ฝึกปั่นจักรยาน
เธอคิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะพูดถึงอดีตสามีอีกต่อไป จึงเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยกับลูกชาย อริสาตัดสินใจแล้วว่าวันเสาร์จะเป็นวันหยุดพักผ่อนและใช้เวลาร่วมกับจอมทัพแทนการทำงาน “แล้ววันนี้คุณอยากเล่นอะไร ฉันจะเล่นเป็นเพื่อนคุณเอง”
“แม่ คุณไม่ใช่เด็กนะ ทำไมต้องมาเล่นกับลูกด้วย!” จอมทัพมองของเล่นในกระเป๋าด้วยความหวง เขาค่อย ๆ ขยับกระเป๋าเข้ามาใกล้ตัวทีละน้อย
“ฉันไม่แย่งของเล่นของคุณหรอก แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรือเปล่านะ วันก่อนบังเอิญทางนิติบุคคลให้ของขวัญมาเป็นจักรยานสำหรับเด็กน่ะ” อริสาไม่ได้โกหก เพราะจู่ ๆ จักรยานของเด็กก็ถูกวางไว้ที่หน้าห้องและทางพนักงานก็อธิบายว่าต้องการมอบของรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับลูกบ้านที่อาศัยอยู่ พวกเขาเห็นว่าอริสามีลูกชายจึงได้มอบจักรยานของเด็กให้เป็นของขวัญ
“ไม่เอา ลูกไม่เล่น” จอมทัพปฏิเสธเสียงแข็ง เขาส่ายหน้ารัว ๆ
“ทำไมล่ะ คุณชอบวิ่งเล่นไม่ใช่เหรอ”
“ไม่เล่นก็คือไม่เล่นสิ ทำไมคุณถึงพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้!” จอมทัพกระโดดลงจากเก้าอี้แล้วรีบเดินหนีทันที เขาไม่มีท่าทางดีใจที่ได้จักรยานเลยสักนิดเดียว ไม่คิดแม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำ
อริสาสับสนเล็กน้อยก่อนจะเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมด เธอเดินเข้าไปใกล้ลูกชายและพูดอย่างรู้ทัน “อย่าบอกนะว่าคุณขับจักรยานไม่ได้ จอมทัพเอ๋ย จอมทัพ คุณอายุห้าขวบแล้วนะ”
“คุณพูดเรื่องอะไร! ทำไมลูกจะขับจักรยานไม่ได้”
“แล้วทำไมถึงไม่ขับล่ะ มาพิสูจน์ให้ฉันดูหน่อยสิว่าฉันพูดไม่ผิด”
“ไม่! เรื่องอะไรลูกต้องพิสูจน์ด้วย” เขาโวยวายอีกครั้ง
“งั้นพวกเราก็ลงไปที่สนามของเพนต์เฮาส์กันเถอะ” อริสาไม่สนใจรีบอุ้มลูกชายแล้วใช้มืออีกข้างพยุงจักรยานจนมาถึงสนามด้านล่างได้
“ลูกบอกว่าไม่เล่นไง! ถ้าเจ็บขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ”
“ลองก่อนสิ เวลาคุณล้มก็ล้มไปทางที่เป็นสนามหญ้าแทนคอนกรีต แบบนี้ก็เจ็บน้อยลงแล้ว”
“แต่มันก็เจ็บอยู่ดี”
“แล้วเพื่อนคนอื่นของคุณเขาขับจักรยานได้ไหม” อริสาถามก่อนจะเห็นเด็กสองคนขับจักรยานผ่านหน้าไป เธอจึงชี้ไปที่พวกเขา “ดูสองคนนั้นสิ พวกเขาอายุไล่เลี่ยกับคุณแต่ขับได้แล้วนะ พ่อของคุณไม่ได้สอนคุณเลยเหรอ”
“พ่อไม่มีเวลามาเล่นไร้สาระแบบนี้หรอกนะ”
“แต่แม่ของคุณว่าง เพราะฉะนั้นมาลองขับได้แล้ว”
จอมทัพพยายามจะวิ่งหนีแต่สุดท้ายขาสั้น ๆ ของเขาก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เด็กชายถูกจับวางไว้บนจักรยาน ตัวของเขาสั่นมากจนอริสาอดขำไม่ได้
“แม่ ลูกกลัวล้ม! คุณปล่อยลูกลงเดี๋ยวนี้นะ!” จอมทัพพูดเสียงสั่น เขาไม่กล้าขยับแรงเพราะกลัวจะตกจากจักรยานสองล้อ ถึงแม้ว่าแม่จะจับอยู่ก็ตาม
“คุณไม่ต้องกลัว แค่จับตรงแฮนด์จักรยานให้แน่น ส่วนขาก็ปั่นไปเรื่อย ๆ ฉันจะจับท้ายของจักรยานไว้เอง” เธอพูดก่อนจะขยับไปที่ด้านหลังเพื่อจับส่วนท้ายของจักรยานไว้แล้วเริ่มออกแรงผลักไปข้างหน้า
“คุณห้ามปล่อยมือเด็ดขาดเลยนะ!”
พูดจบจอมทัพก็เริ่มปั่นจักรยานด้วยท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ ทั้งมือทั้งขาสั่นกลัวไปหมดจนปั่นได้ครบหนึ่งรอบ รอบที่สองและสามอริสาก็ยังคงจับท้ายจักรยานของลูกชายเช่นเดิม ซึ่งเธอรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยเพราะต้องออกแรงประคองรถจักรยานให้ตรง ไม่ให้ไถลไปด้านใดด้านหนึ่ง จนจอมทัพเริ่มไว้ใจแม่ของเขาและเริ่มเข้าใจถึงการทรงตัว
รอบที่สี่และห้าอริสายังคงจับท้ายไว้แต่เหลือเพียงแค่มือเดียวเท่านั้นและรถจักรยานก็เริ่มไถลอีกครั้ง เธอรีบตะโกนบอกลูกชายทันที “อย่าเอาเท้าลง ปั่นต่อไปเรื่อย ๆ”
จอมทัพพยักหน้าเชื่อฟังและยังคงปั่นจักรยานจนเริ่มกลับมาทรงตัวได้อีกครั้ง ในรอบที่แปดขณะที่ลูกชายกำลังปั่นจักรยานด้วยความสนุก จู่ ๆ แม่ของเขาก็ปล่อยมือออกจากส่วนท้ายรถจักรยานโดยไม่บอกไม่กล่าวอะไรและหยุดวิ่งทันที จอมทัพตกใจมากแต่เท้าของเขาก็ยังคงปั่นไปเรื่อย ๆ ในขณะที่เริ่มเอียงซ้ายเอียงขวา
“แม่ ช่วยลูกด้วย ลูกจะล้มแล้ว!” จอมทัพตะโกนลั่นสนามจนเด็กแถวนั้นหันมามองกันหมด แม้จะกลัวใจจะขาดทว่ามือยังจับแฮนด์ไม่ปล่อย ส่วนเท้าก็ยังตะบี้ตะบันปั่นต่อไป ไม่มีทีท่าว่าความเร็วจะลดลง “ล้ม! จะล้มแล้ว!”
อริสาเห็นว่าจะล้มจริง ๆ ทว่าเธอไม่ได้วิ่งเข้าไปช่วย แต่กลับตะโกนเสียงดัง “ล้มไปทางสนามหญ้า คุณจะเจ็บน้อยกว่า!”
จอมทัพไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เขาตัดสินใจหักเลี้ยวจักรยานไปทางที่มีสนามหญ้าสีเขียวอยู่ ตัวของเด็กชายกระแทกเข้ากับสนามหญ้าและกลิ้งไปมาอยู่ตรงนั้น ในขณะที่ล้อทั้งสองก็ยังคงหมุนวนไปแม้ว่าจักรยานจะกองอยู่บนพื้นก็ตาม
อริสารีบวิ่งเข้ามาดูลูกชาย เธอเห็นเขานอนหมดสภาพ เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยเศษดินเศษหญ้า แถมเขายังเบะปากจะร้องไห้ด้วย ไม่นานก็มีเสียงสะอื้นดังมาจากลูกชาย
“แม่ ลูกเจ็บ ลูกจะฟ้องพ่อ” เขาร้องไห้พร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างปิดหน้าเอาไว้ แต่ก็ยังไม่ลืมนิสัยเจ้าบงการชอบออกคำสั่ง “คุณมาพยุงลูกขึ้นเดี๋ยวนี้”
อริสาทั้งขำและสงสารในเวลาเดียวกัน เธอพยุงเขาขึ้นและดูบาดแผลที่อาจเกิดขึ้น แต่บนร่างกายกลับไม่มีรอยช้ำเลยสักนิดเดียวทว่าจอมทัพยังคงมีท่าทีอ่อนแรงไม่ยอมขยับไปไหน “คุณดูไม่เจ็บเท่าไหร่นะ”
“ลูกเจ็บ!” เขาตะคอกเสียงดัง ไม่คิดว่าแม่จะกล้าปล่อยมือด้วยซ้ำ “คุณกล้าปล่อยมือได้อย่างไร! กล้าทิ้งให้ลูกปั่นคนเดียว!”
“แต่คุณก็ปั่นได้นี่ แถมยังปั่นเร็วกว่าเดิมด้วย” อริสาเช็ดหน้าให้กับ ลูกชายและปัดฝุ่นบนร่างกายของเขา “ลองปั่นอีกไหม ฉันว่าคุณทำได้ดีเลยนะ”
“ไม่เอาแล้ว ลูกบอกว่าเจ็บไง!” เขาสะบัดตูดจะเดินจากไป ในใจตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธและความเสียใจที่ถูกหักหลัง
“แล้วคุณเจ็บตรงไหนล่ะ”
จอมทัพชะงักไปทันที เขาหยุดเดินและเริ่มคิดอีกครั้ง อันที่จริงหลังจากที่ล้มเด็กชายก็เริ่มร้องไห้ทันทีจนไม่ทันสังเกตว่าเจ็บตรงไหน “ลูก ลูกเจ็บตรงไหน?”
“เมื่อกี้คุณก็แค่ตกใจเท่านั้นเอง มาลองอีกสักรอบเถอะ คราวนี้ถ้าปล่อยมือฉันจะบอกคุณ”
เขายืนครุ่นคิดสักพักก่อนจะพยักหน้า แล้วเดินไปพยุงรถจักรยาน “ได้ แต่คุณห้ามทำแบบนี้อีกเด็ดขาด”
แล้วเวลาทั้งวันนั้นสองแม่ลูกก็ช่วยกันปั่นจักรยาน หากครั้งไหนจะล้มจอมทัพก็รีบเลี้ยวไปทางสนามหญ้าทันที จนในที่สุดเขาก็สามารถปั่นจักรยานสองล้อได้โดยใช้เวลาฝึกเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น เด็กชายชอบมากจนถึงขั้นปั่นไปซื้อหมูปิ้งด้วยและเมื่อถูกชื่นชมจากคนอื่น ๆ ก็ยิ่งทำให้จอมทัพภูมิใจในความสำเร็จของตัวเอง จนไม่อยากจะลงจากจักรยานด้วยซ้ำ
อริสาได้แต่ขำกับท่าทีของลูกชาย ในอดีตตัวของเธอก็เคยถูกพ่อสอนให้ขับจักรยานและเขาก็ปล่อยมือโดยไม่พูดอะไรเช่นกัน และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอริสาก็สามารถปั่นจักรยานได้
ก่อนที่ทั้งสองคนจะถึงห้อง เธอก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาและถ่ายรูปของจอมทัพที่กำลังปั่นจักรยานไปให้ไอศูรย์ดู พร้อมกับข้อความ
‘ระวังไว้ เขาจะปั่นไปเหยียบอกคุณ’