีความรับผิดชอบสูง เขาจึงเปิดโอกาสให้น้องสาวคบและสนับสนุนทันทีที่ภุชงค์บอกกับเขาว่า
“ฉันรักน้องสาวแกว่ะ”
ดนัยรู้จักภุชงค์ตอนไปซ้อมเพลงกันแต่ดนัยมีงานประจำที่ธนาคารจึงไม่ได้ทุ่มลงไปกับเพลงเหมือนอย่างภุชงค์ เขาเล่นยามว่างเท่านั้น ส่วนดารณีเรียนจบปริญญาตรีก็ยังไม่ได้ทำงาน พอดีรู้จักกับภุชงค์หล่อนก็หลงรักเขา ชวนดนัยไปเที่ยวผับที่ภุชงค์เล่นประจำเกือบทุกคืน ไปที่บ้านเช่าดูเขาซ้อมเพลง คอยเอาใจเขาจนผู้ชายที่มีความมุ่งมั่นอย่างภุชงค์รักหล่อนหมดหัวใจ เขาไม่ได้คิดถึงความห่วงใยของหญิงสาวอีกคนที่อยู่ร่วมชายคาเดียวกัน ไม่มีใจให้หล่อนแม้แต่เสี้ยวของหัวใจ มีให้แค่ความรักความห่วงใยฉันท์พี่ที่จะรักน้องได้เท่านั้น
ภุชงค์กลับเข้าบ้านหลังจากไปทานอาหารมื้อเย็นกับดารณีและดนัย เสียงเพลงจากปากพี่ใหญ่ดังมาก่อนตัวก็รู้ว่าอารมณ์ดีมากแค่ไหน ชายหนุ่มสี่คนกับหญิงสาวอีกหนึ่งหันมามองหน้ากันพร้อมกับยิ้มอย่างเข้าใจในความรื่นรมย์นั้น
“อารมณ์ดีเชียวนะ เมื่อไหร่จะมีข่าวดีเสียทีพี่ภุ”
นิยมเอ่ยขึ้นเมื่อภุชงค์ก้าวเข้ามานั่งในห้องที่พวกเขานั่งซ้อมเพลงกันอยู่
“ไม่รู้เหมือนกันแต่ก็ไม่แน่นะ ถ้าพี่ตัดสินใจแต่งงานพวกเราจะว่ายังไง” ชายหนุ่มมองหน้าคนถาม
“ไม่ว่าหรอกครับ พี่แต่งงานก็ดี จะได้มีคนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด” นเรศตอบแทนเพื่อนๆ แล้วยิ้ม
“อ้าว. ทุกวันนี้พี่ภุก็มีคนคอยดูแลอยู่แล้วนี่ตึ๋ง ไอ้ไพไง” ก้องเกียรติหันมามองหญิงสาวที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ
“ใครจะสู้คุณดารณีได้ล่ะพี่ก้อง”
ไพลินฝืนยิ้มให้ดูสดใสมากที่สุด หล่อนจะแสดงความอ่อนแอออกมาให้พี่ๆ รู้ไม่ได้และจะไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ให้ภุชงค์สงสัยในตัวหล่อน เขารักหล่อนเหมือนน้องสาวก็น่าจะเพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ
หญิงสาวกลืนก้อนแข็งๆ ลงคออย่างยากลำบาก ดวงตาและรอยยิ้มสดใสมีแววเศร้าหมองปะปนอย่างแยบยล
“ใช่.ไอ้ไพพูดถูก”
ประโดมยกนิ้วชี้ขึ้นมาสนับสนุนคำพูดของไพลิน หล่อนยิ้มแล้วลุกเดินไปรินน้ำมาส่งให้ภุชงค์เขารับมาดื่มแล้วส่งแก้วคืนให้หล่อน
“ขอบใจมาก“
เท่านี้เท่านั้นที่ไพลินได้รับจากผู้ชายที่หล่อนรักแต่มันก็ชื่นใจแล้วล่ะ หล่อนยังมีรอยยิ้มอ่อนโยนของเขาตามมาให้อีก อยากจะเก็บรอยยิ้มและความเอื้ออาทรของเขาไว้ในความทรงจำให้มากๆ วันหนึ่งหากหล่อนจากเขาไปจะได้คิดถึงสิ่งดีๆ ที่เขามีให้ไว้เป็นกำลังใจตลอดไป
“พี่ภุ เรื่องห้องอัดว่าไงพี่” ใครคนหนึ่งเอ่ยทำลายความเงียบขึ้น
“เรียบร้อย อาทิตย์หน้าพี่จองคิวไว้แล้ว เราเข้าอัดเสียงได้ ไม่ถึงสามเดือนเทปชุดนี้จะวางตลาดพี่ให้ไอ้นัยติดต่อค่ายที่จัดจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว วันนี้พี่เพิ่งเข้าไปคุยมา” ภุชงค์ตอบแล้วยิ้ม
ทุกคนยิ้มกับงานที่ภุชงค์เอ่ยถึงไม่นานหรอกพวกเขาก็จะมีอัลบั้มเป็นของตัวเองนั่นเป็นความฝันของพวกเขาทุกคนยกเว้นไพลิน หล่อนคิดเสมอว่าตัวเองคือส่วนเกินสำหรับวงเดอะเฟรนด์
“ถ้างานชิ้นแรกออกไปได้สวยมันก็จะมีชิ้นต่อๆ ไป” ภุชงค์เอ่ยขึ้นอีก
“คราวนี้เราจะได้เกิดกันบ้างล่ะ” นิยมกำมือยกขึ้นชู
“อย่าเพิ่งดีใจไป พี่เองยังไม่มั่นใจว่าชุดนี้จะเป็นยังไงหมู่หรือจ่ายังเดาไม่ได้พวกเราอย่าเพิ่งคาดการณ์ไปไกลเลย”
ชายหนุ่มติงเพื่อไม่ให้น้องๆ หวังอะไรมากเกินไป ทุกสิ่งทุกอย่างมีการผันแปรกันได้ตลอดเวลา ในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน