บท
ตั้งค่า

CHAPTER 2 กลับบ้าน(ต่อ)

พี่ประณตหรือพี่ปอเป็นพี่ชายคนโตในบ้าน อายุห่างกับเธอสิบปี ถึงแม้จะมีหน้าที่ดูแลน้องๆ แต่ก็ไม่ได้มาเล่นซนกับพวกเธอ เพราะวัยที่ห่างกันมาก ทำให้เธอไม่ได้สนิทกับพี่ปอมากเท่าไรนัก แต่ก็เป็นพี่ชายที่น่ารักและใจดีมากคนหนึ่ง

พี่ปริญหรือพี่ป้อง สำหรับพี่ชายคนนี้ เรื่องของเขาเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากจะนึกถึงมันอีก เขานั่นแหละคือสาเหตุที่ทำให้เธอตอบรับการไปเรียนต่อต่างประเทศอย่างง่ายดาย เพราะเธอต้องการหนีเขาไปไกลๆ ซึ่งเธอทำได้สำเร็จในเรื่องนี้ แต่การหนีของเธอไม่ได้สร้างผลกระทบอะไรกับชีวิตของเขาเลยสักนิด เขากลับยิ้มและอวยพรให้เธอตั้งใจเรียน เธอฟังคำอวยพรนั้นด้วยน้ำตา เธออาจจะหนีเขาได้ แต่เธอรู้อยู่แก่ใจว่าเธอไม่เคยหนีความรู้สึกของตัวเองได้เลย เขายังวนเวียนอยู่ในความทรงจำของเธอตลอดเกือบสิบปี

“ค่ะ หนูนาฟังอยู่ค่ะ”

เธอเรียกสติของตัวเองให้คืนกลับมา แค่คุยกับคนที่บ้านนิดเดียว พาลไปนึกถึงบรรยากาศในวัยเด็กจนได้ เธอโตแล้วนะ เลิกเพ้อเจ้อเสียที

“น้ำหอมที่แม่ฝากซื้อ ได้มาไหม?” แม่ของเธอทวงถามถึงของฝากก่อนอื่นใด

เห็นไหมว่าเธอไม่ได้ถูกเลี้ยงดูราวกับไข่ในหินอย่างที่ทุกคนคิด แม่ถามหาของฝากก่อนจะถามว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง เดินทางเหนื่อยไหม หิวไหม ไม่มี๊ นี่แหละแม่ของหนูนา

“ซื้อมาแล้วค่ะ เอ๊ะ!” เธอร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อมองไปยังกระเป๋าเดินทางที่วางอยู่ด้านข้าง ‘ถุงน้ำหอมที่แม่ของเธอถามถึงหายไปไหน?’

“แม่คะ แค่นี้ก่อนนะคะ”

เธอรีบวางสายแล้วพยายามค้นหาถุงน้ำหอมที่ซื้อมาจากร้านปลอดภาษีภายในสนามบิน กลับพบแต่ความว่างเปล่า เธอยังไม่ได้จับพวกมันยัดลงกระเป๋าเดินทางอย่างแน่นอน เพราะกระเป๋าของเธอยังปิดสนิท หรือเธอจะลืมวางไว้ที่สายพานรอรับกระเป๋ากันแน่

พรนาราพยายามใช้ความคิดเพื่อย้อนถึงความทรงจำตั้งแต่เดินออกจากเครื่องบิน เธอเอาถุงน้ำหอมไปวางไว้ที่ไหนกันนะ หรือจะห้องน้ำที่เธอได้แวะตอนที่มาถึง หรือจะอยู่บนเครื่องบิน ทำยังไงดีล่ะทีนี้ ทำไมเธอถึงเป็นคนขี้ลืมแบบนี้ รอยหยักบนสมองพอจะมีกับเขาบ้างไหมเนี่ย ความจำถึงได้สั้นขนาดนี้

เธอลากกระเป๋าเดินกลับไปทางเดิม เพื่อจะขอเจ้าหน้าที่เข้าไปหาถุงน้ำหอมที่วางลืมไว้ด้านใน แต่ได้รับคำปฏิเสธกลับมาตามที่คิดเอาไว้ เธอได้แต่ยืนหน้าเคร่งเครียดเพราะไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี แม่ของเธอคงจะผิดหวังเป็นอย่างมาก ที่ไม่ได้น้ำหอมกลิ่นที่ตามหามานานแสนนาน

“ขึ้นไปกรอกเอกสารชั้นบนได้นะครับ ถ้ามีใครเจอของที่ลืมไว้ จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อไป”

เจ้าหน้าที่ประจำสนามบินแนะนำเมื่อเธอไปขอความช่วยเหลือ

ถึงแม้เจ้าหน้าที่ในสนามบินจะให้บริการเป็นอย่างดีและยังอธิบายทางเดินไปเคาน์เตอร์สำหรับกรอกเอกสารของหายก็ตาม แต่ความหวังของเธอคงจะริบหรี่เต็มทน ถุงใส่น้ำหอมที่ใสจนมองทะลุเห็นด้านในขนาดนั้น จะมีใครใจดีเก็บมาคืนกันล่ะ

“มีเรื่องอะไรให้ช่วยไหมครับ?”

เสียงทักของผู้มาใหม่ ทำให้เธอหันไปมองอย่างแปลกใจ ผู้ชายสองคนที่ดูจากการแต่งตัวน่าจะเป็นกัปตันของสายการบิน ไม่แน่อาจจะเป็น สายการบินเดียวกับที่เธอโดยสารกลับมา เพราะสังเกตได้จากแอร์โฮสเตสที่เดินมาด้วยกัน ใส่ชุดเหมือนกับบนเครื่องที่เธอได้เจอ

“กลับก่อนนะป้อง แล้วไว้เจอกัน”

นักบินที่เดินมากับเขาโบกมือก่อนเดินจากไป เธอได้แต่ยืนนิ่งเหมือนกำลังถูกสาป

ไม่ใช่ว่าตกตะลึงในความหล่อของผู้ชายตรงหน้า แต่เป็นชื่อของเขามากกว่าที่ทำให้เธอมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้

อย่าบอกนะว่า โลกจะกลมขนาดนี้ เธอได้เจอเขาขณะมาถึงประเทศไทยยังไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ

ถึงแม้จะเคยได้ยินแม่ของเธอเล่าให้ฟังว่าลูกชายของป้าแววเป็นนักบิน แต่เธอก็ไม่กล้าถามว่าเป็นพี่ประณตหรือพี่ปริญกันแน่ แต่พอได้ยินชื่อที่เพื่อนของเขาเรียก ทำให้เธอต้องมองคนตรงหน้าอย่างพิจารณาอีกครั้ง ถึงเขาจะหล่อและดูดีขึ้นมากก็ตาม

แต่ไม่ผิดแน่ เขาคือผู้ชายคนนั้นจริงๆ…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel