บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 14 เอ็นดู

ตอนที่ 3/3 เอ็นดู

"นั่งลงก่อนสิ" สิ้นเสียงทุ้มสั่งเอิงเอยก็ยอมทิ้งสะโพกลงโซฟายาวสีเบทสำหรับสามที่นั่ง เคียงข้างพ่อเลี้ยงพฤกษ์ เธอเดาทางเขาไม่ออกจริง ๆ คราวนี้จะเรียกเธอมาเตือนอะไรอีกล่ะ หรือมีกฏของที่นี่ข้อใดที่เธอทำผิดอย่างงั้นหรือ?

"ฉันยังไม่ได้พูดกับเธอเรื่องกฎของไร่ รวมทั้งค่าแรง และข้อตกลงการเบิกเงินล่วงหน้า"

เป็นอย่างที่เธอคาดเดาดเอาไว้ไม่มีผิด

"หนูเพิ่งมาที่นี่ คุณช่วยบอกกฎหนูหน่อยได้ไหมคะ หนูจะได้ปรับตัวถูก" ถึงแม้เธออยากจะต่อต้านพ่อเลี้ยงพฤกษ์ เพราะเขาเป็นคนโปรดมารดาของเธอ แต่เธอก็รู้เวลาที่ต้องจริงจัง และเวลาใดควรดื้อรั้นได้บ้าง

"ฉันกำลังบอกอยู่นี่ไง" เอิงเอยเงยหน้าสบตาเขาปริบ ๆ เพื่อรอฟังกฎของที่นี่ว่ามีอะไรบ้างเธอจะได้ปฏิบัตตัวถูก สังคมวัยทำงานมากไปด้วยการแข่งขันสูง เธอใช้เวลาคิดทบทวนมาดีแล้ว ว่าควรทำตัวเป็นมิตรกับคนงานในไร่ เพราะไม่อยากถูกใครตำหนิว่าร้ายในทางไม่ดี หรือแปลกแยกจากคนอื่น เธอจึงหวังว่าระหว่างทำงานอยู่ไร่ชาอุดมสุข ชีวิตจะสงบโดยไม่มีปัญหากับใคร

และดูเหมือนเธอจะกลายเป็นน้องเล็กของคนงานในไร่เสียด้วย ปกติพ่อเลี้ยงไม่รับเด็กอ่อนประสบการณ์ ซ้ำอายุยังน้อยเข้าทำงาน เนื่องจากไม่มีพี่เลี้ยงคอยสอนงานให้ตลอดเวลา คนงานทุกแผนกมีงานล้นมืออยู่แล้ว ทุกครั้งเมื่อประกาศรับคนใหม่ จึงต้องการคนที่พอมีประสบการณ์ทำงานมาก่อนในระดับหนึ่งเป็นส่วนใหญ่

มีก็แค่ครั้งนี้เท่านั้นที่ทำให้คนงานที่ได้ยินข่าวลือถึงเด็กใหม่เข้า ทั้งสงสัย และไม่อยากเชื่อเท่าไร

พ่อเลี้ยงพฤกษ์กดปุ่มบนรีโมต ปิดจอทีวีลงทันที เพิ่มความอึมครึมรอบข้างได้ดียิ่ง ก่อนจะกล่าวต่อด้วยท่าทางวางแขนทั้งสองข้างวางพาดพนักโซฟา ท่อนขาแข็งแรงไขว้กันจนชายเสื้อคลุมตัวโคร่ง บ่งบอกถึงเขาอาบน้ำเพิ่งเสร็จ ปกปิดท่อนล่างไร้สิ่งปิดซ่อนอื่นอย่างหมิ่นเหม่

อดไม่ได้ที่จะบริภาษชายหนุ่มในใจ เมื่อพ่อเลี้ยงพฤกษ์ถึงตำหนิการแต่งตัวของเธออย่างหน้าตาเฉย ไม่สะทกสะท้านในขณะตนเองกลับทำเสียเอง ทั้งยังสวมใส่ชุดไม่ระมัดระวังเดินโผงผางรอบบ้าน ไม่อายต่อสายตาเธอที่มองอย่างสงสัย

เธอเห็นถึงหน้าขาแข็งแกร่ง มีเส้นขนอ่อนรำไร กล้ามเนื้อส่วนหน้าท้องลีนอย่างคนออกกำลังกายสม่ำเสมอชัดเป็นแผง เคลื่อนไหวขึ้นลงตามจังหวะหายใจ เอิงเอยหลวมตัว จนเผลอพยายามมองลึกผ่านซอกหลืบของชายเสื้อคลุม ถึงง่ามขา เกือบเห็นบางอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ ทว่า

"อย่าจ้องนาน มันไม่เป็นมิตรกับผู้หญิงอย่างเธอ!"

เอิงเอยถึงกับสะดุ้งโหยง สติแทบแตกกระเจิงเมื่อเธอเผลอลืมอ่านกินเขาด้วยสายตา อย่างคุกคาม และไม่ควรแสดงออกแบบนั้น เธอกล้ำกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก อึกอักยืดเยื้อเมื่อไม่มีคำแก้ตัว พ่อเลี้ยงจ้องเขม็งเธออยู่เช่นเดียวกัน แล้วรีบเบี่ยงหนีจากกลางเป้าจุดเด่นของเขา เธอกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน ไม่รู้ว่าควรวางสายตาไว้จุดใด

"นะ...หนูขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจมองนะคะ" พฤกษชาติเลิกคิ้วเข้มหนึ่งข้างขึ้นสูง ได้ยินคำแก้ตัวตื้น ๆ อย่างกับเขาดูไม่ออก ตามไม่ทัน เห็นเขาเป็นเด็กประถมไปได้!

เธอปิดปากฉับเม้มจนเป็นเส้นตรง กะพริบตาระรัว ไม่อาจมีคำแก้ตัวให้ดีกว่านี้แล้ว เมื่อเขาดูไม่มีแววปักเชื่อใจเธอแม้แต่นิด ด้วยคำพูดเมื่อครู่จากอีกฝ่าย ซึ่งสื่อถึงความหมายสิบแปดบวก แก้มขาวนวลรู้สึกร้อนผะผ่าวถึงยันใบหู ทั้งประหม่า และรู้สึกอายจนอยากมุดหน้าหนี

เอิงเอยตบตีกับตัวเอง เมื่อย้อนคิดได้ทีหลัง เธอไม่ควรมองส่วนนั้นนานจนเขาจับได้เต็มสองตา เขาจะหาว่าเธอลามก เป็นพวกโรคจิตเสียเองหรือไม่ เพราะเธอเพิ่งหลอกด่าแบบแนบเนียน ฟาดหลังพ่อเลี้ยงพฤกษ์จนแอ่น ครั้นก่อนหน้านี้เขาสำรวจเรือนร่างเธอเสียทุกซอกทุกมุมเหมือนกัน

สรุปแล้วเธอ หรือเขากันแน่ ที่เป็นโรคจิต

"เอาเถอะ ฉันไม่ได้ว่าแต่คราวหลังก็ควรเก็บอาการประกายตาวาววับนั้นดี ๆ หน่อย ฉันจะได้ไม่จับได้คาหนังคาเขาเหมือนตอนนี้"

เขาไม่ได้ซีเรียส ออกจะตลกในท่าทีถ้ำมองแบบคนอ่อนหัดของสาวเจ้าซึ่งไม่ได้ปรุงแต่งขึ้นมา เพราะมันคือตัวตนที้แท้จริง

มุมปากหยักลึกกระตุกยิ้มบนเสี้ยวหน้าเหลี่ยมคมอันหล่อเหลา อาจเป็นเพียงเสี้ยววิ แต่ทำเธอนิ่งค้าง ราวกับต้องมนต์สะกดไปหลายนาที

"หึ..." พ่อเลี้ยงพฤกษ์ตบท้ายด้วยการแค่นหัวเราะขำขัน น้ำเสียงโทนนิ่งต่ำในลำคอหนา เธอดูซุกซน และซ่อนความน่าเอ็นดูอีกในหลาย ๆ มุมมอง ซึ่งค่อย ๆ เผยออกมาให้เขาเห็น...น่าสนใจเลยทีเดียว

แม้ว่าพ่อเลี้ยงพฤกษ์จะมีอายุสามสิบหกปี แต่ผิวหนังกลับยังกร้าน เพราะตากแดดเดินตรวจงานคนในไร่ชากลางที่โล่งแจ้งตอนแดดจัด กระนั้นเขากลับดูดี ตามแบบฉบับหนุ่มผิวสีขาวเหลือง ดวงหน้าอ่อนเยาว์กว่าวัยอายุไร้ร่องรอยตีนกายับย่น ไม่มีจุดด่างพร้อย มากเสน่ห์อย่างล้นเหลือ

หากเอิงเอยไม่ทราบถึงอายุเขา เธออาจจะคิดว่าเขายังอายุราว ๆ ยี่สิบห้าปีด้วยซ้ำ เขายังหนุ่มแน่นไม่เปลี่ยน...อายุเป็นเพียงตัวเลขจริง ๆ

"คุยเรื่องงานกันเถอะค่ะ" เธอรีบเฉไฉเบี่ยงประเด็น ไม่อย่างนั้นคงได้นั่งเขินอายจนตัวบิด หัวใจเต้นโครมครามราวกับจะปะทุออกมาไม่หยุด เมื่อข่มความประหม่า เธอไม่เว้นช่องว่างให้เขาได้พูดอะไรน่าอายที่ทำดธอกระดากหูอีก

"กฏของที่นี่มีกี่ข้อคะ หนูต้องรู้ทุกข้อเลยไหม หนูอยู่ทำงานที่นี่ไม่กี่เดือนเองนะ อีกเดี๋ยวก็จะเข้ามหา'ลัยแล้ว"

"ต้องรู้ทุกอย่าง ไม่อย่างนั้นจะร่วมงานกันได้ยังไง อีกอย่างถ้าตั้งใจทำงานเธอจะได้มีเงินไปสานฝันตัวเอง เธอก็รู้นี่ว่าพ่อกับแม่ของเธอไม่สนับสนุนความฝันของเธอ"

"ค่ะ" หญิงสาวสะอึก เถียงไม่ออก คำพูดของพ่อเลี้ยงมีเหตุผลทำให้เธอเงียบปากลง แถมซ่อนความจริงไว้อยู่ลึก ๆ พ่อกับแม่ไม่มีทางสนับสนุนความฝันของเธอ พวกท่านต่อต้านมาโดยตลอด ไม่มีทางเชื่อมั่นว่าเธอจะสามารถเป็นดารานักแสดงได้จริง ครหาว่าเธอเพ้อฝันไปวัน ๆ แม้เอิงเอยมีใบหน้าเรียวรูปไข่ ผิวขาวอมชมพูเป็นอาวุธ

แต่ยากนักถ้าปราถนาเดินเข้าสู่วงการบันเทิง เมื่อไม่มีคอนเล็คชั่นจากคนมีเส้นสาย ทุกวงการล้วนขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์ทั้งนั้น ทว่าครอบครัวเธอเป็นเพียงแม่ค้าขายข้าวแกง คนธรรมดาไม่มีทางได้รับโอกาสขนาดนั้น หรือได้โอกาสคงมีคนส่วนน้อย เธออยากได้รับโอกาส แต่ก็ไม่รู้ลู่ทางว่าควรเริ่มต้นอย่างไร เธอไม่มีผู้จัดการคอยแนะนำ หรือแมวมองอะไรเทือก ๆ นั้น จนเอิงเอยเริ่มรู้สึกท้อเมื่อไม่มีหนทางไปสู่ฝั่งฝัน แต่เธอกลับยังดันทุรังไม่ถอยง่าย ๆ

นี่อาจจะเป็นบททดสอบด่านแรกก็ได้

"ถ้าอย่างนั้นคุณบอกกฎมาเลยค่ะ หนูจะได้ปฏิบัติตาม ไม่ให้คุณผิดหวัง เพราะดูเหมือนตอนนี้มีแค่คุณที่คนเดียวเห็นถึงคุณค่าความฝันของหนู..." จู่ ๆ ลำคอก็ตีบตัน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก พลางแลบลิ้นเลียริมฝีปากสีชมพูแห้งผาก ทั้งสั่นระริกยามเอ่ย

ไม่รู้ทำไมถึงเลือกตัดพ้อชีวิตตนเองกับเขา เธอไม่อยากได้รับความสงสาร แค่ต้องการผู้รับฟังปัญหา ทว่าเมื่อรู้ตัวว่าไม่ควรเล่าความทุกข์ ให้ใครทุกข์ตาม

ทำราวกับเล่าเรื่องปกติ แม้กระแสเสียงจะขาดห้วง และแววตากลมวูบไหวเพียงใด ส่งอารมณ์โศกถึงคนฟัง รับรู้ความรู้สึกเธอตอนนี้ได้ไม่ยาก

ทุกเรื่องราวที่ผ่านมา สะเทือนจิตใจเปราะบางของหญิงสาวขนาดไหน

พฤกษชาติหมายจะเอื้อมฝ่ามือมาจับกุมมือเธอ แต่ก็ทำไม่ได้ เขาเพียงมอง ไม่แสดงออกอะไรทั้งสิ้น

"หนูแค่เผลอเล่าตามอารมณ์น่ะค่ะ หนูขอโทษที่เผลอเล่าเรื่องส่วนตัวโดยที่คุณน่าจะไม่อยากรับรู้ หรือรู้สึกไม่ดีด้วยออกไปนะคะ"

"มีเรื่องอะไรเธอคุยกับฉันได้ เธอก็เหมือนเด็กคนหนึ่งที่กตัญญูต่อพ่อแม่ ถึงแม้เขาจะไม่ได้ดีมากมายให้น่านับถือนัก" เขาทราบเรื่องราวครอบครัวของเธอดี ต่างจากเธอซึ่งยังรู้ตัวตนเขาไม่ถึงครึ่ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel