บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 บังคับ

ตอนที่ 1/2 บังคับ

มิหนำซ้ำเขายังเป็นถึงเจ้าของแผงตลาดครอบครัวเธอกำลังเช่าตั้งร้าน ขอพื้นที่ขายของอยู่จนปัจจุบันนี้ พ่อเลี้ยงพฤกษ์ยังช่วยเหลือที่บ้านเธอเสมอมา ไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อยจนถึงเรื่องใหญ่โต เวลาขัดสนหมุนเงินมาทำกิจการร้านข้าวแกงไม่ทัน

พวกท่านก็หันหน้ามาขอพึ่งพาหนึ่งเดียวอย่างพ่อเลี้ยงพฤกษ์ ตั้งแต่เด็กจนโต เอิงเอยได้ยินชื่อชายหนุ่มวัยสามสิบหกปีจากปากพ่อและแม่เธอมาโดยตลอด เพราะเคยทำงานเป็นคนงานที่ไร่ชานั่น ก่อนจะมีลูกสร้างครอบครัว พ่อแม่ต้องตัดสินใจออกมาสร้างเนื้อสร้างตัวข้างนอก กระนั้นครอบครัวของพ่อเลี้ยงพฤกษ์กลับไม่คิดทอดทิ้งอดีตคนงานเก่า ให้ความช่วยเหลือ เมตตาไม่มีเปลี่ยนตามกาลเวลา

ถึงแบบนี้พ่อกับแม่เธอจึงยกย่องคนที่ไร่ดังกล่าว หากมีสิ่งใดตอบแทนคืนบุญคุณที่แล้วมาได้ มีหรือที่พวกท่านจะไม่ทำ นี่ยังไม่รวมยอมยกเอิงเอยให้พ่อเลี้ยงพฤกษ์รับเป็นเมีย ตั้งแต่เธออายุเพียง 16 ปี แต่อีกฝ่ายไม่ขอรับน้ำใจนั้น ด้วยเหตุผลเธออายุยังน้อย ก็แหงล่ะ เอิงเอยคิดว่าพ่อแม่พิลึกเหลือเกิน คิดอยากยกเธอใส่พานถวายใครง่าย ๆ อย่างกับเห็นลูกเป็นแค่สิ่งของ ตั้งแต่เธอรับรู้เรื่องราวทั้งหมดนั้นมา เธอรู้สึกเสียใจมาก และไม่เคยชินชากับความรู้สึกหลากหลายนี้เลย

ส่วนตอนที่พ่อเลี้ยงพฤกษ์ช่วยเหลือ เธอไม่ลืมบุญคุณอย่างแน่นอน แค่ไม่พอใจว่าทำไมพ่อแม่เธอต้องเอาเขามาพูดข่ม ทำให้เธอดูย่ำแย่ ผลักไสยอมยกลูกแท้ ๆ ไปเป็นเมียเขาตั้งแต่อายุก็เท่านั้น ขนาดพ่อแม่ยังไม่ต้องการเธอ ด้วยความหวังดีของพวกท่าน ที่อ้างว่าถ้าเธออยู่กับพ่อเลี้ยง จะสบายทั้งชาติ หวังดี หรือกำลังทำร้ายเธอทางอ้อมกันแน่ มันหมดแล้วสมัยคลุมถุงชน แล้วไหนการที่เขาทำดีด้วย เพราะหวังผลอะไรหรือเปล่า เอิงเอยไม่สามารถมองโลกในแง่ดีได้อีก

"หนูเอาน้ำมาให้ค่ะ" มือเล็กวางแก้วน้ำเปล่าเย็นเฉียบลงบนโต๊ะ เบื้องหน้าชายหนุ่มวัยสามสิบหกปี เอิงเอยคลี่ยิ้มหวาน พึงท่องเอาไว้อย่างใจเย็นว่าวันนี้เขามาในนามของลูกค้า ต้องบริการเท่าเทียมเหมือนคนอื่นที่เข้าร้านแม้ในใจทำตัวต่อต้าน แต่เธอไม่ใช่เด็กดื้อด้านไม่ดูสถานการณ์ อีกอย่างพ่อเลี้ยงพฤกษ์ไม่เคยยุ่มย่ามทำตัวไม่ให้เกียรติเธอ ถึงพ่อแม่จะส่งเสริมให้ท้ายเขาเต็มที...แปลกเกินความเป็นคนล้นเหลือ พร้อมประเคนลูกสาวให้เขาอย่างไม่เคยล้มเลิกความคิด

"ฉันไม่ดื่มน้ำเย็น เปลี่ยนเป็นอุณหภูมิปกติดีกว่า..." หนุ่มเจ้าสำอางงุดมองนิ่ง มือแกร่งเคลื่อนแก้วน้ำออกไปห่างจากตรงหน้าตน เสียงทุ้มทั้งบอก ทั้งสั่งเรียบ ๆ พานทำให้เอิงเอยกลอกตาช้อนขึ้น สีหน้าระอาอย่างไม่ปกปิด เขาคิดว่าตัวเองวิเศษวิโสมาจากไหน ถึงเลือกสั่งกินตามความเรียกร้องต้องการเสียขนาดนี้

"แต่น้ำเย็นก็ดื่มได้นี่คะ มันก็น้ำเปล่าเหมือนกัน"

"นางเอย ไปเปลี่ยนน้ำมาใหม่ให้พ่อเลี้ยง แกนี่มันเถียงคำไม่ตกฟากจริง ๆ!" อนงค์ที่นั่งคุยกับพ่อเลี้ยงขึ้นเสียงใส่หน้าลูกสาวอย่างเหลืออด อะไรนิดอะไรหน่อยไม่เห็นต้องหาเรื่องแย้ง เพียงทำตามผู้ใหญ่สั่งก็คงสิ้นเรื่อง ไม่ต้องมานั่งต่อปากต่อคำ ตำหนิให้ปากเปียกปากแฉะ

"ไม่เป็นไร เอาแบบนี้ก็ได้" คนฟังเอี้ยวหน้ามาบอกอดีตคนงานเก่า อนงค์จึงใจเย็นขึ้นบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ลืมส่งสายตาคาดโทษเอิงเอย กลับถึงบ้านเมื่อไรหล่อนจะตีเด็กคนนี้ให้หลาบจำแน่

"ถ้าอย่างนั้นเอยไปช่วยพ่อตั้งร้านก่อนนะแม่" เอิงเอยสะดุ้งตระหนกตกใจทุกครั้งเมื่อมารดาตะคอกเสียงแหลมใส่ ถึงเคยโดนแบบนี้บ่อยครั้งก็ต้องยอมรับว่าเธอไม่เคยเฉยชาได้ ความรู้สึกกัดเซาะในอกเธอทีละน้อย สีหน้าสลดย่ำแย่ลง จึงไม่อยากยืนอยู่ตรงนี้ หมุนตัวกลับเข้ามาช่วยพ่อที่กำลังวุ่นวายกับการตั้งร้านต่อ กระบอกตาร้อนผ่าว ม่านสีใสเอ่อล้น น้ำตาแทบพร็อยหล่นตามหลังอยู่รอมร่อ

เธอไม่อยากได้ยินกระทั่งถ้อยคำสบถหยาบคายจากฝีปากมารดา เมื่อทำอะไรไม่ได้ดั่งใจของหล่อน

เอิงเอยกลัวว่าเธอจะแสดงความอ่อนแอ ร้องไห้ปล่อยน้ำตาออกมาให้มาดาเห็นเหมือนครั้งยังเด็ก นั่นคงทำให้เธอโดนด่า ซ้ำเติมว่าขี้แพ้ ไร้สมอง ไม่มีความอดทน และโตแล้วยังไม่เอาอ้าวมากกว่าเก่า...เธอเกิดเป็นคน ย่อมมีความรู้สึก มีชีวิตจิตใจของตัวเอง แล้วทำไมจะเสียใจ หลั่งน้ำตาไม่ได้กัน

เอิงเอยวิ่งมาหลบหลังร้านทันที ตอนที่รู้ตัวดี ว่าเธอไม่สามารถข่มความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ตัดพ้อกับคำพูดของแม่ได้ แม่รักเธอบ้างไหม เคยปราถนาในทางที่ดีแบบครอบครัวบ้านอื่นบ้างหรือเปล่า

ฝีเท้าเล็กหยุดลง แผ่นหลังเล็กหลบซ่อนหลังร้านข้าวแกง ตัวเธอแข็งทื่อ หัวไหล่กลับสั่นสะท้าน ก้อนสะอื้นตีขึ้นจุกแน่นกลางอก ความเจ็บทางจิตใจ ถูกพรั่งพรูออกผ่านเป็นน้ำตา หลั่งไหลไม่ขาดสายจนเลอะอาบทั่วใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างควบคุมไม่ได้

เธอไม่อาจระบายปัญหาในใจที่อัดอั้นเป็นเรื้อรังมานานหลายปีกับใครได้ ไม่มีคนอยู่เคียงข้างเธอในเวลาที่เธอรู้สึกเคว้งคว้างที่สุด

"คำด่าของแม่แกยังมีผลอยู่อีกหรือไง แกควรจะทำตัวให้ชินเป็นปกติได้แล้ว" เสียงร่ำไห้ถูกกลืนหายลงสู่ลำคออีกหน เพราะถ้าเล็ดลอดไปให้แม่ได้ยินเข้า คงเดินตามมาลงไม้ลงมือกับเธอแน่ มีเพียงแค่ผู้เป็นพ่อที่เงยหน้าผละจากหม้อแกงวางเรียงรายบนโต๊ะยาว จ้องเธอ พร้อมเอ่ยเสียงเอือม ซ้ำนอกจากไม่มีคำปลอบประโลม พ่อยังซ้ำเติม ทับถมเธอเก่งเหมือนเดิม

"พ่อจะเข้าใจอะไรล่ะ พ่อก็เอาแต่อยู่ข้างแม่...อีกอย่างที่เอยน้อยใจ ก็เพราะแคร์พ่อกับแม่ไง คำพูดจากปากคนที่เราแคร์ที่สุดนี่แหละ ทำร้ายจิตใจเราได้เจ็บปวดที่สุดเช่นกัน" ถ้าประโยคเราะร้ายพ่นจากปากผู้อื่น เธอจะไม่สนใจเสียงเหล่านั้นเลย เพราะไม่จำเป็นต้องใส่ใจ เธอไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับคนพวกนั้นอยู่แล้ว แต่พอกลับกลายเป็นคำพูดจากคนในบ้านเดียวกัน ย่อมมีผลต่อความรู้สึกอย่างมหาศาล อีกกี่ครั้งอีกกี่หน ที่ไม่ว่าแม่จะใจร้าย ไม่ใยดีต่อเธอเพียงใด พ่อก็ไม่เคยเป็นกลาง แสดงความเป็นหัวหน้าครอบครัวเลยสักครั้ง พ่อรักแม่มาก...เสียจนยอมเชื่อหมดทุกอย่างที่แม่บอก

"มาช่วยงานฉันได้แล้ว แกเลิกร้องไห้เสียที คนในตลาดจะมองว่าฉันกับแม่แกบังคับให้มาช่วยงานอีก!" ชำนาญเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง ลมหายใจผ่าวร้อนถูกพ่นหนัก ๆ ออกมา อย่างหงุดหงิดความไม่ได้เรื่องของลูกสาวเพียงคนเดียว ทำเป็นแกะดำหลงฝูง ไม่ฟังคนในครอบครัวพยายามพร่ำสอน ว่าเธอจะต้องเรียนสูง ๆ เหมาะสมสำหรับเป็นเมียพ่อเลี้ยง หรือไม่ก็ต้องถีบตัวเองไปสู่ความร่ำรวยได้ด้วยวิธีทางลัด ใช้เส้นสายของสามีที่มีฐานอะไรเทือก ๆ นั้น

แทนที่จะเอาเวลาร้องไห้ มาช่วยเขาทำมาหากิน พูดนิดพูดหน่อยก็กระแดะอ่อนแอ เอิงเอยจิตใจบอบบางเกินไปหรือไม่ เป็นแบบนี้จะอยู่ในสังคมที่มีสภาวะแข่งขัน มากไปด้วยการชิงดีชิงเด่น เพราะอยากลืมตาอ้าปากได้อย่างไร และชำนาญรู้นิสัยภรรยาตนเองดี อนงค์ปากร้าย แต่ใจดี เจ้ากี้เจ้าการมาแต่ไหนแต่ไร

"อึก!..." เอิงเอยไม่อยากเห็นสายตาสะท้อนความสมเพชที่พ่อส่งยามมองเธอ การตีโพยตีพายไม่ได้ทำให้คนบ้านนี้รู้สึกเห็นอกเห็นใจ มากกว่านั้นยังคงโดนต่อว่า

แขนสองข้างยกปาดน้ำตาบนแก้มขึ้นระรื่นสีแดงจากการร้องไห้อย่างลวก ๆ ทิ้ง สูดลมหายใจลึกเข้าสู่ปอด สร้างกำลังใจให้แก่ตัวเอง วาดหวังว่าสักวันพ่อกับแม่ต้องรักเธอ ในรูปแบบที่เป็นเธอ...เด็กใสซื่อ ตากลมแป๋วไร้พิษภัย นิสัยเหมือนจะแข็งนอก อ่อนใน แต่กลับพยายามรวบรวมความเข้มแข็ง สู้เพื่อชีวิตตัวเอง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

เธอไม่รู้ว่าความสุขหมดลงตั้งแต่เมื่อไร คงหลังจากลืมตาดูโลกกว้างเลยกระมัง เพราะเติบโตจำความมาได้ พ่อกับแม่ก็ดุด่า ตีด้วยไม้กวาดบ้านจนเป็นภาพแจ่มชัดในความทรงจำ น้อยครั้งนักที่จะคุยกันดี ๆ แบบไม่มีแรงโทสะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel